jump to navigation

กระหน่ำยิงหนุ่มใหญ่ค้าที่ดินดับต่อหน้าลูกเมีย-เพื่อนบ้าน พฤษภาคม 27, 2009

Posted by 1000thainews in ทั่วไป.
Tags: ,
add a comment

กระหน่ำยิงหนุ่มใหญ่ค้าที่ดินดับต่อหน้าลูกเมีย-เพื่อนบ้าน

กระหน่ำยิงหนุ่มใหญ่ค้าที่ดินดับต่อหน้าลูกเมีย-เพื่อนบ้าน

เมื่อเวลา  00.30 น วันที่ 26 พฤษภาคม พ.ต.ท.วิสุทธิ์ เสือรอด สารวัตรเวร สภ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี  รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายที่บ้านเลขที่ 27/1 หมู่ 1 ต.ดอนคลัง  อ.ดำเนินสะดวก จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ภายในบ้านพบศพ นายสุทิน แก้วพินิจ อายุ 68 ปี เจ้าของบ้านถูกอาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงเข้าที่ชายโครงขวา 6 นัด กระสุนฝังในนอนหงายจมกองเลือดอยู่กลางบ้าน 

นายเทิดธรรม ไพรินทร์ อายุ 58 ปี เพื่อนบ้าน ให้การว่า ในช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา ตนและนางสุนีย์ แก้วพินิจ อายุ 49 ปี ภรรยาผู้ตาย พร้อมด้วย น.ส.เพ็ญนภา แก้วพินิจ อายุ 27 ปี ลูกสาวผู้ตาย นั่งรับประทานอาหารอยู่ในบ้านผู้ตาย ได้มีคนร้ายแต่งตัวลายพรางทหารใส่หมวกปิดหน้า ใช้ปืนไม่ทราบขนาดกระหน่ำยิงใส่นายสุทินจนขาดใจตายจมกองเลือดต่อหน้า ส่วนคนร้ายหลังจากก่อเหตุได้อาศัยความมืดหลบหนีไป

นางสุนีย์ กล่าวว่า สามีได้ร่วมกับเพื่อนเดินเรื่องที่ดิน จนเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา สามีและทีมงานได้ติดต่อที่ดินให้ผู้อื่นเช่าได้ค่าตอบแทนมาประมาณ 15,000 บาท แต่ตกลงส่วนแบ่งกันไม่ได้ จึงเกิดโต้เถียงกันแต่ก็ไม่ใหญ่โตนัก ไม่น่าจะถึงขั้นเอาชิวิตกัน อย่างไรก้ตาม ปกติสามีเป็นคนที่ใจเย็นไม่เคยมีเรื่องอะไรกับใคร

อ่านต่อที่ : กระหน่ำยิงหนุ่มใหญ่ค้าที่ดินดับต่อหน้าลูกเมีย-เพื่อนบ้าน

ตำรวจระบุคดีฆ่า 2 ผัวเมียเมืองตรังพัวพันธุรกิจมืด พฤษภาคม 17, 2009

Posted by 1000thainews in ภูมิภาค.
Tags: , , , ,
add a comment

ตำรวจระบุคดีฆ่า 2 ผัวเมียเมืองตรังพัวพันธุรกิจมืด
       ตรัง – ความคืบหน้า คดีสังหารโหด 2 สามีภรรยา ที่ อ.เมือง จ.ตรัง จากเบาะแสเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุ ที่มาคดีมาจากผู้ตายทั้งสองคน พัวพันค้ายาเสพติด ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลและหาหลักฐานเพื่อจับกุมผู้ต้องหา
       

       
       จากกรณีที่ได้เกิดเหตุคนร้าย ใช้อาวุธปืนชนิดลูกโม่ ขนาด.38 สังหาร นายจารึก บัวจันทร์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 หมู่ที่ 5 ตำบลนาท่ามเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดตรัง กับ นางสาวแสงเดือน อนันต์ถาวร อายุ 28 ปี ภรรยา ซึ่งอาศัยอยู่ที่บ้านเช่าในซอยรักษ์จันทร์ เขตเทศบาลนครตรัง และมีอาชีพขายข้าวแกงที่ตลาดสดกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) จังหวัดตรัง จนเสียชีวิตภายในรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็คซ์ ชนิดตอนครึ่ง สีบรอนด์เงิน หมายเลขทะเบียน บร-3984 นครศรีธรรมราช
       
       เหตุเกิดริมถนนเลียบคลองชลประทาน หมู่ที่ 5 ตำบลนาพละ อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เมื่อช่วงค่ำของคืนวันที่ 8 พฤษภาคม 2552 ที่ผ่านมา แต่มีคนไปพบศพในช่วงเช้าของวันที่ 9 พฤษภาคม ทั้งนี้ พบว่าคนร้ายได้นั่งรถด้านหน้าคู่มากับ นายจารึก ซึ่งทำหน้าที่ขับรถ เพื่อหวังที่จะตกลงปัญหากันบางประการ และให้ นางสาวแสงเดือน ผู้เป็นภรรยา นั่งมาในแค็ปหลังด้านซ้าย ก่อนที่คนร้ายจะใช้อาวุธปืนจ่อยิงทั้ง 2 คน จนเสียชีวิตคาที่ภายในรถ เพราะไม่พบหลักฐานการยิงจากนอกตัวรถแต่อย่างใดนั้น
       
       เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (17 พ.ค.) พ.ต.ท.เธียร บาลทิพย์ รองผู้กำกับการ ฝ่ายสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองตรัง กล่าวว่า สาเหตุของการสังหารโหด 2 สามีภรรยาในครั้งนี้ อาจจะเกี่ยวพันกับเรื่องยาเสพติด เพราะจากการสืบสวนสอบสวนพบว่าก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุ ได้มีการรับยาบ้าไป 4,000 เม็ด มูลค่ากว่า 1.1 ล้านบาท แต่หลังจากจำหน่ายหมดและเก็บเงินมาแล้ว ก็มิได้ส่งเงินดังกล่าวให้กับเครือข่าย โดยในวันเกิดเหตุคนร้าย ซึ่งน่าจะเป็นคนที่ผู้ตายทั้ง 2 คน รู้จักดี และได้นั่งรถไปด้วยกันเพื่อหวังทวงถามเงินดังกล่าว แต่เมื่อตกลงกันไม่ได้ จึงลงมือสังหารโหดกันขึ้น
       
       อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเบาะแสของกลุ่มคนร้าย และเครือข่ายยาบ้าในพื้นที่ค่อนข้างจะละเอียดแล้ว ซึ่งเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการบุกเข้าจู่โจมตรวจค้น บ้านเลขที่ 39 ถนนควนขนุน ตำบลทับเที่ยง ในเขตเทศบาลนครตรัง และได้มีการจับกุม นายสุชาติ ยกซื้อ อายุ 28 ปี กับ นางสาวสุทธิสา เทพสุวรรณ อายุ 21 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 11,360 เม็ด แต่ไม่พบของกลางที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยเฉพาะอาวุธปืนที่ใช้สังหาร 2 สามีภรรยา ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลและหาหลักฐานเพื่อจับกุมเพิ่มเติมต่อไป

อ่านต่อที่ : ตำรวจระบุคดีฆ่า 2 ผัวเมียเมืองตรังพัวพันธุรกิจมืด

สั่งตายเสี่ยรัว5นัดซ้อนสยองคาวัด2ปมสังหาร พฤษภาคม 15, 2009

Posted by 1000thainews in ทั่วไป.
Tags: , , , , , , , , , , , , , ,
add a comment

สั่งตายเสี่ยรัว5นัดซ้อนสยองคาวัด2ปมสังหาร

สั่งตาย “เสี่ยค้าไม้ยูคาฯ” ดับสยองคาวัด หลังมาร่วมงานศพแม่เพื่อน ขณะเดินมาขึ้นรถปิกอัพจะกลับบ้าน ถูกมือปืนชุดซาฟารี เดินมาชักปืนกระหน่ำยิงไม่ยั้ง 5 รัดซ้อน ก่อนวิ่งไปขึ้นรถจยย.ที่เพื่อนติดเครื่องรออยู่หลบหนี ตำรวจตั้ง 2 ปมฆ่า การเมืองท้องถิ่น-ขัดธุรกิจ สงสัยถูกบงการเก็บ

เมื่อวันที่ 14 พ.ค. พ.ต.ท.ภุชงค์ ศรีวิสิฐศักดิ์ สวส.สภ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี เปิด เผยว่าเมื่อกลางดึกวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา รับแจ้งมีเหตุยิงกันบริเวณลานวัดปลั่งเจตนาราษฎร์ หมู่ 13 ต.พัฒนานิคม อ.พัฒนานิคม จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.สมบูรณ์ สุทธิวงษ์ ผกก. พ.ต.ต.เศฎฐพงศ์ สุประเพียร สว.สส. และ   ฝ่ายสืบสวน ที่เกิดเหตุพบเพียงกองเลือดเล็กน้อย เพราะถูกสายฝนที่ตกปรอย ๆ ชะล้างออกไป และพบปลอกกระสุนปืนขนาด .38 ซูเปอร์ตกอยู่ 5 นัด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำส่งรพ.พัฒนานิคม ไปแล้วคือนายภมร บุญฉาบพา อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105/2-3 หมู่ 9 ต.พัฒนานิคม ถูกยิงเข้าที่หน้าอกซ้าย 3 นัด แขนซ้าย 1 นัด และโคนขาซ้าย 1    นัด รวม 5 นัด เสียชีวิตตั้งแต่ในที่เกิดเหตุ   แล้ว แต่พลเมืองดีที่นำส่งไม่ทราบ ในที่เกิด เหตุยังพบรถปิกอัพ 4 ประตู ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กจ 9748 ลพบุรี ของผู้เสียชีวิตจอดอยู่ ภายในรถพบปืนขนาด 11 มม.
 
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายทำธุรกิจค้าไม้ยูคา หล่อเสาและทำท่อปูน ชอบเล่นการเมืองท้องถิ่น โดยเคยลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.อบจ. และสมาชิกสภาเทศบาล หรือ ส.ท. แต่สอบตก ก่อนเกิดเหตุขับรถไปร่วมงานสวดพระอภิธรรมศพมารดาของเพื่อนที่วัด ขณะกำลังเดินลงมาที่ลานเพื่อขับรถกลับบ้าน ถูกคนร้ายเป็นชายสวมชุดซาฟารี สีกรมท่า สวมหมวกแก๊ปปิดบังใบหน้า เดินเข้ามาชักปืนจ่อยิงผู้ตายจนล้มลงกับพื้น ก่อนจะยิงซ้ำอีกหลายนัด ต่อหน้าชาวบ้านที่มาร่วมงานศพ จากนั้นคนร้ายรีบวิ่งไปขึ้นรถจยย. ที่เพื่อนติดเครื่องรอไว้บริเวณหน้าวัดหลบหนีไป เบื้องต้นตำรวจตั้งประเด็นสังหารไปที่เรื่องการเมืองท้องถิ่น เนื่องจากผู้ตายจัดทีมเตรียมลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ท.ในพื้นที่ และเรื่องขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจ โดยเชื่อว่าคนร้ายจะถูกจ้างวานมาสังหารผู้ตาย ซึ่งตำรวจจะสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงและตามจับกุมคนร้าย รวมทั้งผู้บงการมาดำเนินคดีต่อไป.

อ่านต่อที่ : สั่งตายเสี่ยรัว5นัดซ้อนสยองคาวัด2ปมสังหาร

04:47 น. ช่างซ่อมลิฟท์ถูกหนีบดับดนาถ พฤษภาคม 15, 2009

Posted by 1000thainews in ข่าวด่วน.
Tags: , , , , , , , , , , , , , ,
add a comment

04:47 น. ช่างซ่อมลิฟท์ถูกหนีบดับดนาถ

15 พค. 2552 04:47 น.

ร.ต.ต.บุรัสกร ลาผ่าน ร้อยเวร สน.บางพลัด ได้รับแจ้งมีเหตุคนถูกลิฟท์หนีบเสียชีวิต ภายในพีอาร์ คอนโดมิเนียม เลขที่ 1468 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 57 แขวงและเขตบางพลัด กทม. จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น ที่บริเวณลิฟท์ตัวที่ 2 ชั้น 2 พบศพนายบุญธรรม แฝดละคร อายุ 43 ปี ช่างซ่อมลิฟท์ของบริษัทโกเด้ลเอ็กซ์เพลซ อยู่บ้านเลขที่ 75/2 ม.8 ต.ด่านละคร อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา สภาพศพสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ บริเวณหน้าอกถูกลิฟท์หนีบเกือบขาดออกจากลำตัว โดยท่อนบนตั้งแต่หน้าอกขึ้นไปจนถึงศีรษะติดอยู่ที่ลิฟท์ชั้น 3 และท่อนล่างตั้งแต่หน้าอกลงมาห้อยติดอยู่ที่ลิฟท์ชั้น 2
จากการสอบถามเพื่อนของผู้ตาย ให้การว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เวลาประมาณ 11.00 น.ตนพร้อมกับช่างซ่อมลิฟท์อีก 4 คนได้เดินทางมาซ่อมลิฟท์ที่คอนโดแห่งนี้ จากนั้นเวลา 21.00 น.ผู้ตายพร้อมกับเพื่อนอีก 1 คน จึงเดินทางมาเพื่อเช็คระบบไฟโดยเข้าไปเช็คระบบไฟภายในลิฟท์ชั้น 2 ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าเกิดเหตุผิดพลาดอะไรจึงทำให้เกิดเหตุการณ์สลดเช่นนี้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากความผิดปกติของระบบลิฟท์ขณะที่ผู้ตายเข้าไปทำการเช็คระบบไฟจึงทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว อย่างไรก็ตามจะต้องสอบปากคำเพื่อนของผู้ตายและพยานแวดล้อมอย่างละเอียด ส่วนศพผู้เสียชีวิตได้มอบให้มูลนิธิส่งไปชันสูตรที่นิติเวช รพ.รามาธิดี และจะทำการตรวจสอบลิฟท์ที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
อ่านต่อที่ : 04:47 น. ช่างซ่อมลิฟท์ถูกหนีบดับดนาถ

05:25 น. ชายชรา ถูกรถยูโรพุ่งชนตายคาที่ พฤษภาคม 15, 2009

Posted by 1000thainews in ข่าวด่วน.
Tags: , , , , , , , , , , , , , ,
add a comment

05:25 น. ชายชรา ถูกรถยูโรพุ่งชนตายคาที่

15 พค. 2552 05:25 น.

กลางดึกที่ผ่านมา พ.ต.ท.นันท์ธวัชชัย ฉวีสุข พนักงานสอบสวน (สบ.3) สน.สามเสน ได้รับแจ้งว่า มีเหตุรถประจำทางเฉี่ยวชนผู้เสียชีวิต บริเวณช่องทางเดินรถโดยสาร เชิงสะพานกรุงธน (ซังฮี้) หน้าเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาถนนราชวิถี แขวงและเขตดุสิต กทม.จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ แพทย์นิติเวช รพ.รามาธิบดี และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณกลางถนนฝั่งมุ่งหน้าแยกซังฮี้ พบศพชายนิรนาม อายุประมาณ 65-70 ปี นอนตะแคงคว่ำหน้าอยู่ในสภาพสวมเสื้อคอปกแขนสั้นลายขวางสีฟ้าคาดดำ นุ่งกางเกงขาสั้นสีเทา ตรวจสอบตามร่างกายพบเพียงกระเป๋าใส่บัตร แต่ไม่พบเอกสารสำคัญระบุว่าผู้ตายเป็นใคร ห่างไปเล็กน้อยพบรถคู่กรณี เป็นรถโดยสารประจำทางปรับอากาศแบบยูโร สีส้ม หมายเลขทะเบียน 13-1688 กรุงเทพมหานคร เลขข้างรถ 6-56070 วิ่งระหว่าง ศาลายา – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จอดอยู่ในสภาพกระจกหน้าฝั่งขวามีรอยแตก เจ้าหน้าที่จึงทำการเลื่อนรถไปไว้ที่โรงพักเพื่อเปิดเส้นทางการจราจร
สอบสวน นายเดโช มีชัย อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54/157 หมู่ 1 ต.ท่าข้าม อ.สามพราน จ.นครปฐม โชเฟอร์รถคันดังกล่าว ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถรับผู้โดยสารเต็มคันมาจาก ท่ารถศาลายา กำลังจะมุ่งหน้าไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แต่เมื่อขับลงจากสะพานซังฮี้ มาตามช่องทางเดินรถโดยสาร จู่ๆ ผู้ตายก็เดินเท้าลงจากฟุตบาทข้ามถนนตัดหน้ารถในระยะประชิดทำให้เบรคไม่ทันเพราะถนนลื่น รถพุ่งชนผู้ตายเข้าอย่างจัง
อ่านต่อที่ : 05:25 น. ชายชรา ถูกรถยูโรพุ่งชนตายคาที่

“ชายชรา”ถูกรถเมล์ยูโรพุ่งชนตายคาที่ กลางสะพานซังฮี้ พฤษภาคม 15, 2009

Posted by 1000thainews in ทั่วไป.
Tags: , , , , , , , , , , , , , ,
add a comment

“ชายชรา”ถูกรถเมล์ยูโรพุ่งชนตายคาที่ กลางสะพานซังฮี้

"ชายชรา"ถูกรถเมล์ยูโรพุ่งชนตายคาที่ กลางสะพานซังฮี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงกลางดึกวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา พ.ต.ท.นันท์ธวัชชัย ฉวีสุข พนักงานสอบสวน (สบ.3) สน.สามเสน ได้รับแจ้งเหตุรถประจำทางเฉี่ยวชนคนเสียชีวิต บริเวณช่องทางเดินรถโดยสาร เชิงสะพานกรุงธน (ซังฮี้) หน้าเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาถนนราชวิถี แขวงและเขตดุสิต กทม. จึงรุดไปตรวจสอบ พบที่เกิดเหตุกลางถนนฝั่งมุ่งหน้าแยกซังฮี้ มีศพชายนิรนาม อายุประมาณ 65-70 ปี นอนตะแคงคว่ำหน้า สภาพสวมเสื้อคอปกแขนสั้นลายขวางสีฟ้าคาดดำ นุ่งกางเกงขาสั้นสีเทา จากการตรวจสอบตามร่างกายพบเพียงกระเป๋าใส่บัตร แต่ไม่พบเอกสารสำคัญระบุว่าผู้ตายเป็นใคร ห่างไปเล็กน้อยพบรถคู่กรณี เป็นรถโดยสารประจำทางปรับอากาศแบบยูโร สีส้ม หมายเลขทะเบียน 13-1688 กรุงเทพมหานคร เลขข้างรถ 6-56070 วิ่งระหว่าง ศาลายา – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จอดอยู่ในสภาพกระจกหน้าฝั่งขวามีรอยแตก เจ้าหน้าที่จึงเลื่อนรถไปไว้ที่โรงพัก เพื่อเปิดเส้นทางการจราจร

จากการสอบสวนนายเดโช มีชัย อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54/157 หมู่ 1 ต.ท่าข้าม อ.สามพราน จ.นครปฐม คนขับรถ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถรับผู้โดยสารเต็มคันมาจากท่ารถศาลายา กำลังมุ่งหน้าไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แต่เมื่อขับลงจากสะพานซังฮี้ตามช่องทางเดินรถโดยสาร จู่ๆ ผู้ตายก็เดินเท้าลงจากฟุตบาทข้ามถนนตัดหน้ารถในระยะประชิด ทำให้เบรคไม่ทันเพราะถนนลื่น รถพุ่งชนผู้ตายเข้าอย่างจัง 

อ่านต่อที่ : “ชายชรา”ถูกรถเมล์ยูโรพุ่งชนตายคาที่ กลางสะพานซังฮี้

ย่อยข่าวอาชญากรรม พฤษภาคม 15, 2009

Posted by 1000thainews in ทั่วไป.
Tags: , , , , , , , , , , , , , ,
add a comment

ย่อยข่าวอาชญากรรม

ขอหวยหลวงพ่อปากแดงอึ่งอ่างเผือก
 
เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่วัดพราหมณี หรือวัดหลวงพ่อปากแดงศักดิ์สิทธิ์ ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก ผู้สื่อข่าวรายงานว่ายิ่งใกล้วันหวยออก งวดวันที่ 16 พ.ค.ก็ยิ่งมีบรรดาเซียนหวย และนักเสี่ยงโชคนับหมื่นคน แห่แหนกันมากราบไหว้ขอพรจากหลวงพ่อปากแดงศักดิ์สิทธิ์ ที่ตั้ง เด่นเป็นสง่าอยู่ภายในพระอุโบสถ พร้อมกับนำกล้วยน้ำว้าดิบ หมากพลู พวงมาลัย และน้ำแดงมาถวาย บรรยากาศสุดคึกคัก ขณะที่บางคนก็หวังมาขอเลขเด็ด หลังมีนักเสี่ยงโชคถูกลอตเตอรี่จากเลขเด็ดของวัดมาแล้วหลายงวด จนพื้นที่กว้างขวางคับแคบลงไปถนัดตา ด้านพระครูโสภณพรหมคุณ หรือหลวงพ่อตึ๋ง วาจาสิทธิ์ เจ้าอาวาสวัดพราหมณี และเจ้าคณะอำเภอเมืองนครนายก ได้ออกมาสั่งสอนลูกศิษย์ลูกหาทุกคนว่า อย่าไปหลงงมงายกับการเสี่ยงโชคมากนัก ขอให้หมั่นสร้างความดีไว้แล้วโชคลาภจะมาหาเอง
 
ที่ จ.ราชบุรี ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่าที่บ้านเลขที่ 141 หมู่ 7 ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ มีอึ่งอ่างประหลาด ตัวเป็นสีขาวทั้งตัว หรือที่เรียกว่า “อึ่งอ่างเผือก” ตาเป็นสีแดง จึงไปตรวจสอบพบชาวบ้านทั้งเด็กและผู้ใหญ่ กำลังมุงดูอึ่งอ่างเผือกในอ่างแก้ว พร้อมกับนำกระถางธูปมาตั้งจุดธูปกราบไหว้ พร้อมขอเลขเด็ดกันคึกคัก นายสมพร นุ่มเนียม อายุ 30 ปี เจ้าของบ้าน และเจ้าของอึ่งอ่างประหลาดดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนกับพี่ชายมีอาชีพจับอึ่งอ่างขาย เมื่อคืนวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้พากันออกหาอึ่งอ่างตามหมู่บ้านใน ต.หนองกระทุ่ม อ.ปากท่อ ขณะเดินจับอึ่งอ่างไปตามทางได้น้ำหนักเกือบ 30 กิโลกรัมแล้ว สายตาก็พลันไปพบกับอึ่งอ่างเผือกดังกล่าวเข้า ลำตัวสีขาวเผือด มีลายจุดสีชมพูที่หลังและขา พอเข้าไปจับเจ้าอึ่งอ่างเผือกก็พองตัวตามธรรมชาติ แต่ไม่ดิ้นหรือกระโดดหนี ตนกับพี่ชายเลยเอากลับมาเลี้ยงที่บ้าน
 
“จากนั้นก็มีชาวบ้านที่รู้ข่าว ทั้งเด็กผู้ใหญ่แห่กันมาขอดู บ้างก็บอกว่าบ้านของผมจะโชคดี เพราะพาอึ่งอ่างจำศีลเข้าบ้าน บ้างก็ไม่เข้าใจว่าอึ่งอ่างที่ปกติตัวจะดำ ๆ ทำไมตัวนี้มันมีสีเผือกได้อย่างไร แต่แทบทุกคนก็จะจุดธูป     ขอเลขเด็ดกัน ผมเลยตั้งชื่อให้ว่าอึ่งอ่างเทวดา และคิดว่าจะเลี้ยงเอาไว้ หากได้โชคลาภจากอึ่งอ่างตัวนี้ก็จะไม่กินอึ่งอ่างตลอดชีวิต” นายสมพร กล่าวตอนท้าย.

ค้นโรงงานแปรรูปไม้หลังกมธ.ถูกยิง
 
กรณีนายกิตติณรงค์ เกิดรอด อายุ 39 ปี อนุกรรมาธิการ (กมธ.)ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า วุฒิสภา ถูกลอบยิงเมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา บาดเจ็บสาหัส เหตุเพราะเป็นผู้ปกป้องดูแลทรัพยากรธรรมชาติ ขัดขวางนายทุนที่จะเข้าไปตัดไม้ทำลายป่า จนมีผู้เสียผลประโยชน์ เหตุเกิดในพื้นที่ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ทางอธิบดีกรมป่าไม้ จึงมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ในแต่ละพื้นที่ตรวจสอบการลักตัดไม้หวงห้ามอย่างเคร่งครัด ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 14 พ.ค. นายสุชาติ บัวบาง หัวหน้าสายตรวจปราบปรามชุดเคลื่อนที่เร็วที่ 2 สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 จ.ราชบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสืบทราบว่าโรงงานไม้แปรรูป ไม่มีชื่อ ตั้งอยู่เลขที่ 50/3 ถนนเขาขลุง-หนองไก่ขัน หมู่ 9 ต.เขาขลุง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี มีไม้หวงห้ามนำมาแปรรูป จึงประสาน พ.ต.ต.เชิดชัย ป้อชำนิ สวป.สภ. บ้านโป่ง ร่วมตรวจสอบ
 
จากการตรวจค้นพบกองไม้เบญจพรรณชนิดต่าง ๆ ที่รับซื้อจากชาวบ้าน  มีไม้หวงห้ามหลายชนิด เช่น ไม้มะค่าแต้ ไม้กอกเกลื้อน ไม้แดง และไม้โมกมัน รวม 142 ท่อน จึงได้อายัดไม้ทั้งหมด และยึดเครื่องจักรสับไม้ 1 เครื่อง สอบสวนนางพัชนี แซ่อิ๊ว์ อายุ 32 ปี เจ้าของโรงงาน ให้การว่าตนตั้งโรงงานแปรรูปมานาน 2 เดือน รับซื้อไม้เบญจพรรณทุกชนิดจากชาวบ้าน   โดยไม่รู้ว่ามีไม้หวงห้ามปะปนอยู่ด้วย อย่างไรก็ตาม โรงงานแปรรูปไม้แห่งนี้ ไม่ได้ขออนุญาตประกอบการจากทางการอย่างถูกต้อง เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางพร้อมตั้งข้อหาผิดพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2535 ฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต และมีไม้หวงห้ามไว้ในครอบครอง ดำเนินคดีต่อไป.

ชุดเหาะได้
 
เสื้อไซซ์ “เอส” กางเกงในสีแดงแปร๊ด แถมยังสวมไว้ด้านนอกอีก ใครจะกล้าสวมชุดแบบนี้ได้ ถ้าเขาคนนั้นเหาะเหินเดินอากาศไม่ได้ แม่นแล้ว “ฮีโร่มัยซินเด้อ” ..เอ๊ย..ไม่ใช่ ฮีโร่จากดาวคริปตอน สวมบทโดย “คริสโตเฟอร์ รีฟ” ดาราผู้ล่วงลับนั้น เตรียมออกประมูลที่ประเทศออสเตรเลียในเดือนนี้
 
ผู้จัดการประมูล “กิเลส มูน” บอกว่า ชุดนี้บริษัทเอวิดฟิล์ม ซื้อมาจากลอนดอนเมื่อ 5 ปีก่อน และจะนำออกประมูลในวันที่ 24 พ.ค.นี้ คาดว่าจะได้ราคา 15,000-20,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 525,000 -700,000 บาท) เสียอย่างเดียว ชุดนี้ขาดรองเท้าบู๊ต ซึ่งออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อประสิทธิภาพในการเหาะ โดยมีรอยกรีดด้านข้างของรองเท้าที่จะเห็นได้ในฉากเหาะของซูเปอร์แมน
 
คริสโตเฟอร์ รีฟ สวมชุดติดกันแนบเนื้อในภาพยนตร์ซูเปอร์แมนภาค 3 ที่เขานำแสดงในปี 2526 ส่วนกางเกงในแดงและเข็มขัดเหลือง เผยโฉมครั้งแรกในตอนซูเปอร์แมน เดอะมูฟวี่ ปี 2521
 
แต่ดาราผู้นี้ก็ต้องมาป่วยเป็นอัมพาตเพราะตกจากหลังม้าเมื่อ ปี 2538 และเสียชีวิต   ในที่สุดเมื่อปี 2547 ด้วยโรคหัวใจ ขณะมีอายุได้ 52 ปี
 
เหลือไว้แต่ความดีและชุดเก่งเหาะได้ของเขา.

พ่อนักร้องลูกทุ่งซิ่งจยย.ชนเจ็บเพียบ
 
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 14 พ.ค. พ.ต.ท.ประมินทร์ ชวดคำ สวส. สภ.ท่ายาง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุรถจยย.ชนกัน บริเวณทางแยกซอยเคเบิ้ลเก่า ใกล้กับ รพ.ท่ายาง เขตเทศบาลตำบลท่ายาง จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีแดง ทะเบียน กบฉ 942  เพชรบุรี จอดอยู่ข้างทาง สภาพรถเสียหายเล็กน้อย  ห่างออกไปพบรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า สีฟ้า ทะเบียน กรข 114 เพชรบุรี ล้มอยู่กลางถนน ทราบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 5 ราย คือ นางสุนีย์  มาศิริ  อายุ 60 ปี นายนุกูล มาศิริ อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของ น.ส.กาญจนา  มาศิริ  นักร้องลูกทุ่งสาวชื่อดัง  น.ส.วนิดา ศรพิทักษ์โสภณ  อายุ 25 ปี ด.ช.ศักรินทร์  มูลมงคล  อายุ 10 ขวบ และ ด.ญ.ลักษณา  พูลนาค อายุ 7 ขวบ ทั้งหมดถูกพลเมืองดีนำส่ง รพ.ท่ายาง
 
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปตรวจสอบยัง รพ. ทราบว่าผู้บาดเจ็บทั้งหมดบาดเจ็บที่    บริเวณขาทั้งสองข้างและบริเวณตามลำตัวและใบหน้า โดย ด.ญ.ลักษณา ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลหลายแห่ง ทาง รพ.ได้ส่งตัวไปรักษายัง รพ.พระจอมเกล้าฯ  ส่วนคนอื่นๆ แพทย์ตรวจและรักษาบาดแผลพบว่าไม่สาหัส จึงอนุญาตให้กลับบ้านได้ 
จากการสอบสวนนายนุกูล พ่อของนักร้องสาว ซึ่งมีบาดแผลบริเวณใบหน้าและแขนทั้งสองข้าง ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขี่รถจยย.มาจากในซอย  เพื่อมุ่งหน้าออกจากตลาดเทศบาลท่ายาง  โดยไม่ทราบว่าข้างหน้าจะมีทางแยก จึงชนประสานงากับรถจยย.ที่ขับมาเข้าอย่างเต็มแรง เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ด้าน พ.ต.ท.ประมินทร์  เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นยังไม่ได้มีการแจ้งความเอาผิดกับใคร เนื่องจากยังไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งความ แต่ถ้ามีการแจ้งความดำเนินคดีก็จะมีการตรวจสอบว่าฝ่ายใดผิดเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

‘พ่อคูณ’รับนิมนต์งานแรก
 
 เมื่อ เวลา 17.20 น. วันที่ 14 พ.ค. พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เกจิดังเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เดินทางมาเป็นองค์ประธานในพิธีทอดผ้าป่ามหากุศลวิสาขบูชาพุทธบารมี ที่ห้องเอ็มซีซีฮอลล์ เดอะมอลล์นครราชสีมา โดยกองทัพภาคที่ 2 ร่วมกับเดอะมอลล์นครราชสีมา จัดขึ้นเนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา ตลอด 1 เดือนเต็ม ตั้งแต่วันที่ 1-31 พ.ค.นี้  มีพุทธศาสนิกชนมาร่วมพิธีทำบุญจำนวนมาก โดยหลวงพ่อคูณได้กราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ทำพิธีเวียนเทียน และทอดผ้าป่ามหากุศล ซึ่งตลอด 13 วันที่ผ่านมา มียอดเงินผ้าป่า จำนวน 484,928.25 บาท ซึ่งจะนำไปสมทบทุนบริจาคแก่องค์กรการกุศล 7 องค์กร ใน จ.นครราชสีมา ทั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่หลวงพ่อคูณเดินทางออกจากวัดบ้านไร่เพื่อไปปฏิบัติกิจนิมนต์ หลังจากนอนพักรักษาอาการอาพาธที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา นานถึง 6 วันเต็ม ก่อนอาการหายขาดและเดินทางกลับวัดบ้านไร่เมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยตลอดทั้งงานหลวงพ่อคูณมีสีหน้าสดชื่น.

มอมยารูดทรัพย์หนุ่มออสซี่
 
เมื่อ เวลา 14.00 น. วันที่ 14 พ.ค. พ.ต.อ.สุภธีร์ บุญครอง ผกก.สภ.แสนสุข จ.ชลบุรี รับแจ้งมีเหตุนักท่องเที่ยวถูกมอมยาสลบอยู่ที่ห้องพักเลขที่ 28 เอ สถานพักตากอากาศบางแสน ชายหาดบางแสน อ.เมือง จ.ชลบุรี ไปตรวจสอบทราบชื่อคือนายวินเซ็น เอฟ วอคเกอร์ อายุ 61 ปี นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย นอนสลบไม่ได้สติ จึงปฐมพยาบาลจนรู้สึกตัว สอบสวนทราบว่าเดินทางมาเที่ยวเมืองไทย โดยพักอยู่ที่ย่านถนนข้าวสาร กรุงเทพฯ พบสาวไทยอายุประมาณ 35 ปี รู้สึกชอบพอ จึงได้ชักชวนมาเที่ยวพัทยากัน โดยมาถึงชายหาดบางแสน 02.00 น.วันที่ 12 พ.ค. พอวันรุ่งขึ้นชักชวนกันไปเที่ยวต่อ ตกค่ำก็นั่งดื่มเบียร์กันหมดไป 5 ขวด จากนั้นไม่รู้สึกตัวอีกเลย เบื้องต้นพบเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย หายไป 450 ดอลลาร์ และทรัพย์สินอีกจำนวนหนึ่งหายไป คาดว่าน่าจะถูกมอมยารูดทรัพย์ ตำรวจกำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาเบาะแสคนร้าย.

‘เอ-อนันต์’2สัปดาห์ออกรพ.
 
ที่ อาคารศูนย์การแพทย์สิริกิติ์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 14 พ.ค. คณะแพทย์ผู้รักษาอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถชนของ เอ-อนันต์ บุนนาค นักแสดงชื่อดัง ได้แถลงข่าวความคืบหน้าอาการหลังผ่าตัดของดาราคนดัง โดย รศ.นพ.ชาญยุทธ ศุภชาติวงศ์ แพทย์เจ้าของไข้ : ออร์โธปิดิกส์ เปิดเผยว่า ที่ทำการผ่าตัดไปคือการผ่าตัดยึดกระดูก 4 แห่ง คือบริเวณต้นแขนซ้าย-ขวา ข้อมือขวา และหัวเข่าซ้าย ซึ่งการผ่าตัดผ่านไปด้วยดี ไม่มีปัญหาแทรกซ้อน หลังการผ่าตัดคนไข้สามารถฟื้นตัวได้ดี ส่วนบริเวณเข่ามีเส้นเอ็นฉีกขาดบางส่วนก็ทำการซ่อมไป แต่คงไม่แข็งแรงเหมือนเดิม ต้องให้ใส่ที่พยุงข้อเข่า การเดินใน 2-3 เดือนแรกอาจลำบาก ต้องใช้เครื่องพยุงเดิน ส่วนแผลหลังการผ่าตัดเรียบร้อยดี คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์คงจะตัดไหมและกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้.

ฉกเซฟห้างตลาดวิหารแดง
 
เมื่อ เวลา 04.00 น. วันที่ 14 พ.ค. พ.ต.ต.ทรงวุฒิ นาคมาลี พงส.สภ.วิหารแดง จ.สระบุรี รับแจ้งเหตุมีคนร้ายงัดตู้เซฟห้างสรรพสินค้าเอกภาพ เลขที่ 81 หมู่ 1 ต.วิหารแดง อ.วิหารแดง ไปตรวจสอบพร้อมกำลังที่เกิดเหตุพบตู้เซฟสูง 1 เมตร กว้าง 80 เซนติเมตร ถูกลากมาทิ้งไว้หน้าห้าง ใกล้กันพบถุงขนาดใหญ่ใส่เครื่องสำอางชั้นดีนับร้อยรายการ ตรวจสอบพบว่าประตูกระจกหน้าห้างถูกคนร้ายใช้เครื่องตัดเป็นรูใหญ่ ภายในห้างถูกรื้อค้นสิ่งของกระจัดกระจายไปทั่ว นอกจากนี้ที่หน้าห้างยังพบ รถเก๋งเปอโยต์ 305 สีเขียว ทะเบียน งจ 7494 กรุงเทพ มหานคร จอดทิ้งไว้ภายในพบอุปกรณ์เครื่องมือช่าง คีมตัดเหล็กเจ้าหน้าที่จึงยึดไว้ตรวจสอบ สอบสวนทราบว่า ขณะที่คนร้ายกำลังลากตู้เซฟมีชาวบ้านที่ผ่านมาเห็นคนร้ายจึงวิ่งหลบหนีไป.

อ่านต่อที่ : ย่อยข่าวอาชญากรรม

จ่อยิงกลางอกโจ๋ดับ เผยประวัติพัวพันค้างแรงงานเถื่อน พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in ทั่วไป.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

จ่อยิงกลางอกโจ๋ดับ เผยประวัติพัวพันค้างแรงงานเถื่อน

จ่อยิงกลางอกโจ๋ดับ เผยประวัติพัวพันค้างแรงงานเถื่อน

พ.ต.ท.พนัส หมุนวงศ์ สารวัตรเวร สภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร รับแจ้ง เมื่อเวลา 00.15 น.วันที่ 14 พฤษภาคม  ว่ามีเหตุยิงกันที่บ้านเลขที่ 29/1 หมู่ 14 บ้านบางท่า ใกล้เนิน 491 และชายแดนไทย–พม่า ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร  จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.สนั่น คงทอง รอง ผกก.สส.สภ.ท่าแซะ แพทย์เวร รพ.ท่าแซะ และ เจ้าหน้าที่มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ หน้าบ้านพบเพียงรอยเลือด ส่วนผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ชื่อ นายบัญชา อินสี อายุ 22 ปี อยู่บ้านที่เกิดเหตุ ถูกนำส่ง รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ แต่เสียชีวิตระหว่างทาง สภาพศพกลางอกมีรอยสักเป็นรูปลายหัวมังกร ส่วนหางมังกรพาดยาวถึงข้อมือขวา ไว้ผมยาวย้อมสีแดง ใส่ตุ้มหูข้างขวา มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองที่อกและตามตัวเป็นรูพรุนกว่า 30 รู

 

สอบสวนทราบว่า นายบัญชาเป็นชาวอีสานแต่เข้ามาอยู่ในที่เกิดเหตุหลายปีแล้ว เคยมีประวัติพัวพันขบวนการค้าแรงงานเถื่อน และยังเป็นหัวหน้าแก๊งวัยรุ่นเจ้าถิ่นด้วย ก่อนเกิดเหตุมีชายวัยรุ่น 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบสี ยี่ห้อ และทะเบียนมาจอดหน้าบ้าน แล้วเรียกผู้ตายออกไปพูดคุยเรื่องปืนเถื่อนที่ยืมมาใช้นานแล้วแต่ยังไม่นำไปคืนให้ และทั้ง 3 คนยืนโต้เถียงกันประมาณ 15 นาที ชายวัยรุ่นที่นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ได้ชักอาวุธปืนลูกซองออกมาจ่อยิงกลางอกนายบัญชา 1 นัดจนล้มลง จากนั้นชายวัยรุ่นที่เป็นคนขี่รถได้ชักอาวุธปืนชนิดเดียวกันออกมาจ่อยิงซ้ำอีก 1 นัด ก่อนเร่งเครื่องรถหลบหนีไป ญาติๆ รีบนำนายบัญชาส่งโรงพยาบาลแต่เสียชีวิตระหว่างทาง

 

สันนิษฐานเบื้องต้นว่า สาเหตุอาจมาจาก 2 ประเด็นคือ ความขัดแย้งกรณีที่ผู้ตายยืมปืนเถื่อนของวัยรุ่นคนดังกล่าวมาใช้แต่ไม่ยอมคืนให้ ส่วนอีกประเด็นอาจเป็นเพราะผู้ตายเคยพัวพันขบวนการค้าแรงงานเถื่อน แล้วเกิดการหักหลังกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสืบหาสาเหตุที่แน่ชัดก่อนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

อ่านต่อที่ : จ่อยิงกลางอกโจ๋ดับ เผยประวัติพัวพันค้างแรงงานเถื่อน

15:14 น. ขยายผลยึดยาบ้าในรีสอร์ทหรูเชียงรายกว่า7หมื่นเม็ด พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in ข่าวด่วน.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

15:14 น. ขยายผลยึดยาบ้าในรีสอร์ทหรูเชียงรายกว่า7หมื่นเม็ด

14 พค. 2552 15:14 น.

พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุนทร จันทรางกูร ผกก.สภ.แม่สรวย พ.ต.อ.ประจักษ์ อวัยวานนท์ ผกก.สภ.แม่สาย ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจยึดยาบ้าจำนวน 74,000 เม็ด ซึ่งซุกซ่อนภายในห้องพักหมายเลข 8 บ้าน จ้องลานนารีสอร์ท ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย จากการขยายผลการจับกุมนายอำนาจ แซ่บุญ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 ม.4 ต.พลับพลาไชย อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ผู้ต้องหาค้ายาเสพติดราย ใหญ่
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 13 พ.ค. นายอำนาจ ถูกตำรวจ สภ.แม่สรวย และ ทหาร ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมืองคารถยนต์เก๋งยี่ห้อเบนซ์สีดำ หมายเลขทะเบียน ภษ-7672 กทม. ที่จุดสกัดตู้ยาม ท่าก้อ ต.ท่าก้อ อ.แม่สรวย พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 17,600 เม็ด และ ยาไอซ์ น้ำหนักรวม 14 กิโลกรัม ที่ซุกซ่อนไว้ที่บริเวณบังโคลนหน้ารถด้านซ้ายและขวา
หลังถูกจับกุม นายอำนาจสารภาพว่าเคยลักลอบขนยาบ้าจำนวน 4,000 เม็ด ไปส่งให้กับ ลูกค้าในกรุงเทพมหานครแล้วครั้งหนึ่ง โดยรับยาบ้ามาจากแนวชายแดนไทย-พม่า ในราคาเม็ดละ 40 บาท ส่วนยาไอซ์รับมาในราคากิโลกรัมละ 1.2 ล้านบาท แต่มูลค่าการซื้อขายในจังหวัดชั้นในจะมี มูลค่าสูงถึง 250 ล้านบาท นอกจากนี้นายอำนาจยังรับว่าได้ซุกซ่อนยาบ้าไว้บนเพดานในห้องพัก หมายเลข 8 ในบ้านจ้องลานนารีสอรท์ซึ่งเช่าไว้อีกจำนวน 74,000 เม็ด
ต่อมาเวลา วันที่ 14 พ.ค. พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภสชน์ ผบก.ภ.จ.เชียงราย ร่วม กับ พ.ต.อ.สุนทร จันทรางกูร ผกก.สภ.แม่สรวย ในฐานะ หน.ฉก.ปส.ภ.เชียงราย พ.ต.อ.ประจักษ์ อวัยวานนท์ ผกก.สภ.แม่สาย ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นห้องพักดังกล่าว พบกระสอบปุ๋ย 1 ใบ ซ่อนอยู่ บนเพดานห้อง ในกระสอบบรรจุยาบ้า 37 มัด รวม 74,000 เม็ด จึงตรวจยึดนำส่ง พ.ต.ท.ธวัชชัย ระวังศรี พนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย ดำเนินคดี
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมระบุว่า เปิดเผยว่า แก๊งค้ายาเสพติดที่จับกุมได้เป็นขบวนการใหญ่ เรียกกันว่าขบวนการ “เบนซ์สูทดำ” โดยนายอำนาจได้เป็นนายพลทหารสังกัดกองทัพบก ใช้รถยนต์ เบนซ์ ติดเครื่องหมายทหารหน่วยรบพิเศษ พร้อมกับสวมสูทสีดำดูภูมิฐาน เพื่อเป็นการหลบเลี่ยงการ ตรวจค้นจากเจ้าหน้าที่ ที่ผ่านมานายอำนาจจะเข้าไปรับยาบ้าจากเครือข่ายกลุ่มว้าแดงตามนวชายแดนไทย-พม่า ทางภาคเหนือ
โดยมีนายทุนอีกประมาณ 6 คน ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลทางภาคกลาง ที่ยังหลบหนี เดินทางมาเปิดห้องพักใน อ.แม่สาย จากนั้นจะมีคนของกลุ่มว้ามาขับรถยนต์เบนซ์ไปบรรจุยาเสพติดให้ จากนั้นก็จะขับมาส่งตามแหล่งที่พักและจ่ายเงินซื้อขายก่อนแยกย้าย ล่าสุด ตำรวจทราบชื่อผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดแล้วและอยู่ระหว่างของอนุมัติหมายจับ

อ่านต่อที่ : 15:14 น. ขยายผลยึดยาบ้าในรีสอร์ทหรูเชียงรายกว่า7หมื่นเม็ด

ตร.สตูลจับโจ๋แสบลักปืน.38ตำรวจขาย พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in ทั่วไป.
Tags: , , , , , , , , , ,
add a comment

ตร.สตูลจับโจ๋แสบลักปืน.38ตำรวจขาย

ตร.สตูลจับโจ๋แสบลักปืน.38ตำรวจขาย

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา  10.30 น.วันที่14 พฤษภาคม  พ.ต.ต.อุสมาน ยีตาหวี สว.สส.สภ.ละงู จ.สตูล พร้อมกำลัง ได้นำหมายจับไปไปจับกุมตัวนายมูฮำหมัด มะหาดี มามุ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 ถนนวิจิตรชัยบูรณ์ ต.บางนาก อ.เมือง จ.นราธิวาส ได้ในตลาดอ.ละงู ในข้อหาลักทรัพย์ เนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ควนกาหลง จ.สตูลได้ทำการจับกุมตัวนายสมศักดิ์ สันโด พร้อมอาวุธปืน .38 จำนวน 1 กระบอก และตรวจสอบพบเป็นอาวุธปืนที่ขโมยมาจาก จ.ส.ต.ประสาน รอดเจน ตำรวจ สภ.เขาขาว อ.ละงู จ.สตูล ซึ่งได้มีการแจ้งความไว้แล้ว ซึ่งผู้ต้องหาให้การว่าซื้อมาจากนายมูฮำหมัด มะหาดี มามุ ผู้ต้องหาดังกล่าว จึงรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับและจับกุมตัวได้ดังกล่าว หลังจากนั้นจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อ่านต่อที่ : ตร.สตูลจับโจ๋แสบลักปืน.38ตำรวจขาย