jump to navigation

ฮือฮา!ภาพถ่ายคลิปคล้ายเปรตให้ลาภชาวบ้านนาสารถูกหวยหลายราย พฤษภาคม 17, 2009

Posted by 1000thainews in ภูมิภาค.
Tags: , , , ,
add a comment

ฮือฮา!ภาพถ่ายคลิปคล้ายเปรตให้ลาภชาวบ้านนาสารถูกหวยหลายราย
สุราษฎร์ธานี-กลายเป็นประเด็นที่ฮือฮา! เมื่อภาพถ่ายคลิปปริศนาเปรต ปรากฏกลางเหมืองแร่ยิบซั่ม ที่อำเภอบ้านนาสาร สุราษฎร์ธานี ให้ลาภชาวบ้านถูกหวยร่ำรวยไปตาม ๆ กัน
       

       วันนี้ (17 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับการเปิดเผยจาก นายอาทิตย์ มติธรรม อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 430 ม.1 ต.คลองปราบ อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี อาชีพทำสวนผลไม้ พร้อมกับนำสลากกินแบ่งรัฐบาลที่มีเลข 54 ด้านท้าย ที่ตรงกับเลขท้าย 2 ตัว และโพยหวยใต้ดินหมายเลข 411 ตรงกับ 3 ตัวท้าย ระบุว่า หลังจากหวยรัฐบาลออกแล้ว ปรากฏว่าทั้งคนงานในเหมือง และตนเอง ที่เป็นผู้ประสานกับผู้สื่อข่าว ให้นำภาพปริศนาที่เกิดขึ้นในเหมืองแร่ยิบซั่ม ไปเผยแพร่ ได้ถูกหวยกันทั้งใต้ดินบนดินกันหลายสิบคน
       
       โดยให้เหตุผลว่า จะเป็นเรื่องบังเอิญหรืออย่างไรไม่รู้ วันที่พาผู้สื่อข่าวเข้าไปในเหมืองนั้น มีรถยนต์เข้าไป 3 คัน โดยเป็นรถผู้จัดการเหมือง 1 คัน รถของกำนัน 1 คัน และรถของตนเอง โดยรถ 3 คัน มีทะเบียนเพียงคันเดียว คือ รถของตนเอง
       
       ที่มีผู้สื่อข่าวนั่งไปด้วยหมายเลขทะเบียน บพ-1145 สุราษฎร์ธานี หลังจากมีการนำเสนอข่าวไปแล้วปรากฏว่า มีรถมาชนที่ด้านท้ายรถตนเองแต่เสียหายไม่มาก จึงไปซื้อเลขทะเบียนรถปรากฎว่า เมื่อหวยออก เลขทั้งหมดตรงกับเลขทะเบียนทั้งบน และ 2 ตัวล่าง จึงเป็นที่ฮือฮาไปทั่วตลาดนาสาร.

อ่านต่อที่ : ฮือฮา!ภาพถ่ายคลิปคล้ายเปรตให้ลาภชาวบ้านนาสารถูกหวยหลายราย

05:25 น. ชายชรา ถูกรถยูโรพุ่งชนตายคาที่ พฤษภาคม 15, 2009

Posted by 1000thainews in ข่าวด่วน.
Tags: , , , , , , , , , , , , , ,
add a comment

05:25 น. ชายชรา ถูกรถยูโรพุ่งชนตายคาที่

15 พค. 2552 05:25 น.

กลางดึกที่ผ่านมา พ.ต.ท.นันท์ธวัชชัย ฉวีสุข พนักงานสอบสวน (สบ.3) สน.สามเสน ได้รับแจ้งว่า มีเหตุรถประจำทางเฉี่ยวชนผู้เสียชีวิต บริเวณช่องทางเดินรถโดยสาร เชิงสะพานกรุงธน (ซังฮี้) หน้าเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาถนนราชวิถี แขวงและเขตดุสิต กทม.จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ แพทย์นิติเวช รพ.รามาธิบดี และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณกลางถนนฝั่งมุ่งหน้าแยกซังฮี้ พบศพชายนิรนาม อายุประมาณ 65-70 ปี นอนตะแคงคว่ำหน้าอยู่ในสภาพสวมเสื้อคอปกแขนสั้นลายขวางสีฟ้าคาดดำ นุ่งกางเกงขาสั้นสีเทา ตรวจสอบตามร่างกายพบเพียงกระเป๋าใส่บัตร แต่ไม่พบเอกสารสำคัญระบุว่าผู้ตายเป็นใคร ห่างไปเล็กน้อยพบรถคู่กรณี เป็นรถโดยสารประจำทางปรับอากาศแบบยูโร สีส้ม หมายเลขทะเบียน 13-1688 กรุงเทพมหานคร เลขข้างรถ 6-56070 วิ่งระหว่าง ศาลายา – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จอดอยู่ในสภาพกระจกหน้าฝั่งขวามีรอยแตก เจ้าหน้าที่จึงทำการเลื่อนรถไปไว้ที่โรงพักเพื่อเปิดเส้นทางการจราจร
สอบสวน นายเดโช มีชัย อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54/157 หมู่ 1 ต.ท่าข้าม อ.สามพราน จ.นครปฐม โชเฟอร์รถคันดังกล่าว ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถรับผู้โดยสารเต็มคันมาจาก ท่ารถศาลายา กำลังจะมุ่งหน้าไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แต่เมื่อขับลงจากสะพานซังฮี้ มาตามช่องทางเดินรถโดยสาร จู่ๆ ผู้ตายก็เดินเท้าลงจากฟุตบาทข้ามถนนตัดหน้ารถในระยะประชิดทำให้เบรคไม่ทันเพราะถนนลื่น รถพุ่งชนผู้ตายเข้าอย่างจัง
อ่านต่อที่ : 05:25 น. ชายชรา ถูกรถยูโรพุ่งชนตายคาที่

“ชายชรา”ถูกรถเมล์ยูโรพุ่งชนตายคาที่ กลางสะพานซังฮี้ พฤษภาคม 15, 2009

Posted by 1000thainews in ทั่วไป.
Tags: , , , , , , , , , , , , , ,
add a comment

“ชายชรา”ถูกรถเมล์ยูโรพุ่งชนตายคาที่ กลางสะพานซังฮี้

"ชายชรา"ถูกรถเมล์ยูโรพุ่งชนตายคาที่ กลางสะพานซังฮี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงกลางดึกวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา พ.ต.ท.นันท์ธวัชชัย ฉวีสุข พนักงานสอบสวน (สบ.3) สน.สามเสน ได้รับแจ้งเหตุรถประจำทางเฉี่ยวชนคนเสียชีวิต บริเวณช่องทางเดินรถโดยสาร เชิงสะพานกรุงธน (ซังฮี้) หน้าเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาถนนราชวิถี แขวงและเขตดุสิต กทม. จึงรุดไปตรวจสอบ พบที่เกิดเหตุกลางถนนฝั่งมุ่งหน้าแยกซังฮี้ มีศพชายนิรนาม อายุประมาณ 65-70 ปี นอนตะแคงคว่ำหน้า สภาพสวมเสื้อคอปกแขนสั้นลายขวางสีฟ้าคาดดำ นุ่งกางเกงขาสั้นสีเทา จากการตรวจสอบตามร่างกายพบเพียงกระเป๋าใส่บัตร แต่ไม่พบเอกสารสำคัญระบุว่าผู้ตายเป็นใคร ห่างไปเล็กน้อยพบรถคู่กรณี เป็นรถโดยสารประจำทางปรับอากาศแบบยูโร สีส้ม หมายเลขทะเบียน 13-1688 กรุงเทพมหานคร เลขข้างรถ 6-56070 วิ่งระหว่าง ศาลายา – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จอดอยู่ในสภาพกระจกหน้าฝั่งขวามีรอยแตก เจ้าหน้าที่จึงเลื่อนรถไปไว้ที่โรงพัก เพื่อเปิดเส้นทางการจราจร

จากการสอบสวนนายเดโช มีชัย อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54/157 หมู่ 1 ต.ท่าข้าม อ.สามพราน จ.นครปฐม คนขับรถ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถรับผู้โดยสารเต็มคันมาจากท่ารถศาลายา กำลังมุ่งหน้าไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แต่เมื่อขับลงจากสะพานซังฮี้ตามช่องทางเดินรถโดยสาร จู่ๆ ผู้ตายก็เดินเท้าลงจากฟุตบาทข้ามถนนตัดหน้ารถในระยะประชิด ทำให้เบรคไม่ทันเพราะถนนลื่น รถพุ่งชนผู้ตายเข้าอย่างจัง 

อ่านต่อที่ : “ชายชรา”ถูกรถเมล์ยูโรพุ่งชนตายคาที่ กลางสะพานซังฮี้

ยึดเพิ่มยาบ้าแก๊งสูทดำ เล็งจับเพิ่มอีก5ร่วมขบวนการ พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in ทั่วไป.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

ยึดเพิ่มยาบ้าแก๊งสูทดำ เล็งจับเพิ่มอีก5ร่วมขบวนการ

ยึดเพิ่มยาบ้าแก๊งสูทดำ เล็งจับเพิ่มอีก5ร่วมขบวนการ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีตำรวจ สภ.แม่สรวย จ.เชียงราย ร่วมกับทหาร ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง จับกุมขบวนการแก๊งเบ๊นซ์สูทดำคือนายอำนาจ แซ่บุญ อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 38 หมู่ 4 ต.พลับพลาไชย อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 176,000 เม็ด ยาไอซ์น้ำหนักรวม 14 กิโลกรัม ซึ่งซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์เก๋งยี่ห้อเบ๊นซ์สีดำหมายเลขทะเบียน ภษ-7672 กรุงเทพฯ ขณะขับผ่านด่านตรวจท่าก๊อ ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา

 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม  พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ ผบก.ภ.เชียงราย มอบหมาย พ.ต.ท.ถนัด พลพาณิชย์ รองผู้กำกับกลุ่มงานสอบสวน ภ.จว.เชียงราย นำกำลังเข้าทำการตรวจห้องพักภายในโรงแรมบ้านจ้องล้านนารีสอร์ท ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งเป็นห้องพักที่นายอำนาจให้การรับสารภาพเป็นแหล่งพักและบรรจุยาเพสติดทั้งหมด เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดยาบ้าซึ่งซุกซ่อนใต้ฝ้าเพดานเพิ่มเติมอีกจำนวน 37 มัด  เป็นยาบ้าทั้งสิ้น  74,000 เม็ด จึงทำการสอบปากคำพนักงานของโรงแรมเพื่อประกอบคดีทั้งหมด

 

โดย พล.ต.ต.ทรงธรรม  เปิดเผยว่าขบวนการค้ายาเสพติดแกีงนี้เป็นขบวนการให้ที่มีเครือข่ายอยู่ทั่วประเทศ โดยเข้ามาดำเนินคดีครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 10 คน ซึ่งนายอำนาจเป้นเพียงผู้รับจ้างลำเลียงเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐาน  เพื่อเตรียมขออนุมัติหมายจับจากศาล จ.เชียงรายเพื่อจับกุมเครือข่ายที่เหลือทั้งหมด  เพิ่มเติมมีอีกอย่างน้อย 5 คนพร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการคลี่คลายคดีขึ้นมาเป็นการเฉพาะมี พ.อ.ณรงชัย วงศ์สามี รอง ผบก.ภ.เชียงราย เป็นหัวคณะและมี พ.ต.อ.สุนทร จันทรรางกูล ผกก.แม่สรวยฯ เป็นชุดปฏิบัติการหลัก

 

พล.ต.ต.ทรงธรรม กล่าวด้วยว่ายาไอซ์ที่จับกุมได้เป็นยาไอซ์เกรดดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาและสามารถจับได้จำนวนมากที่สุดเท่าที่เคยจับได้ โดยเป็นยาบ้าของโรงงานผลิตที่มีอยู่ประมาณ 3-4 แห่ง ตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน แต่ยังไม่ทราบชัดเจนว่าเป็นกลุ่มใด รวมถึงกลุ่มของนายหน่อคำ ที่มีอิทธิพลทางภาคพื้นสามเหลี่ยมทองคำด้วย แต่เป็นการลักลอบเข้ามาตามแนวชายแดนเพื่อพักในพื้นที่ ก่อนที่จะถูกส่งไปยังพื้นที่กรุงเทพมหานคร ก่อนที่จะไปจำหน่ายังแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ซึ่งเป็นที่นิยม อาทิ หาดใหญ่ หรือเมืองพัทยา รวมถึงส่งขายยังต่างประเทศซึ่งจะมีราคาเพิ่มขึ้นหลายสิบเท่าตัว ซึ่งทางตำรวจำเป็นต้องเข้มงวดเป็นพิเศษโดยเฉพาะการตรวจค้นรถยนต์ทุกระดับ เนื่องจากการลำเลียงมีการเปลี่ยนรูปแบบใช้การแต่งสูทผูกไทและรถยนต์ราคาแพง ซึ่งต้องขอความร่วมมือกับประชาชนทั่วไปด้วย

 

ขณะที่ พ.ต.อ.สุนทร กล่าวว่าขบวนการขนของกลางครั้งนี้มีการดำเนินกรอย่างดี โดยคาดว่ามีการใช้รถถึง 5 คันและคนที่เกี่ยวข้องอีก 10 กว่าคน และเป็นแก๊งที่มีเงินหนาเพราะใช้เงินสดไปซื้อขาดที่ชายแดนทั้งหมดรวมมูลค่าของกลางเฉพาะยาไอซ์กว่า 30 ล้านบาท  โดยทางเจ้าหน้าที่จะขยายผลไปยังเจ้าของรถเบนส์ แม้เบื้องต้นจะใช้ทะเบียนปลอม แต่จะมีการตรวจสอบจากหมายเลขเครื่องและตัวถังของรถต่อไป.

อ่านต่อที่ : ยึดเพิ่มยาบ้าแก๊งสูทดำ เล็งจับเพิ่มอีก5ร่วมขบวนการ

12:39 น. จับสมาชิกอบต.พบพระขนแรงงานต่างด้าว พฤษภาคม 13, 2009

Posted by 1000thainews in ข่าวด่วน.
Tags: , , , , , , , , , ,
add a comment

12:39 น. จับสมาชิกอบต.พบพระขนแรงงานต่างด้าว

7 พค. 2552 12:39 น.

เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.พบพระ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ได้จับกุมนายชัชวาล รวยล้ำเลิศ สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลพบพระ หมู่ที่ 9 บ้านผากะเจ้อ อำเภอพบพระ จ.ตาก ที่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 44 สายอ.แม่สอด – อ.อุ้มผาง ตำบลคีรีราษฎร์ พร้อมแรงงานต่างด้าวชาวพม่าลักลอบเข้าเมือง 11 คน ที่ซ่อนตัวอยู่ในรถยนต์กระบะแค๊ป ยี่ห้อโตโยต้า ไม่ตี้เอ็กซ์ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บจ. 6056 ตาก
จากการสอบสวนทราบว่า นายชัชวาลได้รับค่าจ้างนำส่งแรงงานต่างด้าวหัวละ 1,500 บาท เพื่อนำแรงงานต่างด้าวทั้งหมดไปส่งที่บ้านห้วยน้ำนัก ในพื้นที่อำเภอพบพระ ก่อนเดินเท้าไปทะลุที่จังหวัดกำแพงเพชรอีกครั้งหนึ่ง
อ่านต่อที่ : 12:39 น. จับสมาชิกอบต.พบพระขนแรงงานต่างด้าว

ผู้บริหาร-จนท.เทศบาลเสิงสางไปทัวร์ตราดรถคว่ำเจ็บ35 พฤษภาคม 13, 2009

Posted by 1000thainews in ทั่วไป.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

ผู้บริหาร-จนท.เทศบาลเสิงสางไปทัวร์ตราดรถคว่ำเจ็บ35

ผู้บริหาร-จนท.เทศบาลเสิงสางไปทัวร์ตราดรถคว่ำเจ็บ35

เมื่อกลางดึก 7 พฤษภาคม พ.ต.ท สุรพงษ์ พงษ์จอหอ พนักงานสอบสวน สภ.เสิงสาง อ.เสิงสาง นครราชสีมา รับแจ้งมีเหตุรถโดยสารพลิกคว่ำที่บริเวณช่วงหลักกิโลเมตรที่ 39-40 ถ.เสิงสาง-ปะคำ บ้านกุดโบสถ์ หมู่ 1 ต.กุดโบสถ์ อ.เสิงสาง ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นทางโค้งภายในหมู่บ้านกุดโบสถ์ พบรถโดยสารไม่ประจำทาง ขนาดสองชั้น เลขทะเบียน 30-0098 ชัยภูมิ เสียหลักพลิกตะแคงข้างตกลงไปข้างทาง ที่เกิดเหตุไม่มีแสงไฟส่องสว่าง พบผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก และที่ไม่บาดเจ็บได้ช่วยกันปฐมพยาบาลเพื่อนที่ไม่สามารถช่วยตัวเองได้

หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฮุก.31 ระดมกำลัง จนท.มาช่วยเหลือนำผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 35 ราย ส่งไปรักษาที่ รพ.เสิงสาง เจ้าหน้าที่ได้คัดกรองผู้ได้รับบาดเจ็บที่มีอาการน่าเป็นห่วง ต้องเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด จำนวน 6 ราย เคลื่อนย้ายไปรักษาที่ รพ.มหาราช นครราชสีมา และ รพ.ราชสีมากรุงเทพ ในจำนวนนี้มีนางสาวสุวรรณ คูประทุมศิริ นายกเทศบาลตำบลเสิงสาง อ.เสิงสาง และนางวรรณภา ร.ฤทธิ์บุญ ปลัดเทศบาล ฯ ที่ได้รับบาดเจ็บที่ศรีษะ และต้นคอ

สอบสวนทราบว่า ผู้โดยสารทั้งหมดเป็นคณะผู้บริหาร และ จนท.เทศบาลตำบลเสิงสาง ฯ รวม 45 คน ออกเดินทางไปเข้าร่วมโครงการพัฒนาศักยภาพผู้บริหาร และ จนท.อปท. ที่ จ.ตราด ระหว่างวันที่ 7-9 พค. โดยเช่าเหมารถโดยสารไม่ประจำทาง ที่มีนายวิทยา เก่าด่านจาก อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 หมู่ 3 ต.ขุนทอง อ.บัวใหญ่ นครราชสีมา เป็นคนขับ ขณะที่รถแล่นออกจาก สนง.เทศบาลตำบลเสิงสาง ฯ ได้เพียง 9 กม. มาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ เป็นเส้นทางที่รถต้องแล่นผ่านชุมชน และเป็นทางโค้งที่แคบ นายวิทยา ฯ คนขับ ไม่ชำนาญเส้นทาง เมื่อเจอทางโค้งไม่ได้ชะลอความเร็ว ทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำ โชคดีที่อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่มีผู้เสียชีวิต

ต่อมา จนท.ได้แจ้งข้อหา นายวิทยา ฯ คนขับ ที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ และจับกุมตัวไว้ พร้อมตั้งข้อหาในความผิดขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนโครงการ ฯ ของเทศบาลตำบลเสิงสาง ต้องยกเลิกโดยปริยาย 
 

อ่านต่อที่ : ผู้บริหาร-จนท.เทศบาลเสิงสางไปทัวร์ตราดรถคว่ำเจ็บ35

จับน้ำมันเถื่อน-ขณะขนถ่ายจากเรือขึ้นรถ พฤษภาคม 13, 2009

Posted by 1000thainews in อาชญากรรม.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

จับน้ำมันเถื่อน-ขณะขนถ่ายจากเรือขึ้นรถ

คมชัดลึก :จับเรือ-รถบรรทุก 3 คัน ขณะถ่ายน้ำมันเถื่อนจากเรือขึ้นรถ 3 ลูกเรือ กระโดดน้ำเอาตัวรอด ด้านคนขับรถบรรทุกถูกจับได้ พร้อมซัดทอดนายทุนให้ติดต่อตำรวจน้ำในพื้นที่ เคลียร์เส้นทาง

 (7พ.ค.) เวลา 04.45 น. พ.ต.อ.สมชาย สุนทวนิค ผกก.สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พ.ต.ท.เชษฐา กีชวรรณ์ รอง ผกก.ป.ฯ พ.ต.ท.ดำรงค์ อ้วนสูงเนิน สวป.ฯ ได้นำกำลังเข้าทำการจับกุมรถบรรทุก 6 ล้อ 1 คัน รถกระบะ 2 คัน ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว เลขทะเบียน 83-3278 สมุทรปราการ ท้ายรถบรรทุกถัง 200 ลิตร 34 ถัง โดยมีนายสาคร พงษ์ชัย อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91/11 ม.11 ต.ทางขวาง อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น เป็นคนขับรถกระบะ ยี่ห้อมิตซูบิซิ สตาร์ด้าสีบอร์นทอง เลขทะเบียน ณจ-9869 กรุงเทพมหานคร บรรทุกถัง 200 ลิตร 8 ถัง

 โดยมี นายพร ดางลอย อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87/5 ม.6 ต.หนองโสน อ.สามง่าม จ. พิจิตร เป็นคนขับ และรถกระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นสตาร์ด้า สีบอร์น เลขทะเบียน ลร-7980 กรุงเทพมหานคร บรรทุกถัง 200 ลิตร 8 ถัง โดยมี นายปรัชญา ตะโส อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 314/28 ม.7 ต.บางเมืองใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เป็นคนขับ ส่วนคนงานที่มากับรถบรรทุก 2 คน ไหวตัวทันโดดน้ำหนีเอาตัวรอดไปได้

 ขณะที่กำลังจับกุมผู้กระทำความผิดอยู่บนสะพานเทียบเรือ ชื่อสะพานภิรมย์ ม.3 ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ไต๋เรือ และลูกเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน ประมาณ 5 คน ได้ไหวตัวทันกระโดดลงทะเลหนีไปกับความมืด พบหลักฐานบัตรประชาชน ชื่อ นายบุญเรียบ สร้อยจิตร อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 ม.5 ต.พรมเทพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ วางอยู่ในเรือ คาดว่าน่าจะเป็นบัตรของไต๋เรือ จึงได้ทำการตรวจยึดเรือประมงดัดแปลงระวางเรือเป็นเรือบรรทุกน้ำมัน ขนาด 9 วา 2 ศอก ชื่อ ปิยชล ทะเบียนเรือ รย.1142 สีฟ้าขาว

 จากการตรวจสอบพบว่า ภายในระวางเรือได้ดัดแปลงเป็นห้องบรรจุถังพลาสติก บรรจุน้ำมัน จำนวน 16 ถัง แต่ละถังบรรจุน้ำมันได้จำนวน 1,000 ลิตร รวมน้ำมันทั้งสิ้น 10,800 ลิตร และขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการจับกุมได้มีการสูบน้ำมันจากระวางเรือขึ้นสู่ถังเหล็ก 200 ลิตร ที่บรรทุกอยู่ท้ายรถบรรทุกได้แล้ว ประมาณ 3,800 ลิตร และขณะทำการจับกุม นายสาคร พงษ์ชัย ได้โทรศัพท์ไปหา จ่าเบิ้ม บอกว่ารถถูกตำรวจจับ แต่จ่าเบิ้มได้ตัดสายทิ้ง และในเวลาต่อมาได้มีตำรวจน้ำนายหนึ่งโทรศัพท์เข้ามาหา นายสาคร เพื่อขอพูดกับตำรวจชุดจับกุม แต่ไม่สามารถเคลียร์กันได้ จึงได้ให้ของลับ ด.ต.รวยทรัพย์ รักอิสระ หน.ป้อมยามตำรวจแสมสาร ก่อนตัดสายโทรศัพท์ทิ้ง

 จากการสอบสวน นายสาคร คนขับรถบรรทุก 6 ล้อ ให้การว่า ได้มีนายทุนคนหนึ่งที่ จ.สมุทรปราการ จ้างวานรถทั้งหมด 3 คัน มาบรรทุกน้ำมันดีเซล จำนวน 10,000 ลิตร ที่ท่าเทียบเรือภิรมย์ แสมสาร โดยให้ประสานอำนวยความสะดวกกับ จ่าเบิ้ม ซึ่งเป็นตำรวจน้ำในพื้นที่สัตหีบ โดยจ่าเบิ้ม ได้พาเข้าไปที่สะพานเทียบเรือ ที่มีการขนถ่ายสูบน้ำมันจากเรือขึ้นใส่ถัง 200 ลิตร ท้ายรถบรรทุก และรถกระบะ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เข้ามาลักลอบขนไปแล้ว 1 ครั้ง ที่สะพานแห่งนี้ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 จึงถูกตำรวจจับในข้อหา ร่วมกับพวกที่หลบหนีลักลอบขนน้ำมันเถื่อนเข้าราชอาณาจักรไทยเพื่อการค้าโดยมิได้รับอนุญาต

 พ.ต.อ.สมชาย สุนทวนิค ผกก.สภ.สัตหีบ กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้ได้รับการร้องเรียนจาก เรือประมงในพื้นที่ และนอกพื้นที่ ว่ามีเรือประมงดัดแปลงเป็นเรือบรรทุกน้ำมัน บรรทุกน้ำมันจากเรือกลางทะเลเข้ามาส่งขายให้กับนายทุนบนบก ด้วยการขนย้ายจากพื้นที่ ต.แสมสาร อ.สัตหีบ ไปยัง จ.สมุทรปราการ ส่วนผู้ต้องหาได้ซัดทอดว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ คอยรู้เห็น อำนวยความสะดวกในการกระทำความผิดนั้น เบื้องต้นจะทำการสืบสวนหาข้อเท็จจริง ตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ในการติดต่อประสานงานระหว่างกัน และหาพยานบุคคลยืนยันว่า ขณะมีการขนถ่ายน้ำมันมีเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ เข้ามาในพื้นที่สะพานจริงหรือไม่  และจะรายงานให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงทราบต่อไป

อ่านต่อที่ : จับน้ำมันเถื่อน-ขณะขนถ่ายจากเรือขึ้นรถ

08:58 น. จับน้ำมันเถื่อนขณะขนถ่าย พฤษภาคม 13, 2009

Posted by 1000thainews in ข่าวด่วน.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

08:58 น. จับน้ำมันเถื่อนขณะขนถ่าย

08:58 น.

พ.ต.อ.สมชาย สุนทวนิค ผกก.สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พ.ต.ท.เชษฐา กีชวรรณ์ รอง ผกก.ป.ฯ พ.ต.ท.ดำรงค์ อ้วนสูงเนิน สวป.ฯ กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำรวจอาสาตำบลแสมสาร ได้นำกำลังเข้าทำการจับกุมรถบรรทุก 6 ล้อ จำนวน 1 คัน รถกระบะ จำนวน 2 คัน ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 83-3278 สมุทรปราการ ท้ายรถบรรทุกถัง 200 ลิตร จำนวน 34 ถัง โดยมี นายสาคร พงษ์ชัย อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91/11 ม.11 ต.ทางขวาง อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น เป็นคนขับรถกระบะ ยี่ห้อมิตซูบิซิ สตาร์ด้าสีบอร์นทอง หมายเลขทะเบียน ณจ-9869 กรุงเทพมหานคร บรรทุกถัง 200 ลิตร จำนวน 8 ถัง โดยมี นายพร ดางลอย อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87/5 ม.6 ต.หนองโสน อ.สามง่าม จ. พิจิตร เป็นคนขับ และรถกระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นสตาร์ด้า สีบอร์น หมายเลขทะเบียน ลร-7980 กรุงเทพมหานคร บรรทุกถัง 200 ลิตร จำนวน 8 ถัง โดยมี นายปรัชญา ตะโส อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 314/28 ม.7 ต.บางเมืองใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เป็นคนขับ ส่วนคนงานที่มากับรถบรรทุก 2 คน ไหวตัวทันโดดน้ำหนีเอาตัวรอดไปได้
ขณะที่กำลังจับกุมผู้กระทำความผิดอยู่บนสะพานเทียบเรือ ชื่อสะพานภิรมย์ ม.3 ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ไต๋เรือ และลูกเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน ประมาณ 5 คน ได้ไหวตัวทันกระโดดลงทะเลหนีไปกับความมืด พบหลักฐานบัตรประชาชน ชื่อ นายบุญเรียบ สร้อยจิตร อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 ม.5 ต.พรมเทพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ วางอยู่ในเรือ คาดว่าน่าจะเป็นบัตรของไต๋เรือ จึงได้ทำการตรวจยึดเรือประมงดัดแปลงระวางเรือเป็นเรือบรรทุกน้ำมัน ขนาด 9 วา 2 ศอก ชื่อ ปิยชล ทะเบียนเรือ รย.1142 สีฟ้าขาว
จากการตรวจสอบพบว่า ภายในระวางเรือได้ดัดแปลงเป็นห้องบรรจุถังพลาสติก บรรจุน้ำมัน จำนวน 16 ถัง แต่ละถังบรรจุน้ำมันได้จำนวน 1,000 ลิตร รวมน้ำมันทั้งสิ้น 10,800 ลิตร และขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการจับกุมได้มีการสูบน้ำมันจากระวางเรือขึ้นสู่ถังเหล็ก 200 ลิตร ที่บรรทุกอยู่ท้ายรถบรรทุกได้แล้ว ประมาณ 3,800 ลิตร และขณะทำการจับกุม นายสาคร พงษ์ชัย ได้โทรศัพท์ไปหา จ่าเบิ้ม บอกว่ารถถูกตำรวจจับ แต่จ่าเบิ้มได้ตัดสายทิ้ง และในเวลาต่อมาได้มีตำรวจน้ำนายหนึ่งโทรศัพท์เข้ามาหา นายสาคร เพื่อขอพูดกับตำรวจชุดจับกุม แต่ไม่สามารถเคลียร์กันได้ จึงได้ให้ของลับ ด.ต.รวยทรัพย์ รักอิสระ หน.ป้อมยามตำรวจแสมสาร ก่อนตัดสายโทรศัพท์ทิ้ง
จากการสอบสวน นายสาคร คนขับรถบรรทุก 6 ล้อ ให้การว่า ได้มีนายทุนคนหนึ่งที่ จ.สมุทรปราการ จ้างวานรถทั้งหมด 3 คัน มาบรรทุกน้ำมันดีเซล จำนวน 10,000 ลิตร ที่ท่าเทียบเรือภิรมย์ แสมสาร โดยให้ประสานอำนวยความสะดวกกับ จ่าเบิ้ม ซึ่งเป็นตำรวจน้ำในพื้นที่สัตหีบ โดยจ่าเบิ้ม ได้พาเข้าไปที่สะพานเทียบเรือ ที่มีการขนถ่ายสูบน้ำมันจากเรือขึ้นใส่ถัง 200 ลิตร ท้ายรถบรรทุก และรถกระบะ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เข้ามาลักลอบขนไปแล้ว 1 ครั้ง ที่สะพานแห่งนี้ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 จึงถูกตำรวจจับในข้อหา ร่วมกับพวกที่หลบหนีลักลอบขนน้ำมันเถื่อนเข้าราชอาณาจักรไทยเพื่อการค้าโดยมิได้รับอนุญาต
พ.ต.อ.สมชาย สุนทวนิค ผกก.สภ.สัตหีบ กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้ได้รับการร้องเรียนจาก เรือประมงในพื้นที่ และนอกพื้นที่ ว่ามีเรือประมงดัดแปลงเป็นเรือบรรทุกน้ำมัน บรรทุกน้ำมันจากเรือกลางทะเลเข้ามาส่งขายให้กับนายทุนบนบก ด้วยการขนย้ายจากพื้นที่ ต.แสมสาร อ.สัตหีบ ไปยัง จ.สมุทรปราการ ส่วนผู้ต้องหาได้ซัดทอดว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ คอยรู้เห็น อำนวยความสะดวกในการกระทำความผิดนั้น เบื้องต้นจะทำการสืบสวนหาข้อเท็จจริง ตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ในการติดต่อประสานงานระหว่างกัน และหาพยานบุคคลยืนยันว่า ขณะมีการขนถ่ายน้ำมันมีเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ เข้ามาในพื้นที่สะพานจริงหรือไม่ และจะรายงานให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงทราบต่อไป
อ่านต่อที่ : 08:58 น. จับน้ำมันเถื่อนขณะขนถ่าย