ข่าว ในประเทศไทย

14:50 น. คุมตัวเมียแท็กซี่โหดเชือดคอสาวอัมรินทร์ทำแผน พฤษภาคม 27, 2009

14:50 น. คุมตัวเมียแท็กซี่โหดเชือดคอสาวอัมรินทร์ทำแผน

26 พค. 2552 14:50 น.

จากกรณีคนร้ายฆ่าปาดคอ น.ส.อรอัจฉรา พรหมผลิน อายุ 27 ปี ผู้ช่วยบรรณาธิการ กองบรรณาธิการนิตยสาร shape เครือบริษัทอัมรินทร์พรินติ้งแอนด์พลับบลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) หมกอำพรางคดีภายในห้องพัก อาคารชัยพฤกษ์ อพารต์เมนต์ ถ.ชัยพฤกษ์ แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน
ล่าสุด พ.ต.ท.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล รอง ผบก.สส.สน.ตลิ่งชัน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบ สน.ตลิ่งชัน ควบคุมตัวนางเสาวนีย์ ช้างเขียว อายุ 36 ปี อาชีพขายพวงมาลัย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ณ ห้องที่เกิดเหตุ
เวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ณ ที่เกิดเหตุ โดยจุดที่ 1 บริเวณหน้าห้องเลขที่ 216 นางเสาวนีย์จุดธูปขอขมาต่อผู้ตาย จากนั้นชี้ไปยังเลขที่ประตูห้องแสดงให้เห็นว่าเป็นห้องที่เข้ามาก่อเหตุ จุดที่ 2 ชี้บริเวณประตูระหว่างเปิดอ้าออก ซึ่งเป็นจุดที่มีปากเสียงกับผู้ตาย ก่อนที่จะลงมือตบตีกัน ต่อมาจุดที่ 3 ภายในห้องซึ่งเป็นจุดที่นางเสาวนีย์ให้การว่า นายสันต์ชัย สังข์แป้น สามีของนางสาวนีย์เป็นคนจับศรีษะของผู้ตายกระแทกกับพื้น จุดที่ 4ใกล้เคียงกันบริเวณที่นอน ชี้ว่านายสันต์ชัยใช้มีดปาดคอผู้ตาย ก่อนจะชี้ไปยังห้องน้ำที่นำศพไปทิ้งไว้ จากนั้นจุดต่อมาจุดที่ 5 ชี้ไปที่ห้องเลขที่ 215 ซึ่งเป็นห้องพักที่ว่างอยู่ไม่มีผู้พัก ที่นางเสาวนีย์ให้การว่าสามีได้ปีนข้ามมาเพื่ออาบน้ำล้างคราบเลือดที่เปื้อนตามตัวออก แล้วจึงเดินกลับมายังห้องพักเลขที่ 204 ที่อยู่ตรงข้ามซึ่งเป็นห้องพักของผู้ก่อเหตุ ก่อนจะชี้จุดสุดท้ายบริเวณหน้าห้องน้ำภายในห้องพักซึ่งเป็นจุดที่นางเสาวนีย์ให้การว่า สามีสั่งให้นางเสาวนีย์นำถุงขยะมาใส่เสื้อผ้าเปื้อนเลือดก่อนที่จะนำไปทิ้ง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว นางเสาวนีย์ลงมาจากห้องที่เกิดเหตุ ก่อนขึ้นรถกระบะไปชี้จุด ที่ผู้ต้องหานำเสื้อผ้าเปื้อนเลือดไปทิ้ง เป็นบริเวณริมทางรถไฟชัยพฤกษ์ ซึ่งอยู่ภายในซอยเดียวกัน
นางเสาวนีย์เปิดเผยว่า สาเหตุที่เกิดการฆ่ากันตายในครั้งนี้เพราะว่า เวลาประมาณ 02.00 น.วันเกิดเหตุ ตนและสามีกำลังนอนหลับอยู่ภายในห้อง ได้ยินเสียงโทรทัศน์ของห้องผู้ตายเปิดเสียงดังมาก ก่อนที่ตนจะทนไม่ไหว จึงไปเคาะประตูขอร้องให้ผู้ตายลดเสียง กระทั่งทำให้มีปากเสียงกันกับผู้ตายจนกลายเป็นเรื่องราวตามที่ให้ข่าวไปเมื่อวานนี้ สำหรับสามีตนอยากให้รับสารภาพ ทำอะไรให้ว่ากันไปตามกฎหมาย ตนยืนยันว่าสามีและตนได้ก่อเหตุฆ่าน.ส.อรอัจฉราจริง
เจ้าหน้าที่ตำรวจ บอกว่า ในส่วนของนายสันต์ชัย ต้องฝากขัง และส่งฟ้องไปตามปกติ เนื่องจากหลักฐานทั้งหมดปรากฏชัด หากนายสันต์ชัยรับสารภาพและให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ก็จะลดโทษให้ครึ่งหนึ่ง แต่หากยังยืนกรานปฏิเสธ เมื่อศาลตัดสินออกมาว่านายสันต์ชัยผิดจริง ก็ต้องโดนรับโทษไปเต็มๆ สำหรับการที่ญาติของนายสันชัยได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นการจับแพะนั้น ก็ต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐานที่มีอยู่ อย่างไรก็ตามญาติสามารถนำหลักทรัพย์มาประกันตัวออกไปสู้คดีได้
อ่านต่อที่ : 14:50 น. คุมตัวเมียแท็กซี่โหดเชือดคอสาวอัมรินทร์ทำแผน

ฝรั่งออสซี่หิ้วสาวไทยเข้ารร.เสียท่าถูกกวาดทรัพย์เกลี้ยง พฤษภาคม 17, 2009

ฝรั่งออสซี่หิ้วสาวไทยเข้ารร.เสียท่าถูกกวาดทรัพย์เกลี้ยง

ฝรั่งออสซี่หิ้วสาวไทยเข้ารร.เสียท่าถูกกวาดทรัพย์เกลี้ยง

พ.ต.ท.เสน่ห์ ยศรุ่งเรือง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้ง เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 16 พ.ค. มีเหตุชาวต่างชาติถูกคนร้ายมอมยายกเอาตู้เซฟและทรัพย์สินภายในห้องพักไปที่โรงแรม อมารีโนวา สวีท ซอยเออาร์ พัทยากลาง หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบ MR.KOPERSKI MAREK อายุ 56 ปี สัญชาติออสเตรีย ผู้เสียหาย ยืนรอให้การกับทางเจ้าหน้าที่อยู่ที่หน้าฟร้อนของโรงแรม ทางเจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการสอบสวนทันที

สอบสวนเบื้องต้น  ผู้เสียหายได้ให้การว่าเมื่อเวลา ตนได้พาหญิงไทยมาจากบริเวณ มารีน ดิสโก้ ถนนวอคกลิ้งสตรีด พัทยาใต้ มาที่ห้องพักของโรงแรมเพื่อพามาร่วมหลับนอน เมื่อถึงห้องพักหญิงไทยดังกล่าวได้นำเบียร์แบบกระป๋องที่เตรียมมาด้วยออกมาให้ตนดื่มเพื่อเป็นการสร้างอารมณ์ หลังจากดื่มเบียร์ของหญิงไทยดังกล่าวเข้าไปแล้วจึงเกิดอาการมึนหัวอย่างรุนแรง ก่อนจะหมดสติไปทันที จนตื่นมารู้สึกตัวอีกที่ก็พบว่า หญิงไทยคนดังกล่าวได้หายตัวไป และ ตู้เซฟที่ตั้งอยู่ภายในห้องพักซึ่งภายในมีเงินสดกว่า 1 หมื่นบาท กล้องถ่ายรูปดิจิตอล หนังสือเดินทาง และ ทรัพย์สินอื่นๆอีกหลายรายการถูกยกเอาไปทั้งหลัง จึงรีบแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ของโรงแรมทราบและแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที 

 ในเวลาต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภายในห้องพักเลขที่ 156/128 ชั้นที่ 5 ซึ่งเป็นห้องพักที่เกิดเหตุพบมีเสื้อผ้าผู้หญิงถูกถอดกองทิ้งเอาไว้ ตู้เซฟภายในห้องพักถูกยกหายไปทั้งหลัง และ จากการตรวจสอบภาพจากล้องวงจรปิดของทางโรงแรมพบว่า ผู้เสียหายได้เข้ามาที่โรงแรมพร้อมกับหญิงไทย 1 คน เมื่อเวลา 04.50 น.ของเมื่อคืนวาน (15 พ.ค.) ที่ผ่านมา ก่อนหญิงไทยจะออกไปจากห้องพักเมื่อเวลา 05.00 น.และ กลับเข้ามาที่โรงแรมในเวลา 06.00 น. พร้อมทั้งได้ถือกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ สีดำ มาด้วย จากนั้นจึงเข้าไปภายในห้องพักที่เกิดเหตุแล้วกลับออกมาพร้อมทั่งลากกระเป๋าเดินทางออกมาด้วย ก่อนจะหลบหนีออกไปจากโรงแรม

  หลังสอบสวนเบื้องต้นและตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วทางเจ้าหน้าที่จึงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน อย่างไรทางเจ้าหน้าที่จะนำภาพจากกล้องวงจรปิดของทางโรงแรมที่สามารถบันทึกภาพของหยิงไทยที่ก่อเหตุเอาไว้ได้ไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งเร่งติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป         

อ่านต่อที่ : ฝรั่งออสซี่หิ้วสาวไทยเข้ารร.เสียท่าถูกกวาดทรัพย์เกลี้ยง

09:14 น. สาวท้อง2เดือน โดดตึกหนีตร.ดับอนาถ พฤษภาคม 15, 2009

09:14 น. สาวท้อง2เดือน โดดตึกหนีตร.ดับอนาถ

15 พค. 2552 09:14 น.

เมื่อเวลา 04.00 น.ของวันที่ 15 พ.ค. 52 พ.ต.ท.ไสว องอาจ พนักงานสอบสวนหน่วยสอบสวนย่อย สน.โค้งดงตาล ได้รับแจ้งเหตุมีคนพลัดตกจากที่สูงบาดเจ็บสาหัส ที่อาคารพานิชย์ เลขที่ 144/150 ซอยจอมเทียน 2 หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพานิชสูง 5 ชั้น ตรวจสอบที่ป่าด้านหลังอาคาร พบร่างของ น.ส.เป้า ไม่ทราบนามสกุล อายุ 32 ปี ซึ่งตั้งท้องได้ 2 เดือน กระโดดลงมาจากระเบียงห้องพักชั้นที่ 5 ลงมากระแทกพื้นด้านล่างได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่นำส่งที่โรงพยาบาลบางละมุง แต่เสียชีวิตระหว่างนำส่งรพ. เนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว
จากการตรวจสอบภายในห้องพักที่เกิดเหตุ พบมีอุปกรณ์การเสพยาบ้า ยาไอซ์ และถุงบรรจุยาไอซ์ วางอยู่ที่พื้นห้องเป็นจำนวนมาก เบื้องต้นได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนของ สภ.เมืองพัทยา ว่า ในเวลาที่เกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้นำกำลังเข้ามาจับกุมยาเสพติด
ซึ่งในขณะที่กำลังนำกำลังเข้าทำการจับกุมนั้น คนที่อยู่ในห้องพักวิ่งหลบหนี โดยเจ้าหน้าที่ สามารถติดตามจับกุมตัว นายบรรเจิด ประสาทยา อายุ 36 ปี และ นายวิชัย ผจญ อายุ 25 ปี ได้พร้อมของกลางเป็นยาบ้าจำนวนหนึ่ง
ส่วน น.ส.เป้า ได้วิ่งหลบหนีไปทางระเบียงหลังห้องพักก่อนจะกระโดดหนีลงมาจากระเบียงห้องพักและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
นายบรรเจิด ประสาทยา และ นายวิชัย ผจญ ผู้ต้องหาที่จับกุมได้ ยอมรับว่าขณะเกิดเหตุตนและพวกกำลังนั่งเสพยาบ้าอยู่ภายในห้องพักที่เกิดเหตุ โดยมี น.ส.เป้า อยู่ภายในห้องพักด้วย โดยได้ซื้อยาบ้ามาจาก น.ส.เป้า จนกระทั่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้ามาจับกุม
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบสวนชาวบ้านในละแวกที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง พร้อมทั้งจะทำการสอบสวนทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนที่เข้าทำการจับกุมยาเสพติดอย่างละเอียดอีกครั้งต่อไป
อ่านต่อที่ : 09:14 น. สาวท้อง2
เดือน โดดตึกหนีตร.ดับอนาถ

คอนโดหรูกลางเมืองปรับตัว ทำเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์กู้ยอด พฤษภาคม 15, 2009

คอนโดหรูกลางเมืองปรับตัว ทำเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์กู้ยอด

นายสาธิต หมันสุวรรณ ผู้จัดการทั่วไป โครงการอนันตรา บ้านราชประสงค์ ในเครือไมเนอร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้เริ่มมีผู้ประกอบการคอนโดมิเนียมหรูในเมือง เริ่มหาเชนโรงแรมหรือเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์เข้ามาเช่าพื้นที่ในโครงการคอนโดมิเนียม เนื่องจากจะสามารถช่วยสร้างรายได้ในระยะยาวให้กับเจ้าของโครงการ

ทั้งนี้ โครงการบ้านราชประสงค์ ของบริษัท ราชประสงค์พัฒนา เป็นโครงการนำร่อง ที่ทางอนันตราได้ทำสัญญาเช่า 10 ปี เปิดเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ 97 ยูนิต จากก่อนหน้าที่มีโรงแรมเรดิสันได้ทำโครงการเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ในโครงการคอนโดมิเนียม

“โครงการนี้เราถือเป็นเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์แห่งแรกของแบรนด์อนันตรา ในเครือไมเนอร์ โดยมีห้องพัก 97 ยูนิต และอีก 132 ยูนิตนั้น บริษัท ราชประสงค์พัฒนา ได้ขายในรูปแบบสิทธิการเช่านาน 30 ปี ให้กับผู้เช่ารายย่อย โดยในส่วนเซอร์ วิสอพาร์ตเมนต์นั้น เริ่มเปิดให้ใช้บริการมาตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค. ซึ่งใช้กลยุทธ์ด้านราคามาเรียกความสนใจของกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติในแถบเอเชีย ปัจจุบันมีลูกค้ามาพักแล้ว 40% ทั้งเช่ารายวันและระยะยาว” นายสาธิต กล่าว

ปัจจุบันเครือไมเนอร์ มีแผนจะขยายเชนโรงแรมและเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ แบรนด์อนันตราทั้งในและต่างประเทศ ปัจจุบันมีอยู่ 17 แห่ง และมีแผนจะเปิดในกรุงเทพฯ อีก 1 แห่ง ย่านบุคคโล เนื้อที่ 10 ไร่ จะพัฒนาเป็นรีสอร์ตกลางเมือง

นายสาธิต กล่าวถึงสถานการณ์โรงแรมบนเกาะสมุยนั้น น่าเป็นห่วง อัตราห้องพักว่างมีจำนวนมาก และหลายแห่งต้องปิดกิจการไปแล้ว โดยเฉพาะโรงแรม โลคัลแบรนด์ ขนาด 70-80 ห้องพัก เนื่องจากเศรษฐกิจซบ ขณะนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่เจ้าของเชนโรงแรมรายใหญ่ไล่เทกโอเวอร์โรงแรมโลคัลที่มีศักยภาพ ขณะเดียวกันเจ้าของโรงแรมท้องถิ่นก็ต้องหาผู้ร่วมทุน

อ่านต่อที่ : คอนโดหรูกลางเมืองปรับตัว ทำเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์กู้ยอด

09:19 น. บุกแคมป์คนงานหมายขืนใจสาวพม่าเหยื่อต่อสู้ถูกแทงดับ พฤษภาคม 15, 2009

09:19 น. บุกแคมป์คนงานหมายขืนใจสาวพม่าเหยื่อต่อสู้ถูกแทงดับ

15 พค. 2552 09:19 น.

ร.ต.ท.นิติกรณ์ ระวัง ร้อยเวร สภ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉิน รพ.ป่าตอง ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ภูเก็ต ว่า มีหญิงสาวถูกแทงเข้ามารักษาตัว เหตุเกิดภายในแคมป์คนงานก่อสร้าง กะหลิมซอย 6 ถ.พระบารมี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ขอให้เดินทางมาตรวจสอบด้วย
หลังรับแจ้งก็ได้เดินทางไปตรวจสอบที่รพ.ป่าตอง พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษศักดิ์ สงมูลนาค ผกก. เจ้าหน้าที่ชุดสอบสวน เจ้าหน้าที่สายตรวจไปตรวจสอบที่ รพ.และที่เกิดเหตุ โดยที่ห้องฉุกเฉินแพทย์ – พยาบาลกำลังพยายามปั้มหัวใจเพื่อยื้อชีวิตผู้ที่ถูกทำร้ายร่างกายอยู่ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ก็ทราบว่า ผู้ที่ถูกทำร้ายร่างกายชื่อนางอาอีกะ อายุ 33 ปีชาวพม่า ถูกแทงด้วยของมีคมเข้าตามร่างกาย เช่น หน้าอก ชายโครงขวาและแขนซ้ายนับไม่ถ้วน แต่นางอาอีกะทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทางเจ้าหน้าที่จึงได้จัดทำบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เดินทางไปยังแคมป์คนงานก่อสร้าง ที่เป็นจุดเกิดเหตุ อยู่ภายในซอยกะหลิมซอย 6 เจ้าหน้าที่พบคราบเลือดเป็นจำนวนมากอยู่ที่พื้นห้องภายในร้านขายของชำ
จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุนางอาอีกะ ซึ่งเป็นคนงานชาวพม่าและเปิดร้านขายของชำอยู่ภายในแคมป์ โดยมีแฟนหนุ่มชาวพม่าด้วยกัน พักอาศัยอยู่ด้วยกัน แต่ในช่วงเกิดเหตุได้ออกไปทำธุระนอกแคมป์ เหลือเพียงนางอาอีกะ อยู่ในห้องพักเพียงลำพัง จากนั้นได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนบุกเข้ามาที่ห้องพักของนางอาอีกะและพยายามจะข่มขืน แต่นางอาอีกะไม่ยอมและพยายามจะต่อสู้ขัดขืน คนร้ายจึงใช้มีดกระหน่ำแทงตามร่างกายของนางอาอีกะจนเลือดอาบ จากนั้นได้หลบหนีไป โดยที่ไม่ได้ข่มขืน ทำให้คนงานที่พักอาศัยอยู่ในห้องข้างเคียงได้ยินเสียงจึงวิ่งออกมาดูเหตุการณ์เพราะคิดนางอาอีกะ ทะเลาะกับแฟนหนุ่ม แต่กลับเห็นร่างนางอาอีกะนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นห้อง จึงรีบนำส่ง รพ.ป่าตอง ก่อนทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้จัดทำบันทึกสถานที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน
เบื้องต้นตำรวจคาดว่า คนร้ายอาจเป็นคนงานภ�
�ยในแคมป์ด้วยกันและรู้ว่าแฟนของนางอาอีกะ ไม่อยู่ จึงฉวยโอกาสหวังจะเข้ามาข่มขืน แต่นางอาอีกะกลับขัดขืนและต่อสู้ คนร้ายจึงใช้มีดแทงเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งตำรวจจะได้สืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
อ่านต่อที่ : 09:19 น. บุกแคมป์คนงานหมายขืนใจสาวพม่าเหยื่อต่อสู้ถูกแทงดับ

สุวรรณภูมิให้บริการอินเตอร์เน็ตฟรี ในห้องพักผู้โดยสาร พฤษภาคม 14, 2009

สุวรรณภูมิให้บริการอินเตอร์เน็ตฟรี ในห้องพักผู้โดยสาร

สุวรรณภูมิให้บริการอินเตอร์เน็ตฟรี ในห้องพักผู้โดยสาร

 นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ได้ร่วมกับ การสื่อสารแห่งประเทศไทยติดตั้งตู้ Kiosk  สำหรับใช้อินเตอร์เน็ต ในห้องพักผู้โดยสารก่อนขึ้นเครื่อง (Hold Room) ทุกห้องในส่วนของผู้โดยสารภายในประเทศและต่างประเทศ รวม 126 เครื่อง ผู้โดยสารที่รอขึ้นเครื่องสามารถใช้บริการอินเตอร์เน็ตในการรับ-ส่งเช็คอีเมล์ ดูข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นบริการเสริมที่ ทสภ. จัดไว้ให้บริการแก่ผู้โดยสาร เพื่อเพิ่มความสะดวก สบายและความประทับใจในการใช้บริการ ณ ทสภ.

นายเสรีรัตน์ กล่าวว่า นอกจากจะจัดให้มีบริการอินเตอร์เน็ตฟรีในห้องพักคอยผู้โดยสารแล้ว ในอนาคตอันใกล้ ทสภ. จะปรับปรุงการให้บริการและสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ ภายในอาคารผู้โดยสารเพิ่มเติมอีกหลายโครงการ อาทิ การปรับปรุงเก้าอี้ในห้องพักผู้โดยสารก่อนขึ้นเครื่อง โดยการเปลี่ยนผ้าหุ้มเบาะใหม่ เพื่อให้ผู้โดยสารได้นั่งสบายยิ่งขึ้น การให้บริการเครื่องชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เป็นต้น ทั้งนี้ ทสภ. มีความตั้งใจที่จะยกระดับมาตรฐานคุณภาพการให้บริการให้ดียิ่ง ๆ ขึ้น เพื่อสร้างความสะดวก สบาย และสร้างความประทับใจให้กับผู้โดยสาร เพื่อให้ ทสภ.สามารถก้าวสู่การเป็นท่าอากาศยานดีเด่นติดอันดับ 1 ใน 10 ของปี 2552 ให้ได้

อ่านต่อที่ : สุวรรณภูมิให้บริการอินเตอร์เน็ตฟรี ในห้องพักผู้โดยสาร

15:32 น. ฝากขังครั้งแรก”มือฆ่า”เศรษฐีไทยซิกข์” พฤษภาคม 14, 2009

15:32 น. ฝากขังครั้งแรก”มือฆ่า”เศรษฐีไทยซิกข์”

14 พค. 2552 15:32 น.

พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ได้ควบคุมตัวนายวันชัย เจะเตะ อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาฆ่านายอนันต์ สิงห์จิรกุล อายุ 38 ปี ชาวไทยเชื้อสายซิกข์ เศรษฐีเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับพันล้าน ในห้องพักเลขที่ 19 / 69 ชั้น 9 ในอาคารสุขุมวิทสวีท ซ.สุขุมวิท 13 แขวงคลองเตย เขตวัฒนา กทม.เมื่อช่วงเช้าวันที่ 12 พ.ค. มา ที่ศาลจังหวัดพระโขนง ถ.สรรพวุธ ยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 14 – 25 พ.ค. เนื่องจากยังต้องสอบปากคำพยานเพิ่มอีก 7 ปาก รอผลการตรวจพิสูจน์รอยพิมพ์นิ้วมือ และประวัติอาชญากร รวมทั้งของกลาง และอื่นๆ
โดยพนักงานสอบสวน ได้ขอคัดค้านการประกันด้วย เพราะผู้ต้องหากระทำการอุกอาจโหดเหี้ยมทารุณ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย และอาจหลบหนี
ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้
อ่านต่อที่ : 15:32 น. ฝากขังครั้งแรก”มือฆ่า”เศรษฐีไทยซิกข์”

ตร.หิ้วมือฆ่าปาดคอเศรษฐีไทยซิกข์พันล้านฝากขัง พฤษภาคม 14, 2009

ตร.หิ้วมือฆ่าปาดคอเศรษฐีไทยซิกข์พันล้านฝากขัง

ตร.หิ้วมือฆ่าปาดคอเศรษฐีไทยซิกข์พันล้านฝากขัง

เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ศาลจังหวัดพระโขนง ถนนสรรพวุธ พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ได้ควบคุมตัวนายวันชัย เจะเตะ  อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาฆ่านายอนันต์ สิงห์จิรกุล  อายุ 38 ปี ชาวไทยเชื้อสายซิกข์ เศรษฐีเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับพันล้าน ในห้องพักเลขที่ 19 / 69 ชั้น 9 ในอาคารสุขุมวิทสวีท  ซ.สุขุมวิท 13 แขวงคลองเตย เขตวัฒนา กทม.เมื่อช่วงเช้าวันที่ 12 พฤษภาคม มายื่นคำร้องฝากขังรั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 14 – 25 พฤษภาคม เนื่องจากยังต้องสอบปากคำพยานเพิ่มอีก 7 ปาก รอผลการตรวจพิสูจน์รอยพิมพ์นิ้วมือ และประวัติอาชญากร รวมทั้งของกลาง และอื่น ๆ 

โดยพนักงานสอบสวน ได้ขอคัดค้านการประกันด้วย เพราะผู้ต้องหากระทำการอุกอาจโหดเหี้ยมทารุณ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย  และอาจหลบหนี

ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาต

อ่านต่อที่ : ตร.หิ้วมือฆ่าปาดคอเศรษฐีไทยซิกข์พันล้านฝากขัง

15:14 น. ขยายผลยึดยาบ้าในรีสอร์ทหรูเชียงรายกว่า7หมื่นเม็ด พฤษภาคม 14, 2009

15:14 น. ขยายผลยึดยาบ้าในรีสอร์ทหรูเชียงรายกว่า7หมื่นเม็ด

14 พค. 2552 15:14 น.

พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุนทร จันทรางกูร ผกก.สภ.แม่สรวย พ.ต.อ.ประจักษ์ อวัยวานนท์ ผกก.สภ.แม่สาย ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจยึดยาบ้าจำนวน 74,000 เม็ด ซึ่งซุกซ่อนภายในห้องพักหมายเลข 8 บ้าน จ้องลานนารีสอร์ท ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย จากการขยายผลการจับกุมนายอำนาจ แซ่บุญ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 ม.4 ต.พลับพลาไชย อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ผู้ต้องหาค้ายาเสพติดราย ใหญ่
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 13 พ.ค. นายอำนาจ ถูกตำรวจ สภ.แม่สรวย และ ทหาร ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมืองคารถยนต์เก๋งยี่ห้อเบนซ์สีดำ หมายเลขทะเบียน ภษ-7672 กทม. ที่จุดสกัดตู้ยาม ท่าก้อ ต.ท่าก้อ อ.แม่สรวย พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 17,600 เม็ด และ ยาไอซ์ น้ำหนักรวม 14 กิโลกรัม ที่ซุกซ่อนไว้ที่บริเวณบังโคลนหน้ารถด้านซ้ายและขวา
หลังถูกจับกุม นายอำนาจสารภาพว่าเคยลักลอบขนยาบ้าจำนวน 4,000 เม็ด ไปส่งให้กับ ลูกค้าในกรุงเทพมหานครแล้วครั้งหนึ่ง โดยรับยาบ้ามาจากแนวชายแดนไทย-พม่า ในราคาเม็ดละ 40 บาท ส่วนยาไอซ์รับมาในราคากิโลกรัมละ 1.2 ล้านบาท แต่มูลค่าการซื้อขายในจังหวัดชั้นในจะมี มูลค่าสูงถึง 250 ล้านบาท นอกจากนี้นายอำนาจยังรับว่าได้ซุกซ่อนยาบ้าไว้บนเพดานในห้องพัก หมายเลข 8 ในบ้านจ้องลานนารีสอรท์ซึ่งเช่าไว้อีกจำนวน 74,000 เม็ด
ต่อมาเวลา วันที่ 14 พ.ค. พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภสชน์ ผบก.ภ.จ.เชียงราย ร่วม กับ พ.ต.อ.สุนทร จันทรางกูร ผกก.สภ.แม่สรวย ในฐานะ หน.ฉก.ปส.ภ.เชียงราย พ.ต.อ.ประจักษ์ อวัยวานนท์ ผกก.สภ.แม่สาย ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นห้องพักดังกล่าว พบกระสอบปุ๋ย 1 ใบ ซ่อนอยู่ บนเพดานห้อง ในกระสอบบรรจุยาบ้า 37 มัด รวม 74,000 เม็ด จึงตรวจยึดนำส่ง พ.ต.ท.ธวัชชัย ระวังศรี พนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย ดำเนินคดี
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมระบุว่า เปิดเผยว่า แก๊งค้ายาเสพติดที่จับกุมได้เป็นขบวนการใหญ่ เรียกกันว่าขบวนการ “เบนซ์สูทดำ” โดยนายอำนาจได้เป็นนายพลทหารสังกัดกองทัพบก ใช้รถยนต์ เบนซ์ ติดเครื่องหมายทหารหน่วยรบพิเศษ พร้อมกับสวมสูทสีดำดูภูมิฐาน เพื่อเป็นการหลบเลี่ยงการ ตรวจค้นจากเจ้าหน้าที่ ที่ผ่านมานายอำนาจจะเข้าไปรับยาบ้าจากเครือข่ายกลุ่มว้าแดงตามนวชายแดนไทย-พม่า ทางภาคเหนือ
โดยมีนายทุนอีกประมาณ 6 คน ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลทางภาคกลาง ที่ยังหลบหนี เดินทางมาเปิดห้องพักใน อ.แม่สาย จากนั้นจะมีคนของกลุ่มว้ามาขับรถยนต์เบนซ์ไปบรรจุยาเสพติดให้ จากนั้นก็จะขับมาส่งตามแหล่งที่พักและจ่ายเงินซื้อขายก่อนแยกย้าย ล่าสุด ตำรวจทราบชื่อผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดแล้วและอยู่ระหว่างของอนุมัติหมายจับ

อ่านต่อที่ : 15:14 น. ขยายผลยึดยาบ้าในรีสอร์ทหรูเชียงรายกว่า7หมื่นเม็ด

ตร.เชียงราย ขยายผลค้นรีสอร์ทพบยาบ้ากว่า 74,000 เม็ด พฤษภาคม 14, 2009

ตร.เชียงราย ขยายผลค้นรีสอร์ทพบยาบ้ากว่า 74,000 เม็ด

ตร.เชียงราย ขยายผลค้นรีสอร์ทพบยาบ้ากว่า 74,000 เม็ด

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 12:52 น.

       ตำรวจ จ.เชียงราย พบยาบ้าจำนวนกว่า 74,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในเพดาน ใต้หลังคาของห้องพักรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย หลังจากเข้าตรวจค้นตามคำให้การของ นายอำนาจ แซ่บุญ ผู้ต้องหาที่ตำรวจภูธรแม่สรวยและสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส.ภาค 5 จับกุมเมื่อวานนี้
        นอกจากนี้ตำรวจยังพบหลักฐานที่เป็นประโยชน์ ในการติดตามผู้กระทำผิด ในเบื้องต้นคาดว่า เป็นขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่มีผู้ร่วมขบวนการไม่ต่ำกว่า 8 คน ตำรวจมีหลักฐาน และเบาะแสแล้ว 5 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุมัติศาล จ.เชียงราย เพื่อออกหมายจับ
        ก่อนหน้านี้ตำรวจร่วมกับ ป.ป.ส.และทหารกองกำลังผาเมืองจับกุม นายอำนาจชาว อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ขณะขับรถยนต์รับจ้างนายทุนใน อ.แม่สาย นำยาบ้าจำนวน 1.8 แสนเม็ด ยาไอซ์น้ำหนัก 14 กิโลกรัม ไปส่งให้กับลูกกับลูกค้าที่กรุงเทพมหานคร โดยได้ค่าจ้างเป็นยาบ้าจำนวน 5,000 เม็ด จึงได้ขยายผลเข้าตรวจค้นรีสอร์ทที่ จ.เชียงราย

อ่านต่อที่ : ตร.เชียงราย ขยายผลค้นรีสอร์ทพบยาบ้ากว่า 74,000 เม็ด