ข่าว ในประเทศไทย

ปชป.ร้าว!ส.ส.อึดอัด ตัวแทน กก.สมานฉันท์ฯ แหกกรอบพรรค พฤษภาคม 14, 2009

ปชป.ร้าว!ส.ส.อึดอัด ตัวแทน กก.สมานฉันท์ฯ แหกกรอบพรรค

ปชป.ร้าว!ส.ส.อึดอัด ตัวแทน กก.สมานฉันท์ฯ แหกกรอบพรรค

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 15:54 น.

       นายชุมพล กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ในฐานะประธาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ออกแถลงการณ์แจกจ่ายสื่อมวลชน โดยมีเนื้อหาระบุว่า ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์เริ่มรู้สึกอึดอัดในแนวทางการทำงานของ 8 ตัวแทนพรรค ที่เข้าเป็นคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อปฏิรูปการเมืองและแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะในช่วงที่พรรคเห็นชอบแต่งตั้งบุคคลทั้ง 8 ได้มีข้อกำหนดว่า ให้ไปรับฟังและรวบรวมประเด็นในมาตราต่างๆ ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อเสร็จแล้วหรือมีความคืบหน้าอย่างไร ให้ตัวแทนทั้ง 8 คนนำเรื่องดังกล่าวมาแจ้งให้พรรคทราบ เพื่อทางพรรคจะได้กำหนดให้ประชุมใหญ่ของ ส.ส.พรรค เพื่อพิจารณาหารือร่วมกันเป็นวาระพิเศษ และเพื่อให้ ส.ส.ทุกคนของพรรคได้แสดงความเห็นเพื่อนำเสนอมุมมองในการปรับปรุงแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างกว้างขวางและพิจารณาโดยรวมให้ตกผลึก จะได้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับเสียงส่วนใหญ่ภายในพรรค
        นอกจากนี้ ในแถลงการณ์ยังระบุอีกว่า กรอบที่วางให้ตัวแทนพรรคใหม่จะเป็นการยึดหลักผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง โดยนายกรัฐมนตรีมีเจตนารมณ์ที่แท้จริงในการให้คณะกรรมการทั้ง 8 คน เข้าไปศึกษารวบรวมประเด็นว่า จะมีการปรับปรุงแก้ไขอะไรบ้าง ตนในฐานะประธาน ส.ส.ของพรรค คงจะต้องสอบถามและหารือกันภายในที่ประชุมพรรคอีก ซึ่งหากเทียบกับประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เป็นต้นแบบของประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญของเขาไม่เคยถูกฉีกเลย มีเพียงแต่ปรับปรุงแก้ไขบางมาตราให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมและสังคมในแต่ละยุคเพื่อประโยชน์สูงสุดกับประชาชนโดยแท้จริง ไม่ใช่แก้เพื่อบุคคลหนึ่งบุคคลใด หรือกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด
        นายชุมพล เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การที่ตนเผยแพร่เอกสารดังกล่าวไม่ได้หมายความว่า จะให้ตัวแทนของพรรคทั้ง 8 คนถอนตัวออกจากการเป็นคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ เพียงแต่ตอนนี้เขาไปไกลแล้ว จึงต้องมีการพูดคุยเพื่อวางกรอบกันใหม่
        มีรายงานว่า หลังจากเอกสารดังกล่าวถูกเผยแพร่ ได้สร้างความสนใจจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์หลายคน พร้อมทั้งขอถ่ายเอกสารดังกล่าวเพื่อนำไปหารือกันในพรรคต่อไป
        นอกจากนี้ นายชุมพล ยังได้ออกหนังสือเชิญ ส.ส.พรรคมาร่วมประชุมนัดพิเศษในวันที่ 18 พฤษภาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 09.00 น.ที่รัฐสภา เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับร่างกฎหมายที่จะเข้าสู่ที่ประชุมสภาในวันเดียวกัน โดยคาดว่าจะมีการหารือในเรื่องดังกล่าวด้วย

อ่านต่อที่ : ปชป.ร้าว!ส.ส.อึดอัด ตัวแทน กก.สมานฉันท์ฯ แหกกรอบพรรค

ปชป.อึดอัด ตัวแทนกก.สมานฉันท์ฯทำนอกกรอบพรรค พฤษภาคม 14, 2009

ปชป.อึดอัด ตัวแทนกก.สมานฉันท์ฯทำนอกกรอบพรรค

นายชุมพล กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี และประธานส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ออกแถลงการณ์ ระบุว่า ส.ส.ปชป.หลายคนเริ่มรู้สึกอึดอัด การทำงานของ 8 ตัวแทนพรรค ที่ไปเป็นคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อปฏิรูปการเมืองและแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะในช่วงแต่งตั้ง พรรคได้มอบหน้าที่ให้บุคคลดังกล่าวไปเป็นคนรับฟัง และรวบรวมความเห็นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มารายงานให้ที่ประชุมพรรคทราบ และให้ส.ส.ของพรรคทุกคนได้แสดงความเห็น เพื่อให้แนวคิดในการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคไปในทางเดียวกัน แต่ขณะนี้ปรากฏว่า คณะกรรมการดังกล่าว กลับพิจารณาว่า จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรานั้นมาตรานี้ และไปไกลถึงขั้นตั้งคณะอนุกรรมการแล้ว ถือว่า เลยกรอบอำนาจหน้าที่ที่พรรคได้ให้ไว้ จึงจำเป็นต้องเรียกคณะกรรมการสมานฉันท์ฯของพรรค ทั้ง 8 คน มาวางกรอบการทำงานใหม่

 “สาเหตุที่ตนต้องเขียนแถลงการณ์ฉบับนี้ ไม่ได้ต้องการให้คนทั้ง 8 ถอนตัว แต่ต้องการเบรกคณะกรรมการทั้ง 8 ของพรรค ว่าทำอะไร ควรมาปรึกษาหารือกันในพรรคก่อน ไม่ใช่ไปตัดสินใจกันเอาเอง เพราะเกินขอบเขตอำนาจที่พรรคให้ไว้” นายชุมพล กล่าว           

  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังแถลงการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ส.ส.ปชป.หลายคนได้ขอดูด้วยความสมใจ พร้อมขอถ่ายเอกสารไปแจกจ่ายระหว่างเพื่อนส.ส.ในพรรคด้วยกัน ขณะเดียวกันนายชุมพล ยังออกหนังสือเชิญส.ส.ปชป.มาประชุมพรรคนัดพิเศษ ในเวลา 09.00 น. วันที่ 18 พฤษภาคมนี้ ที่รัฐสภา โดยเชื่อว่าจะมีการนำเรื่องดังกล่าวไปหารือในที่ประชุมด้วย

อ่านต่อที่ : ปชป.อึดอัด ตัวแทนกก.สมานฉันท์ฯทำนอกกรอบพรรค

ทูต 32 ปท.มั่นใจมาตรการเฝ้าระวังหวัดใหญ่ฯ2009 ของไทย พฤษภาคม 14, 2009

ทูต 32 ปท.มั่นใจมาตรการเฝ้าระวังหวัดใหญ่ฯ2009 ของไทย

ทูต 32 ปท.มั่นใจมาตรการเฝ้าระวังหวัดใหญ่ฯ2009 ของไทย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 15:22 น.

       ตัวแทนกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมชี้แจงผลการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน+คู่เจรจา วาระพิเศษ ว่าด้วยการป้องกันการแพร่กระจายของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แก่ตัวแทนคณะทูต 32 ประเทศ และตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ 5 องค์กร เกี่ยวกับมาตรฐานการเฝ้าระวังการแพร่กระจายของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาตรการเฝ้าระวังในไทย รวมทั้งรายงานสถานการณ์ปัจจุบันเพื่อสร้างความมั่นใจแก่คณะทูต
        การแถลงข่าวมีขึ้นหลังจากไทยพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในประเทศเพียง 2 วัน โดย น.พ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ โฆษกกรมควบคุมโรค ยืนยันว่า ตัวแทนทูตมีความเข้าใจ และมั่นใจในมาตรการรับมือของไทย แต่สิ่งที่กังวลคือการที่สื่อมวลชนใช้ถ้อยคำที่สร้างความตื่นตระหนกในการรายงานข่าว เช่น คำว่า “ไข้หวัดมรณะ” ซึ่งอาจทำให้ผู้เดินทางมาจากประเทศที่มีการแพร่กระจายของเชื้อเกิดความหวาดหวั่นว่า หากติดเชื้อจะกลายเป็นตราบาป จึงไม่กล้าแสดงตัวต่อแพทย์

อ่านต่อที่ : ทูต 32 ปท.มั่นใจมาตรการเฝ้าระวังหวัดใหญ่ฯ2009 ของไทย

15:14 น. ศุภชัยยันหากจะแก้ไข รธน.ต้องทำประชามติก่อน พฤษภาคม 14, 2009

15:14 น. ศุภชัยยันหากจะแก้ไข รธน.ต้องทำประชามติก่อน

14 พค. 2552 15:14 น.

นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ตัวแทนพรรคภูมิใจไทยในที่ประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไขรัฐธรรมนูญเสนอปรับแก้เรื่องการเลือกตั้ง ส.ส.แบบเขตเดียวเบอร์เดียว ว่า เป็นเพียงข้อเสนอของอนุกรรมการในส่วนของพรรค แต่ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องของที่ประชุมโดยรวมอยู่แล้ว แต่สิ่งที่พรรคภูมิใจไทยยืนยันตลอด คือ ไม่ว่าจะเป็นข้อเสนอใดๆก็ตาม จะต้องถามประชาชน ถ้าหากจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทุกเรื่องจะต้องมีการทำประชามติ ต้องถามความเห็นของประชาชน เพราะรัฐธรรมนูญปี 2550 ได้ผ่านกระบวนการทำประชามติมา ดังนั้นไม่ว่าจะแก้ไขเรื่องใดก็ต้องถามประชาชนอีก

อ่านต่อที่ : 15:14 น. ศุภชัยยันหากจะแก้ไข รธน.ต้องทำประชามติก่อน

“ชุมพล”ร่อนแถลงการณ์ แจงอึดอัด8กก.สมานฉันท์ทำงาน พฤษภาคม 14, 2009

“ชุมพล”ร่อนแถลงการณ์ แจงอึดอัด8กก.สมานฉันท์ทำงาน

"ชุมพล"ร่อนแถลงการณ์ แจงอึดอัด8กก.สมานฉันท์ทำงาน

ที่รัฐสภา   เมื่อวันที่ 14 พ.ค. นายชุมพล กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี และประธานส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ออกแถลงการณ์ ระบุว่า ส.ส.ปชป.หลายคนเริ่มรู้สึกอึดอัด การทำงานของ 8 ตัวแทนพรรค ที่ไปเป็นคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อปฏิรูปการเมืองและแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะในช่วงแต่งตั้ง พรรคได้มอบหน้าที่ให้บุคคลดังกล่าวไปเป็นคนรับฟัง และรวบรวมความเห็นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มารายงานให้ที่ประชุมพรรคทราบ และให้ส.ส.ของพรรคทุกคนได้แสดงความเห็น เพื่อให้แนวคิดในการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคไปในทางเดียวกัน แต่ขณะนี้ปรากฏว่า คณะกรรมการดังกล่าว กลับพิจารณาว่า จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรานั้นมาตรานี้ และไปไกลถึงขั้นตั้งคณะอนุกรรมการแล้ว ถือว่า เลยกรอบอำนาจหน้าที่ที่พรรคได้ให้ไว้ จึงจำเป็นต้องเรียกคณะกรรมการสมานฉันท์ฯของพรรค ทั้ง 8 คน มาวางกรอบการทำงานใหม่

 “สาเหตุที่ตนต้องเขียนแถลงการณ์ฉบับนี้ ไม่ได้ต้องการให้คนทั้ง 8 ถอนตัว แต่ต้องการเบรกคณะกรรมการทั้ง 8 ของพรรค ว่าทำอะไร ควรมาปรึกษาหารือกันในพรรคก่อน ไม่ใช่ไปตัดสินใจกันเอาเอง เพราะเกินขอบเขตอำนาจที่พรรคให้ไว้” นายชุมพล กล่าว           

  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังแถลงการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ส.ส.ปชป.หลายคนได้ขอดูด้วยความสมใจ พร้อมขอถ่ายเอกสารไปแจกจ่ายระหว่างเพื่อนส.ส.ในพรรคด้วยกัน ขณะเดียวกันนายชุมพล ยังออกหนังสือเชิญส.ส.ปชป.มาประชุมพรรคนัดพิเศษ ในเวลา 09.00 น. วันที่ 18 พฤษภาคมนี้ ที่รัฐสภา โดยเชื่อว่าจะมีการนำเรื่องดังกล่าวไปหารือในที่ประชุมด้วย

อ่านต่อที่ : “ชุมพล”ร่อนแถลงการณ์ แจงอึดอัด8กก.สมานฉันท์ทำงาน

กต.-สธ.เชิญตัวแทนทูตชี้แจงสถานการณ์หวัดใหญ่ 2009 พฤษภาคม 14, 2009

กต.-สธ.เชิญตัวแทนทูตชี้แจงสถานการณ์หวัดใหญ่ 2009

กต.-สธ.เชิญตัวแทนทูตชี้แจงสถานการณ์หวัดใหญ่ 2009 กต. 14 พ.ค.- กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เชิญตัวแทนทูต-องค์กรระหว่างประเทศ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ย้ำแนวทางการป้องกันของไทยและความร่วมมือประเทศภูมิภาค

เวลา 11.00 น.วันนี้ (14 พ.ค.) นายวิทวัส ศรีวิหค อธิบดีกรมอาเซียน นพ.ศุภมิตร ชุณห์สุทธิ์วัฒน์ นายคำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค และนายทวี โชติพิทยะสุนันท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านควบคุมโรคติดต่อกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันบรรยายสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่กระทรวงการต่างประเทศ โดยมีคณะทูตจาก 32 ประเทศ และตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ 5 องค์กร เข้าร่วม
  
นพ.ศุภมิตร ชุณห์สุทธิ์วัฒน์ กล่าวว่า ได้สรุปภาพรวมของสถานการณ์ต่าง ๆ ในประเทศไทย พร้อมกับผลสรุปของการประชุมสมัยพิเศษรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนบวกสาม ว่า ประเทศไทยและประเทศในภูมิภาคและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการป้องกันอย่างไร เพื่อรับมือกับปัญหา ซึ่งถือเป็นความสำเร็จเพราะทุกประเทศเข้าใจดีถึงความตั้งใจการทำงานที่มีอย่างเป็นระบบ ภายใต้กรอบความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน มาตรการใช้คัดกรองบุคคลที่มาจากประเทศที่มีการแพร่ระบาด ขณะเดียวกันได้รายงานถึงการดำเนินการกับผู้ที่ติดเชื้อในไทย นอกจากนี้ ตัวแทนคณะทูตยังได้สอบถามถึงคลังยา ว่ามีเพียงพอหรือไม่ ซึ่งได้ยืนยันว่ามีอย่างเพียงพอต่อสถานการณ์ขณะนี้ แต่ถ้าสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปจากนี้ ก็พร้อมในการจัดหาเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ
  
นพ.คำนวณ กล่าวว่า มีบางประเทศเสนอแนะให้ทางการไทยประชาสัมพันธ์ เพื่อลดความวิตกต่อโรคที่เกิดขึ้น เพราะหากพูดว่าโรคดังกล่าวเป็นหวัดมรณะ หรือหวัดนรก ก็จะไม่ทำให้คนที่มีอาการเสี่ยงของโรคออกมาแสดงตัว เพื่อรักษา เพราะกลัวเกิดเป็นตราบาป ทั้งที่จริงโรคดังกล่าวสามารถควบคุมการรักษาได้
  
นายทวี  กล่าวว่า การเกิดโรคไข้หวัดใหญ่ฯ ทางการแพทย์ไม่ถือว่าเหนือความคาดหมาย  แต่สิ่งที่หวาดกลัวคือการแพร่ระบาดในระบบชุมชน ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขก็ไม่ได้นิ่งนอนใจเร่งตรวจสอบในระดับครอบครัวด้วย หวังลดปัญหาต่าง ๆ ให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด                               
  
ด้านนายวิทวัส  กล่าวว่า โรคดังกล่าวเป็นที่จับตามองของทั่วโลก ขณะเดียวกันในประเทศไทยพบการแพร่ระบาด ดังนั้น ไทยในฐานะประธานอาเซียน หลังเกิดการแพร่ระบาดโรคไข้หวัดใหญ่ฯ ในหลายทวีป สามารถจัดการประชุมเพื่อการป้องกันได้อย่างทันท่วงทีในภูมิภาค ซึ่งไม่มีประเทศใดห่วงใยสถานการณ์ใดเป็นพิเศษ.-สำนักข่าวไทย

อ่านต่อที่ : กต.-สธ.เชิญตัวแทนทูตชี้แจงสถานการณ์หวัดใหญ่ 2009

จีเอ็ม-ไคร้สเล่อร์ เตรียมเลิกจ้างตัวแทนขายกว่า 3 พันคน พฤษภาคม 14, 2009

จีเอ็ม-ไคร้สเล่อร์ เตรียมเลิกจ้างตัวแทนขายกว่า 3 พันคน

จีเอ็ม-ไคร้สเล่อร์ เตรียมเลิกจ้างตัวแทนขายกว่า 3 พันคน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันว่า “เจอเนอรัล มอเตอร์ส”ซึ่งกำลังเผชิญเส้นตายในการเสนอแผนปรับโครงสร้างเพื่อหลีกเลี่ยงสถานภาพล้มละลาย คาดว่าจะเลิกจ้างตัวแทนพนักงานขายกว่า 2 พันคน หรือ 1 ใน 3 ของจำนวนพนักงานขายทั้งหมด ส่วนไคร้สเล่อร์ ซึ่งได้ยื่นฟ้องล้มละลายเพื่อให้ศาลพิทักษ์ทรัพย์เมื่อเดือนมิ.ย.ก็มีแผนเลิกจ้างตัวแทนขาย 1,000 คน จากทั้งหมด 3,189 รายด้วย

รายงานระบุว่า แผนเลิกจ้างของสองบริษัทยักษ์ใหญ่รถยนต์สหรัฐ สะท้อนถึงพิษเศรษฐกิจที่อุตสาหกรรมรถยนต์สหรัฐต้องประสาบ ซึ่งได้ลุกลามไปนอกเมืองดีทรอยส์ซึ่งเป็นฐานการผลิตใหญ่ และยังมีขึ้นในขณะที่เหล่าตัวแทนขายได้เพิ่มการล็อบบี้ต่อรัฐบาลสหรัฐให้ชะลอแผนดำเนินการต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ซึ่งอาจกระทบต่องานพนักงานตัวแทนขายจำนวนกว่า 200,000 ตำแหน่ง

อ่านต่อที่ : จีเอ็ม-ไคร้สเล่อร์ เตรียมเลิกจ้างตัวแทนขายกว่า 3 พันคน

รายงาน-สมานฉันท์”ร้าวฉาน” พฤษภาคม 14, 2009

รายงาน-สมานฉันท์”ร้าวฉาน”

คมชัดลึก : ท่าจะสมานฉันท์ยากซะแล้ว กับแนวทางการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ขึ้นมา 2 ชุดเพื่อแก้ปัญหาและวิกฤติของประเทศในยามนี้

 ผ่าน “คณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ” กับ “คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์การเมืองระหว่างวันที่ 18-15 เมษายน 2552″ ที่ประกอบด้วย 80 อรหันต์จากตัวแทนพรรคการเมืองต่างๆ วุฒิสภา และผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ถูกเทียบเชิญจากซีกของฝ่ายการเมือง

 เพียงแค่ประชุมนัดแรกก็ทำท่าจะซัดกันให้ตายไปข้าง เพราะต่างฝ่ายต่างงัดข้อมูลมาฉะกันกลางห้องประชุม

 เริ่มจากช่วงเช้าเป็นการประชุมคณะกรรมการสมานฉันท์

 แทนที่จะเป็นการระดมปัญหาและร่วมหาทางออก กลับกลายเป็นเวทีในการต่อรอง-ฮั้วกันทางการเมือง เพื่อประโยชน์ของนักการเมือง

 งานนี้จึงได้เห็น “เสนาะ เทียนทอง” หัวหน้าพรรคประชาราช ออกโรงชงเองกินเอง !

 นับตั้งแต่ดอดเข้าร่วมประชุมวิป 3 ฝ่าย ทั้งๆ ที่ไม่ได้รับเชิญ

 แถมยังออกมาเสนอเงื่อนไขให้มีการแก้กฎหมาย “นิรโทษกรรม” อดีตนักการเมืองที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง

 นี่ยังดีที่ “เสนาะ” ไม่ได้ถูกรับเลือกให้เป็นประธานคณะกรรมการสมานฉันท์

 เพราะหากได้นั่งหัวโต๊ะ มีหวังงานนี้ทุกฝ่ายต้องม้วนเสื่อกลับบ้านตั้งแต่ไก่โห่แน่

 นั่นเพราะ “เสนาะ” เล่นบทอ้างตัวเป็นผู้เฒ่าการเมือง เสนอเงื่อนไงต่างๆ นานา เปลี่ยนแปลงแบบรายวัน

 จนทำให้การทำงานภายในคณะกรรมการต้องอึดอัดและลำบากใจ

 จนกุนซือการเมือง อย่าง บัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.สัดส่วนและกรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ต้องออกมาเบรกหัวทิ่ม จนเกิดวิวาทะกันนอกสภาหลายครั้ง

 นี่จึงเป็นเหตุผลทำให้ “เสนาะ” ออกมาฟาดงวงฟาดงา โจมตีพรรคประชาธิปัตย์อย่างต่อเนื่อง

 โดยเฉพาะประเด็นความไม่จริงใจ เล่นบทตีสองหน้า และกลัวพรรคการเมืองอื่นหากมีการแก้กฎหมายนิรโทษกรรม

 ก่อนที่จะเสนอให้พรรคประชาธิปัตย์ ผสมพันธุ์กับพรรคเพื่อไทย ตั้งรัฐบาลแห่งชาติ พร้อมทั้งชู อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีสองพรรค

 จนเกิดการปะทะคารมกันอย่างดุเดือดกับ ชำนิ ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.สัดส่วน และประธานวอร์รูมพรรคประชาธิปัตย์   
 
 เมื่อ “ชำนิ” บอกปัดข้อเสนอเสียงดังฟังชัดกลางห้องประชุมทำนองว่าเป็นวิธี “ฮั้วกันทางการเมือง“

 นี่จึงเป็นเพียงการประลองกำลังกันยกแรกเท่านั้น เพราะประชาธิปัตย์รู้ดีว่า การที่ “เสนาะ” ออกมาเป็นโต้โผในการเสนอเงื่อนไขและแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้นั้น

 ว่ากันว่าเป็นการรับจ็อบมาจาก “ทักษิณ ชินวัตร” และพรรคเพื่อไทย

 ทำให้ประชาธิปัตย์ไม่ยอมหลงกลกับลูกไม้ตื้นๆ ของผู้เฒ่าไดโนเสาร์อย่าง “เสนาะ”
  
 เพราะเงื่อนไขที่ว่านี้คนที่ได้รับประโยชน์ไปแบบเต็มๆ คงหนีไม่พ้น “ทักษิณ” และพรรคเพื่อไทย

 และที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ พรรคประชาธิปัตย์ ปฏิเสธเงื่อนไขการตั้งรัฐบาลแห่งชาติมาโดยตลอด

 ดังนั้นเมื่อต่างฝ่าย อยู่ในอาการไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ งานนี้แค่ยกแรก ก็ร้าวขึ้นซะแล้ว

 จากนั้นไล่หลังเพียงไม่กี่ชั่วโมงในช่วงบ่ายเป็นการประชุม “คณะกรรมการตรวจสอบการสลายม็อบเสื้อแดง” ก็เกิดวิวาทะกลางห้องประชุมกันขึ้น

 เมื่อกรรมการทั้งซีกฝ่ายค้านและรัฐบาล ต่างนั่งเผชิญหน้าและเอาข้อมูลมาซัดกลางที่ประชุม จนทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างเคร่งเครียด

 โดยเฉพาะในช่วงที่ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ออกมาแฉกลางห้อง พร้อมกับยื่นเงื่อนไข…

 …หากต้องการให้เกิดความสมานฉันท์ รัฐบาลต้องหยุดการใช้ กอ.รมน.ลงพื้นที่ทั่วประเทศ และหยุดแจกซีดีเหตุการณ์การชุมนุมของคนเสื้อแดงจนนำไปสู่การก่อจลาจลกลางกรุงเทพฯ จำนวน 1 ล้านแผ่นทั่วประเทศ เพื่อไม่ให้ประชาชนเข้าใจกลุ่มคนเสื้อแดงผิด…

 ก่อนจะถูก “ศิริโชค โสภา” ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาอัดว่าอยากให้พรรคเพื่อไทยได้หยุดพฤติกรรมการกล่าวหา และการใช้ข้อมูลเท็จ

 โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวเปิดสถานีโทรทัศน์ดีสเตชั่น รวมถึงการออกมาเคลื่อนไหวของแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ไม่ว่าจะเป็น จตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน วีระ มุสิกพงศ์ เพราะจะเป็นการซ้ำเติมปัญหาของประเทศ

 จนทำให้เกิดการโต้เถียงกันทั้งสองฝ่ายก่อนที่ “สุรพงษ์” จะเกิดอาการฟิวส์ขาดเดินวอล์กเอาท์ออกจากห้องประชุมทันที

 ทำให้ สมศักดิ์ บุญทอง ประธานคณะกรรมการต้องออกมาขอร้องให้ทุกคนถอดหมวกจากการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองข้างใดข้างหนึ่ง เพื่อทำให้การตรวจสอบเกิดความเป็นธรรมมากที่สุด   

 แต่ในที่สุดการประชุมคณะกรรมการชุดนี้ ก็ร้าวตั้งแต่ยกแรก เช่นเดียวกัน

 จะว่าไปแล้วแนวทางการตั้งคณะกรรมการทั้งสองชุดขึ้นมามานี้เป็นเพียง “เกมการเมือง” ที่รัฐบาลต้องการลดแรงบีบจากพรรคร่วมและพรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทย ที่รุมเร้ารัฐบาลท่ามกลางวิกฤติรอบด้าน

 เพื่อซื้อเวลา “ต่ออายุ” การทำงานของรัฐบาลให้ยาวออกไปอีกในการเดินเกมเก็บแต้มตุนคะแนน เพื่อสร้างความเชื่อมั่น
 ปูทางก่อนถึงเวลา “ยุบสภา” คืนอำนาจให้ประชาชน และกลับเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งอีกครั้ง

 เกมนี้พรรคฝ่ายค้านอย่างเพื่อไทยต่างก็รู้ดีเช่นเดียวกัน จึงไม่ยอมเพลี่ยงพล้ำเดินตามหมากที่รัฐบาลวางไว้ในการดึงเกมเข้าสู่สภา เพื่อวัดใจมวลชน       

 เมื่อทั้งสองฝ่ายต่างตั้งแง่ เล่นเกมกันเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบ โอกาสที่จะสร้างความสมานฉันท์จึงแทบเหลือศูนย์ !!!
  
 บัญชา แข็งขัน

อ่านต่อที่ : รายงาน-สมานฉันท์”ร้าวฉาน”

‘โกลเบล็ก’ลุย โกลด์ฟิวเจอร์ส ส่วนแบ่ง20% พฤษภาคม 14, 2009

‘โกลเบล็ก’ลุย โกลด์ฟิวเจอร์ส ส่วนแบ่ง20%

นายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ตั้งเป้าหมายเพิ่ม ส่วนแบ่งการตลาดสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า (โกลด์ฟิวเจอร์ส) ในสิ้นปีนี้ให้มากกว่า 20% จากที่มีอยู่ 15% ในปัจจุบัน โดยจะเร่งเพิ่มจำนวนตัวแทนสนับสนุน การขาย (Selling Agent หรือ SA) ที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจร้านค้าทองคำทั่วประเทศ ซึ่งล่าสุดมีผู้เข้าร่วมทั้งสิ้น 22 ราย และคาดว่าในเดือนมิ.ย. จะมี SA เพิ่มอีก 30 ราย เป็น 50 รายภายในสิ้นปีนี้

“จำนวน SA ที่เพิ่มขึ้นจะช่วยให้บริษัทมีลูกค้ามาเปิดบัญชีซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สเพิ่มขึ้นประมาณ 200 บัญชีในปีนี้ จากปัจจุบันที่มีผู้เปิดบัญชีแล้ว 200 บัญชี แต่ในจำนวนนี้มีการซื้อขายอย่างสม่ำเสมอเพียง 100 บัญชีเท่านั้น ซึ่งอาจเป็นเพราะนักลงทุนอยู่ระหว่างการเรียนรู้ และอาจ จะมีนักลงทุนบางส่วนที่อาจลงทุนสลับกัน ทั้งในตลาดหุ้นและโกลด์ฟิวเจอร์ส เพื่อบริหารความเสี่ยงของพอร์ตลงทุน”

นายชนะชัย กล่าวว่า ได้ชักชวน นักลงทุนต่างชาติ 2-3 รายจากฮ่องกง ซึ่งเป็นคู่ค้าทองคำกับกลุ่มโกลเบล็กอยู่แล้วให้มาเปิดบัญชีซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์ส ผ่านบริษัท โดยนักลงทุนกลุ่มนี้จะเข้ามาลงทุนโกลด์ฟิวเจอร์สในไทยก็ต่อเมื่อมีสภาพคล่องมากพอ หรือมากกว่า 4,000-5,000 สัญญาต่อวัน

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะเปิดให้ นักลงทุนซื้อขายทองคำแท่งได้ 24 ชั่วโมง ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในเดือนก.ค.นี้ โดยบริษัทจะใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 7 ล้านบาท

ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน บล.โกลเบล็ก มีส่วนแบ่งการตลาดในตลาดอนุพันธ์อยู่ที่ 3.7% โดยเดือนเม.ย. มีส่วนแบ่งถึง 6.22% ซึ่งเติบโตจาก SET50 Index Futures และโกลด์ฟิวเจอร์ส

อ่านต่อที่ : ‘โกลเบล็ก’ลุย โกลด์ฟิวเจอร์ส ส่วนแบ่ง20%