ข่าว ในประเทศไทย

ออร์เดอร์พุ่งรง.โคราชเริ่มรับคนเพิ่ม พฤษภาคม 15, 2009

ออร์เดอร์พุ่งรง.โคราชเริ่มรับคนเพิ่ม

นางพรทิพย์ ทองเอี่ยม หัวหน้าสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ช่วงไตรมาส 4 ของปี 2551 และไตรมาสแรก ปี 2552 มีสถานประกอบการที่เคยเลิกจ้างลูกจ้างกลับมารับพนักงานอีกครั้ง เนื่องจากเริ่มมีออร์เดอร์สินค้าจากต่างประเทศเข้ามา

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เดือน ก.พ.เป็นต้นมาจนถึงขณะนี้รับพนักงานไปแล้วกว่า 2,000 อัตรา ส่วนใหญ่อยู่ฝ่ายผลิตสินค้าประเภทชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนยานยนต์

ทั้งนี้ สถานประกอบการที่เคยให้ลูกจ้างหยุดงานบางส่วนจำนวน 6 แห่ง ได้ยกเลิกและให้พนักงานกลับมาทำงานตามปกติแล้ว 4 แห่ง จึงถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีต่อภาพรวมของการจ้างงานในจังหวัด

นางพรทิพย์ กล่าวอีกว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2551-1 พ.ค.ปีนี้ มีสถานประกอบการปิดกิจการเพิ่มอีก 5 แห่ง เลิกจ้าง 759 คน เป็นกิจการประเภทผลิตปุ๋ยเคมี อัญมณี ถุงกระดาษ เฟอร์นิเจอร์ และผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

“แต่หากมองในมุมกลับพื้นที่ จ.นครราชสีมา ทั้งจังหวัดมีโรงงานและสถานประกอบการกว่า 7,000 แห่ง มีลูกจ้างประมาณ 1.9 แสนคน ถูกเลิกจ้าง 3,175 คน ถือเป็นอัตราที่น้อยหากเปรียบเทียบกับจำนวนลูกจ้างทั้งหมด แต่ผู้ที่ถูกเลิกจ้างก็ให้ความช่วยเหลือตามกฎหมาย” นางพรทิพย์ กล่าว

สำหรับความคืบหน้า บริษัท เอ็นทีเอ็น นิเด็ค (ไทยแลนด์) ในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์น ซีบอร์ด อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ปลดพนักงานจำนวน 103 คน โดยมีพนักงานหญิงที่ตั้งครรภ์อยู่ 7 คนรวมอยู่ด้วย

นายอาทิตย์ อิสโม รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวว่า ในวันที่ 18 พ.ค.นี้ ได้นัดนายจ้างและลูกจ้างมาเจรจาที่โรงงาน โดยได้กำชับเจ้าหน้าที่ที่ไปไกล่เกลี่ย ให้เจรจากับนายจ้างทบทวนการเลิกจ้างพนักงานหญิงที่ตั้งครรภ์จำนวน 7 คน ส่วนพนักงานที่ทำการเลิกจ้างอีกจำนวน 96 คน นายจ้างยืนยันว่าต้องเลิกจ้าง เนื่องจากเป็นมาตรการของบริษัทที่จำเป็นต้องลดคนงาน

อ่านต่อที่ : ออร์เดอร์พุ่งรง.โคราชเริ่มรับคนเพิ่ม

เลิกบุหรี่แล้วอ้วน พฤษภาคม 15, 2009

เลิกบุหรี่แล้วอ้วน

เมื่อผู้แทนจำหน่ายและร้านค้าสามารถปรับราคาจำหน่ายขายปลีกบุหรี่ได้เรียบร้อยแล้ว

ที่ผมเรียนเช่นนี้ก็เพราะว่า พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2552 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมายแล้วครับ

ประเด็นก็คือมีการปรับอัตราค่าธรรมเนียมและแสตมป์ยาสูบให้สูงกว่าเดิม ซึ่งก็จะทำให้ราคาจำหน่ายขายปลีกบุหรี่ทั้งที่ผลิตในประเทศและที่นำเข้าจากต่างประเทศต้องเพิ่มขึ้นตามการบวกภาษีสรรพสามิตใหม่เข้าไป

บุหรี่แต่ละยี่ห้อจะแพงขึ้นมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับฐานราคาเดิมและอัตราภาษีใหม่ที่ปรับขึ้นไป

เข้าใจว่าอย่างน้อยก็ซองละสี่ห้าบาท ไล่ไปจนถึงซองละเกือบยี่สิบบาท ใครเป็นคอบุหรี่ยี่ห้อไหนคงทราบดีจากราคาใหม่ที่เริ่มจำหน่ายกันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

เรื่องขึ้นภาษีบุหรี่นี่ต้องบอกว่าสนับสนุนเต็มที่ครับ

อันที่จริงถ้าหากจะขึ้นอีกในอนาคตก็คิดว่าคนส่วนใหญ่ไม่ค้านแน่ จะยกเว้นเฉพาะผู้เสพที่อาจจะเดือดร้อนซื้อหาแพงขึ้นเท่านั้นที่บ่นนิดหน่อย

อยากจะบอกว่าบ้านเราบุหรี่ยังถูกมาก ยังเก็บภาษีน้อย เพราะฉะนั้นไม่สมควรบ่นเป็นอันขาด

เรื่องที่จะเกิดขึ้นตามมาในระยะแรกก็คือผู้เสพอาจจะลดปริมาณลงเพราะราคาแพงขึ้นแต่หลังจากนั้นก็จะปรับตัวได้และกลับมาเสพในปริมาณเดิม ซึ่งก็เป็นเช่นนี้มาชั่วนาตาปี แม้จะมีการรณรงค์และสร้างอุปสรรคให้มีการเสพบุหรี่ลดน้อยถอยลง

สิ่งที่ควรทำก็คือทำยังไงให้มีผู้เสพใหม่น้อยลง ซึ่งต้องทำควบคู่ไปกับหาทางให้คนเสพอยู่ลดหรือเลิก

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย

แต่ในห้วงเวลาที่บุหรี่แพงขึ้นเช่นนี้ อาจจะเป็นโอกาสอันดีที่ทำให้ผู้เสพเดิมจำนวนหนึ่งตัดสินใจเลิกสูบบุหรี่หลังจากรีรอมานาน

ตรงนี้ต้องรณรงค์อย่างต่อเนื่อง

ส่วนเรื่องที่เป็นผลพวงตามมาสำหรับคนเลิกบุหรี่ก็คือจะอ้วนขึ้นอย่างผิดหูผิดตา ซึ่งก็น่าแปลกเหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น

พอดีในระหว่างที่มีข่าวเรื่องบุหรี่ขึ้นราคา ผมแอบไปเห็นข่าวรายงานผลการศึกษาวิจัยเรื่องคนสูบบุหรี่แล้วเลิกว่าทำไมน้ำหนักถึงขึ้นพรวดๆ คิดว่าน่าจะเอามาคุยกันแบบรู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหามก็แล้วกัน

รายงานวิจัยชิ้นใหม่เขาได้พบร่องรอยความสัมพันธ์ระหว่างการเลิกบุหรี่กับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการสูบบุหรี่ไปกระตุ้นให้ยีนที่ทำหน้าที่ละลายไขมันทำงานเพิ่มขึ้น

พูดกลับกันก็คือเลิกสูบบุหรี่แล้วเท่ากับไปลดการทำงานของยีนที่ว่า เลยทำให้น้ำหนักขึ้นนั่นเอง\

งานวิจัยนี้เขาเอาคนสูบบุหรี่กับคนไม่สูบบุหรี่มาเปรียบเทียบกันแล้วศึกษาพบว่า ยีนประเภทหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า เอแซดจีพี1 (AZGP1) ซึ่งเกี่ยวพันกับกระบวนละลายไขมันทำงานแตกต่างกัน

ยีนสายพันธุ์ที่ว่านั้นเชื่อกันว่ามีส่วนสำคัญในการทำลายไขมันและควบคุมน้ำหนัก ผลการศึกษายังพบว่า เป็นไปได้ว่าการทำงานของยีนตัวนี้ซึ่งถูกกระตุ้นด้วยการสูบบุหรี่ ทำให้คนสูบบุหรี่น้ำหนักน้อยกว่าคนไม่สูบและที่สำคัญกว่านั้นก็คือทำให้คนเลิกสูบบุหรี่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นในระยะแรกที่เลิกสูบบุหรี่อย่างเห็นได้ชัด

คนทำวิจัยเรื่องนี้คือ ดร.ฮอลลี แวนนี และคณะจากโรงเรียนแพทย์เวลล์แห่งมหาวิทยาลัยคอร์แนลในรัฐนิวยอร์กและได้ตีพิมพ์ผลการวิจัยในนิตยสารทางวิชาการชื่อเชสต์ (Chest)

ผลวิจัยบอกว่าคนเลิกบุหรี่มักจะกินมากกว่าเดิมและเป็นไปได้ว่ากระบวนเผาผลาญในร่างกายอาจจะทำงานน้อยลงเพราะสารนิโคตินที่ทำหน้าที่เร่งเร้าขาดหายไป

การทดสอบการทำงานของยีนที่ว่าในสัตว์อย่างหนูและคนไข้โรคมะเร็งให้ผลว่ามีความเชื่อมโยงระหว่างพฤติกรรมการสูบบุหรี่ สารนิโคตินในบุหรี่ และการทำงานของยีนที่ว่าที่โยงไปถึงเรื่องการละลายไขมันและการควบคุมน้ำหนัก
 แต่เรื่องนี้ก็มีข้อถกเถียงกันไปได้หลายทางครับ

อันที่จริงเรื่องน้ำหนักเพิ่มหลังเลิกสูบบุหรี่อาจจะต้องไปดูพฤติกรรมของคนสูบบุหรี่ที่เลิกประกอบกันด้วย เพราะถ้าหากออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญไขมันไปพร้อมๆ กับการบริโภคในสัดส่วนที่เหมาะสม ผลกระทบข้างเคียงว่าอ้วนเพราะเลิกบุหรี่ก็ไม่เกิดขึ้น

เพราะฉะนั้นห้ามใช้เป็นข้ออ้างที่จะสูบบุหรี่ต่อไปในยามที่แพงจนน่าจะเลิกได้แล้วเช่นนี้

อ่านต่อที่ : เลิกบุหรี่แล้วอ้วน

พิษเศรษฐกิจ “บริติช มาสเตอร์ส” ยกเลิก ขาดสปอนเซอร์หนุน พฤษภาคม 14, 2009

พิษเศรษฐกิจ “บริติช มาสเตอร์ส” ยกเลิก ขาดสปอนเซอร์หนุน

พิษเศรษฐกิจ “บริติช มาสเตอร์ส” ยกเลิก ขาดสปอนเซอร์หนุน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 13:59 น.

       วงการกอล์ฟเจอพิษเศรษฐกิจเล่นงานอีก ล่าสุดเกิดกับศึกยูโรเปียน ทัวร์ ที่จำเป็นต้องยกเลิกการแข่งรายการ บริติช มาสเตอร์ส ในเดือนกันยายนไป หลังจากไม่สามารถหาสปอนเซอร์รายใหม่มาสนับสนุนทัวร์นาเมนท์ได้

คาสตาโน (ซ้าย) อดป้องกันแชมป์

       บริติช มาสเตอร์ส เป็นอีกหนึ่งรายการที่เหล่าโปรกอล์ฟชั้นนำของยูโรเปียน ทัวร์ ให้ความสำคัญ โดยทัวร์นาเมนท์จัดขึ้นที่ประเทศอังกฤษ ชิงเงินรางวัลรวม 1.8 ล้านปอนด์ (ประมาณ 126 ล้านบาท) ส่วนตำแหน่งแชมป์เมื่อปีก่อนเป็นของ กอนซาเลซ เฟอร์นันเดซ – คาสตาโน ก้านเหล็กจากแดนกระทิงดุ
       
       แต่หลังจาก “ควินน์ อินชัวแรนซ์” บริษัทประกันภัยถอนตัวออกจากการเป็นสปอนเซอร์ไปก็ยังไม่สามารถหาผู้สนับสนุนรายใหม่มาแทนที่ได้ทำให้ ยูโรเปียน ทัวร์ ตัดสินใจงดรายการดังกล่าวในปีนี้ โดยจะเลื่อนรายการ ออสเตรียน กอล์ฟ โอเพน ที่ประเทศออสเตรีย จากเดือนมิถุนายนมาจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 17-20 กันยายนนี้แทน
       
       ยูโรเปียน ทัวร์ ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจมาแล้วก่อนหน้านี้จนต้องเลื่อนรายการ อิงลิช โอเพน ออกไปจัดการแข่งขันในปี 2011 หลัง เซนต์ เมลเลียน คอร์ส ซึ่งเป็นสนามแข่งไม่เรียบร้อยเนื่องจากบริษัทพัฒนาที่ดินซึ่งทำการปรับปรุงสนามมีปัญหาทางการเงินทำให้การดำเนินงานยุติไป

อ่านต่อที่ : พิษเศรษฐกิจ “บริติช มาสเตอร์ส” ยกเลิก ขาดสปอนเซอร์หนุน

ตู้พิมพ์หนังสือตามสั่ง พฤษภาคม 14, 2009

ตู้พิมพ์หนังสือตามสั่ง

ตู้พิมพ์หนังสือตามสั่ง ลอนดอน 14 พ.ค.-สารคดีโลกวันนี้ พาไปชมเทคโนโลยีใหม่ของเครื่องที่ใช้สั่งพิมพ์หนังสือตามต้องการ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับบรรดาหนอนหนังสือที่ต้องการหนังสือหายากที่เลิกพิมพ์ไปแล้ว

ร้านหนังสือแบล็คเวลล์ ใจกลางกรุงลอนดอน กำลังติดตั้งเครื่องที่มีลักษณะคล้ายกับตู้เอทีเอ็ม ซึ่งมีทั้งแป้นพิมพ์และหน้าจอให้ผู้ใช้บริการกด แต่สิ่งที่ออกมาไม่ใช่เงิน แต่เป็นหนังสือ เครื่องสั่งพิมพ์หนังสืออัตโนมัติเครื่องแรกของอังกฤษที่เห็นนี้มีชื่อว่า Espresso Book Machine หรือเรียกง่าย ๆ ว่า ตู้เอทีเอ็มหนังสือ เพียงแค่กดปุ่มเครื่องก็จะพิมพ์หนังสือที่ลูกค้าเลือกออกมาให้ภายในไม่กี่นาที แม้แต่หนังสือที่เลิกพิมพ์ไปนานนับสิบปีแล้วก็สามารถมาสั่งพิมพ์ที่ตู้นี้ได้

แอนดรูว์  ฮัชชิงส์ ผู้บริหารร้านแบล็คเวลล์ บอกว่า ร้านหนังสือจำเป็นต้องปรับโฉมตัวเอง และหาวิธีสร้างผลกำไร เครื่องพิมพ์หนังสือนี้จะเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยได้ แต่ก็ไม่ใช่จะเอาเครื่องนี้มาใช้แทนโดยไม่มีสตอกหนังสือไว้ ตู้เอทีเอ็มหนังสือเพียงแต่ช่วยให้ทางร้านสามารถมีหนังสือที่มีคุณค่าหรือหายากให้ลูกค้าได้

ตู้เอทีเอ็มหนังสือเครื่องนี้ราคาราว 3.6 ล้านบาท ภายในเครื่องมีรายชื่อหนังสือต่าง ๆ ที่หาทั่วไปไม่ได้  เพราะหมดหรือเลิกพิมพ์ไปแล้ว และอีกไม่นานนี้ก็จะมีรายชื่อหนังสือมากกว่า 1 ล้านเล่มให้ลูกค้าเลือกพิมพ์ได้ตามต้องการ สำหรับนักเขียนก็สามารถพิมพ์ต้นฉบับลายมือเขียนออกมาเป็นรูปเล่มได้อย่างรวดเร็ว

ลูกค้าคนหนึ่งบอกว่า เมื่อต้องการหนังสือที่เลิกพิมพ์ไปแล้วก็จะไปเดินหาตามร้านหนังสือมือสอง แต่หากพิมพ์หนังสือที่ต้องการจากตู้นี้เองได้ก็คงจะดีมาก แต่บรรดาเจ้าของร้านหนังสือมือสองกำลังเป็นห่วงว่า หากลูกค้าสามารถไปสั่งพิมพ์หนังสือเองได้ ก็คงจะไม่มีใครเดินหาหนังสือตามร้านหนังสือมือสองกันอีกแน่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกิจการของร้านขายหนังสือมือสอง 

สำหรับสนนราคาค่าบริการในการพิมพ์หนังสือที่เลิกพิมพ์แล้ว ตู้เอทีเอ็มหนังสือจะคิดค่าพิมพ์หน้าละ 10 เพนนีหรือประมาณ 5 บาทเศษ ซึ่งไม่ใช่ถูก ๆ แถมคุณภาพก็ไม่ได้ดีเทียบเท่าหนังสือทั่วไป แต่ถ้าช่วยให้เราได้มีหนังสือหายากสักเล่ม ก็คงจะคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป.-สำนักข่าวไทย

อ่านต่อที่ : ตู้พิมพ์หนังสือตามสั่ง

จีเอ็ม-ไคร้สเล่อร์ เตรียมเลิกจ้างตัวแทนขายกว่า 3 พันคน พฤษภาคม 14, 2009

จีเอ็ม-ไคร้สเล่อร์ เตรียมเลิกจ้างตัวแทนขายกว่า 3 พันคน

จีเอ็ม-ไคร้สเล่อร์ เตรียมเลิกจ้างตัวแทนขายกว่า 3 พันคน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันว่า “เจอเนอรัล มอเตอร์ส”ซึ่งกำลังเผชิญเส้นตายในการเสนอแผนปรับโครงสร้างเพื่อหลีกเลี่ยงสถานภาพล้มละลาย คาดว่าจะเลิกจ้างตัวแทนพนักงานขายกว่า 2 พันคน หรือ 1 ใน 3 ของจำนวนพนักงานขายทั้งหมด ส่วนไคร้สเล่อร์ ซึ่งได้ยื่นฟ้องล้มละลายเพื่อให้ศาลพิทักษ์ทรัพย์เมื่อเดือนมิ.ย.ก็มีแผนเลิกจ้างตัวแทนขาย 1,000 คน จากทั้งหมด 3,189 รายด้วย

รายงานระบุว่า แผนเลิกจ้างของสองบริษัทยักษ์ใหญ่รถยนต์สหรัฐ สะท้อนถึงพิษเศรษฐกิจที่อุตสาหกรรมรถยนต์สหรัฐต้องประสาบ ซึ่งได้ลุกลามไปนอกเมืองดีทรอยส์ซึ่งเป็นฐานการผลิตใหญ่ และยังมีขึ้นในขณะที่เหล่าตัวแทนขายได้เพิ่มการล็อบบี้ต่อรัฐบาลสหรัฐให้ชะลอแผนดำเนินการต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ซึ่งอาจกระทบต่องานพนักงานตัวแทนขายจำนวนกว่า 200,000 ตำแหน่ง

อ่านต่อที่ : จีเอ็ม-ไคร้สเล่อร์ เตรียมเลิกจ้างตัวแทนขายกว่า 3 พันคน

ผบช.ก.ยันพบ3จุด5ตู้คอนเทเนอร์บรรจุศพ พฤษภาคม 14, 2009

ผบช.ก.ยันพบ3จุด5ตู้คอนเทเนอร์บรรจุศพ

อ่านต่อที่ : ผบช.ก.ยันพบ3จุด5ตู้คอนเทเนอร์บรรจุศพ

ทอท.เลิกสัญญาให้บริการรถเข็น พฤษภาคม 14, 2009

ทอท.เลิกสัญญาให้บริการรถเข็น

นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) เปิดเผยภายหลังจากที่ประชุมบอร์ด ทอท. ว่า ได้เห็นชอบให้บอกเลิกสัญญาบริการรถเข็นกระเป๋าสัมภาระในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งบริษัท ไทยแอร์พอร์ตส์ กราวด์ เซอร์วิสเซส (แทกส์) เป็นผู้รับสัมปทานแล้วนั้น โดยอยู่ระหว่างการ ส่งหนังสือบอกเลิกสัญญา และคาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะดำเนินการแล้วเสร็จ ซึ่ง การหาผู้รับจ้างเข้ามาให้บริการรถเข็นในสนามบินสุวรรณภูมิก็จะดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยไม่รอฟ้องร้องใด ๆ ทั้งสิ้น
 
แหล่งข่าวจาก ทอท. กล่าวว่า สาเหตุที่ ทอท. ยังไม่ส่งหนังสือบอกเลิกสัญญาให้แทกส์นั้น เนื่องจากยังไม่มีผู้ลงนามในหนังสือ ซึ่งเป็นหน้าที่ของนายสมชัย สวัสดีผล รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. และอาจเปิดโอกาสให้แทกส์ใช้เป็นข้ออ้างในการยื่นคำร้อง ต่อศาล เนื่องจากบอร์ด ทอท. ได้มีมติบอกเลิก สัญญาแทกส์ไปตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย. 52.

อ่านต่อที่ : ทอท.เลิกสัญญาให้บริการรถเข็น

ทอท.เดินหน้าหาผู้รับจ้างรถเข็นรายใหม่ ไม่รอศาลตัดสิน พฤษภาคม 14, 2009

ทอท.เดินหน้าหาผู้รับจ้างรถเข็นรายใหม่ ไม่รอศาลตัดสิน

ทอท.เดินหน้าหาผู้รับจ้างรถเข็นรายใหม่ ไม่รอศาลตัดสิน

นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมว่า ภายหลังจากที่ประชุมบอร์ดทอท.ได้เห็นชอบให้บอกเลิกสัญญาบริการรถเข็นกระเป๋าสัมภาระในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งบริษัท ไทยแอร์พอร์ตส์ กราวด์ เซอร์วิสเซส ( แทกส์) เป็นผู้รับสัมปทานแล้วนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการส่งหนังสือบอกเลิกสัญญาคาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จ ทั้งนี้ การหาผู้รับจ้างเข้ามาให้บริการรถเข็นในสนามบินสุวรรณภูมิก็จะเดินหน้าดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยไม่รอการฟ้องร้องใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากรถเข็นที่ทอท.จัดหามายังไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้จึงต้องให้พนักงานเร่งหมุนเวียนรถเข็นให้เร็วขึ้นเพื่อสนองตอบต่อความต้องการของผู้โดยสาร

รายงานข่าวจากจากทอท. กล่าวว่า สาเหตุที่ทอท.ยังไม่ส่งหนังสือบอกเลิกสัญญาให้แทกส์นั้น เนื่องจากยังไม่มีผู้ลงนามในหนังสือ ซึ่งตรงนี้เป็นหน้าที่ของนายสมชัย สวัสดีผล รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. และอาจเป็นการเปิดโอกาสให้แทกส์ใช้เป็นข้ออ้างในการยื่นคำร้องต่อศาล เนื่องจากบอร์ดทอท.ได้มีมติบอกเลิกสัญญาแทกส์ไปตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย. 2552 การส่งหนังสือบอกเลิกสัญญาดังกล่าวไม่ควรเกินวันที่ 7 พ.ค. 2552 ที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้ทางกทอท.ก็ยังไม่ส่งหนังสือให้แทกส์แต่อย่างใด ส่วนหากบอร์ด ทอท.ต้องการเอาผิดก็ต้องไปดูที่รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ซึ่งบอร์ดเป็นคนแต่งตั้งขึ้นมาว่าจะทำอย่างไรต่อไป เพราะเมื่อยืดเวลาออกไป ทอท.จะสามารถเรียกค่าชดเชยได้ถึง 3 ,000 ล้านบาท จากเดิมที่อยู่ประมาณกว่า 2,000 ล้านบาท 

ด้านนายสมชัย กล่าวว่า เรื่องนี้ได้ดำเนินการแล้วเสร็จไปตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค.52 และส่งหนังสือให้นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิรับไปดำเนินการต่อแล้ว

อ่านต่อที่ : ทอท.เดินหน้าหาผู้รับจ้างรถเข็นรายใหม่ ไม่รอศาลตัดสิน

ทอท.ร่อนหนังสือถึงแท็กส์ แจ้งขอเลิกสัญญาทางการ พฤษภาคม 14, 2009

ทอท.ร่อนหนังสือถึงแท็กส์ แจ้งขอเลิกสัญญาทางการ

นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ประชุมบอร์ดทอท.ได้เห็นชอบให้บอกเลิกสัญญาบริการ รถเข็นกระเป๋าสัมภาระในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งบริษัท ไทยแอร์พอร์ตส์ กราวด์ เซอร์วิสเซส (แท็กส์) เป็นผู้รับสัมปทานแล้วนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการส่งหนังสือบอกเลิกสัญญาอย่างเป็นทางการ คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จ

ทั้งนี้ การหาผู้รับจ้างเข้ามาให้บริการรถเข็นในสนามบินสุวรรณภูมิ ก็จะเดินหน้าดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยไม่รอการฟ้องร้องใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากรถเข็นที่ทอท.จัดหา มายังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ใช้ จึงต้องให้พนักงานเร่งหมุนเวียนรถเข็นให้เร็วขึ้น เพื่อสนองตอบต่อความต้องการของผู้โดยสาร

“ในช่วงรอยต่อของการจัดหา ผู้ให้บริการรถเข็นรายใหม่นั้น ทอท.ยังคงให้บริการเอง และยังไม่มีบริษัทใดๆ เข้ามาติดต่อขอดำเนินการในเรื่องนี้ เพราะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ” นายปิยะพันธ์ กล่าว

แหล่งข่าวจากทอท. เปิดเผยว่า สาเหตุที่ทอท.ยังไม่ส่งหนังสือบอกเลิกสัญญาให้แท็กส์นั้น เนื่องจากยังไม่มีผู้ลงนามในหนังสือ ซึ่งตรงนี้เป็นหน้าที่ของนายสมชัย สวัสดีผล รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ทอท. และอาจเป็นการเปิดโอกาสให้แท็กส์ใช้เป็นข้ออ้างในการยื่นคำร้องต่อศาล

ทั้งนี้ เนื่องจากบอร์ดทอท. ได้มีมติบอกเลิกสัญญาแท็กส์ไปตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย. 2552 การส่งหนังสือบอกเลิกสัญญาดังกล่าวไม่ควรเกินวันที่ 7 พ.ค. 2552 ที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้ทางทอท.ก็ยังไม่ส่งหนังสือให้แท็กส์แต่อย่างใด

ด้านนายสมชัย กล่าวว่า ได้ทำหนังสือบอกเลิกสัญญาส่งให้ฝ่ายบริหารทอท. ไปตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค. 2552 แล้ว ซึ่งขั้นตอนต่อไป จะเป็นหน้าที่ของนายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณ ภูมิรับไปดำเนินการต่อ

อ่านต่อที่ : ทอท.ร่อนหนังสือถึงแท็กส์ แจ้งขอเลิกสัญญาทางการ