jump to navigation

พรรคการเมืองไม่อาจทดแทน ขบวนการภาคประชาชน พฤษภาคม 15, 2009

Posted by 1000thainews in อื่นๆ.
Tags: , , , , , , , , , , , , , ,
add a comment

พรรคการเมืองไม่อาจทดแทน ขบวนการภาคประชาชน

  (มีคนเสนอชื่อ “ประชาภิวัฒน์” ให้แล้วด้วยซ้ำ) หรือไม่ ผมเห็นว่าประเทศไทยจำเป็นต้องมี “ความเคลื่อนไหวภาคประชาชน” ที่ให้ข่าวสารข้อมูล และความรู้ทางการเมืองกับสาธารณชนอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีสถานภาพของพรรคการเมือง

 หลายกิจกรรมที่แกนนำ “คนเสื้อเหลือง” ได้ทำในช่วงเวลาที่ผ่านมา ในแง่ของการกระตุ้นให้ประชาชนมีความตื่นตัว และสนใจความเป็นไปในบ้านเมือง เป็นปรากฏการณ์ที่น่าเลื่อมใสและสนับสนุน

 ต้องกล่าวพร้อมกันไปด้วยว่าบางส่วนของ “คนเสื้อแดง” ที่เรียกร้องให้มีการตรวจสอบผลงานของคณะปฏิวัติ และความน่าสงสัยในการใช้มาตรฐานทางสังคม กฎหมายและการเมืองก็ต้องถือว่าเป็นกระบวนการของ การเมืองภาคประชาชน” ที่ควรแก่การส่งเสริมเช่นกัน

 การเปิดโปงความเลวร้ายของการโกงกิน และผลประโยชน์ทับซ้อนของระบอบทักษิณ ที่พันธมิตรได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องย่อมเป็นการทำหน้าที่ของ “ขบวนการการเมืองภาคประชาชน” ที่ควรจะได้รับการหนุนเนื่องต่อไป

 และไม่จำกัดเฉพาะความไม่ชอบมาพากลของทักษิณ และพรรคพวกเท่านั้น ภาระหน้าที่ของขบวนการประชาชนเช่นนี้ จะต้องสร้างความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดโปงพฤติกรรมทำนองเดียวกันนี้ ในแวดวงการเมืองและผู้มีอำนาจทั้งหลาย

 บทเรียนความผิดพลาดของคนเสื้อเหลืองในบางเรื่องอาทิเช่น กรณียึดสนามบิน หรือแม้การยึดทำเนียบรัฐบาล อย่างยืดเยื้อยาวนานนั้น จะต้องเป็นประเด็นการวิเคราะห์ของพันธมิตรในการวางบทบาทของตนต่อไปวันข้างหน้า

 เช่นเดียวกับที่ นปช. หรือกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ของ “คนเสื้อแดง” ก็ได้รับบทเรียนอันแสนสาหัสว่าด้วยการปล่อยให้เกิดความรุนแรง ปิดถนน บุกทลายโรงแรมจนการประชุมสุดยอดอาเซียนต้องล่มสลายไปต่อหน้าต่อตานั้น เป็นผลงานชิ้นโบดำที่ประชาชนคนไทยให้อภัยได้ยาก

 ยิ่งมีภาพว่าการกระทำเกือบทุกอย่างไปเกี่ยวกับการสนับสนุนทักษิณ ชินวัตร คนเดียวด้วยแล้ว ความศักดิ์สิทธิ์แห่งการเป็นขบวนการภาคประชาชนก็หดหายลงไปทันที

 แต่หากการทำหน้าที่เป็น “หูตาของประชาชน” และ “ตรวจสอบการทำงาน ของรัฐบาล และกลุ่มผลประโยชน์ของสังคมเป็นไปอย่างตรงไปตรงมาและโปร่งใส การก่อตั้งคนกลุ่มต่างๆ เพื่อทำหน้าที่เช่นนี้ย่อมเป็นสิ่งที่สมควรจะเกิดขึ้น

 โดยมีเงื่อนไขสำคัญว่าคนกลุ่มต่างๆ เหล่านี้ ไม่ว่าจะใช้เรียกตัวเองด้วยสีอะไรก็ตามที จะต้องยอมให้คนอื่นตรวจสอบการทำงานของตัวเองอย่างเข้มข้น เท่ากับที่ตัวเองต้องการสิทธิที่จะตรวจสอบคนอื่นเช่นกัน

 เพราะทันทีที่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่อ้างว่าทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน มิใช่เพื่อใครคนใดคนหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง สร้างข่าวเท็จ บิดเบือนข้อมูลให้เพียงแค่สอดคล้องกับเป้าหมายของตน ไม่ยอมรับฟังเสียงวิจารณ์คนอื่น เมื่อนั้นพวกเขาย่อมไม่อาจจะเรียกตัวเองว่าเป็น “ขบวนการภาคประชาชน” ได้อีกต่อไป

 เป็นได้ก็แค่ “กระบอกเสียง” ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ และไม่สมควรที่จะได้รับการยอมรับว่าเป็นปากเป็นเสียงของสาธารณชนแต่อย่างใด

 เมื่อพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอความเห็นจากสมาชิกทั่วประเทศเพื่อตัดสินว่าจะเดินหน้าตั้งเป็นพรรคการเมืองหรือไม่ จึงเป็นหัวข้อที่น่าสนใจยิ่ง เพราะแม้ในหมู่แกนนำเองก็ย่อมมีมุมมองที่แตกต่างกันได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไร

 เพราะความเป็น “ขบวนการการเมืองภาคประชาชน” กับ “พรรคการเมือง” นั้น ย่อมมีพันธกรณีและเป้าประสงค์ที่แตกต่างกัน

 มองในแง่หนึ่ง อาจกล่าวได้ว่าคน “เสื้อแดง” ที่มีบทบาทและลีลาละม้ายกับ “ขบวนการการเมืองภาคประชาชน” นั้น แตกหน่อมาจากพรรคการเมือง ไม่ว่าจะเป็นไทยรักไทย หรือพลังประชาชนในอดีต หรือพรรคเพื่อไทยในวันนี้

 เป็นไปได้ไหมว่าคนเสื้อเหลืองมองย้อนกลับไปแล้ว เห็นว่าหากจะต่อสู้ในเวทีการเมืองกัน อย่างยืดเยื้อยาวนานแล้วไซร้ ก็จำเป็นที่จะต้องมีโครงการเป็นพรรคการเมือง เพื่อเข้าไปยึดฐานอำนาจรัฐได้ เฉกเช่นกลุ่มที่ยืนอยู่อีกฝ่ายหนึ่ง

 แน่นอนว่าฐานความคิด แนวร่วม และทิศทางการเมืองของสองกลุ่มนี้มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญไม่น้อย ดังนั้น สูตรสำเร็จของฝ่ายหนึ่งจึงไม่จำเป็นต้องเป็นเครื่องรับประกันความสำเร็จของอีกฝ่ายหนึ่งเสมอไป

 แม้มองรอบๆ ด้านแล้วจะเห็นว่า ต่างฝ่ายต่างลอกเลียนรายละเอียดของกันและกันในเรื่องของรูปแบบ และกลยุทธ์การดำเนินการทางการเมืองอยู่ไม่น้อยเช่นกัน

 การเป็นพรรคการเมืองหมายถึงการเข้าแข่งขันเพื่ออำนาจรัฐ เพื่อตำแหน่ง เพื่อผลประโยชน์ซึ่งมีพื้นฐานที่แปลกแยกไปจากความเป็น “ขบวนการประชาชน” อยู่หลายด้าน

 แน่นอนว่าบางคนในแกนนำพันธมิตร เห็นว่าการต่อสู้ของประชาชนจะบรรลุเป้าหมายได้จริงๆ นั้นไม่อาจจะทำเพียงแค่การสร้างกระแสแห่งความตื่นตัวของประชาชนเท่านั้น แต่ยังจะต้องพร้อมที่จะแสดงความรับผิดชอบในการเข้าเสนอตัวบริหารประเทศชาติในรูปแบบของพรรคการเมืองด้วย

 ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดตั้งพรรค หรือการคงไว้ซึ่งบทบาทเดิมของพันธมิตร หรือการผสมผสานบทบาทสองอย่าง (ซึ่งอาจจะยากกว่าทางเลือกสองทางแรก) ล้วนแล้วแต่ถือได้ว่าอยู่ในครรลองแห่งประชาธิปไตยทั้งสิ้น

 แต่ในฐานะหนึ่งในสมาชิกของสังคม ผมเห็นว่าการได้มาหรือเสียไปของพรรคการเมืองหนึ่งนั้น มิอาจจะทดแทนการสร้างและดำรงอยู่ของ “ขบวนการการเมืองภาคประชาชน” ที่ทำหน้าที่ให้ความรู้ กระตุ้นความสนใจ และกล้าหาญที่จะตรวจสอบกลุ่มอำนาจทั้งหลายอย่างเข้มแข็งและต่อเนื่องเป็นอันขาด

(“สุดยอดอาเซียน..ไทยเจ๊งแล้วเจ๊งเลย” ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่ http://www.oknation.net/blog/black ตลอด 24 ชั่วโมง)

อ่านต่อที่ : พรรคการเมืองไม่อาจทดแทน ขบวนการภาคประชาชน

“เจิมศักดิ์”ส่อทิ้งกก.สมานฉันท์ พฤษภาคม 15, 2009

Posted by 1000thainews in ทั่วไป.
Tags: , , , , , , , , , , , , , ,
add a comment

“เจิมศักดิ์”ส่อทิ้งกก.สมานฉันท์

“อภิสิทธิ์” ลั่นไทยต้องเป็นเจ้าภาพ จัดประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลก็ตาม “สุเทพ” ชี้ไม่เกี่ยวเรื่องความปลอดภัย แต่ผู้นำว่างเว้นภาระกิจไม่ตรงกัน วิงวอนเสื้อแดงอย่าแก้ปัญหานอกระบบ ส่วน “ชวน” ออกโรงไม่หนักใจพันธมิตรฯตั้งพรรค “ปชป.” อัดยับ 8 กก.สมานฉันท์ “เจิมศักดิ์” ส่อแววสลัดทิ้งเก้าอี้ ขณะที่ “ป๋าเหนาะ” ไม่ถอดใจไขก๊อกแน่นอน ด้านประชุมอนุฯกก.แก้ไขรธน. แนวโน้มจ่อแก้ไข ม.237 “ผบช.ส.” ไฟเขียว สั่งฟ้อง “ทักษิณ” คดีหมิ่นเบื้องสูง จ้อผ่านเว็บไซต์ต่างประเทศช่วงสงกรานต์ “รอง ผบช.น.” ระบุยังไม่มีออกหมายจับเพิ่ม คดีทุบรถนายกฯที่มหาดไทย

ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต เมื่อวันที่ 14 พ.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเลื่อน การจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ในเดือน มิ.ย. ที่จังหวัดภูเก็ตว่า รัฐบาลกำลัง  จะชี้แจงในเรื่องดังกล่าวซึ่งเบื้องต้นก็ได้ชี้แจง    ถึงปัญหาข้อเท็จจริงไปแล้วในเรื่องของเวลาที่สะดวกไม่ตรงกัน การประชุมแบบนี้โดยปกติ ต้องกำหนดล่วงหน้าประมาณครึ่งปีแต่บังเอิญว่าประเทศไทยเกิดปัญหาขึ้นในเดือน เม.ย.และจะพยายามที่จะจัดการประชุมอีกครั้งแต่เวลากระชั้นเกินไป แต่ความชัดเจนในเรื่องนี้จะมีมากขึ้น   เพราะจะมีการประชุมในระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสของกลุ่มประเทศอาเซียนและประเทศคู่เจรจาในวันที่ 19 พ.ค. ที่ จ.ภูเก็ตจะมีการประเมินเรื่อง  ทั้งหมดรวมทั้งต้องมีคำตอบออกมา
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะอยู่ถึงหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า อย่าไปกังวลว่าจะเป็นรัฐบาลไหนอย่างไร ประเด็นคือเรื่องการจัดการประชุมเป็นงานของประเทศไทย ดังนั้นเราต้องจัดการประชุมให้ได้ เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยประเมินว่ารัฐบาลจะยุบสภาภายใน 3 เดือนข้างหน้า นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ไม่เกี่ยวกัน ในเมื่อมาถามผมว่าจะอยู่ถึงหรือไม่ ก็ต้องบอกว่าเรื่องนี้ผมจะอยู่หรือไม่อยู่ ประเทศไทยก็จะต้องจัดการประชุมให้ได้ เพราะเป็นงานของคนไทยทุกคนและผมก็ยังไม่คิดที่จะไปไหน”
 
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการเลื่อนประชุมอาเซียนบวก 3 และ 6 ไปเป็นเดือน ต.ค.ว่า เหตุผลที่เลื่อนการประชุมออกไปไม่เกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัย แต่เป็นเรื่องที่ผู้นำประเทศต่าง ๆ มีเวลาว่างไม่ตรงกัน ส่วนเรื่องความปลอดภัย ถือเป็นเรื่องที่เราจะต้องเตรียมการต่อไปเพื่อให้มีความพร้อม หากผู้นำเดินทางมาร่วมประชุมไม่ว่าจะเป็นเมื่อใด เมื่อถามว่ามีผู้นำประเทศไหน    บ้างที่ไม่มั่นใจเรื่องความปลอดภัย นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องถาม รมว.การต่างประเทศ เพราะตนไม่ได้ติดต่อผู้นำ
 
ต่อข้อถามถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงประกาศชุมนุมอีกครั้งที่หน้าสภาในวันที่ 18 พ.ค.นี้ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนก็คงต้องทำหน้าที่ของตนไป แต่อยากเรียนประชาชนว่าขอให้บ้านเมืองได้แก้ไขปัญหากันโดยระบบ ไม่ใช่ทำกันนอกระบบ ซึ่งเรามีระบบรัฐสภา มีรัฐบาลจะผิดหรือถูกอย่างไรก็ขอให้มาแก้ไขในระบบ
 
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเตรียมตั้งพรรคการเมือง ว่า ยังไม่ทราบเรื่อง แต่เชื่อว่าในอนาคตจะมีพรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นมาใหม่หลายพรรคซึ่งถือเป็นปกติที่มีพรรคการเมืองตั้งและล้มไปเรื่อย ๆ แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังอยู่ที่เดิม ส่วนจะกระทบกับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่เพราะฐานเสียงคล้ายกันนั้น คิดว่าฐานเสียงก็มีบางส่วนคล้ายกันแต่เรื่องนี้ไม่สามารถประเมินล่วงหน้าได้เพราะยังไม่ทราบว่าจะมีการตั้งพรรคใด ๆ เพิ่มเติมขึ้นอีกหรือไม่
 
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายกฤช เอื้อวงศ์ ผอ.สำนักกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ กล่าวถึงการยื่นขอจัดตั้งพรรคพันธมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตยว่า มีการมายื่นขอจดแจ้งจัดตั้งเมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยระบุชื่อผู้ยื่นที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ชื่อ นางภาณุมาศ พรหมสูตร และนายยงยศ เล็กกลาง เป็นเลขาธิการพรรค มีที่ทำการอยู่ที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา และใช้อักษรชื่อพรรค (พ.ป.ป.) โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบของนายทะเบียนพรรคการเมือง ซึ่งจะใช้เวลาพิจารณาว่าจะตอบรับหรือไม่ภายใน 30 วันนับจากวันที่ยื่นขอจดแจ้ง
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงครั้งนี้ทางสำนักงาน กกต.ปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียด ในเรื่องของภาพสัญลักษณ์ของพรรค โดยอ้างว่าอยู่ในขั้นตอนขอจดแจ้งเท่านั้นยังไม่   ได้อนุญาตให้จัดตั้งพรรคได้ อย่างไรก็ดีพรรค   ดังกล่าวใช้ตัวย่อว่า “พ.ป.ป.” แต่ไม่ใช่ “พธม.” อย่างที่กลุ่มพันธมิตรฯ รวมทั้งไม่พบว่ามีนโยบายการเมืองใหม่
 
ที่อาคารวุฒิสภา ได้มีการประชุมอนุคณะกรรมการพิจารณาศึกษาแนวทางสร้างความ สมานฉันท์ทางการเมืองของสังคมไทยนัดที่ 2 มีนายตวง อันทะไชย ส.ว.สรรหา เป็นประธาน  โดยหลังการหารือนานกว่า 5 ชม.ได้สรุปข้อเสนอของอนุกรรมการฯ ที่จะนำเสนอต่อที่ประชุมใหญ่คณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและการศึกษาเพื่อแก้ไขรัฐธรรม   นูญ ในวันที่ 19 พ.ค. จำนวน 6 ข้อในระดับเร่งด่วน ส่วนประเด็นการพิจารณาเยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาของการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ  แบ่งออกเป็น 2 ความเห็นมีทั้งเห็นด้วยควรเยียวยาผู้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและอีกฝ่ายเป็นตัวแทนรัฐบาลไม่เห็นด้วยกับการเยียวยาเพราะเห็นว่ากระบวนการพิจารณาตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญมีความชอบแล้ว
 
นายชุมพล กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ในฐานะประธานส.ส.พรรคประชาธิปัตย์  ได้ออกแถลงการณ์แจกจ่ายสื่อมวลชน โดยมีเนื้อหาระบุว่า ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์เริ่มรู้สึกอึดอัดในแนวทางการทำงานของ 8 ตัวแทนพรรคที่เข้าเป็นคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อปฏิรูปการเมืองและแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะในเรื่องสำคัญบางมาตราต้องดูว่าประชาชนเจ้าของประเทศ ส่วนใหญ่เห็นตามนั้นด้วยหรือไม่ ควรจะได้มีการสอบถามหรือทำประชามติให้เป็นที่ชัดเจนเสียก่อน ดังนั้นหากตัวแทนของพรรคดำเนินการในลักษณะอย่างนี้จะต้องมีการหารือ ในที่ประชุมส.ส.ของพรรคเพื่อวางกรอบให้ตัวแทนทั้ง 8 คนเสียใหม่
 
นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ในฐานะที่ปรึกษากรรมการสมานฉันท์  เพื่อปฏิรูปการเมืองและศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ยืนยันว่าไม่ได้มีความขัดแย้งกับพรรคประชาธิปัตย์ ในเรื่องการเสนอ ตั้งรัฐบาลเพื่อชาติของ 2 พรรคการเมืองใหญ่ เพราะตนยืนยันว่าสถานการณ์การเมืองขณะนี้มีความขัดแย้งรุนแรง จนต้องตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ ขึ้นมาเป็นชุดแรกของประเทศไทย  ทั้งนี้ตนจะขอดูการทำงานของ 3 อนุกรรมการฯว่าจะทำงานกันอย่างไร เพราะคณะกรรมการฯชุดนี้ตั้งขึ้นมามีธงคือเพื่อสร้างความปรองดอง เมื่อเกิดปัญหาก็ต้องช่วยกันเสนอแนะ ไม่ได้ตั้งมาเพื่อให้ตัดสินว่าถูกหรือผิด
 
เมื่อถามว่า จะถอดใจลาออกหรือไม่ ถ้าข้อเสนอต่าง ๆ ไม่ได้รับการขานรับ นายเสนาะ ตอบว่า “ผมไม่ใช่คนอย่างนั้นไม่ใช่คนขี้โวยวาย เพราะภูผาก็คือภูผาอะไรจะมาเยี่ยวรดหรือมาขี้ใส่ก็ยังเป็นภูผาอยู่วันยังค่ำ”
 
ด้านนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง 1 ในคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อปฏิรูปการเมืองและศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญฯ ให้สัมภาษณ์ว่า ยอมรับว่ารู้สึกหนักใจในการประชุมอนุกรรมการฯเมื่อวันที่ 13 พ.ค. เพราะตนรู้สึกเหมือนมีการวางแผน     เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญบางมาตราเพื่อนักการเมืองโดยไม่มีประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งตนเห็นว่ามันรวบรัดมีธงอยู่ในใจ ที่จะแก้มาตรา 237 และ 309 ให้กับนักการเมือง และเพื่อเอื้อให้ พ.ต.ท.    ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯพ้นผิด ตอนนี้ยอมรับว่าลำบากใจเพราะเกรงใจวุฒิสภาที่เลือกตัว    เองมา แต่ขอฟังการประชุมอีกอนุกรรมการฯ     2-3 ครั้ง หากเห็นว่าไม่เกิดประโยชน์คงต้อง    ออกเพราะเกรงจะถูกนำไปอ้างว่ามีส่วนเข้าร่วมประชุม
 
ขณะเดียวกันการประชุมคณะอนุกรรมการศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ที่มี พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว. สรรหา เป็นประธาน ปรากฏว่าอนุกรรมการฯจากพรรคการเมืองต่างพากันอภิปรายสนับสนุนให้มีการแก้ไขมาตรา 237 ขณะที่อนุกรรมการในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ต่างอภิปรายสนับสนุนคงมาตรา 237 ไว้ โดยนายนิพนธ์ วิสิษฐยุทธศาสตร์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หากคงมาตรา 237 ไว้ก็สามารถเป็นเครื่องมือในการป้องกันการซื้อเสียงได้ แต่หากแก้มาตรา 237 แล้วแก้ปัญหาความขัดแย้งได้ตนก็ยินดีให้แก้
 
หลังใช้เวลาอภิปรายนานเกือบ 4 ชม. ปรากฏว่าอนุกรรมการฯส่วนใหญ่ เห็นด้วยว่าจะให้แก้ไขมาตรา 237 โดยให้ตัดวรรคสองออก ซึ่งจะให้มีการลงโทษเฉพาะคนที่ทำผิดเท่านั้น  พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าวว่า จะนำเหตุและผลไปเสนอในการประชุมคณะกรรมการสมานฉันท์ฯในวันอังคารที่ 19 พ.ค.นี้ โดยต้องรับฟังความเห็นของคณะอนุกรรมการฯอีก 2 ชุดด้วย
 
ที่กองบัญชาการตำรวจสันติบาล (บช.ส.) ช่วงบ่ายวันเดียวกัน พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผบช.ส. เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบพิจารณาข้อมูลข่าวสารที่มีผลกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยมีคณะกรรมการตัวแทนจาก บช.น. บช.ก. และสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เข้าร่วมประชุม พล.ต.ท.ธีระเดช กล่าวภายหลังการประชุมว่า ในที่ประชุมมีการสรุปกรณีที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯให้สัมภาษณ์ผ่านเว็บไซต์ต่างประเทศในช่วงวันที่ 12-13 เม.ย.ที่ผ่านมาว่าเข้าข่ายความผิดกฎหมายอาญามาตรา 112 ฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มีความเห็นสั่งฟ้องและให้ส่งพยานหลักฐานทั้งหมดให้ทาง    บช.ก.ดำเนินคดีในวันที่ 15 พ.ค.นี้
 
ด้าน พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น. แถลงข่าวปฏิเสธกรณีที่นายอดิศร เพียงเกษ 1 ในแกนนำ นปช.ระบุพนักงานสอบสวนนครบาลเตรียมออกหมายจับกลุ่มคนเสื้อแดงที่บุกรุกกระทรวงมหาดไทยอีกกว่า 100 คนว่ายังไม่มีข้อมูลไม่ทราบว่าเอาข้อมูลมาจากไหน เท่าที่ทราบขณะนี้มีเพียงกรณีนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ เข้ามอบตัวต่อ พ.ต.อ.วัลลภ ปทุมเมือง รักษาการ ผบก.น.6 ที่ สน.สำราญราษฎร์ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ในมาตรา 116 (3) ข้อหาการกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนเพื่อให้ประชาชนละเมิดกฎหมายแผ่นดิน กรณีนำผู้ชุมนุมบุก กระทรวงมหาดไทย
 
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี และ ผู้บัญชาการทหารบก ได้จัดทำหนังสือเรื่อง “ยุทธศาสตร์แก้ไขความขัดแย้ง” ปกสีขาวแจกจ่าย  เนื่องในโอกาสวันเกิดครบรอบ 77 ปี โดยรวบรวมคำบรรยายตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดความขัดแย้งในประเทศ ถึงขั้นใช้อาวุธเข้าต่อสู้กัน จนกระทั่งแก้ไขปัญหายุติความขัดแย้งลงได้ด้วยการที่ทำความเข้าใจกับผู้ที่หนีเข้าป่า ซึ่ง    สงครามครั้งนั้นไม่มีผู้แพ้ ผู้ชนะ นอกจากนี้อยากให้ทหารในกองทัพมีความสำนึกอยู่เสมอว่า “กองทัพเป็นของประชาชน” จะต้องร่วมมือกับฝ่ายพลเรือน เพื่อสร้างความสมัครสมานสามัคคีไม่แบ่งแยกเพื่อพัฒนาระบอบการปกครองให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ เพราะเป็นระบอบการปกครองที่จะทำให้ประชาชนแผ่นดินนี้ได้รับผลประโยชน์อย่างเป็นธรรม 
 
ทั้งนี้กองทัพเป็นได้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งใน 2 อย่างคือ 1.กองทัพเป็นของเผด็จการ  (เป็นของคนส่วนน้อย) หรือ 2.กองทัพเป็นของประชาชน เพราะว่าระบอบประชาธิปไตยนั้นเป็นการปกครองของประชาชน.

อ่านต่อที่ : “เจิมศักดิ์”ส่อทิ้งกก.สมานฉันท์

อธิบดีกรมอาเซียนยันเลื่อนประชุมไม่กระทบการเป็นปธ. พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in ทั่วไป.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

อธิบดีกรมอาเซียนยันเลื่อนประชุมไม่กระทบการเป็นปธ.

อธิบดีกรมอาเซียนยันเลื่อนประชุมไม่กระทบการเป็นปธ.

นายวิทวัส ศรีวิหค อธิบดีกรมอาเซียน ยืนยันเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมว่า การเลื่อนการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาไม่ส่งผลกระทบกับการเป็นประธานอาเซียนของไทย ทั้งนี้ภายใต้กฎบัตรอาเซียนที่กำหนดให้มีการจัดการประชุมระดับผู้นำ 2 ครั้งต่อปี และการประชุมอื่นๆ ของอาเซียนยังคงเดินไปอย่างต่อเนื่อง  แต่การประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาเป็นเหมือนโบนัส ที่ทำให้ผู้นำได้มีโอกาสพบกันบ่อยมากขึ้นในการคุยถึงสถานการณ์ต่างๆ ของโลก

อ่านต่อที่ : อธิบดีกรมอาเซียนยันเลื่อนประชุมไม่กระทบการเป็นปธ.

นายกฯถกบรรหาร-นักวิชาการนับถอยหลังรัฐบาล พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in ทั่วไป.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

นายกฯถกบรรหาร-นักวิชาการนับถอยหลังรัฐบาล

เมื่อเวลา 11.30 น.ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเลื่อนการจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา จากกำหนดเดิม 13-14 มิ.ย.ที่ภูเก็ต ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวถามว่านายกรัฐมนตรีจะอยู่ถึงเดือนตุลาคม และจะสามารถเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ประเทศไทยอยู่ถึงและประเทศไทยต้องเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม

เมื่อถามย้ำว่า รัฐบาลจะอยู่ถึงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่าไปกังวลว่าจะเป็นรัฐบาลไหนอย่างไร ประเด็น คือ เรื่องการจัดการประชุมเป็นเรื่องของประเทศไทย ดังนั้น เราต้องจัดการประชุมให้ได้

เมื่อถามว่าแต่ทางพรรคเพื่อไทยประเมินว่ารัฐบาลจะยุบสภาในอีก 3 เดือนข้างหน้า นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ไม่เกี่ยวกัน ในเมื่อมาถามว่าผมว่าจะอยู่ถึงหรือไม่ ก็ต้องบอกว่าเรื่องนี้ผมจะอยู่หรือไม่อยู่ ประเทศไทยก็จะต้องจัดการประชุมให้ได้ เพราะเป็นงานของคนไทยทุกคน แต่ผมก็ยังไม่คิดที่จะไปไหน”

เมื่อถามว่า แต่มีการระบุว่านางพรทิวาไม่พอใจถึงขนาดกล่าวหานายกฯว่ามี 2 มาตรฐาน ต่างจากการพิจารณาโครงการของกระทรวงพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ ยิ้มก่อนกล่าวว่า ที่จริงก็ไม่ใช่คำพูดอย่างนั้น แต่ก็เป็นธรรมดา เวลาที่หน่วยงานอะไรเสนอมาแล้วเห็นว่ามีความเห็นแตกต่างกัน บางทีก็อาจจะมีการพูดจากระทบกระทั่งกันบ้าง แต่เป็นปกติของการประชุม

เมื่อถามว่า มองว่านางพรทิวาสามารถนำนโยบายไปปฏิบัติได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ก็ยืนยันว่าท่านพยายามทำอย่างดีที่สุด แต่ปัญหาในการพิจารณาที่ผ่านมา ตนคิดว่าบางครั้งเรื่องการตรวจสอบลงไปคงต้องมีความละเอียดมากยิ่งขึ้น เพราะในส่วนของตน กรณีพืชผลตนเป็นกรรมการนโยบายข้าวด้วย ก็เห็นได้ชัดว่ามันจำเป็นต้องกลับไปตรวจสอบเยอะในการแทรกแซงในช่วงที่ราคาจำนำสูง มันมีปัญหาที่ตามมาเยอะ

เมื่อถามว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจะบานปลายไปถึงขั้นรัฐบาลทำงานร่วมกันไม่ได้จนต้องยุบสภาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ผมคิดว่าคงจะไม่ ต้องทำความเข้าใจกัน แต่หน้าที่ของผมคือเมื่อเป็นผู้ดูแลรัฐบาลอยู่ ก็ต้องให้รัฐบาลทำในสิ่งที่ดีที่สุด แล้วต้องแก้ปัยหาให้ได้ เพราะมาอยู่ตรงนี้ก็เพื่อทำงานให้สำเร็จ”

เมื่อถามว่า มีข่าวว่าอาจมีรัฐมนตรีลาออกหากไม่สามารถแก้ไขปัญหาขัดแย้งได้ นายกฯ กล่าวว่า คิดว่าน่าจะพูดคุยกันได้ แต่ตนยืนยันว่าอย่างไรรัฐบาลก็ต้องเดินหน้าทำในสิ่งที่คิดว่าดีที่สุด เมื่อถามว่า นายกฯยังคิดว่ายังอยู่ในฐานะตำแหน่งที่ทำงานให้ประเทศอย่างดีที่สุดได้ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เวลานี้ทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดร่วมกัน ไม่ได้มีปัญหา เมื่อถามว่า จำเป็นต้องนัดพรรคร่วมทำความเข้าใจกันหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็คุยกันตลอด

อภิสิทธิ์” ดอดหารือ”บรรหาร” ที่บ้านพิษณุโลก

หลังจากเกิดกรณีปะทะคารมในที่ประชุมครม.เศรษฐกิจวานนี้(13 พ.ค.) ระหว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย

ล่าสุด วันนี้ เมื่อเวลา 09.00 น. นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเป็นประธานพิธีเปิดงานและบรรยายพิเศษในหัวข้อ “ ทิศทางการกระจายอำนาจและบทบาทการสร้างสุขภาพชุมชน ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” จากนั้นเวลา 11.00 น. นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุมและปาฐกถา “ทิศทางและนโยบายของรัฐบาลต่อการปฏิรูปการศึกษารอบ 2″ ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี ท่ามกลางกระแสข่าวตลอดช่วงเช้าว่านายกรัฐมนตรี ได้นัดหารือกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ ปฏิเสธจะตอบเรื่องนัดหารือกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลในวันนี้ อีกทั้งได้ให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแจ้งกับสื่อมวลชนว่าให้ไปรอที่รัฐสภา และระหว่างเดินทางออกจากสโมสรกองทัพบกมีการลับ ลวงพราง ทำให้สื่อมวลชนตามไม่ทันรถประจำของนายกรัฐมนตรี

ต่อมา เวลา 12.15 น..นายอภิสิทธิ์ ได้เข้าไปยังบ้านพิษณุโลก เพื่อหารือกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเดินทางมารอก่อนหน้านี้ เช่น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ นายนิพนธ์ พร้อมพันธ์ เลขาธิการนายกฯ นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล แกนนำพรรคชาติไทย เป็นต้น โดยใช้เวลาหารือกว่า 1 ชั่วโมง โดยไม่มีใครให้สัมภาษณ์

ปชป.ซัด “เสนาะ”จ้องตั้งรัฐบาลแห่งชาติหวังเข้าสู่อำนาจ

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีความจริงใจให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการสมานฉันท์และกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่า ขอยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์มีความจริงใจและร่วมมือกับกรรมการทั้ง 2 ชุด แต่การที่นายเสนาะให้ความเห็นว่านายอภิสิทธิ์ เป็นเหมือนหัวหน้าคณะปฏิวัติ ถือเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมกับวุฒิภาวะของนายเสนาะ แม้ว่าเราจะเคารพในความเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของนายเสนาะ ก็ตาม

“ข้อเสนอของนายเสนาะ ให้จัดตั้งรัฐบาลแห่งชาตินั้น เป็นการเสนอการแก้ไขปัญหาเพื่อความยุติธรรม เพื่อสร้างประชาธิปไตย หรือมุ่งหวังในเรื่องการเข้าสูอำนาจกันแน่”

“พรทิวา” ปัดงัดข้อ “อภิสิทธิ์” เหตุสต็อกข้าวโพด

นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีความขัดแย้งกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี กรณีการระบายข้าวโพดในสต็อคของรัฐบาลจำนวน 4 แสนตันว่า ยืนยันว่า ไม่ได้ขัดแย้งกัน แต่เป็นเรื่องธรรมดาที่ในครม.ต้องมีการถกเถียงกันว่า

ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่ว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้น จะทำให้ถูกปรับออกจากครม. รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะเรื่องความเห็นไม่ตรงกัน เป็นเรื่องธรรมดา ตนพร้อมทำตามมติครม.ที่ให้นำเรื่องสต็อคข้าวโพดเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มีนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งกรณีการรับจำนำสินค้าเกษตรนั้น ต้องยอมรับเรื่องการขาดทุน เพราะราคารับจำนำมีราคาสูง ถ้าจะไม่ให้ขาดทุนคงเป็นไปไม่ได้ เพราะการรับจำนำเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร

นักเศรษฐศาสตร์การเมือง ชี้นับถอยหลังรัฐบาลอ่อนแอ

ที่โรงแรมตะวันนา กทม. นายณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ความขัดแย้งในสังคม ว่า ถ้ามองในแง่ร้ายก็ต้องบอกว่าเป็นความขัดแย้งที่ไม่มีวันจะสิ้นสุด ซึ่งจะทำให้รัฐบาลคงอยู่ได้ไม่นาน โดยที่รัฐบาลไม่สามารถที่จะควบคุมได้ เพราะส่วนผสมของรัฐบาลมีความพิการตั้งแต่ต้น

แม้แต่ในระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลก็ยังขัดแย้งกันเอง กลายเป็นส่วนประกอบของความขัดแย้ง ที่อยู่ได้ก็ด้วยผลประโยชน์ลงตัวกัน แต่ถ้าขัดแย้งเมื่อไหร่ก็พังเมื่อนั้น เห็นได้จากกรณีการประมูลข้าวโพด สภาพที่อ่อนแอเช่นนี้ไม่สามารถรับมือกับความขัดแย้งในเชิงชนชั้นในสังคมไทยได้ ดังนั้นอายุของรัฐบาลนี้อยู่ในภาวะของการนับถอยหลังหรือเคาท์ดาวน์

อย่างไรก็ตาม หากมองในแง่ดีก็จะมองว่าทุกครั้งที่สังคมเกิดวิกฤตก็มักจะเปลี่ยนผ่านไปในทางที่ดีขึ้น แต่ทุกฝ่ายในสังคมโดยเฉพาะสื่อมวลชนต้องช่วยกันประคองอย่าให้ความขัดแย้งรุนแรงจนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่เลวร้ายลง

อ่านต่อที่ : นายกฯถกบรรหาร-นักวิชาการนับถอยหลังรัฐบาล

15:14 น. อธิบดีกรมอาเซียนยันเลื่อนจัดประชุมไม่กระทบการเป็นปธ.อาเซียน พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in ข่าวด่วน.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

15:14 น. อธิบดีกรมอาเซียนยันเลื่อนจัดประชุมไม่กระทบการเป็นปธ.อาเซียน

14 พค. 2552 15:14 น.

นายวิทวัส ศรีวิหค อธิบดีกรมอาเซียน กล่าวถึงการเลื่อนการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา โดยยืนยันว่าไม่ส่งผลกระทบกับการเป็นประธานอาเซียนของไทย ภายใต้กฎบัตรอาเซียน ที่จะต้องจัดการประชุมระดับผู้นำ 2 ครั้งต่อปี และการประชุมประจำในระดับอื่นๆ ของอาเซียนยังคงเดินไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาเป็นเหมือนโบนัส ที่ทำให้ผู้นำได้มีโอกาสพบกันบ่อยมากขึ้นในการคุยถึงสถานการณ์ต่างๆ ของโลก
อ่านต่อที่ : 15:14 น. อธิบดีกรมอาเซียนยันเลื่อนจัดประชุมไม่กระทบการเป็นปธ.อาเซียน

“มาร์ค”ฉุน ถูกถามอยู่ถึงจัดประชุมอาเซียนต.ค.หรือไม่ พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in ทั่วไป.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

“มาร์ค”ฉุน ถูกถามอยู่ถึงจัดประชุมอาเซียนต.ค.หรือไม่

"มาร์ค"ฉุน ถูกถามอยู่ถึงจัดประชุมอาเซียนต.ค.หรือไม่

เมื่อวันที่ 14 พ.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเลื่อนการจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาในเดือน มิถุนายนที่จังหวัดภูเก็ตจนทำให้หลายฝ่ายเป็นห่วงเรื่องการชี้แจงกับนานาประเทศ ว่า รัฐบาลกำลังจะชี้แจงในเรื่องดังกล่าว ปัญหาในเบื้องต้นคือเวลาที่สะดวกไม่ตรงกัน บังเอิญว่าประเทศไทยเกิดปัญหาขึ้นในเดือน เมษายนและ จะพยายามที่จะจัดกาปรระชุมอีกครั้งแต่เวลากระชั้นเกินไป แต่ความชัดเจนในเรื่องนี้จะมีมากขึ้น เพราะจะมีการประชุมในระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสของกลุ่มประเทศอาเซียนและประเทศคู่เจรจาในวันที่ 19 พฤษภาคมที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งจะมีการประเมินสถานการณ์ทั้งหมดรวมทั้งต้องมีคำตอบออกมา เมื่อถามว่าการให้ระดับเจ้าหน้าที่ดำเนินการแทนจะมีศักยภาพเพียงพอหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราได้มอบหมายไปว่าในเมื่อจัดการประชุมในเดือน มิถุนายนไม่ได้ ทางออกที่ดีที่สุดในการเดินหน้าความร่วมมือของอีไอเอสคืออะไร

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่านายกรัฐมนตรีจะอยู่ถึงเดือน ตุลาคมและจะสามารถเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ว่า “ประเทศไทยอยู่ถึง และประเทศไทยต้องเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม”

เมื่อถามย้ำว่า รัฐบาลจะอยู่ถึงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่าไปกังวลว่าจะเป็นรัฐบาลไหนอย่างไร ประเด็นคือเรื่องการจัดการประชุมเป็นเรื่องของประเทศไทย ดังนั้นเราต้องจัดการประชุมให้ได้

เมื่อถามว่าแต่ทางพรรคเพื่อไทยประเมินว่ารัฐบาลจะยุบสภาในอีก 3 เดือนข้างหน้า นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ไม่เกี่ยวกัน ในเมื่อมาถามว่าผมว่าจะอยู่ถึงหรือไม่ ก็ต้องบอกว่าเรื่องนี้ผมจะอยู่หรือไม่อยู่ ประเทศไทยก็จะต้องจัดการประชุมให้ได้ เพราะเป็นงานของคนไทยทุกคน แต่ผมก็ยังไม่คิดที่จะไปไหน”

 

อ่านต่อที่ : “มาร์ค”ฉุน ถูกถามอยู่ถึงจัดประชุมอาเซียนต.ค.หรือไม่

“บัวแก้ว”ยันเลื่อนถกอาเซียนไม่กระทบไทย ฐานะปธ. พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in ทั่วไป.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

“บัวแก้ว”ยันเลื่อนถกอาเซียนไม่กระทบไทย ฐานะปธ.

"บัวแก้ว"ยันเลื่อนถกอาเซียนไม่กระทบไทย ฐานะปธ.

นายวิทวัส ศรีวิหค อธิบดีกรมอาเซียน กล่าวเมื่อวันที่ 14 พ.ค. ถึงการเลื่อนการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ว่า จะไม่ส่งผลกระทบกับการเป็นประธานอาเซียนของไทย ภายใต้กฎบัตรอาเซียน ที่จะต้องจัดการประชุมระดับผู้นำ 2 ครั้งต่อปี และการประชุมประจำในระดับอื่น ๆ ของอาเซียนยังคงเดินไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาเป็นเหมือนโบนัสที่ทำให้ผู้นำได้มีโอกาสพบกันบ่อยมากขึ้นในการคุยถึงสถานการณ์ต่างๆ ของโลก

 

อ่านต่อที่ : “บัวแก้ว”ยันเลื่อนถกอาเซียนไม่กระทบไทย ฐานะปธ.

บัวแก้วยันเลื่อนประชุมอาเซียนไม่กระทบการเป็น ปธ.อาเซียน พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in ข่าวด่วน.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

บัวแก้วยันเลื่อนประชุมอาเซียนไม่กระทบการเป็น ปธ.อาเซียน

บัวแก้วยันเลื่อนประชุมอาเซียนไม่กระทบการเป็น ปธ.อาเซียน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 14:38 น.

       นายวิทวัส ศรีวิหค อธิบดีกรมอาเซียน กล่าวถึงการเลื่อนการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ว่า จะไม่ส่งผลกระทบกับการเป็นประธานอาเซียนของไทย ภายใต้กฎบัตรอาเซียน ที่จะต้องจัดการประชุมระดับผู้นำ 2 ครั้งต่อปี และการประชุมประจำในระดับอื่น ๆ ของอาเซียนยังคงเดินไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาเป็นเหมือนโบนัสที่ทำให้ผู้นำได้มีโอกาสพบกันบ่อยมากขึ้นในการคุยถึงสถานการณ์ต่างๆ ของโลก

อ่านต่อที่ : บัวแก้วยันเลื่อนประชุมอาเซียนไม่กระทบการเป็น ปธ.อาเซียน

วิทวัส ระบุเลื่อนประชุมอาเซียนคู่เจรจาไม่ส่งผลกระทบต่อตำแหน่งประธานอาเซียน พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in การเมือง.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

วิทวัส ระบุเลื่อนประชุมอาเซียนคู่เจรจาไม่ส่งผลกระทบต่อตำแหน่งประธานอาเซียน

วิทวัส ระบุเลื่อนประชุมอาเซียนคู่เจรจาไม่ส่งผลกระทบต่อตำแหน่งประธานอาเซียน

กระทรวงการต่างประเทศ 14 พ.ค.- นายวิทวัส ศรีวิหค อธิบดีกรมอาเซียน กล่าวถึงการเลื่อนการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ว่า จะไม่ส่งผลกระทบกับการเป็นประธานอาเซียนของไทย ภายใต้กฎบัตรอาเซียน ที่จะต้องจัดการประชุมระดับผู้นำ 2 ครั้งต่อปี และการประชุมประจำในระดับอื่น ๆ ของอาเซียนยังคงเดินไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาเป็นเหมือนโบนัสที่ทำให้ผู้นำได้มีโอกาสพบกันบ่อยมากขึ้นในการคุยถึงสถานการณ์ต่าง ๆ ของโลก.-สำนักข่าวไทย

อ่านต่อที่ : วิทวัส ระบุเลื่อนประชุมอาเซียนคู่เจรจาไม่ส่งผลกระทบต่อตำแหน่งประธานอาเซียน

มาร์ค ยันไทยจัดประชุมอาเซียน ต.ค.ได้ พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in ข่าวด่วน.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

มาร์ค ยันไทยจัดประชุมอาเซียน ต.ค.ได้

นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี   กล่าวถึงการเลื่อนการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา จากเดือนมิถุนายน เป็นเดือนตุลาคม พร้อมกับการประชุมอาเซียนซัมมิท ครั้งที่ 15 ว่า เบื้องต้นได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่าสาเหตุเกิดจากทุกประเทศไม่สะดวกเดินทางมาร่วมการประชุม  ซึ่งต้องยอมรับว่าการนัดหมายต้องมีการพูดคุยกันล่วงหน้าอย่างน้อยครึ่งปี แต่เนื่องจากไทยเกิดเหตุเมื่อเดือนเมษายน ทำให้เกิดความกระชั้นชิดในการกำหนดการประชุมอีกครั้ง อย่างไรก็ตามในการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโส วันที่ 19 พฤษภาคม ที่จังหวัดภูเก็ต ก็จะมีการประเมินสถานการณ์ซึ่งจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน  ทั้งนี้นายกรัฐมนตรียืนยันว่าประเทศไทยจะสามารถจัดการประชุมในเดือนตุลาคมได้ แต่ไม่ควรกังวลว่ารัฐบาลใดจะเป็นเจ้าภาพ เพราะเป็นเรื่องของประเทศ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้สอบถามตัวแทนของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เข้าร่วมเป็นคณะกรรมาธิการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทราบว่ายังคงทำงานกันอย่างตั้งใจที่จะนำความคิดเห็นที่แตกต่าง มาหาข้อสุรปร่วมกัน เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นเริ่มจากความคิดเห็นและความเชื่อที่แตกต่างทางการเมือง ดังนั้น จะคาดหวังให้การประชุมมีความเห็นพ้องทุกอย่างนั้นไม่ได้  แต่สิ่งที่สำคัญคือ นำความแตกต่างมาอยู่ในกรอบกติกา ที่ทุกคนยอมรับและร่วมมือกัน  พร้อมให้โอกาสทำงานอย่างเต็มที่ และเชื่อว่าผู้ที่รับผิดชอบรู้ถึงความสำคัญในบทบาทของตนเอง

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการที่องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก เดินทางมาบริเวณชายแดนไทย- กัมพูชา ว่า น่าจะเรื่องข้อตกลงระหว่างกัมพูชากับองค์การยูเนสโก ในเรื่องของมรดกโลก แต่ทั้งนี้เนื่องจากไม่ได้แจ้งมายังประเทศไทยล่วงหน้า จึงมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไปตรวจสอบความชัดเจน

อ่านต่อที่ : มาร์ค ยันไทยจัดประชุมอาเซียน ต.ค.ได้