ข่าว ในประเทศไทย

15:14 น. ผบก.น.5 แจงเหตุตีกันตลาดคลองเตยแค่ทะเลาะวิวาท พฤษภาคม 14, 2009

15:14 น. ผบก.น.5 แจงเหตุตีกันตลาดคลองเตยแค่ทะเลาะวิวาท

14 พค. 2552 15:14 น.

พล.ต.ต.โชคชัย ดีประเสริฐวิทย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 (ผบก.น.5) กล่าวถึงกรณีผู้ค้าตลาดคลองเตยแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ท่าเรือ ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 20 คน ที่รุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ โดยอ้างว่า ชายกลุ่มดังกล่าวเป็นพนักงานของบริษัท ลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล จำกัดว่า คดีดังกล่าวเป็นการปะทะกันระหว่างบรรดาพ่อค้าแม่ค้ากับเด็กยกของในตลาดเท่านั้น ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ มีรถบรรทุกผักนำผักมาลงในตลาดทำให้มีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าและเด็กลงของแย่งกันนำเข่งผักลงจากรถ โดยฝ่ายผู้ค้ายืนยันจะขนของลงจากรถด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายให้กับเด็กลงของเข่งละ 8 บาท จนเกิดการปะทะกันดังกล่าว พร้อมยืนยันว่า คดีดังกล่าวไม่ใช่ความขัดแย้ง ระหว่างผู้ค้าในตลาดคลองเตยกับบริษัทลีเกิ้ลฯ

อ่านต่อที่ : 15:14 น. ผบก.น.5 แจงเหตุตีกันตลาดคลองเตยแค่ทะเลาะวิวาท

ตร.หญิงนครบาลเชิดเงินนอกระบบหนี50ล้าน พฤษภาคม 14, 2009

ตร.หญิงนครบาลเชิดเงินนอกระบบหนี50ล้าน

กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิง ยศ”ดาบตำรวจ” สังกัดสหกรณ์ออมทรัพย์ บช.น. ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ทั่วไปหายตัวไปโดยขาดราชการนานกว่า 3 สัปดาห์ กระทั่งเรื่องแดงขึ้นภายหลังว่า ด.ต.หญิงคนนี้ได้เชิดเงินจำนวนกว่า 50 ล้านบาทที่มีการระดมทุนจากนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในกองบัญชาการตำรวจนครบาล และบุคคลมีฐานะทางการเงินเข้ามาปล่อยกู้นอกระบบให้กับตำรวจชั้นผู้น้อยและสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์นครบาล

โดยสอบถามตำรวจที่มากู้เงินสหกรณ์ว่า ใครต้องการที่จะได้เงินก่อนสามารถสำรองจ่ายให้ก่อนได้ คิดร้อยละ  20 ซึ่งที่ผ่านมามีตำรวจที่เป็นสมาชิกสหกรณ์บางส่วนที่มากู้เงินสหกรณ์หลงเชื่อนำเงินบริการนอกระบบนี้ไปใช้ก่อน ไม่รอถึงวันที่มีการอนุมัติตามระบบราชการและดอกเบี้ยส่วนหนึ่งก็จะนำมาจ่ายให้กับนายทุน ที่ผ่านมาผู้รับต่างก็ได้ผลประโยชน์จากดอกเบี้ยในส่วนนี้จำนวนมหาศาล รวมถึง “ด.ต.”หญิงคนนี้ด้วย

ทั้งนี้ มีการดำเนินการลักษณะเช่นนี้มานานกว่า 10 ปี โดยไม่มีท่าทีหนีหายไปแต่อย่างใด แต่เมื่อ ด.ต.หญิงรายนี้หายตัวไปพร้อมเงินหมุนเวียนนอกระบบยอดสูงถึงกว่า 50 ล้านบาท ต่างสีหน้าเคร่งเครียดและยังไม่มีใครออกมาแสดงตัว กล้าจะแจ้งความดำเนินคดีแต่อย่างใด ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามตัวอยู่

พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น.(บร1) ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่า กรณีนี้ไม่ใช่เรื่องการโกงเงินของสหกรณ์ มีแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจในสหกรณ์บางคนที่หากินด้วยการสอบถามตำรวจบางคนที่มากู้เงินสหกรณ์ว่า ใครต้องการที่จะได้เงินก่อน ซึ่งเป็นเงินนอกระบบสามารถที่จะสำรองจ่ายให้ได้ก่อน มีตำรวจที่เป็นสมาชิกสหกรณ์บางส่วนที่มากู้เงินสหกรณ์แล้วหลงไปใช้บริการนอกระบบนั้นเพราะจะได้เงินเร็วขึ้น ทางสหกรณ์ได้ชี้แจงปัญหาดังกล่าวแก่สมาชิกฯแล้ว

“ขณะนี้สมาชิกไม่มีใครเดือดร้อน ใครกู้ปุ๊บก็ได้ปั๊บ ทำให้ไปตัดวงจรเงินนอกระบบนั้น เขาไม่สามารถที่จะหมุนเงินตรงนั้นได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้เห็นกันเฉพาะสมาชิกคนนั้นกับเจ้าหน้าที่ในสหกรณ์บางคน ที่ยอมจ่ายเงินลักษณะค่าปากถุงกันเอง ไม่เกี่ยวกับทางสหกรณ์เลยแม้แต่นิดเดียว ระบบสหกรณ์ของกองบัญชาการตำรวจนครบาลยังมั่นคงดีไม่มีปัญหา “กรณีที่ระบุว่ามีการโกงเงินกันมากจำนวนถึง 50 ล้านบาทนั้น เชื่อว่าน่าจะมีลักษณะนายทุนเข้ามาหาประโยชน์โดยการให้สมาชิกกู้ยืมมากกว่า ตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สหกรณ์เองไม่น่าจะมีเงินมากขนาดนั้น นายทุนที่มีเงินติดต่อรู้จักกับเจ้าหน้าที่บางคน เอาเงินมาให้ช่วยปล่อยหาสมาชิก  บางคนที่ต้องการเงินเร็ว ๆ ก็เอา โดยยินยอมจ่ายเงินปากถุงหรือดอกสูงกว่าของสหกรณ์ สำหรับการที่จะดำเนินการขั้นวินัยก็ขึ้นอยู่กับว่าจะมีผู้มาร้องเรียนเอาโทษเจ้าหน้าที่สหกรณ์ที่กระทำดังกล่าวเพียงใด เราจะต้องมีพยานมายืนยันเอาผิดด้วย” รอง ผบช.น. กล่าว

อ่านต่อที่ : ตร.หญิงนครบาลเชิดเงินนอกระบบหนี50ล้าน

ตำรวจช่วยทำคลอดบนทางหลวงลอสแองเจลิส พฤษภาคม 14, 2009

ตำรวจช่วยทำคลอดบนทางหลวงลอสแองเจลิส

ตำรวจช่วยทำคลอดบนทางหลวงลอสแองเจลิส ลอสแองเจลิส 14 พ.ค. – หญิงคนหนึ่งคลอดลูกสาวบนทางหลวงโดยได้รับความช่วยเหลือจากตำรวจทางหลวงลอสแองเจลิส

เจ้าหน้าที่สายตรวจทางหลวงแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่และเพื่อนตำรวจช่วยกันปิดถนนสาย 10 เมื่อวันอังคาร เมื่อเห็นรถคันหนึ่งแล่นฝ่าแนวกั้นพร้อมกับเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ขับรถซึ่งเป็นน้องสาวของหญิงตั้งครรภ์ที่ตะโกนว่า พี่สาวของเธอกำลังจะคลอดลูก  เจ้าหน้าที่จึงเข้าช่วยเหลือจนทารกหญิงออกมาได้ในที่สุด  เจ้าหน้าที่กล่าวว่า แม่และเด็กถูกส่งโรงพยาบาลและแข็งแรงดี .-สำนักข่าวไทย

อ่านต่อที่ : ตำรวจช่วยทำคลอดบนทางหลวงลอสแองเจลิส

นครบาลตั้ง กก.สอบ ตร.บางรัก รับส่วยพัฒน์พงษ์ พฤษภาคม 14, 2009

นครบาลตั้ง กก.สอบ ตร.บางรัก รับส่วยพัฒน์พงษ์

นครบาลตั้ง กก.สอบ ตร.บางรัก รับส่วยพัฒน์พงษ์

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 14:24 น.

       พล.ต.ต.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะประธานกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงคดีที่มีการกล่าวหาว่าตำรวจ สน.บางรัก เรียกรับส่วยในพื้นที่ หลังกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าย่านพัฒน์พงษ์ ปะทะชุดปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ที่ผ่านมา กล่าวว่า ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ โดยมีตนเอง พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 พ.ต.ท.สุรักษ์ แก้วไพจิตร์ รองผู้กำกับการจราจร สน.ชนะสงคราม เป็นกรรมการร่วมกับพนักงานสอบสวน จำนวนหนึ่ง โดยเบื้องต้นจะเรียกผู้ค้าย่านพัฒน์พงษ์มาสอบสวนให้มากที่สุด ว่ามีการเรียกรับเงิน หรือจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่หรือไม่ จากนั้นจะสอบสวนชุดปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ของกระทรวงพาณิชย์ ที่เข้าจับกุม ควบคู่กันไปด้วย
        นอกจากนี้ พล.ต.ต.พงษ์สันต์ กล่าวอีกว่า จะขอผลการจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์อื่นๆ ในพื้นที่ ว่ามีจำนวนมากน้อยเพียงใด เพื่อประกอบการตรวจสอบ ก่อนนำเรื่องเสนอ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ทราบ ภายในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้

อ่านต่อที่ : นครบาลตั้ง กก.สอบ ตร.บางรัก รับส่วยพัฒน์พงษ์

ตำรวจกาฬสินธุ์รวบ 3 โจ๋ตระเวนลักจยย.เผยประวัติแหกสถานพินิจ พฤษภาคม 14, 2009

ตำรวจกาฬสินธุ์รวบ 3 โจ๋ตระเวนลักจยย.เผยประวัติแหกสถานพินิจ

ตำรวจกาฬสินธุ์รวบ 3 โจ๋ตระเวนลักจยย.เผยประวัติแหกสถานพินิจ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 14:05 น.

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

กาฬสินธุ์–ตำรวจเมืองกาฬสินธุ์รวบ 3 โจ๋ แก๊งหัวขโมยตระเวนรถจักรยานยนต์พบประวัติสุดแสบก่อเหตุอย่างโชกโชนถูกจับหลายครั้ง แต่เลียนแบบหนังแหกสถานพินิจกลับมาก่อเหตุอีก
       
       เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้( 14 พ.ค.)ร.ต.อ.ประเสริฐ ธรรมชัย สว.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาร่วมกันลักรถจักรยานยนต์ ประกอบด้วยนายกล้า (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ราษฎร ต.แซงบาดาล อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ นายโก้ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ราษฎร ต.สมเด็จ อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ และนายสมคิด นาชัยศรี อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 128 ม.10 ต.สมเด็จ อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าแดช สีน้ำเงิน ทะเบียน กทธ 480 กาฬสินธุ์ 1 คัน และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าแดช สีน้ำเงินขาว ทะเบียน กลร 600 กาฬสินธุ์อีก 1 คัน
       
       ร.ต.อ.ประเสริฐ ธรรมชัย สว.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 และวันที่ 7 พฤษถาคมที่ผ่านมาได้เกิดเหตุรถจักรยายนต์ถูกลักขโมยไปจากหอพักแห่งหนึ่ง ภายในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์และแฟลตการเคหะกาฬสินธุ์ ดังนั้น พ.ต.อ.จักฎกฤษณ์ จันทรรัตน์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ติดตามคนร้ายอย่างเร่งด่วน
       
       กระทั่งสืบทราบว่า รถจักรยานยนต์ที่ถูกขโมยไปอยู่กับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน และนายเบียร์ อายุ 17 ปี ซึ่งขณะนี้กำลังหลบหนีการจับกุม เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คน และยึดของกลางรถจักรยานยนต์ได้ทั้ง 2 คน และนำตัวมาสอบสวน
       
       จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพว่า ได้ตระเวนลักรถจักรยานยนต์ในพื้นที่จ.กาฬสินธุ์มาหลายครั้งแล้ว หลังจากได้รถจักรยานยนต์มาก็นำไปถอดชิ้นส่วนชำแหละขาย
       จากนั้นนำเงินไปเที่ยวเตร่ ทั้งนี้นายเบียร์ ผู้ต้องหาที่หลบหนีอยู่เจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี
       
       ร.ต.อ.ประเสริฐ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสบประวัติผู้ต้องหา โดยเฉพาะนายกล้า ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งพบว่าเคยก่อเหตุขโมยรถจักรยายนต์ถูกดำเนินคดีมาแล้วถึง 4 ครั้ง และถูกส่งตัวเข้าสถานพินิจ จ.กาฬสินธุ์ แต่แหกสถานที่คุมขังออกมาได้ทั้ง 2 ครั้ง โดยการเลียนแบบหนังใช้ผ้าเช็ดตัวชุบน้ำมัดแล้วบิดให้ลูกกรงขยายออกแล้วหลบหนีออกมา
       
       จนเจ้าหน้าที่สถานพินิจต้องส่งตัวไปคุมขังในสถานพินิจจ.ขอนแก่น แต่ระหว่างทางนายกล้ายังงัดกระจกหลบหนีไปอีก กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่แจ้งข้อร่วมกันขโมยจักรยานยนต์ และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

อ่านต่อที่ : ตำรวจกาฬสินธุ์รวบ 3 โจ๋ตระเวนลักจยย.เผยประวัติแหกสถานพินิจ

โฆษกบช.น. ปัด จนท.สหกรณ์โกงเงินกู้ 50 ล้าน! พฤษภาคม 14, 2009

โฆษกบช.น. ปัด จนท.สหกรณ์โกงเงินกู้ 50 ล้าน!

โฆษกบช.น. ปัด จนท.สหกรณ์โกงเงินกู้ 50 ล้าน!

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม
14 พฤษภาคม 2552 13:51 น.

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น. ในฐานะ โฆษก บช.น.

รอง ผบช.น.ปัด ข่าวสหกรณ์ตำรวจนครบาลถูกโกงเงิน 50 ล้าน ระบุ มีนายทุนนำเงินมาปล่อยให้ ตร.ที่ทำหน้าที่ในสหกรณ์ ปล่อยเงินกู้ให้เรียกดอกราคาสูงกว่าสหกรณ์ ส่วนบทลงโทษทางวินัยต้องรอดูว่ามีผู้มาร้องเรียนหรือไม่ และต้องพียานหลักฐานเอาผิดด้วย
       
       วันนี้ (14 พ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น. ในฐานะ โฆษก บช.น. กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวเจ้าหน้าที่สหกรณ์ออมทรัพย์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล โกงเงินกู้สหกรณ์ตำรวจนครบาลจำนวน 50 ล้านบาท ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่การโกงเงินของสหกรณ์ แต่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจในสหกรณ์บางคนที่หากินด้วยการปล่อยเงินกู้นอกระบบ โดยจะเจรจาตกลงกับตำรวจที่มารอขอกู้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ โดยจะสำรองจ่ายเงินไปก่อน และมีตำรวจที่เป็นสมาชิกสหกรณ์บางส่วนที่มากู้เงินสหกรณ์หลงไปใช้บริการนอกระบบนั้น
       
       พล.ต.ต.สุพร กล่าวต่อว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางสหกรณ์ได้แก้ปัญหาดังกล่าวทำให้สมาชิกฯ กู้ได้เร็วขึ้น ขณะนี้สมาชิกฯ ไม่มีใครเดือดร้อน เมื่อส่งเรื่องขอกู้ก็จะมีการอนุมัติรวดเร็วขึ้น เพื่อตัดวงจรเงินนอกระบบนั้น ทำให้ไม่สามารถที่จะหมุนเงินส่วนนั้นได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้เห็นกันเฉพาะสมาชิกฯ คนนั้นกับเจ้าหน้าที่ในสหกรณ์บางคน ที่ยอมจ่ายเงินลักษณะค่าปากถุงกันเอง ไม่เกี่ยวกับทางสหกรณ์ฯ แม้แต่อย่างใด และยืนยันว่าระบบสหกรณ์ของกองบัญชาการตำรวจนครบาลยังมั่นคงดีไม่มีปัญหา
       
       “กรณีที่ระบุว่ามีการโกงเงินกันมากจำนวนถึง 50 ล้านบาทนั้น ตนเชื่อว่าน่าจะมีลักษณะนายทุนเข้ามาหาประโยชน์โดยการให้สมาชิกฯ กู้ยืมมากกว่า ตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สหกรณ์ฯ เองไม่น่าจะมีเงินมากขนาดนั้น นายทุนที่มีเงินติดต่อรู้จักกับเจ้าหน้าที่บางคน เอาเงินมาให้ช่วยปล่อยหาสมาชิกฯ บางคนที่ต้องการเงินเร็ว ๆ ก็เอา โดยยินยอมจ่ายดอกเบี้ยที่สูงกว่าของสหกรณ์ฯ สำหรับการที่จะดำเนินการขั้นวินัยก็ขึ้นอยู่กับว่าจะมีผู้มาร้องเรียนเอาโทษเจ้าหน้าที่สหกรณ์ฯ ที่กระทำดังกล่าวเพียงใด เราจะต้องมีพยานมายืนยันเอาผิดด้วย” รอง ผบช.น. กล่าว
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น สืบเนื่องจากมี ตำรวจยศ ด.ต.หญิง รายหนึ่งสังกัดสหกรณ์ออมทรัพย์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล เชิดเงินจำนวน 50 ล้านบาทหายไปอย่างไร้ร่องรอย และไม่ได้มาปฏิบัติราชการเป็นเวลาเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา โดยมีพฤติการณ์ที่จะมีการระดมทุนจากนายตำรวจระดับสูง และบุคคลที่มีฐานะทางการเงินดี เพื่อนำเงินมาปล่อยกู้แก่ข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อยในกองบัญชาการตำรวจนครบาล และสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ที่ขอยื่นกู้ ระหว่างรอการอนุมัติตามระเบียบทางราชการ โดยมีการเสนอให้มีการเรียกเก็บดอกเบี้ยที่มีอัตราสูงกว่าปกติ ทำให้มีผู้ที่หลงเชื่อนำเงินมาระดมทุนเพื่อปล่อยกู้จำนวนหลายราย กระทั่งมีเงินหมุนเวียนจำนวนหลายล้านบาท จนในที่สุด ด.ต.หญิง คนดังกล่าวได้เชิดเงินหนีไปในที่สุด

อ่านต่อที่ : โฆษกบช.น. ปัด จนท.สหกรณ์โกงเงินกู้ 50 ล้าน!

โฆษก บช.น.ซัด”อดิศร”มั่ว ยันไม่มีหมายจับเสื้อแดงบุก มท.อีกนับร้อย พฤษภาคม 14, 2009

โฆษก บช.น.ซัด”อดิศร”มั่ว ยันไม่มีหมายจับเสื้อแดงบุก มท.อีกนับร้อย

โฆษก บช.น.ซัด”อดิศร”มั่ว ยันไม่มีหมายจับเสื้อแดงบุก มท.อีกนับร้อย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 13:21 น.

       พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึง กรณีที่นายอดิศร เพียงเกษ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ออกมาระบุว่า พนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล เตรียมจะออกหมายจับกลุ่มคนเสื้อแดงที่บุกกระทรวงมหาดไทยอีกกว่า 100 คน ว่า เรื่องดังกล่าวไม่จริง โดยคนที่พูดจะพูดโดยไม่มีหลักฐานไม่ได้ เนื่องจากขณะนี้ตนยังไม่เคยเห็นข้อมูลดังกล่าว
        อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.สุพร กล่าวถึงกรณีที่กองบัญชาการตำรวจานครบาลจะพิจารณาขอศาลถอนประกันผู้ต้องหาแกนนำเสื้อแดงบางคนที่มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองลักษณะที่ผิดจากเงื่อนไขที่ให้กับศาลไว้นั้น กรณีนี้จากการพิจารณาแล้วยังไม่พบว่ามีการกระทำผิดและได้มีการรวบรวมรายละเอียดไว้แล้ว โดยคำพูดระบุเพียงว่าจะไปเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ จ.ภูเก็ต เท่านั้น ส่วนประเด็นอื่นนั้นยังไม่เข้าข่ายความผิด แต่ทั้งนี้ถ้ามีการเคลื่อนไหวตามที่ระบุไว้จริง จะถือว่าครบองค์ประกอบและถือว่าเป็นความผิด

อ่านต่อที่ : โฆษก บช.น.ซัด”อดิศร”มั่ว ยันไม่มีหมายจับเสื้อแดงบุก มท.อีกนับร้อย

ตร.เชียงราย ขยายผลค้นรีสอร์ทพบยาบ้ากว่า 74,000 เม็ด พฤษภาคม 14, 2009

ตร.เชียงราย ขยายผลค้นรีสอร์ทพบยาบ้ากว่า 74,000 เม็ด

ตร.เชียงราย ขยายผลค้นรีสอร์ทพบยาบ้ากว่า 74,000 เม็ด

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 12:52 น.

       ตำรวจ จ.เชียงราย พบยาบ้าจำนวนกว่า 74,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในเพดาน ใต้หลังคาของห้องพักรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย หลังจากเข้าตรวจค้นตามคำให้การของ นายอำนาจ แซ่บุญ ผู้ต้องหาที่ตำรวจภูธรแม่สรวยและสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส.ภาค 5 จับกุมเมื่อวานนี้
        นอกจากนี้ตำรวจยังพบหลักฐานที่เป็นประโยชน์ ในการติดตามผู้กระทำผิด ในเบื้องต้นคาดว่า เป็นขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่มีผู้ร่วมขบวนการไม่ต่ำกว่า 8 คน ตำรวจมีหลักฐาน และเบาะแสแล้ว 5 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุมัติศาล จ.เชียงราย เพื่อออกหมายจับ
        ก่อนหน้านี้ตำรวจร่วมกับ ป.ป.ส.และทหารกองกำลังผาเมืองจับกุม นายอำนาจชาว อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ขณะขับรถยนต์รับจ้างนายทุนใน อ.แม่สาย นำยาบ้าจำนวน 1.8 แสนเม็ด ยาไอซ์น้ำหนัก 14 กิโลกรัม ไปส่งให้กับลูกกับลูกค้าที่กรุงเทพมหานคร โดยได้ค่าจ้างเป็นยาบ้าจำนวน 5,000 เม็ด จึงได้ขยายผลเข้าตรวจค้นรีสอร์ทที่ จ.เชียงราย

อ่านต่อที่ : ตร.เชียงราย ขยายผลค้นรีสอร์ทพบยาบ้ากว่า 74,000 เม็ด

การตาย “พลฯอภินพ” ยังไม่สรุป ตร.รอผลศิริราชประกอบสำนวน พฤษภาคม 14, 2009

การตาย “พลฯอภินพ” ยังไม่สรุป ตร.รอผลศิริราชประกอบสำนวน

การตาย “พลฯอภินพ” ยังไม่สรุป ตร.รอผลศิริราชประกอบสำนวน

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม
14 พฤษภาคม 2552 12:47 น.

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

สภาพศพพลทหารอภินพ เครือสุข ทหารรับใช้ พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1

รอง ผบช.น. เผย ตำรวจคงรอผลชันสูตรศพ “พลทหาร อภินพ” อย่างเป็นทางการ ว่ามีความสอดคล้องกับของรพ.ตำรวจหรือไม่ คาดสัปดาห์หน้าน่าจะสรุปผลได้ ขณะเดียวกันได้สอบปากคำเพื่อนผู้ตาย-แม่–แฟน เป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดีด้วย
       
       วันนี้ (14 พ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน รอง ผบช.น.ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีที่นางศิริมนต์ มาเพ็ด มารดาของพลทหารอภินพ เครือสุข อายุ 22 ปี ทหารรับใช้ของ พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ซึ่งเสียชีวิตภายในบ้านพัก เมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจประสานไปทาง นิติเวชฯ รพ.ศิริราช รอผลการชันสูตรอย่างเป็นทางการ และจะต้องสอบปากคำแพทย์ผู้ชันสูตรด้วย ว่ามีความเห็นสอดคล้องกับแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจหรือไม่ และต้องรอผลตรวจพิสูจน์จากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานที่ไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ ว่าพบเจออะไรในที่เกิดเหตุบ้าง เชื่อว่าจะสรุปได้ประมาณสัปดาห์หน้า
       
       รอง ผบช.น. กล่าวอีกว่า จากการที่ไปตรวจสอบดูที่เกิดเหตุและมีการสอบปากคำพลทหาร 2 นาย เพื่อนของผู้ตายในบ้านดังกล่าว โดยทั้งสองเพียงแต่ได้รับการบอกเล่าจากพลทหารอภินพ ก่อนที่จะเสียชีวิตว่าล้มในห้องน้ำและรู้สึกปวดหัว ก่อนจะไปซื้อยามาให้ทาน ซึ่งขณะเกิดเหตุนั้นไม่มีพยานยืนยันและไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำไว้เป็นพยานประกอบในสำนวนแล้ว
       
       พล.ต.ต.พงษ์สันต์ กล่าวต่อไปว่า กรณีของแม่และแฟนของพลทหารอภินพ พนักงานสอบสวนก็ได้มีการสอบปากคำไว้แล้ว และเพื่อความโปร่งใสสบายใจของทุกฝ่าย บช.น. ได้ทำการตรวจสอบเพื่อตอบคำถามสังคมได้ เนื่องจากสำนวนคดีนี้เป็นการชันสูตรพลิกศพ พนักงานสอบสวนจะต้องส่งให้ศาลพิจารณาด้วย

อ่านต่อที่ : การตาย “พลฯอภินพ” ยังไม่สรุป ตร.รอผลศิริราชประกอบสำนวน

พดส.ภาค 2 รุดช่วยเหลือเด็กหญิง 3 ขวบถูกพ่อเลี้ยงทำร้าย พฤษภาคม 14, 2009

พดส.ภาค 2 รุดช่วยเหลือเด็กหญิง 3 ขวบถูกพ่อเลี้ยงทำร้าย

พดส.ภาค 2 รุดช่วยเหลือเด็กหญิง 3 ขวบถูกพ่อเลี้ยงทำร้าย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 12:03 น.

       ศูนย์ข่าวศรีราชา – ตำรวจ พดส.ภาค 2 และเจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองสวัสดิภาพและพัฒนาเด็กเข้าช่วยเหลือเด็กหญิงวัย 3 ขวบกลางเมืองพัทยาหลังรับแจ้งว่าถูกทำโทษเป็นประจำ
       
       วันนี้ (14 พ.ค.52) กำลังเจ้าหน้าที่จากศูนย์พิทักษ์เด็กเยาวชน และสตรีตำรวจภูธรภาค 2 ( พดส.) พร้อม นายศุภกร โนจา ผอ.ศูนย์คุ้มครองสวัสดิภาพและพัฒนาเด็กเมืองพัทยา เดินทางเข้าช่วยเหลือน้องเพลง อายุ 3 ปี ที่บ้านพักแห่งหนึ่งหลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าน้องเพลง ถูกพ่อเลี้ยงทำโทษอยู่เป็นประจำ
       
       จากการตรวจสอบพบน้องเพลง อยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว ตรวจสอบตามร่างกายพบว่ามีร่องรอยเขียวช้ำ บริเวณข้อมือซ้ายบวม กลางหลังมีร่อยรอยการถูกตีจนแดง ก้นทั้งสองข้างเขียวช้ำ สอบสวนนายวัลลภ โฉมศรี อายุ 61 ปี อาชีพขับรถสหกรณ์สองแถวพัทยา ให้การว่าทุกวันน้องเพลงจะเดินมาหาเพื่อขอข้ามและขนมกิน และมักเล่าให้ฟังว่าถูกพ่อเลี้ยงตีเป็นประจำ จึงรู้สึกสงสารก่อนแจ้งขอความช่วยเหลือไปยังศูนย์คุ้มครองสวัสดิภาพและพัฒนาเด็กเมืองพัทยา
       
       ด้านนายศุภกร โนจา ผอ.ศูนย์คุ้มครองสวัสดิภาพและพัฒนาเด็กเมืองพัทยา กล่าวว่าหลังพูดคุยกับน้องเพลง ก็ทราบว่าพักอยู่กับแม่และพ่อเลี้ยง โดยมีพี่สาวร่วมสายโลหิต 1 คน และมีน้องสาวที่พึ่งเกิดจากพ่อเลี้ยงอีก 1 คน ส่วนตัวพ่อเลี้ยงเป็นคนขี้โมโห และเมื่อทำผิดก็มักโดนลงโทษด้วยการตีหลายครั้ง
       
       อย่างไรก็ตามต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายวิทยา พิทักษ์กร อายุ 30 ปี พ่อเลี้ยงและนางทิพยลดา บุญลิ้ม อายุ 29 ปี แม่ของน้องเพลง มาทำการสอบสวน เบื้องต้นนางทิพยลดา แม่ของน้องเพลงให้การว่าไม่ค่อยจะมีเวลาดูแลลูกเนื่องจากต้องทำงาน จึงให้ นาย วิทยา ที่เป็นพ่อเลี้ยงคอยดูแลแทน แต่นายวิทยา เป็นคนอารมณ์ร้อน และยอมรับว่ามีการทำโทษน้องเพลง หลายครั้งแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะคิดว่าเป็นการทำโทษตามปกติและไม่คิดว่าจะร้ายแรงหรือรุนแรงอะไร
       
       ขณะที่นายวิทยา ให้การว่าได้ทำโทษน้องเพลง จริงแต่ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายร่างกายหรือทารุณกรรม อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบปากคำน้องเพลง และชาวบ้านในละแวกที่เกิดเหตุ เพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

อ่านต่อที่ : พดส.ภาค 2 รุดช่วยเหลือเด็กหญิง 3 ขวบถูกพ่อเลี้ยงทำร้าย