ข่าว ในประเทศไทย

“โรบิน วิลเลียมส์”โชว์รอยแผลเป็นยาว หลังผ่าตัดหัวใจ พฤษภาคม 15, 2009

“โรบิน วิลเลียมส์”โชว์รอยแผลเป็นยาว หลังผ่าตัดหัวใจ

"โรบิน วิลเลียมส์"โชว์รอยแผลเป็นยาว หลังผ่าตัดหัวใจ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงายว่า “โรบิน วิลเลียมส์” นัดแสดงฮอลลีวูดมากความสามารถ ได้เปิดเผนภาพถ่ายรอยแผลเป็นของเขาที่หน้าอกและหน้าท้อง ที่เกิดจากการผ่าตัดหัวใจเมื่อ 8 สัปดาห์ที่แล้ว ระหว่างการเปิดใจให้สัมภาษณ์ครั้งแรกหลักจากรับการผ่าตัดลิ้นหัวใจ ในรายการทอล์คโชว์ยอดนิยม “เดวิด เล็ตเตอร์แมน” 

วิลเลียมส์ วัย 57 ปี ที่ดูเก๋ไก๋มาก เพราะสวมเสื้อยืดสีดำมีรูปหัวใจดวงใหญ่สกรีนอยู่ตรงกลาง กล่าวว่า ผมเริ่มรู้สึกว่าหัวใจผิดปกติ หลังจากที่รู้ตัวว่าหายใจหอบ จากนั้นเมื่อผมกำลังเดินขึ้นบันได อยู่ๆ ก็รู้สึกขึ้นมาว่าตัวผมแก่แล้ว แพทย์แจ้งว่าผมมีอาการหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอและจำเป็นต้องผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ

“ตอนนี้ผมมีลิ้นหัวใจอันใหม่และลิ้นหัวใจอีกอันที่ถูกซ่อมแซ่ม” นักแสดงจากเรื่อง Good Will Hunting ระบุ ก่อนที่จะนำภาพถ่ายแผลเป็นมาโชว์ให้ผู้ชมดู

อ่านต่อที่ : “โรบิน วิลเลียมส์”โชว์รอยแผลเป็นยาว หลังผ่าตัดหัวใจ

งดงามแบบเงียบสงบที่ “เชียงคาน” เมืองที่โลกาภิวัตน์ยังมิอาจพัดพา พฤษภาคม 14, 2009

งดงามแบบเงียบสงบที่ “เชียงคาน”
เมืองที่โลกาภิวัตน์ยังมิอาจพัดพา

คมชัดลึก :วันนี้ “เชียงคาน” เริ่มดัง และมีแต่จะดังมากขึ้นทุกวัน จากการโปรโมทของนักท่องเที่ยวอันซีนกลุ่มเล็กๆ ที่หลงรักบรรยากาศความเงียบสงบของชุมชนชนบทที่ดำเนินชีวิตกันอย่างเรียบง่าย ชาวบ้านยังคงมีรอยยิ้มใสๆ ไว้ต้อนรับผู้มาเยือนด้วยอัธยาศัยไมตรีอันดี

  บ้านเรือนที่เชียงคานส่วนใหญ่ยังปลูกเป็นเรือนแถวไม้ เรียงรายไปตามถนนเลียบริมโขง ประตูบานเฟี้ยมเรียงติดกันเป็นพืด แต่แง้มไว้เพียงบานสองบานให้เพียงพอต่อการเข้าออกเท่านั้น ซึ่งบรรยากาศเดิมๆ แบบนี้ช่วยเสริมให้เชียงคานน่าหลงไหลมากยิ่งขึ้น

 เสน่ห์ในวันนี้ของ ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย ทำให้หลายคนนึกถึงบรรยากาศของเมืองฮิพรุ่นพี่อย่าง “เมืองปาย” ในอดีต ที่เปลี่ยนจากเมืองที่น่ารักใสๆ แบบบ้านๆ กลายเป็นเมืองแฟชั่นแห่งการท่องเที่ยวเต็มตัวไปเสียแล้ว !!!

 แต่วันนี้ของเชียงคาน สายน้ำโขงที่ไหลจากเหนือสู่ใต้ยังคงไหลเอื่อย…เช่นเดียวกับชีพจรของเมืองที่เวลาเหมือนจะหยุดนิ่งอยู่กับที่ ราวกับกระแสโลกาภิวัตน์ไม่อาจพัดพา และโยกคลอนวิถีดั้งเดิมของเมืองริมโขงแห่งนี้ไปได้เลย

 ทว่า ก็ยังน่าหวั่นใจกับจริตของผู้คนในเมืองที่เคยชินกับความสะดวกสบาย และแสงสี ซึ่งเริ่มสนใจที่จะมาลงทุนทำธุรกิจที่เชียงคานมากขึ้น โชคดีที่เจ้าของที่ดินริมฝั่งโขงยังคงปฏิเสธการเปลี่ยนแปลงสิทธิ์บนผืนดินแห่งนี้อยู่ แต่ก็ไม่แน่ว่าจะต้านอำนาจเงินได้สักเท่าไหร่

 อัจฉพรรณ บุญเจริญ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเลย กล่าวถึงความเปลี่ยนแปลงของเชียงคานที่น่าห่วงว่า ทุกวันนี้ในวันศุกร์ก่อนวันหยุดยาว เจ้าของร้านค้าที่มาเช่าห้องแถวไม้ในอัตราเดือนละ 1,500 บาทเอาไว้ จะเดินทางจากกรุงเทพฯ มาเปิดร้านขายงานศิลปะ และสินค้าที่ระลึกกันอย่างเป็นล่ำเป็นสันเพื่อรองรับกระแสของนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลมาเที่ยวเชียงคานมากขึ้นทุกขณะ

 นี่คือสัญญาณการก่อตัวของธุรกิจท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ ซึ่งก่อตัวมาจากถนนข้าวสาร ต่อเนื่องมาถึงปาย และกำลังจะลามมาถึงเชียงคานในไม่ช้านี้

 ผอ.ททท.เลย บอกว่า ได้หารือเรื่องนี้กับนายกเทศมนตรีเชียงคาน และชาวบ้าน ซึ่งทุกคนก็เข้าใจ และพยายามรักษาถนนสายล่าง ซึ่งเป็นถนนสายวัฒนธรรมที่มีระยะทางราว 2 กิโลเมตร ให้ยังคงเสน่ห์ต่อไปให้ได้

 รูปแบบที่เห็นตรงกัน คือ ไม่ได้ห้ามการขยายตัวของธุรกิจ แต่การลงทุนต่างๆ จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคนในพื้นที่ก่อน โดยขอให้ร้านรวงต่างๆ ที่แปลกแยกกับวิถีชีวิตพื้นถิ่นให้ไปใช้พื้นที่บนถนนสายบน ซึ่งมีความเจริญ และเหมาะสมกว่า

 แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่มีความน่าสนใจของเชียงคาน หากเริ่มที่วัดก็ได้แก่ วัดศรีคุณเมือง ซึ่งมีพระอุโบสถอายุกว่า 160 ปี เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนศิลปะล้านช้าง คล้ายกับ “วัดเชียงทอง” ของหลวงพระบาง เมืองมรดกโลกของลาว

 ความคล้ายคลึงดังกล่าว ก็เนื่องจากตามประวัติศาสตร์แล้ว คนเชียงคานเองก็สืบเชื้อสายมาจากคนหลวงพระบาง จึงมีสำเนียงการพูดที่คล้ายกัน และยังมีความตั้งใจที่จะเดินตามการพัฒนาอย่างเรียบง่ายอย่างหลวงพระบางที่อยู่อีกฝั่งโขงเช่นกัน

 ส่วนแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่น่าสนใจก็เช่น “แก่งคุดคู้” ซึ่งเป็นแก่งหินธรรมชาติที่จะโผล่พ้นน้ำเฉพาะในช่วงหน้าแล้งเท่านั้น หรือ “ภูคกงิ้ว” จุดชมแม่น้ำสองสี ซึ่งเป็นการไหลบรรจบกันของแม่น้ำโขงและแม่น้ำเหือง หรือ “ภูทอก” จุดชมวิวเมืองเชียงคาน เป็นต้น

 พาหนะที่เหมาะจะชมเมืองเล็กๆ อย่างเชียงคานมากที่สุด คือ “จักรยาน” โดยมีค่าเช่าแสนถูก เพียง 50 บาทต่อวันเท่านั้น แถมยังเป็นการออกกำลัง และสูดอากาศบริสุทธิ์ไปในตัวอีกด้วย

 อีกกิจกรรมที่ไม่น่าพลาดสำหรับคนตื่นเช้า คือ การ “ใส่บาตรข้าวเหนียว” ซึ่งชาวบ้านนำข้าวเหนียวใส่กระติ๊บมานั่งรอใส่บาตรพระ หากใครเคยดูสารคดีการท่องเที่ยวหลวงพระบางมาแล้ว บรรยากาศที่นี่ก็คล้ายๆ กัน แต่ไม่ต้องข้ามไปอีกฝั่งโขงเท่านั้นเอง

 ทั้งนี้ เมนูอาหารแนะนำคงหนีไม่พ้นผลผลิตจากลำน้ำโขง ซึ่งก็คือปลาน้ำจิดชนิดต่างๆ รวมทั้งกุ้งเต้น เสิร์ฟมาด้วยถ้วยปิดฝา ซึ่งมีคำกล่าวเล่นๆ กันว่า “กุ้งเดินขบวนที่แก่งลำดวน…เดินเท้าทวนน้ำมาเต้นในจาน”

 แต่ถ้าใครไม่ชอบทำบาป ไม่อยากฆาตกรรมกุ้งเป็นๆ ในช่องปาก ก็น่าจะลองสั่ง กุ้งนอน หรือกุ้งฝอยลวกสุก ซึ่งปรุงรสในสูตรเดียวกัน มาลิ้มลองความแซบแทนก็ได้

 ขณะที่เมนูปลาก็มีความแซบเช่นกัน ปลาที่นี่ถึงแม้จะเป็นปลาเลี้ยงในกระชัง แต่ก็ให้รสชาติที่ต่างจากปลากระชังที่อื่น เพราะลักษณะของสายน้ำที่ไหลแรงตลอดปี ทำให้ปลาเนื้อแน่น และไม่มีกลิ่นสาบโคลนเหมือนปลาเลี้ยงจากแหล่งอื่นๆ

 นักท่องเที่ยวท่านใดพอมีเวลา ก็จงรีบมาเที่ยวเชียงคานเสียแต่เนิ่นๆ เพราะไม่แน่ว่า เชียงคานจะยังคงรักษาเสน่ห์ความงามแบบเรียบง่ายแบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน

 แต่ถ้าคนเชียงคานยังมั่นคงในจุดยืนการอนุรักษ์บรรยากาศดั้งเดิมเอาไว้ โดยไม่ปล่อยให้ความวุ่นวาย และอึกทึกครึกโครมมาทำลายความเงียบสงบไปเสียก่อน เชียงคานก็ยังน่าแวะเวียนไปสัมผัสครั้งแล้วครั้งเล่าไปอีกนาน

“กิตตินันท์ รอดสุพรรณ”
Kittinun@nationgroup.com

อ่านต่อที่ : งดงามแบบเงียบสงบที่ “เชียงคาน”
เมืองที่โลกาภิวัตน์ยังมิอาจพัดพา

เกาหลีใต้-สหรัฐช่วยเรืออียิปต์รอดจากโจรสลัดโซมาเลีย พฤษภาคม 14, 2009

เกาหลีใต้-สหรัฐช่วยเรืออียิปต์รอดจากโจรสลัดโซมาเลีย

เกาหลีใต้-สหรัฐช่วยเรืออียิปต์รอดจากโจรสลัดโซมาเลีย โซล 14 พ.ค. – เฮลิคอปเตอร์เกาหลีใต้และสหรัฐช่วยกันขับไล่โจรสลัดที่พยายามโจมตีเรืออียิปต์บริเวณน่านน้ำนอกชายฝั่งโซมาเลีย นับเป็นครั้งที่สี่ที่กองเรือเกาหลีใต้สามารถขับไล่โจรสลัดออกไปได้นับตั้งแต่ได้รับมอบหมายมายังพื้นที่ดังกล่าวเมื่อเดือนที่แล้ว

เรือโจรสลัดอยู่ห่างจากเรืออามิรา ระวางขับน้ำ 74,000 ตันของอียิปต์เป็นระยะทางราว 1.8 กิโลเมตร เมื่อวันพุธ ในขณะที่เฮลิคอปเตอร์เกาหลีใต้บินเข้าขับไล่ในทันที  โดยได้รับความช่วยเหลือจากเฮลิคอปเตอร์สหรัฐที่ตามมาทีหลัง  ทั้งนี้เกาหลีใต้ส่งเรือพิฆาตพร้อมลูกเรือ 300 คน และเฮลิคอปเตอร์ มาช่วยปราบปรามโจรสลัดบริเวณน่านน้ำโซมาเลีย หลังเรือหลายลำถูกโจรสลัดยึดไป  จนถึงขณะนี้มีเรือต่างชาติถึง 20 ลำที่ลาดตระเวนในน่านน้ำดังกล่าวเพื่อให้การคุ้มกันเส้นทางขนส่งสินค้าสำคัญสายนี้ .-สำนักข่าวไทย

อ่านต่อที่ : เกาหลีใต้-สหรัฐช่วยเรืออียิปต์รอดจากโจรสลัดโซมาเลีย

“บิ๊กสิน” ยิ้ม “ต๋อง” ตั้งใจจริงคัมแบ็กสอยคิวโลก พฤษภาคม 14, 2009

“บิ๊กสิน” ยิ้ม “ต๋อง” ตั้งใจจริงคัมแบ็กสอยคิวโลก

“บิ๊กสิน” ยิ้ม “ต๋อง” ตั้งใจจริงคัมแบ็กสอยคิวโลก

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 15:12 น.

“ต๋อง” ขอพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง

       นายสินธุ พูนศิริวงศ์ “บิ๊กสิน“นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจกับ รัชพล ภู่โอบอ้อม หรือ”ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” นักสอยคิวขวัญใจชาวไทย ที่แสดงความมุ่งมั่นจะกลับมาเทิร์นโปรลงแข่งศึกสอยคิวอาชีพโลกฤดูกาลหน้า ที่ประเทศอังกฤษ โดยสัญญาว่าจะเดินเรื่องขอสปอนเซอร์ให้อย่างเต็มที่
       
       หลังจากที่ รัชพล ภู่โอบอ้อม นักแทงเบอร์ 1 ของไทย ซึ่งเพิ่งประกาศศักดาเป็นนักสนุกเกอร์เอเชียคนแรกคว้าแชมป์สมัยที่ 3 ในการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 25 เมืองถังซาน ประเทศจีน เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ทำให้ได้สิทธิ์เดินทางไปแข่งขันสนุกเกอร์อาชีพโลกอีกครั้ง โดยคิดว่าหนนี้จะเป็นการพิสูจน์ฝีมือตัวเองครั้งสุดท้ายในชีวิตนักกีฬาอาชีพ หากไม่ประสบความสำาเร็จก็คงจะกลับมารับใช้ทีมชาติไทยแข่งขันในระดับเอเชีย และไม่คิดที่จะหวนคืนกลับเวทีโลกเป็นครั้งที่ 3 แล้ว เพราะอายุมากขึ้น ควรจะเปิดโอกาสให้กับน้องๆขึ้นมาบ้าง จากนี้ไปจะต้องฟิตตัวเองตั้งใจฝึกซ้อมเต็มที่ เพื่อทวงคืนความยิ่งใหญ่กลับมาให้จงได้
       
       โดยเกมเตรียมความพร้อมล่าสุดเมื่อค่ำวันพุธที่ 13 พฤษภาคม ที่ผ่านมา”ไทยทอร์นาโด” พลาดลูกชิงดำในเฟรมตัดสิน จึงพ่ายให้แก่ แดเนียล เวลซ์ มืออันดับที่ 70 ของโลก ชาวเวลส์ 3-4 เฟรม ตกรอบ 8 คนสุดท้าย ไปอย่างน่าเสียดายในศึกสนุกเกอร์อาชีพไทยแลนด์แร็งกิ้ง “แสงโสม หัวหิน คัพ” ที่จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเกมดังกล่าว ต๋องสู้ได้อย่างสูสี โดยฝ่ายเริ่มต้นได้ดีกว่า ออกนำไปก่อน 2-0 เฟรม แต่ แดเนียล เวลซ์ ก็มาจูนเครื่องติดทันเวลาทันเวลาเป็นฝ่ายไล่ตบ ตีเสมอ 2-2 เฟรม เข้าสู่เฟรมที่ห้า เกมดำเนินไปอย่างคู่คี่ ช่วงแรก ต๋อง มีสกอร์ตามหลัง 13-20 โดยพยายามแทงกดดันให้คู่แข่งเล่นยาก แต่ไม่นิ่งพอวางขาวไม่ดีถึง 2 ไม้ ปล่อยให้ เวลซ์ กดเบรกไป 35 และ 18 แต้ม เอาชนะ 73-13 ขึ้นแท่น 3-2 เฟรม
       
       เข้าสู่เฟรมที่หก ต๋อง ออกลูกพลาดบ่อยครั้ง กันไม่ดี ทำให้เวลซ์ ได้ตบแดงหลุมบนขวา รัวกินดำถึง 3 ชุด แต่นักแม่นรูแดนมังกรแดง ก็กลับมาพลาดตบแดงไปฟัดจมูก เปิดโอกาสทองให้ ต๋อง ได้ตบทีละชุดอย่างใจเย็นจนแดงหมดโต๊ะต่อด้วยเหลืองทำเบรกไป 92 แต้ม ไล่ตีเสมอ 3-3 เฟรม ต้องตัดสินกันเฟรมสุดท้าย ซึ่งยอดนักสอยคิวเบอร์ 1ของไทย เป็นฝ่ายเริ่มคุมเกมได้ก่อน ตบรัวทำแต้มนำไป 56-0 ช่วงเข้าเบรก ต๋อง มาทำพลาดครั้งสำคัญ ตบแดงไปกระแทกจมูก ลูกขาววิ่งมากระทบแดงที่เหลือกระจายเต็มโต๊ะ ปลุก เวลซ์ ลุกขึ้นมากดไม้เดียว 7 แดง กินเหลืองถึงน้ำเงิน เหลือชมพู ทำสกอร์แซงนำ 67-56 แต่นักแม่นคิววัยหนุ่มซึ่งออกลูกเป๋ให้เห็น บ่อยในเกมนี้ แทงพลาดอย่างน่าเหลือเชื่อ ทำให้ต๋องมีโอกาส โดยบนโต๊ะที่เหลือมีแค่ ชมพูกับดำ ต๋องเก็บชมพูไปได้ แต่กลับพลาดลูกชิงดำ ซึ่งขาววางอยู่หัวโต๊ะ ต๋องพยายามเช็ด แต่หนาเกินไป ทำให้เวลซ์ รับส้มหล่นไปเต็มๆ ส่งผลให้ ต๋อง พ่ายไปอย่างน่าเจ็บปวด 74-62 เป็นผลให้ เวลซ์ เฉือนชนะแบบสุดสูสี 4-3 เฟรม 38-51, 1-89, 67-11, 72-37, 71-13, 24-92, 74-62 ท่ามกลางความเสียดายของกองเชียร์ไทยที่เข้ามาให้กำลังใจอย่างแน่นขนัด
       
       ส่วนรายการต่อไป ต๋องจะลงทำแข่งขันศึก Suphun Buri Thailand Cup 2009 ดิวิชั่น 1 รายการที่ 2 (รอบ 16 คน) ซึ่งเป็นรายการสะสมคะแนน ประจำปี 2552 ระหว่างวันที่ 24 – 29 พฤษภาคม 2552 ณ โรงแรมพชร จังหวัดสุพรรณบุรี โดยได้รับสิทธิ์ ไวด์คาร์ดหรือ รับเชิญให้ลงแข่ง สำหรับอันดับโลกในปัจจุบันของต๋องนั้นยังไม่มี เนื่องจากปีที่แล้วไม่ลงเล่นในรายการสะสมคะแนนเลย อันดับโลกสูงสุดที่เคยทำได้คืออันดับที่ 3 ของโลกในช่วงฤดูกาลปี 1994/95 โดยเป็นรองเพียงสตีเวน เฮนดรี้ และสตีฟ เดวิสเท่านั้น
       
       จากการตั้งใจที่จะกลับมาของต๋องอย่างจริงจัง “บิ๊กสิน” นายสินธุ พูนศิริวงศ์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย ก็เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจกับ ต๋อง ที่สามารถพิสูจน์ตัวเอง จนทำให้กลับไปเล่นอาชีพโลกได้อีกครั้ง แม้ว่าต๋องจะอายุมากขึ้น แต่กีฬาชนิดนี้ยิ่งอายุมากยิ่งเก๋าและต้องรัดกุมกว่าเด็กใหม่ๆ แต่สิ่งที่ ต๋อง จะต้องแก้ไขคือลูกแม่นและการเดินขาวเข้าเบรกในจังหวะสำคัญยังพลาดอยู่มาก ส่วนสปอนเซอร์สมาคมจะให้การสนับสนุนเต็มที่ เพราะตัว ต๋อง เองก็มีประสบการณ์ในระดับโลกมากว่า 20 ปี กลับไปใหม่ครั้งนี้น่าจะเอาตัวรอดยืนระยะได้นานเหมือน จิมมี่ ไวท์ และ สตีฟ เดวิส อดีตแชมป์โลก
       
       ขณะที่ “คิวทอง” ศักดา รัตนสุวรรณ อุปนายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีในศึกสอย คิวอาชีพโลกฤดูกาลหน้า นอกเหนือจาก ต๋อง แล้ว ยังมี “บิ๊ก สระบุรี” อรรถสิทธิ์ มหิทธิ อดีตแชมป์สมัครเล่นโลกปี 50 และ “เอฟ นครนายก” เทพไชยา อุ่นหนู แชมป์สมัครเล่นโลกปี 51 เดินทางไปแข่งขัน ล่าสุดเรายังมี “แซ็ก โซโฟน” นพดล แสงนิล ที่คัดเลือกติด 1 ใน 6 รอบชาเลนจ์ทัวร์ขึ้นชั้นไปเล่นอาชีพโลกด้วย เท่ากับว่า นักสนุกเกอร์ไทยจะได้เล่นอาชีพโลกถึง 4 คน ส่วนตัวคาดว่า แต่ละคนจะสร้างผลงานที่ดีกลับมา

อ่านต่อที่ : “บิ๊กสิน” ยิ้ม “ต๋อง” ตั้งใจจริงคัมแบ็กสอยคิวโลก

ครบ 5 ปีการอภิเษก ซุบซิบเจ้าชายเดนมาร์กรักเริ่มร้าวกับเจ้าหญิงแมรี่ พฤษภาคม 14, 2009

ครบ 5 ปีการอภิเษก ซุบซิบเจ้าชายเดนมาร์กรักเริ่มร้าวกับเจ้าหญิงแมรี่

ครบ 5 ปีการอภิเษก ซุบซิบเจ้าชายเดนมาร์กรักเริ่มร้าวกับเจ้าหญิงแมรี่

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 14:34 น.

       ดิเอจ – ภาพโอบกอดกันระหว่างมกุฏราชกุมารเฟรเดริก และเจ้าหญิงแมรี่ คงช่วยสยบข่าวลือที่ซุบซิบกัน ว่า ความรักของทั้งสองพระองค์เริ่มระหองระแหงลงบ้าง โดยภาพดังกล่าวเป็นหนึ่งในภาพชุดที่สำนักพระราชวังเดนมาร์กเผยแพร่ออกมาในวาระครบรอบ 5 ปี การอภิเษกสมรสของเจ้าชายและเจ้าหญิงสามัญชนชาวออสเตรเลีย

       ภายถ่ายชุดนี้มีทั้งหมด 5 ภาพ ซึ่งรวมถึงภาพครอบครัวของพระองค์ ที่ประกอบไปด้วย เจ้าชายน้อยคริสเตียน พระชนมายุ 3 ชันษา และเจ้าหญิงน้อยอิซาเบลลา พระชนมายุ 2 ชันษา

       ภาพแสดงความรักต่อกันอย่างหวานซึ้งชุดนี้ขัดแย้งกับคำอ้างในหนังสือเล่มใหม่ที่ระบุว่า ชีวิตสมรสของทั้งสองพระองค์เริ่มมีปัญหา
       
       ไทรน์ วิลล์แมนน์ ผู้เขียนและอดีตนักข่าวประจำราชสำนัก เขียนลงหนังสือว่า เจ้าหญิงแมรี่กำลังทรงดิ้นรนจัดการกับความเป็นเพลย์บอยของพระสวามี

       หนังสือ “เดอะคิงแอนด์เดอะควีนออฟกรีนแลนด์” เล่มนี้ ยังวิพากษ์วิจารณ์ การใช้จ่ายของทั้งสองพระองค์ หลังรายงานของทางการระบุว่า ค่าใช้จ่ายในชีวิตพระจำพระองค์เกินงบไปแล้ว 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ จากงบที่ตั้งไว้ 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

       ทั้งนี้ เจ้าชายเฟรเดริก และเจ้าหญิงแมรี่ อภิเษกสมรสกันในปี 2004 หลังจากพบกันระหว่างมหกรรมกีฬาโอลิมปิคในนครซิดนีย์ของออสเตรเลีย ในปี 2000
       
       เจ้าชายเฟรเดริก มีกำหนดเสด็จเยือนออสเตรเลียอีกครั้งในเตือนตุลาคมนี้ เพื่อเข้าร่วมแข่งขันเรือในกีฬา World Masters Games ที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ขณะที่รัฐมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ของแดนจิงโจ้กล่าวว่า เป็นความยินดียิ่งที่จะได้ถวายการต้อนรับเจ้าชายที่จะทรงกลับมาเยือนเมืองที่พระองค์ทรงได้พบพระชายาชาวแทสมาเนียอีกครั้ง

อ่านต่อที่ : ครบ 5 ปีการอภิเษก ซุบซิบเจ้าชายเดนมาร์กรักเริ่มร้าวกับเจ้าหญิงแมรี่

ลาซิโอ ดวลจุดโทษเฉือน ซามพ์โดเรีย ครองแชมป์ฟุตบอลโคปา อิตาเลีย พฤษภาคม 14, 2009

ลาซิโอ ดวลจุดโทษเฉือน ซามพ์โดเรีย ครองแชมป์ฟุตบอลโคปา อิตาเลีย

อ่านต่อที่ : ลาซิโอ ดวลจุดโทษเฉือน ซามพ์โดเรีย ครองแชมป์ฟุตบอลโคปา อิตาเลีย

“อินทรี” ดวลเป้าดับ “ซามพ์” คว้าถ้วยโคปปาอิตาเลีย พฤษภาคม 14, 2009

“อินทรี” ดวลเป้าดับ “ซามพ์” คว้าถ้วยโคปปาอิตาเลีย

“อินทรี” ดวลเป้าดับ “ซามพ์” คว้าถ้วยโคปปาอิตาเลีย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 05:03 น.

พลพรรคอินทรีฟ้า-ขาวได้ฉลองแชมป์ในบั้นปลาย

       ลาซิโอ สู้กับ ซามพ์โดเรีย อย่างทรหดถึง 120 นาที หลังเสมอในเวลาปกติ 1-1 ก่อนยิงจุดโทษได้แม่นยำกว่าชนะไป 6-5 ผงาดคว้าแชมป์โคปปา อิตาเลีย ไปครอง พร้อมทั้งสิทธิ์ไปเล่น ยูโรปา ลีก ฤดูกาลหน้า
       
        ศึกโคปปา อิตาเลีย รอบชิงชนะเลิศ เมื่อคืนวันพุธที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่สนามสตาดิโอ โอลิมปิโก ในกรุงโรม ลาซิโอ ทีมอันดับ 10 บนตารางกัลโช เซเรีย อา อิตาลี โคจรมาพบกับ ซามพ์โดเรีย ทีมอันดับ 12 ของลีก โดยหนล่าสุดที่ “อินทรีฟ้า-ขาว” ได้แชมป์รายการนี้คือปี 2004 ส่วน “บลูแชร์คิอาตี” นั้นต้องย้อนกลับไปถึง 15 ปี
       
        เริ่มเกมมาได้แค่ 4 นาที เมาโร ซาราเต ดาวยิงชาวอาร์เจนไตน์ก็แผลงฤทธิ์สังหารให้ ลาซิโอ ขึ้นนำไปก่อน 1-0 ก่อนที่ จามเปาโล ปาซซินี หัวหอกทีมชาติอิตาลีจะตีเสมอให้ ซามพ์โดเรีย เป็น 1-1 ในนาทีที่ 31 จากนั้นช่วงเวลาที่เหลือใน 90 นาทีปกติไม่มีใครใส่สกอร์เพิ่มได้ ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที
       
        กระนั้น ทั้งสองฝ่ายก็ยังไม่เพลี่ยงพล้ำ ทำให้เกมยืดเยื้อออกไปถึงช่วงดวลลูกจุดโทษตัดสิน ซึ่ง เฟอร์นานโด มุสเลรา ผู้รักษาประตูชาวอุรุกวัยของเบียงโคเชเลสเตกลายเป็นฮีโร เมื่อสามารถเซฟลูกยิงของ อันโตนิโอ คาสซาโน กับ ฮูโก คัมปันยาโร ได้ ขณะที่ ตอมมาโซ ร็อคคี เป็นเพียงคนเดียวของอินทรีฟ้า-ขาวที่ซัดไม่เข้า ก่อนที่ อุสมัน ดาโบ จะซัดปิดท้ายให้ทีมชนะในการดวลเป้า 6-5 ซิวถ้วยแชมป์ไปครอง พร้อมทั้งตีตั๋วไปลุยยูโรปา ลีก

อ่านต่อที่ : “อินทรี” ดวลเป้าดับ “ซามพ์” คว้าถ้วยโคปปาอิตาเลีย

ลาซิโอซัดจุดโทษชนะลาซามพ์คว้าแชมป์โคปปา อิตาเลีย พฤษภาคม 14, 2009

ลาซิโอซัดจุดโทษชนะลาซามพ์คว้าแชมป์โคปปา อิตาเลีย

ลาซิโอซัดจุดโทษชนะลาซามพ์คว้าแชมป์โคปปา อิตาเลีย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 04:37 น.

       “อินฟรีฟ้าขาว” ลาซิโอ คว้าแชมป์โคปปา อิตาเลีย ประจำฤดูกาลนี้ไปครอง หลังเสมอกับ ซามพ์โดเรีย ใน 90 นาทีของรอบชิงชนะเลิศ 1-1 ก่อนเอาชนะไปในการดวลจุดโทษ 6-5

อ่านต่อที่ : ลาซิโอซัดจุดโทษชนะลาซามพ์คว้าแชมป์โคปปา อิตาเลีย

ฮูสั่งเร่งสืบแหล่งแพร่เชื้อหวัดมรณะ พฤษภาคม 14, 2009

ฮูสั่งเร่งสืบแหล่งแพร่เชื้อหวัดมรณะ

เมื่อวานนี้ องค์การอนามัยโลก (ฮู) ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสืบหาต้นตอการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ 2009 เอช1เอ็น1 ทันที หลังจากที่นักวิทยาศาสตร์ชาวออสเตรเลีย ส่งรายงานอ้างสาเหตุการแพร่ระบาดครั้งล่าสุด เป็นผลมาจากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นระหว่างการทดลองในห้องวิทยาศาสตร์

อาเดรน กิบส์ วัย 75 ปี นักวิทยาศาสตร์ผู้มีส่วนร่วมในการพัฒนายาต้านไวรัสทามิฟลู ของบริษัท โรช โฮลดิง เอจี ระบุในผลการศึกษาครั้งล่าสุด ว่าการกระจายของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นโดยบังเอิญ จากไข่ที่นักวิทยาศาสตร์นำมาใช้เพาะเลี้ยงเชื้อไวรัสในห้องทดลอง ก่อนที่จะนำเชื้อดังกล่าวมาผลิตเป็นวัคซีน

“คำอธิบายที่ง่ายที่สุดก็คือ ไข่ที่ใช้เลี้ยงเชื้อไวรัสได้หายออกไปจากห้องทดลอง” กิบส์ กล่าว

ผลการศึกษาของนักวิทยา ศาสตร์ออสเตรเลียครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการเร่งค้นหาแหล่งต้นกำเนิดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่กำลังคุกคามหลายประเทศ

อย่างไรก็ตาม แนนซี ค็อกซ์ ผู้อำนวยฝ่ายวิจัยไข้หวัดใหญ่ ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อสหรัฐ ได้ตอบโต้ผลการศึกษาดังกล่าวว่า เวลานี้ยังไม่มีหลักฐานใดๆ บ่งชี้อย่างชัดเจนว่าเชื้อไวรัสที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน เกิดจากไข่ตามคำกล่าวอ้างของกิบส์

นอกจากนี้ ฮูยังได้ประกาศเตือนไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ให้จำกัดการใช้ยาต้านไวรัส เช่น ทามิฟลูและรีเลนซาในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง อาทิ หญิงตั้งครรภ์ ที่มีระดับภูมิคุ้มกันของร่างกายอยู่ในระดับต่ำ ทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจว่าจะมียาสำรองเพียงพอ หากเชื้อไวรัสเกิดการกลายพันธุ์และมีอันตรายมากขึ้น

ขณะเดียวกันกระทรวงสาธารณสุขของจีน ได้แถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ของกระทรวง ยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ชนิดเอ เอช1เอ็น1 เป็นรายที่ 2 ของประเทศ เป็นชายวัย 30 ปี ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ซึ่งขณะนี้ได้เข้ารับการรักษาอาการป่วยและมีอาการดีขึ้นแล้ว

ด้าน โทมัส จาง ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันสุขภาพของฮ่องกง ก็รายงานว่า ยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวเช่นกัน โดยเป็นชายอายุ 24 ปี ที่เดินทางกลับมาจากสหรัฐ และได้ถูกนำตัวส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลท้องถิ่นทันที ซึ่งอาการในขณะนี้ยังทรงตัว

อ่านต่อที่ : ฮูสั่งเร่งสืบแหล่งแพร่เชื้อหวัดมรณะ

ดินาร่า ซาฟิน่า จากรัสเซีย เข้ารอบ 8 คนสุดท้าย เทนนิสอิตาลี พฤษภาคม 13, 2009

ดินาร่า ซาฟิน่า จากรัสเซีย เข้ารอบ 8 คนสุดท้าย เทนนิสอิตาลี

อ่านต่อที่ : ดินาร่า ซาฟิน่า จากรัสเซีย เข้ารอบ 8 คนสุดท้าย เทนนิสอิตาลี