jump to navigation

ดีเอสไอจับนักตุ๋น”แชร์ก๊วยเตี๋ยวบางกอก” เชิดเงินเหยื่อ 200 ล้าน พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in อาชญากรรม.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

ดีเอสไอจับนักตุ๋น”แชร์ก๊วยเตี๋ยวบางกอก” เชิดเงินเหยื่อ 200 ล้าน

ดีเอสไอจับนักตุ๋น “แชร์ก๋วยเตี๋ยวบางกอก” เชิดเงินเหยื่อ 200 ล้าน

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม
14 พฤษภาคม 2552 13:04 น.

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผอ.สำนักคดีอาญาพิเศษ

ดีเอสไอรวบผู้ต้องหาคดี “แชร์ก๋วยเตี๋ยวบางกอก” เชิดเงินผู้ร่วมทุนกว่า 200 ล้านบาท แล้วหนีไปเปิดบริษัทไบโอดีเซลหลอกตุ๋นเงินชาวบ้านให้ซื้อหัวจ่ายน้ำมัน 400,000 บาท แลกรับเงินปันผล 24 งวด หิ้วฝากขังวันนี้ พร้อมแจ้งเตือนให้ประชาชนระวังถูกหลอกในรูปแบบดังกล่าว วอนแจ้งเบาะแสมายังดีเอสไอถ้าเจอลักษณะการต้มตุ๋นเช่นนี้
       
       วันนี้ (14 พ.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผอ.สำนักคดีอาญาพิเศษ เปิดเผยว่า ส่วนสืบสวนสะกดรอย ดีเอสไอ ได้ติดตามจับกุม นายเกรียงไกร อุ่นน้อย หรือ “ทอมมี่” ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาในคดีแชร์ก๋วยเตี๋ยวบางกอก บริษัท สยามฟูดซ์แฟรนไชส์ จำกัด ซึ่งมีประชาชนได้รับความเสียหายจากการถูกหลอกลวงเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จำนวน 1,054 คน มูลค่าความเสียหายคิดเป็นเงิน 223,431,850 บาท โดยนายเกรียงไกรหลบหนีไปเปิด บริษัท ไบโอปิโตรเลียม เลขที่ 98/38 แฟคตอรี่แลนด์ 2 ซอย 3 ถนนพุทธมณฑล สาย 5 ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม โดยนายเกรียงไกรใช้ชื่อปลอมว่า นายกฤษฎ์ ตะวังทัน หรือ “กร” และมีพฤติการณ์หลอกลวงให้ประชาชนนำเงินไปลงทุนหัวจ่ายน้ำมันไบโอดีเซล หัวละ 400,000 บาท และจะได้รับเงินปันผลคืนเดือนละ 37,500 บาท รวม 24 เดือน เป็นเงิน 900,000 บาท เข้าข่ายเป็นความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน มีผู้เสียหายหลงเชื่อนำเงินไปลงทุนแล้ว 5-6 คน ซึ่งดีเอสไอจะนำตัวนายเกรียงไกร ฯ ฝากขังต่อศาลอาญาในวันนี้ (14 พ.ค.)
       
       พ.อ.ปิยะวัฒก์ กล่าวอีกว่า ดีเอสไอขอแจ้งเตือนให้ประชาชนระมัดระวังการถูกหลอกลวงในพฤติการณ์ดังกล่าว และหากพบเห็นหรือมีบุคคลใดมาชักชวนให้นำเงินไปลงทุนในลักษณะดังกล่าว ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ หรือแจ้งต่อดีเอสไอ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
       
       สำหรับบริษัทหรือบุคคลที่กำลังประกอบธุรกิจอันอาจเข้าข่ายเป็นความผิดเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ขอให้ยุติการกระทำที่เป็นการหลอกลวงฉ้อโกงประชาชน ก่อนที่ดีเอสไอจะเข้าดำเนินการขั้นเด็ดขาดทั้งคดีอาญา คดีฟอกเงิน และคดีล้มละลาย และอาจจะดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำตนเป็นแม่ทีมหรือแม่ข่ายด้วย หากพบว่ามีส่วนร่วมในการกระทำความผิด

อ่านต่อที่ : ดีเอสไอจับนักตุ๋น”แชร์ก๊วยเตี๋ยวบางกอก” เชิดเงินเหยื่อ 200 ล้าน

กรมศุลกากรเตือนภัยสาวไทยถูกหลอกผ่านเน็ต พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in ทั่วไป.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

กรมศุลกากรเตือนภัยสาวไทยถูกหลอกผ่านเน็ต

กรมศุลกากรเตือนภัยสาวไทยถูกหลอกผ่านเน็ต

นายยุทธนา   หยิมการุณ  ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง  ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร  เปิดเผยเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมว่า  ปัจจุบันกรมศุลกากรได้รับแจ้งจากหญิงไทยหลายรายว่า ได้มีการติดต่อกับชายชาวต่างชาติทางอินเตอร์เน็ตและชายชาวต่างชาติผู้นั้นได้แจ้งว่าจะส่งของกำนัลต่างๆ เช่น โน้ตบุ๊คส์   สร้อยคอ   หรือเงินสด ฯลฯ มาให้ จากนั้นก็จะได้รับการติดต่อจากบริษัทขนส่งสินค้าในต่างประเทศ เช่น มาเลเซียบ้าง ฟิลิปปินส์บ้าง ทาง่อีเมล และโทรศัพท์ ว่าให้โอนเงินจำนวนมากไปให้เพื่อเป็นค่าภาษีอากรสำหรับการออกของที่ศุลกากรประเทศนั้นๆ รวมทั้งเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดส่งของมายังประเทศไทย

กรมศุลกากรแจ้งอีกว่า พฤติกรรมดังกล่าวน่าจะเป็นการหลอกล่วงของมิจฉาชีพ เนื่องจากตามข้อเท็จจริงสินค้าหรือของที่มีปลายทางถึงผู้รับในประเทศไทย  เจ้าหน้าที่ศุลกากรที่ปฏิบัติงาน ณ ท่าหรือที่ที่สินค้านั้นๆผ่านเข้ามา จะเป็นผู้เปิดตรวจ และหากเป็นสินค้าหรือสิ่งของที่ต้องเก็บค่าภาษีอากร เจ้าหน้าที่จะเรียกเก็บค่าภาษีอากรตามกฎหมายไทยและดำเนินการในประเทศไทย โดยไม่มีการเปิดตรวจหรือเก็บภาษีที่ต่างประเทศแต่อย่างใด 

โฆษกกรมศุลกากร กล่าวว่า  นอกจากกรณีข้างต้นแล้ว  เมื่อเร็วๆนี้  ด่านศุลกากรพิบูลมังสาหาร ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุบลราชธานี จับกุมบุคคลที่แต่งตัวเลียนแบบเครื่องแบบกรมศุลกากร แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ศุลกากร โดยใช้ยานพาหนะติดตรากรมศุลกากร และมีพฤติกรรมเรียกตรวจค้นรถสินค้า และเรียกรับเงินจากร้านค้าแผงลอยในเขตจังหวัดอุบลราชธานี ยโสธร อำนาจเจริญ มุกดาหาร ศรีสะเกษ และร้อยเอ็ด  ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นความผิดฐาน จัดทำ และใช้เครื่องหมายราชการโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามความผิด มาตรา 6-8 แห่ง พ.ร.บ.เครื่องหมายราชการ พ.ศ.2482  ปลอมและใช้ทะเบียนปลอมตามพระราชบัญญัติขนส่งทางบก พ.ศ.2522 รวมทั้งปลอมและใช้เอกสารราชการปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา    

อ่านต่อที่ : กรมศุลกากรเตือนภัยสาวไทยถูกหลอกผ่านเน็ต

คาดเกณฑ์วิทยุชุมชนมีผลมิ.ย.นี้ พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in ทั่วไป.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

คาดเกณฑ์วิทยุชุมชนมีผลมิ.ย.นี้

ประชาพิจารณ์ร่างหลักเกณฑ์วิทยุชุมชน ผู้ประกอบการขอให้มีโฆษณาได้ เผยร่างหลักเกณฑ์ฯประกาศใช้ได้ต้นเดือน มิ.ย.นี้ เตือนระวังผู้แอบอ้างหลอกเงินช่วยเรื่องใบอนุญาต
 
พ.อ.ดร.นที ศุกลรัตน์ ประธานคณะทำงานด้านกิจการกระจายเสียงวิทยุชุมชน ในคณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ กล่าวภายหลังร่วมรับฟังความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะต่อร่างประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เรื่อง “หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตประกอบกิจการบริการชุมชนชั่วคราว (วิทยุกระจายเสียงชุมชน) และร่างมาตรฐานทางเทคนิคกิจการบริการชุมชน (วิทยุกระจายเสียงชุมชน) ฉบับชั่วคราว” เมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ ผ่านมา ว่าจากการทำประชาพิจารณ์ พบว่า ผู้ประกอบการมีข้อเสนอให้ยืดระยะเวลาการขอใบอนุญาตออกไปเป็น 1 ปี นับจากวันลงทะเบียนเป็นผู้ทดลองออกอากาศ รวมทั้งขอให้มีการโฆษณาในรายการได้
 
สำหรับขั้นตอนการดำเนินงานหลังรับฟังความคิดเห็น คณะทำงานจะนำไปปรับปรุงร่างหลักเกณฑ์ในวันที่ 13 พ.ค.นี้ และยื่นร่างหลักเกณฑ์ที่ได้ปรับปรุงให้คณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์พิจารณาในวันที่ 15 พ.ค. หลังจากนั้นส่งเรื่องให้ กทช.พิจารณาในวันที่ 20 พ.ค.นี้ โดย กทช.จะใช้เวลาพิจารณาและปรับปรุงเนื้อหาเพิ่มเติมอีกประมาณ 7 วัน ก่อนนำข้อมูลแสดงบนเว็บไซต์เป็นเวลา 7 วัน คาดจะประกาศในราชกิจจานุเบกษา และบังคับใช้ได้ประมาณต้นเดือน มิ.ย.นี้
 
พ.อ.ดร.นที กล่าวว่า การยื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการวิทยุชุมชนชั่วคราวมีค่าธรรมเนียมเพียงปีละ 500 บาทเท่านั้น ซึ่งขณะนี้มีผู้แอบอ้างว่าสามารถช่วยให้สถานีวิทยุชุมชนต่าง ๆ ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการวิทยุชุมชนได้ แต่ต้องใช้เงิน 6-7 แสนบาท ซึ่งขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และสถานีวิทยุชุมชนต่าง ๆ จะไม่สามารถขอใบอนุญาตได้ ถ้าไม่มี คุณสมบัติและเนื้อหาตามที่กฎหมายกำหนด.

อ่านต่อที่ : คาดเกณฑ์วิทยุชุมชนมีผลมิ.ย.นี้

ล่าโล้นหื่นหลอกด.ญ.ข่มขืนบนศาลาวัดจนท้อง3เดือน พฤษภาคม 13, 2009

Posted by 1000thainews in ทั่วไป.
Tags: , , , , , , , , , ,
add a comment

ล่าโล้นหื่นหลอกด.ญ.ข่มขืนบนศาลาวัดจนท้อง3เดือน

ล่าโล้นหื่นหลอกด.ญ.ข่มขืนบนศาลาวัดจนท้อง3เดือน

พ.ต.อ. ชัยสิทธิ์  ทรัพย์สิน    ผกก.สภ. โพทะเล   อำเภอโพทะเล  จ. พิจิตร   เปิดเผยเมื่อวันที่ 7 พ.ค. ว่า  ได้มีผู้ปกครองนำตัว ด.ญ.แนน (นามสมมติ)  อายุ 14 ปี  เข้ามาแจ้งความกับ  พ.ต.ท. เศรษฐ์วุฒิ  กัญทษา สารวัตรเวร  สภ. โพทะเล ว่า  ด.ญ.แนน ถูก พระประจวบ   ปานเขียว  อายุ 51 ปี  ซึ่งเป็นพระลูก วัดหิรัญญาราม หรือ  วัดบางคลาน กระทำชำเราข่มขืน บนศาลาวัด จนท้องได้ 3 เดือน   ซึ่งจากการนำตัวด.ญ.แนน  ไปตรวจร่างกายก็พบว่า ตั้งท้องจริง จึงได้บันทึกไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวน ด.ญ.แนน ทราบว่า พระประจวบ ได้หลอกให้เข้าไปหาบนศาลาวัดโดยอ้างว่า จะให้สิ่งของจากนั้น พระประจวบ ได้ตามขึ้นไปลงมือปุกปล้ำ  ด.ญ.แนน ไม่ยอมจากนั้น พระประจวบ จึงได้ลงมือข่มขืน ด.ญ.แนน หลายครั้งจน  ด.ญ.แนนตั้งท้อง ซึ่ง ผู้ปกครองของ ด.ญ.แนน ได้เข้ามาแจ้งความเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2552  แล้วปรากฏว่า  พระประจวบ ได้หลบหนีออกจากวัดไป ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ขอหมายศาลจากพิจิตร  ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี ในข้อหา ข่มขื่นกระทำชำเราเด็ก

 

พ.ต.อ. ชัยสิทธิ์   เปิดเผยอีกว่า  นอกจากนี้ พระประจวบยังมีพฤติกรรมไม่ดี แอบลักตู้บริจากวัดวัดบางคลานที่มี ประชาชน นำไปบริจาค ให้หลวงพ่อเงิน  หลายครั้งซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาเพิ่มอีก 1 ข้อหา ใน เรื่องของลักทรัพย์ โดย เมื่อวันที่6 พฤษภาคม ได้ขอหมาศาลพิจิตร อีก 1 หมาย เพื่อจับกุมตัวพระประจวบ ซึ่งผมเองไม่ได้นิ่งนอนใจสั่งให้ชุดสืบสวนออกติดตามตัวพระประจวบมาดำเนินคดีให้ได้ในเร็ววันนี้ 

 

อ่านต่อที่ : ล่าโล้นหื่นหลอกด.ญ.ข่มขืนบนศาลาวัดจนท้อง3เดือน

สุสานกะโหลกซุกตู้’คอนเทเนอร์’ พฤษภาคม 13, 2009

Posted by 1000thainews in ทั่วไป.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

สุสานกะโหลกซุกตู้’คอนเทเนอร์’

โผล่ในทะเลอ่าวไทย

ลือหึ่งเรือตังเกเมืองชล พบ “สุสานกะโหลกกลางทะเล” และตู้คอนเทรนเนอร์ปริศนา เกือบ 10 ใบ กระจัดกระจายกลางทะเลอ่าวไทยชื่อภายในเป็นซากศพ เผยตู้ผีหลอกปริศนา เครื่องมือสื่อสารจับเป้าได้ระยะไกล เข้าใกล้หายจากจอภาพ ตะลึงหัวกะโหลกติดอวน และติดเบ็ดมานานติดต่อกันเกือบ 20 ปี กว่า 100 หัว ขณะที่หลายหน่วยงานเริ่มตื่นตัว เตรียมเข้าตรวจสอบ

ลือหึ่งเรือตังเกเมืองชล พบ “สุสานกะโหลกกลางทะเล” รายนี้เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 6 พ.ค. นายปราโมทย์ โถวสกุล กำนันตำบลแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้เปิดเผยว่าขณะนี้มีกระแสข่าวแพร่สะพัดว่ามีชาวประมงพบสุสานกะโหลกมนุษย์ในทะเลอ่าวไทย และพบตู้คอนเทเนอร์ 8 ตู้ ถูกปิดสนิทจมอยู่ในทะเลหลายจุด ในระดับน้ำลึก 25, 30 และ 50 เมตร จุดแรก ในร่องน้ำทะเลเส้นทางเดินเรือสินค้าระหว่างเกาะไผ่ กับเกาะคราม จุดที่ 2 ห่างจากเกาะจวงไปทางด้านทิศใต้ประมาณ 30 ไมล์ทะเล และจุดที่ 3 ทางด้านทิศตะวันออกของเกาะจาน อ่าวแสมสาร พิกัดละติจูด 29 องศา 04 ลิปดา และพิกัด ละติจูด 30 องศา 05 ลิปดา
 
ซึ่งบริเวณใกล้เคียงแต่ละจุดเคยมีเรือประมงอวนลากพบกะโหลกมนุษย์ติดอวนมาแล้วจำนวนมาก โดยไต้ก๋งเรือบางลำเปิดเผยว่าเครื่องมือสื่อสารสามารถจับเป้าได้ระยะไกล แต่เมื่อเข้าใกล้กลับหายไปจากจอภาพ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่อง  แปลก จนพวกเรือประมงขนานนามว่า “สุสานกะโหลกกลางทะเล” โดยไม่มีใครรู้ที่มา ได้แต่สงสัยวิพากษ์วิจารณ์กันต่าง ๆ นานาว่าน่าจะมีคนนำศพจำนวนมากใส่ตู้คอนเทเนอร์แล้วบรรทุกใส่เรือมาโยนทิ้งเพื่อปิดบังอำพรางอะไรบางอย่าง
 
นายปราโมทย์ กล่าวต่อว่าโดยเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2536 เริ่มมีเรือประมงพบตู้คอนเทเนอร์บริเวณดังกล่าว และมีผู้ที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ บางกลุ่มคิดว่าตู้สินค้าตกจากเรือสินค้าข้างในมีทรัพย์สิน จึงไม่กล้านำเรื่องนี้มาเปิดเผย รู้กันแต่เพียงในกลุ่มย่อยเท่านั้น และเชื่อว่าต้องมีกลุ่มนักดำน้ำแอบไปเปิดตู้พิสูจน์ แต่ไม่มีใครกล้าออกมาให้ข่าวหรือพูดว่าพบสิ่งใดมาบ้างในตู้คอนเทเนอร์ นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่ามีนักแสวงโชคดำน้ำลงไปพิสูจน์และได้เสียชีวิตจากการระเบิดปลาแต่พลาดเกิดระเบิดในเรือจนเสียชีวิตไปหลายรายที่อ่าวแสมสาร เหลือไว้แต่คำบอกเล่าที่ถูกทิ้งไว้จนถึงทุกวันนี้ โดยกะโหลกมนุษย์ที่ติดอวนเรือประมงตั้งแต่ปี 2536 จนถึงทุกวันนี้มีกว่า 100 หัว 
 
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย มูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ ทราบว่า หลายปีมาแล้วมีการพบหัวกะโหลกในทะเลบ่อยครั้ง จนเป็นเรื่องธรรมดา เพราะแรงงานต่างด้าวมีการฆ่าล้างแค้นและขัดแย้งเกี่ยวกับเรื่องศาสนา แบ่งพรรคแบ่งพวก เมื่อลงทะเลก็จะฆ่ากันแล้วโยนทิ้งทะเล บางรายถ้าลอยอืดเรือประมงพบก็จะแจ้งให้ทหารเรือ และตำรวจน้ำไปเก็บมา ถ้าไม่พบก็จะจมลงสู่ใต้ทะเล แต่ก็ไม่น่าจะฆ่ากันมากเพียงนี้ จนมีกระแสข่าวเรื่องพบตู้คอนเทเนอร์มานานหลายปีแล้ว แต่ไม่มีข่าวว่ามีการพบซากมนุษย์ในตู้แต่อย่างใด ล่าสุดเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาเรือประมงได้นำหัวกะโหลกเก่ามีเพรียงเกาะมามอบให้บอกว่าลากเรือติดอวนจากทะเล อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่าล่าสุดหลายหน่วยงานเริ่มให้ความสนใจส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบตู้คอน   เทเนอร์ดังกล่าวแล้ว.

 

อ่านต่อที่ : สุสานกะโหลกซุกตู้’คอนเทเนอร์’

“ติ๊ก ชีโร่” แจ้งความถูก 18 มงกุฎหลอกตุ๋นเงินร้านโดนัท พฤษภาคม 6, 2009

Posted by 1000thainews in อาชญากรรม.
Tags: , , , , , , ,
add a comment

“ติ๊ก ชีโร่” แจ้งความถูก 18 มงกุฎหลอกตุ๋นเงินร้านโดนัท

“ติ๊ก ชีโร่” แจ้งความถูก 18 มงกุฎหลอกตุ๋นเงินร้านโดนัท โดย ทีมข่าวอาชญากรรม 6 พฤษภาคม 2552 12:42 น. คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น นายศิริศักดิ์ นันทเสน หรือ ติ๊ก ชีโร่ นักร้องและนักแสดงชื่อดังเจ้าของเพลง “รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง”
“โต้ ชีริก-ติ๊ก ชีโร่” ขึ้นโรงพักดินแดงโร่แจ้งความร้องทุกข์ ถูกแก๊ง 18 มงกุฎหลอกตุ๋นเงินร้านโดนัท “โดดีโด” ในห้างแฟชั่นมอลล์ อนุสาวรีย์ชัย อ้างทำทีขอซื้อและออกอุบายให้พนักงานในร้านมาส่งด้านนอก ก่อนย้อนกลับไปขอเงินทอน เผยวันเดียวมีเหยื่อโดน 3 ราย ระบุที่แจ้งความไม่หวังได้เงินคืนแต่อยากให้แก๊งมิจฉาชีพเลิกทำ

วันนี้ (6 พ.ค.) นายศิริศักดิ์ นันทเสน หรือติ๊ก ชีโร่ นักร้องและนักแสดงชื่อดัง เจ้าของเพลง “รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง” เดินทางขึ้น สน.ดินแดง แจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.ท.บัญชา บุญเชิด เจ้าหน้าที่ตำรวจร้อยเวร ถูกแก๊ง 18 มงกุฎตุ๋นหลอกเชิดเงินที่ร้าน “โดนัทโดดีโด” ภายในห้างแฟชั่นมอลล์ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

นายศิริศักดิ์ หรือติ๊ก ชีโร่ กล่าวว่า แก๊ง 18 มงกุฎรายนี้เป็นหญิงวัยกลางคนทำทีมาขอซื้อโดนัทที่ร้านโดดีโดของตนภายในห้าง สรรพสินค้าแฟชั่นมอลล์ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และให้พนักงานคนหนึ่งนำโดนัทไปส่งด้านล่างของห้างสรรพสินค้าดังกล่าว โดยยังไม่ได้ชำระเงิน จากนั้นหญิงคนดังกล่าวได้กลับมาที่ร้านและบอกพนักงานอีกคนว่าได้ชำระค่า โดนัทไปแล้วแต่ยังไม่ได้รับเงินทอน พนักงานจึงได้ให้เงินทอนแก่หญิงนักต้มตุ๋นไปเป็นจำนวนเงิน 540 บาท

ทั้งนี้ ติ๊ก ชีโร่ ได้เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า ตนไม่หวังได้เงินคืน แต่ที่เข้าแจ้งความเนื่องจาก ต้องการให้มิจฉาชีพเลิกทำพฤติกรรมดังกล่าว เพราะเท่าที่ทราบจากผู้ค้าในห้างแฟชั่นมอลล์ด้วยกัน เฉพาะวานนี้ได้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันถึง 3 ครั้ง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นการก่อเหตุของกลุ่มคนแก๊งเดียวกัน

อาชญากรรม