ข่าว ในประเทศไทย

เอ-อนันต์ อาการดีขึ้น ออกจากไอซียูแล้ว พฤษภาคม 13, 2009

เอ-อนันต์ อาการดีขึ้น ออกจากไอซียูแล้ว

เอ-อนันต์ อาการดีขึ้น ออกจากไอซียูแล้ว รพ.รามาธิบดี 7 พ.ค.-เอ อนันต์ บุนนาค อาการดีขึ้น ย้ายออกจากห้องไอซียูไปพักที่ห้องพักผู้ป่วยพิเศษ

เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลรามาธิบดีได้ย้ายนายอนันต์ บุนนาค ไปพักที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 905 อาคารศูนย์การแพทย์สิริกิติ์ โดยระหว่างทาง เอ อนันต์ รู้สึกตัวตลอด มีสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมชู 2 นิ้ว ให้สื่อมวลชนถ่ายภาพ และกล่าวขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง

เบื้องต้น นพ.ปรีดา สัมฤทธิ์ประดิษฐ์ แพทย์เจ้าของไข้ ระบุ เอ อนันต์ ตอบสนองได้ดี สามารถถามตอบได้ กลับมาร่าเริงเช่นเดิม ถ้าอาการทรงตัว คณะแพทย์ศัลยกรรมกระดูกจะผ่าตัดใหญ่ในสัปดาห์หน้า เพื่อตรวจสอบและซ่อมแซมกระดูกแขนทั้ง 2 ข้าง และกระดูกขาซ้ายที่หักจากอุบัติเหตุ.-สำนักข่าวไทย

อ่านต่อที่ : เอ-อนันต์ อาการดีขึ้น ออกจากไอซียูแล้ว

ผจก.ตลท.พอใจตลาดหุ้นไทยเริ่มมีแนวโน้มสดใสขึ้น พฤษภาคม 13, 2009

ผจก.ตลท.พอใจตลาดหุ้นไทยเริ่มมีแนวโน้มสดใสขึ้น

ผจก.ตลท.พอใจตลาดหุ้นไทยเริ่มมีแนวโน้มสดใสขึ้น

ศูนย์ฯ สิริกิติ์  7 พ.ค. –  นางภัทรียา  เบญจพลชัย  กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)  กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นที่อยู่ในช่วงขาขึ้นว่า  เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาค  ซึ่งตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ตลาดหุ้นไทยขึ้นมากว่า 10  จุด  ส่วนแนวโน้มจะปรับขึ้นต่อไปหรือไม่  ต้องดูภาพรวมตลาดโลกและความเคลื่อนไหวในภูมิภาคนี้

อย่างไรก็ตาม  นางภัทรียา ยอมรับว่า ในช่วงที่ตลาดหุ้นดีดขึ้นแรงก็มีโอกาสปรับลง หรือมีความผันผวนเป็นช่วง ๆ  ซึ่งนักลงทุนก็ควรจะระมัดระวังในส่วนนี้  โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้พบว่านักลงทุนต่างชาติเริ่มเข้ามาลงทุน ทำให้ตัวเลขการขายสุทธิของต่างชาติลดลงเหลือเพียงประมาณ  280  ล้านบาท เท่านั้น  ขณะที่มูลค่าการซื้อขายต่อวันเริ่มปรับขึ้น เฉลี่ยตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงปัจจุบัน  10,500  ล้านบาท 

กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวอีกว่า จากการพูดคุยกับนักลงทุนสถาบันต่างชาติ ยังมีมุมมองที่ดีต่อการลงทุนในตลาดหุ้นของไทย  เพราะเห็นว่ายังให้ผลตอบแทนที่ดี  ค่าพีอียังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ  และหลายส่วนรอดูการ ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2  ของปีนี้  โดยหลายบริษัทมีแนวโน้มดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส  4  ปีที่แล้ว และจากทิศทางการเมืองที่ดีขึ้น ทำให้ความเชื่อมั่นในการลงทุนตลาดหุ้นขยับดีขึ้นด้วย  และทาง ตลท.ยังคงเดินหน้าโรดโชว์ในต่างประเทศเดือน มิ.ย.  จากเดิมจะไปโรดโชว์ในเดือน พ.ค.นี้ เพราะเป็นผลกระทบจากการระบาดของไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009  แต่ขณะนี้ทิศทางต่าง ๆ เริ่มดีขึ้น.- สำนักข่าวไทย

อ่านต่อที่ : ผจก.ตลท.พอใจตลาดหุ้นไทยเริ่มมีแนวโน้มสดใสขึ้น

นายกฯ หวังคนไทยสามัคคีช่วยผลักดันเศรษฐกิจไทยเดินหน้าต่อ พฤษภาคม 13, 2009

นายกฯ หวังคนไทยสามัคคีช่วยผลักดันเศรษฐกิจไทยเดินหน้าต่อ

นายกฯ หวังคนไทยสามัคคีช่วยผลักดันเศรษฐกิจไทยเดินหน้าต่อ

ศูนย์ฯ สิริกิติ์  7 พ.ค. –  นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  นายกรัฐมนตรี  กล่าวในงานเปิดมหกรรมการเงิน ครั้งที่ 9  หรือ  Money  Expo 2009  ว่า  จากเศรษฐกิจโลกที่หลายฝ่ายคาดว่าในไตรมาส 1 ของปีหน้าเศรษฐกิจจะขยับดีขึ้น  ในขณะที่ตลาดทุนขณะนี้เริ่มมีข่าวดีมูลค่าซื้อขายต่อวันเริ่มกระเตื้องขึ้น  ประกอบกับการทำหน้าที่ทุกฝ่ายได้เข้ามาร่วมแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ไม่ว่าภาครัฐ  ภาคประชาชน  จึงเชื่อว่าประเทศไทยจะเดินหน้าไปอย่างมีประสิทธิภาพ  แม้ที่ผ่านมาทางภาคการเมืองอาจจะมีปัญหากระทบความเชื่อมั่นบ้าง  แต่จากช่วง  2-3  วันที่ผ่านมา จะเห็นพลังของประชาชนออกมาขับเคลื่อนสร้างความสามัคคีด้านต่าง ๆ  ซึ่งจะเป็นพลังสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย และลดปัญหาเรื่องเศรษฐกิจลง 

นอกจากนี้  ในส่วนของรัฐบาลเดินหน้าตามแผนต่าง ๆ  ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง  ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ได้มีการใช้นโยบายด้านการเงินเข้ามาดูแลสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ  ซึ่งแม้ว่าในขณะนี้ในระบบอาจจะมีปัญหาเรื่องที่ผู้ประกอบการหาสินเชื่อได้ยาก เพราะธนาคารเข้มงวดในการปล่อยกู้  แต่ภาครัฐจะช่วยดูแลโดยริเริ่มระบบประกันความเสี่ยงจากสถาบันกาเรงิน  แต่ยืนยันว่าการดูแลการปล่อยสินเชื่อจะไม่ใช้มาตรการใด ๆ ที่ฝืนกลไกตลาดและกระทบต่อธุรกิจ  ซึ่งการจัดงานมันนี่ เอ็กซโป ครั้งนี้ คาดว่าจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบเศรษฐกิจได้ดีอีกด้วย

ด้าน นายประเสริฐ  บุญสัมพันธ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ปตท. กล่าวถึงการที่รัฐบาลกำหนดแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง  2555 ว่า  การที่กระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐจะสร้างบรรยากาศและสร้างการลงทุนในภาวะที่ภาคเอกชนมีปัญหา  นับว่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่าง ๆ ให้ดีขึ้น และการที่รัฐบาลจะกู้เงินรวม 800,000 ล้านบาท  นำมากระตุ้นเศรษฐกิจนั้น  เชื่อว่าการกู้เงินดังกล่าวคงจะดูถึงสภาพคล่องในระบบและคงจะกู้ในระดับพอดีที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อภาคเอกชน  โดยกรณีหากรัฐขึ้นภาษีน้ำมัน 2  บาทต่อลิตร  หากไม่มีการใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลดผลกระทบ จะทำให้ราคาน้ำมันปรับขึ้นอีกประมาณ  2  บาทต่อลิตร  ซึ่งภาครัฐจะต้องมีการตรวจสอบสตอก ผู้ค้าก็จะไม่สามารถกักตุนได้  หากกระทรวงพลังงานใช้เงินกองทุนดูแลจะทำให้ระดับราคาน้ำมันไม่ขยับขึ้นในช่วงแรก   แต่ระยะต่อไปคงต้องขึ้นตามระดับภาษีที่สูงขึ้น   ซึ่งการที่ราคาน้ำมันขยับขึ้นจะทำให้ประชาชนประหยัดพลังงานมากขึ้น

ทั้งนี้  งานมหกรรมการเงินในปีนี้ มีธนาคารและสถาบันการเงินเข้าร่วมงาน 173 แห่ง  จัดระหว่างวันที่ 7-10 พฤษภาคม  ณ  ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  ผู้จัดงานคาดจะมีผู้เข้าชม 700,000  คน  มีธุรกรรมเกิดขึ้น 50,000-60,000  ล้านบาท  โดยโปรโมชั่นเด่นภายในงานปีนี้ แต่ละสถาบันการเงินได้แข่งขันเป็นพิเศษในภาวะเศรษฐกิจ เช่น อัตราดอกเบี้ยเงิ�
��กู้ร้อยละ 0  ตั้งแต่ 3-6 เดือน  อัตราดอกเบี้ยเงินฝากสูงเป็นพิเศษ  การยกเว้นค่าธรรมเนียมต่าง ๆ  

ขณะเดียวกันยังมีการจัดสัมมนา เพื่อส่งสัญญาณให้นักลงทุนได้เห็นถึงโอกาสการลงทุนในหลักทรัพย์ต่าง ๆ  ทั้งหุ้น  อนุพันธ์ ตราสารหนี้  และกองทุนรวม  เพื่อสร้างโอกาสรอรับผลตอบแทนสูงเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว  และแคมเปญโปรโมชั่นภายในงาน เช่น  ธนาคารไทยพาณิชย์เปิดตัวสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยคืนแบบขั้นบันได 10 ปีแรกของสินเชื่อ รวมสูงสุดร้อยละ 55 ,  ธนาคารกสิกรไทย จัดสินเชื่อดอกเบี้ยบ้าน ร้อยละ 0 ระยะเวลา 6 เดือน  , ธนาคารทิสโก้เปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ได้ดอกเบี้ยสูงเหมือนฝากประจำตั้งแต่ 100,000  – 1  ล้านบาท  รับดอกเบี้ยร้อยละ 1.5  ต่อปี , ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เปิดตัวสินเอสเอ็มอี พาวเวอร์  สินเชื่อเพื่อธุรกิจท่องเที่ยว  วงเงิน 5,000  ล้านบาท,  ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำหน่ายสลากออมทรัพย์ทวีสินชุดจิตรกรรมไทย ลุ้นรางวัล 20  ล้านบาท,  ธนาคารกรุงไทยให้สินเชื่อบ้านดอกเบี้ยร้อยละ 0 ระยะเวลา 6 เดือน และสินเชื่อเอสเอ็มอีดอกเบี้ยต่ำไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน,  บริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด  นำอสังหาริมทรัพย์ลดพิเศษร้อยละ 20-50  และจองซื้อภายในงานฟรีค่าโอนทุกรายการ และหากจองซื้อด้วยเช็คช่วยชาติเพิ่มมูลค่า 5 เท่า เป็น  10,000 บาท  นอกจากนี้  บริษัท ประกันภัย  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยังขนโปรโมชั่นมากมาย เช่น บลจ.ไทยพาณิชย์  หากลงทุนแอลทีเอฟ อาร์เอ็มเอฟ  50,000 บาท  ได้รับสิทธิพิเศษ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล 100,000 บาท ในราคา 1 บาท เป็นต้น.- สำนักข่าวไทย

อ่านต่อที่ : นายกฯ หวังคนไทยสามัคคีช่วยผลักดันเศรษฐกิจไทยเดินหน้าต่อ

รมช.คลังระบุขึ้นภาษีเหล้าบุหรี่เป็นผลดีทั้งรัฐและประชาชน พฤษภาคม 13, 2009

รมช.คลังระบุขึ้นภาษีเหล้าบุหรี่เป็นผลดีทั้งรัฐและประชาชน

รมช.คลังระบุขึ้นภาษีเหล้าบุหรี่เป็นผลดีทั้งรัฐและประชาชน

ศูนย์ฯ สิริกิติ์  7 พ.ค. –  นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า  การปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตทั้งระบบคาดว่าจะทำรายได้ให้แก่รัฐประมาณ 70,000  ล้านบาทต่อปี  ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ (6 พ.ค.)  ได้มีการหารือและจะเป็นแนวทางหนึ่งช่วยสร้างรายได้แก่รัฐ เพราะได้พิจารณาแล้วว่าในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้จะไม่มีการปรับภาษีที่กระทบต่อรายได้ประชาชน คือ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา  ภาษีเงินได้นิติบุคคล  ภาษีมูลค่าเพิ่ม  ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งการดูแลของกรมสรรพากร  ดังนั้น จึงเห็นว่าในส่วนของภาษีสรรพสามิตยังมีแนวทางที่จะปรับโครงสร้างให้ทันสมัยและสอดคล้องกับภาวะที่เปลี่ยนแปลงไป  จึงเห็นชอบให้มีการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิต โดยเริ่มจากภาษีสุราและเบียร์ที่มีการปรับขึ้นตั้งแต่วันนี้ (7 พ.ค.) โดยจะมีส่วนทำให้รายได้รัฐเพิ่มประมาณ 10,000  ล้านบาท  แบ่งเป็นสุรา 7,000  ล้านบาท  เบียร์  3,000 ล้านบาท  ส่วนอื่น ๆ  ที่เป็นข่าว  เช่น  ภาษีบุหรี่ และน้ำมัน  จะต้องมีการขยับเพดานให้เหมาะสม 

ส่วนน้ำมันจะมีการปรับขึ้น 2 บาทต่อลิตรหรือไม่นั้น  เป็นความลับไม่ขอเปิดเผย  อย่างไรก็ตาม  แนวทางการขยับเพดานภาษีทางกระทาวงการคลังจะต้องออก พ.ร.ก. ซึ่งจะมีการเสนอเข้าขอความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรภายในสัปดาห์หน้า  พร้อมกับ พ.ร.ก.กู้เงิน  400,000  ล้านบาท  หลังจากนั้นจะมีผลบังคับใช้เมื่อใดจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าลงพระปรมาภิไธย  อย่างไรก็ตาม  ในส่วนของน้ำมันยืนยันว่าทางรัฐบาลโดยกระทรวงการคลังได้หารือกับกระทรวงพลังงานเพื่อดูแลไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ  โดยวันที่ปรับขึ้นจะยังไม่ปรับราคาหน้าปั๊ม โดยจะนำกลไกของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาดูแล

“การปรับขึ้นภาษีบาปทั้งเหล้าและบุหรี่มีผลดีในส่วนที่จะทำให้ประชาชนหันไปบริโภคสิ่งเหล่านี้น้อยลง ทำให้ภาครัฐจ่ายเงินมาดูแลผู้ป่วยเจ็บน้อยลงด้วย  ขณะที่ภาครัฐจะได้เม็ดเงินเพิ่มขึ้น”  รมช.คลัง กล่าว.-สำนักข่าวไทย

อ่านต่อที่ : รมช.คลังระบุขึ้นภาษีเหล้าบุหรี่เป็นผลดีทั้งรัฐและประชาชน

เอเอซีพีลุยขายประกันในงานมันนี่เอ็กซ์โป พฤษภาคม 13, 2009

เอเอซีพีลุยขายประกันในงานมันนี่เอ็กซ์โป

นางสาวพัชรา ทวีชัยวัฒนะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาด บมจ.อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี.ประกันชีวิต เปิดเผยว่า อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี.เข้าร่วมงานมหกรรมการเงิน ครั้งที่ 9 MONEY EXPO 2009 ในวันที่ 7-10 พฤษภาคม 2552 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์      

โดยได้คัดเลือกผลิตภัณฑ์ขายดีมานำเสนอในงานเพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดของงานที่จัดภายใต้แนวคิด “สร้างทุน สร้างสุข สนุกกับชีวิต: Let Life Have Fun(d)” ที่มุ่งนำเสนอบริการทางการเงินและการลงทุนที่สามารถตอบโจทย์ธุรกิจและความต้องการของลูกค้าในทุกช่วงชีวิต เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น 
 
ทั้งนี้ การประกันชีวิตเป็นการลงทุนที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับการลงทุนแบบอื่นด้วยเหตุผล 4 ประการ คือ 1) มีความเสี่ยงต่ำ เมื่อเทียบกับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์หรือการซื้อกองทุน 2) ให้ผลตอบแทนดี เพราะมีแบบประกันชีวิตหลายแบบที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าการฝากธนาคาร 3) ได้รับสิทธิลดหย่อนภาษี ตามกฎเกณฑ์ของกรมสรรพากรที่ให้สิทธิแก่ผู้ซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิตให้สามารถนำเบี้ยประกันชีวิตไปลดหย่อนภาษีเงินได้ส่วนบุคคลได้สูงสุดปีละ 100,000 บาท และ 4) เป็นการลงทุนแบบเดียวที่ให้ความคุ้มครองชีวิต เพื่อเป็นหลักประกันของครอบครัวหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน

“การออมเป็นสิ่งสำคัญไม่ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจหรือเหตุการณ์บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร ทุกครอบครัวควรมีหลักประกันที่มั่นคงสำหรับการดำเนินชีวิต และในชีวิตของคนเราก็มี 2 หลักประกันที่สำคัญ คือ เงิน และ สุขภาพ อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. จึงเลือกผลิตภัณฑ์ขายดีที่สุดมานำเสนอร่วมกันเพื่อเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับทุกจังหวะชีวิต คือ เอเอซีพี มาย แพลน ที่เป็น “หนึ่งเดียวในตลาดที่ให้ลูกค้าเลือกระยะเวลาออมเงินและระยะเวลาคุ้มครองได้ตามจังหวะชีวิตของตน ประกันโรคมะเร็ง ที่ให้ความคุ้มครองทั้งก่อนระยะลุกลามและระยะลุกลาม ซึ่งมะเร็งเป็นโรคที่เป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งในประเทศไทย และผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ฮิตที่สุดของบริษัทฯในเวลานี้คือ อยุธยาทรัพย์เพิ่มพูน 10/3” นางสาวพัชรา กล่าว

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอภายในงาน Money Expo 2009 ประกอบด้วย เอเอซีพี มายแพลน (มีเงินปันผล) ที่มีแบบประกันให้เลือกมากถึง 216 แบบ ให้ลูกค้าสามารถเลือกระยะเวลาออมเงินและระยะเวลาคุ้มครองได้เอง ด้วยระยะเวลาคุ้มครองให้เลือกตั้งแต่ 10 ปี ถึง 25 ปี และมีระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัยตั้งแต่ 5 ปี จนถึงระยะเวลาที่คุ้มครองสูงสุด 25 ปี ทุนประกันขั้นต่ำเริ่มที่ 50,000 บาท สำหรับลูกค้าอายุตั้งแต่ 1 เดือน 1 วัน ถึงสูงสุด 70 ปี พร้อมรับผลตอบแทนเป็นเงินครบกำหนดสัญญาสูงถึง 180% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

สัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองโรคมะเร็ง ที่มอบความคุ้มครองโรคมะเร็งทั้งก่อนระยะลุกลามครอบคลุมไปจนถึงระยะลุกลาม เบี้ยประกันภัยเฉลี่ยเพียงวันละไม่ถึง 3 บาท รับความคุ้มครองสูงถึง 1,000,000 บาท โอกาสได้รับความคุ้มครองถึง 110% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

อยุธยาทรัพย์เพิ่มพูน 10/3 (มีเงินปันผล) มีระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัยเพียง 3 ปี ระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปี เปิดโอกาสให้ได้รับผลประโยชน์ที่มากกว่า เพราะนอกจากเงินจ่ายคืนแน่นอน 2% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1- 9 และ เงินครบกำหนดสัญญา 122% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย พร้อมยังเปิดโอกาสให้ได้รับผลประโยชน์เพิ่มเติมทุกปีอย่างไม่จำกัดในรูปแบบของเงินปันผลที่คาดว่าจะจ่ายรายปี และเมื่อครบกำหนดสัญญา

นอกจากนี้ในวันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม 2552 เวลา 11.00 – 12.30 น. ยังจะมีการสัมมนาในหัวข้อ “เพิ่มมูลค่าเงินในกระเป๋า” อีกด้วย

อ่านต่อที่ : เอเอซีพีลุยขายประกันในงานมันนี่เอ็กซ์โป