jump to navigation

เข็นกองทุนน้ำมันแบกราคาขายปลีก 1 เดือน งดเก็บ 2.20 บาท พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in หุ้น.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

เข็นกองทุนน้ำมันแบกราคาขายปลีก 1 เดือน งดเก็บ 2.20 บาท

เข็นกองทุนน้ำมันแบกราคาขายปลีก 1 เดือน งดเก็บ 2.20 บาท

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 11:43 น.

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

รมว.พลังงาน ประกาศลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน 2.20 บาท/ลิตร เพื่อลดผลกระทบการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตรน้ำมัน 2 บาท/ลิตร หลัง พ.ร.ก.มีผลบังคับใช้ โดยจะไม่มีผลต่อราคาขายปลีก เพราะหักลบกันได้พอดี ยันแบกภาระให้แค่ 1 เดือน และจะทยอยปรับขึ้นภาษีแบบขั้นบันไดอีก 2-3 ครั้ง ในช่วงน้ำมันขาลง พร้อมเตือนการใช้น้ำมันฟุ่มเฟือย
       
       นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงการคลังได้ประกาศขึ้นภาษีสรรพสามิตตั้งแต่วันนี้ 2 บาทต่อลิตร หลังจากที่ พ.ร.ก.การขยายเพดานภาษีสรรพสามิตน้ำมัน จาก 5 เป็น 10 บาท มีผลบังคับใช้ ดังนั้น วันนี้กระทรวงพลังงานจึงประกาศลดการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันมีผลวันนี้เช่นกัน โดยปรับสัดส่วนตามเนื้อน้ำมัน เช่นกรณีน้ำมันเบนซิน 91 และ 95 ที่เก็บภาษีเพิ่มขึ้น 2 บาทต่อลิตร เงินกองทุนน้ำมันจะลดลง 2.20 บาทต่อลิตร เป็นต้น ส่วนการขึ้นราคาน้ำมัน 60 สตางค์ต่อลิตรในเช้าวันนี้ ถือว่าเป็นไปตามราคาตลาดโลกเท่านั้น ไม่ใช่ผลของการปรับภาษี
       
       อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงานจะดำเนินการใช้เงินกองทุนเข้ามาลดภาระประชาชนในช่วงเปลี่ยนผ่านภาษีเพียง 1 เดือนเท่านั้น จากนั้นจะทยอยปรับขึ้นเงินกองทุนน้ำมัน และคาดว่าจะทยอยปรับประมาณ 2-3 ครั้ง ใน 1 เดือน โดยอาจจะทยอยขึ้นครั้งละ 60-70 สตางค์ต่อลิตร ในช่วงราคาน้ำมันเป็นขาลง
       
       รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า สุดท้ายกระทรวงพลังงานคงต้องปรับขึ้นเงินนำส่งกองทุนน้ำมันเพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง เพราะหากชดเชยต่อไปเรื่อยๆ อาจทำให้ประชาชนใช้น้ำมันฟุ่มเฟือย ไม่ประหยัด และจะมีผลต่อการนำเข้าน้ำมันของไทย นอกจากนี้ เงินกองทุนน้ำมันและภาษีก็เป็นเงินของรัฐ หากบริหารจัดการไม่ดีจนเงินกองทุนติดลบก็คงเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม
       
       อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ยอมรับว่าราคาน้ำมันเป็นช่วงขาขึ้น และหากราคาน้ำมันยังสูงขึ้นต่อไปก็คงต้องพิจารณาอีกครั้งว่าจะต้องยืดเวลาการบริหารจัดการนานกว่า 1 เดือนหรือไม่ และหากราคาน้ำมันยังสูงต่อไปอีกก็ต้องพิจารณาอีกครั้งว่าจะต้องลดเงินนำส่งกองทุนน้ำมันในอนาคตหรือไม่ แต่ขณะนี้ยังไม่มีแผนขยับเพดานการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน ซึ่งมีอัตราสูงสุดที่ 7 บาทแต่อย่างใด
       
       รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันฐานะกองทุนน้ำมันมีเงินสด 2.5 หมื่นล้านบาท แต่ก็มีภาระหนี้ที่ต้องชดเชย เช่น การนำเข้าก๊าซหุงต้ม ชดเชยพลังงานทดแทน รวม 10,000 ล้านบาท จึงเหลือเงินสด 1.5 หมื่นล้านบาท โดยการชดเชยการขึ้นภาษีน้ำมัน 2 บาทต่อลิตร คาดว่าจะต้องใช้เงิน 5,400 ล้านบาท และเมื่อหักจากวงเงินนำเข้าที่คาดว่าจะมี 3,600 ล้านบาทต่อเดือน ทำให้รายได้เงินกองทุนลดลง 1,700-1,800 ล้านบาทต่อเดือน

อ่านต่อที่ : เข็นกองทุนน้ำมันแบกราคาขายปลีก 1 เดือน งดเก็บ 2.20 บาท

ราคาน้ำมันดิ่งลง ในตลาดเอเชียวันนี้ พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in ต่างประเทศ.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

ราคาน้ำมันดิ่งลง ในตลาดเอเชียวันนี้

ราคาน้ำมันดิ่งลง ในตลาดเอเชียวันนี้ สิงคโปร์ 14 พ.ค. – ราคาน้ำมันลดลงในตลาดเอเชียวันนี้ ภายหลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลงเช่นเดียวกับยอดค้าปลีกในสหรัฐที่ดิ่งลงตามกัน

ราคาน้ำมันดิบไลท์สวีท สัญญาส่งมอบเดือน มิ.ย. ปรับลดลง 29 เซนต์ มาอยู่ที่บาร์เรลละ 57.73 ดอลลาร์ ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ งวดเดือน มิ.ย.ปรับลด 8 เซนต์ เหลือ 57.26 ดอลลาร์ ด้านตลาดหุ้นในสหรัฐดิ่งลงตามที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานยอดค้าปลีกซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของสหรัฐที่ปรับลดร้อยละ 0.4 ในเดือน เม.ย.  นักวิเคราะห์กล่าวว่า แม้ช่วงเศรษฐกิจเลวร้ายที่สุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างแท้จริง.- สำนักข่าวไทย

อ่านต่อที่ : ราคาน้ำมันดิ่งลง ในตลาดเอเชียวันนี้

หุ้นกลุ้มน้ำมันปาล์มไตรมาสแรกวูบ เหตุยอดขายต่ำราคาขายต่อหน่วยลด พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in หุ้น.
Tags: , , , ,
add a comment

หุ้นกลุ้มน้ำมันปาล์มไตรมาสแรกวูบ เหตุยอดขายต่ำราคาขายต่อหน่วยลด

หุ้นกลุ้มน้ำมันปาล์มไตรมาสแรกวูบ เหตุยอดขายต่ำราคาขายต่อหน่วยลด

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 08:55 น.

       ล่ำสูง น้ำมันพืชไทยและสหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม ไตรมาสแรกปีนี้กำไรตกถ้วนหน้า เหตุยอดขายต่ำลงกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนและราคาขายต่อหน่วยลด ส่งผลให้กำไรขั้นต้นลดและต้นทุนขายต่ำลง
       

       นางสาวอัญชลี สืบจันทศิริ กรรมการ บริษัท ล่ำสูง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (LST) และบริษัทย่อยแจ้งผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 120.82 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 132.51 ล้านบาท หรือลดลงงจากปีก่อน 11.70 ล้านบาท คิดเป็น 8.83% ผลจากรายได้จากการขายของบริษัทฯ และบริษัทย่อยลดลง 766.20 ล้านบาท คิดเป็น 31.49 % ขณะที่ต้นทุนขายลดลงเล็กน้อยจาก 84.29 % ในปี 51 เป็น 81.05% ในปี 52 ทำให้กำไรขั้นต้นลดลง 66.33 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจาก รายได้จากการขายในส่วนผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ลดลง 727.37 ล้านบาท คิดเป็น 35.54 %โดยมาจากปริมาณขายลดลง 15.15 % และราคาขายถัวเฉลี่ยต่อหน่วยลดลง 20.39 %
       
       ขณะที่บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้อื่นลดลง จากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ลดลง ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 8.0% เป็น 15.1 %ซึ่งมีผลมาจากราคาน้ำมันปาล์มดิบถั่วเฉลี่ยต่อกิโลกรัมลดลงถึง 33.48%
       
       นางสาวสุดารัตน์ วิทยฐานกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท น้ำมันพืชไทย จำกัด (มหาชน)(TVO) แจ้งงบไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิ 321.05 ล้านบาท ลดจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำไว้ 584.54 ล้านบาท หรือลดลง ง 263.50 ล้านบาท หรือ 45.08% เมื่อเปรียบเทียบกับผลประกอบการไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจาก สินค้าคงเหลือยกมาในปี 52 มีราคาสูง ทำให้กำไรของบริษัทลดลงดังกล่าว
       
       นางสาวอัญชลี สืบจันทศิริ กรรมการ บริษัท สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) (UPOIC)ชี้แจงผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยสำหรับไตรมาสที่ 1/2552 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 41.40 ล้านบาท เปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 51 ที่มีกำไรสุทธิ 108.91 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 67.52 ล้านบาท คิดเป็น ลดลง 61.99 % ผลจาก รายได้จากการขายลดลง 180.90 ล้านบาท โดยมีปริมาณการขายน้ำมันปาล์มดิบและน้ำมันเมล็ดในปาล์ม ลดลง 9.76 %และ 66.11 % ตามลำดับ อีกทั้งราคาขายต่อหน่วยของน้ำมันปาล์มดิบและน้ำมันเมล็ดในปาล์ม ที่ปรับตัวลดลง 32.37 % และ 50.23 % ตามลำดับ ในขณะที่ต้นทุนขายเพิ่มขึ้นจาก 53.99% เป็น 66.67 % ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯ ลดลงจาก 46.01% เป็น 33.33% ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายต่ำลง ส่วนใหญ่มาจากค่าขนส่งที่ลดลงซึ่งสอดคล้องกับปริมาณขายที่ลดลง

อ่านต่อที่ : หุ้นกลุ้มน้ำมันปาล์มไตรมาสแรกวูบ เหตุยอดขายต่ำราคาขายต่อหน่วยลด

หุ้นรูด 184.22 จุด-น้ำมันร่วง พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in ข่าวด่วน.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

หุ้นรูด 184.22 จุด-น้ำมันร่วง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วง 184.22 จุด หรือ 2.18% แตะที่ 8,284.89 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 24.43 จุด หรือ 2.69% แตะที่ 883.92 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 51.73 จุด หรือ 3.01% แตะที่ 1,664.19 จุด
         

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.77 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 2,745 ต่อ 337 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.37 พันล้านหุ้น
         

ควินซี ครอสบี นักวิเคราะห์จาก The Hartford เปิดเผยว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กซบเซาลงทันทีหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่ายอดค้าปลีกเดือนเม.ย.ร่วงลง 0.4% ซึ่งเป็นสถิติที่ร่วงลงติดต่อกัน 2 เดือน และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่ายอดค้าปลีกเดือนเม.ย.ของสหรัฐจะย่ำฐานทรงตัว

ด้านราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้านิวยอร์ก หรือ ไนเม็กซ์ ปิดที่ระดับ 58.02 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ปรับลดลง 83 เ ซนต์ เนื่องจากปริมาณน้ำมันดิบสำรองลดลง และ การเทขายทำกำไรของตลาดหุ้น

อ่านต่อที่ : หุ้นรูด 184.22 จุด-น้ำมันร่วง

ดาวโจนส์ดิ่ง184จุด-น้ำมันดิบร่วง0.83$ พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in ทั่วไป.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

ดาวโจนส์ดิ่ง184จุด-น้ำมันดิบร่วง0.83$

ดาวโจนส์ปิดร่วง 184 จุดหลังยอดค้าปลีกลดลง 

        ตลาดหุ้นสหรัฐปิดร่วงลงเมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) หลังรายงานยอดค้าปลีกร่วงลงทำให้มีการเทขายหุ้นทั่วตลาด
        ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วง 184.22 จุดหรือ 2.18% ปิด 8,284.89, ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 24.43 จุดหรือ 2.69% ปิด 883.92 และดัชนี Nasdaq ปิดลดลง 51.73 จุดหรือ 3.01% ปิด 1,664.19  ปริมาณการซื้อขายคึกคักราว 1.77 พันล้านหุ้นในตลาดนิวยอร์ก และ ราว 2.37 พันล้านหุ้นในตลาด Nasdaq

น้ำมันดิบปิดร่วง 83 เซนต์ หลังนักลงทุนวิตกอุปสงค์

       ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ร่วงลงเมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ขณะที่นักลงทุนกลับมากังวลเรื่องอุปสงค์อีกครั้ง 

        ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 83 เซนต์ หรือ 1.41 % มาปิดตลาดที่ 58.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 57.41-59.90 ดอลลาร์ และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย.ที่ตลาดกรุงลอนดอนร่วงลง 60 เซนต์ หรือ 1.04 % สู่ 57.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง56.88-59.05 ดอลลาร์

อ่านต่อที่ : ดาวโจนส์ดิ่ง184จุด-น้ำมันดิบร่วง0.83$

ผู้ค้าปรับขึ้นน้ำมันทุกชนิด60ส.ต.เว้นE85วันนี้ พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in เศรษฐกิจ.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

ผู้ค้าปรับขึ้นน้ำมันทุกชนิด60ส.ต.เว้นE85วันนี้

ผู้ค้าน้ำมันทุกรายปรับขึ้นราคาน้ำมันขายปลีกทุกประเภท 60 สตางค์/ลิตรในวันนี้ ยกเว้น E85 ซึ่งเป็นไปตามทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลกที่สูงขึ้น  ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันของปตท. ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลวันนี้ เป็นดังนี้

เบนซิน ออกเทน 91 เพิ่มเป็น 30.74 บาท/ลิตร,แก๊สโซฮอล์ 95 เพิ่มเป็น 26.94บาท/ลิตร และแก๊สโซฮอล์ 91 เพิ่มเป็น 26.14 บาท/ลิตร ส่วน E20 เพิ่มเป็น 24.64 บาท/ลิตร และ E85 คงเดิมที่ 18.02 บาท/ลิตร

ขณะที่ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล เพิ่มเป็น 23.99 บาท/ลิตร และไบโอดีเซล B5เพิ่มเป็น 20.99 บาท/ลิตร

อ่านต่อที่ : ผู้ค้าปรับขึ้นน้ำมันทุกชนิด60ส.ต.เว้นE85วันนี้

น้ำมันร่วง83เซนต์-หุ้นสหรัฐฯปิดลบกว่า100จุดจากตัวเลขขายปลีก พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in ต่างประเทศ.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

น้ำมันร่วง83เซนต์-หุ้นสหรัฐฯปิดลบกว่า100จุดจากตัวเลขขายปลีก

น้ำมันร่วง83เซนต์-หุ้นสหรัฐฯปิดลบกว่า100จุดจากตัวเลขขายปลีก

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 05:31 น.

       เอเจนซี – ราคาน้ำมันทรุดลง 1.4 เปอร์เซ็นต์เมื่อวันพุธ(13) จากความมืดมนของตลาดทุนที่มีน้ำหนักเหนือกว่าตัวเลขด้านพลังงานของสหรัฐฯที่พบว่าสต๊อกน้ำมันลดลงอย่างน่าประหลาดใจ ด้านวอลล์สตรีทปิดตัวในแดนลบ ผลจากยอดขาดปลีกมะกันไม่น่าประทับใจ
       
       น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 83 เซนต์ ปิดที่ 58.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่เบรนต์ทะเลเหนือของลอนดอน ลดลง 60 เซนต์ ปิดที่ 57.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
       
       ราคาน้ำมันร่วงลงมาจากตัวเลขยอดขายปลีกของสหรัฐฯ ที่แย่เกินความคาดหมายที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มทางเศรษฐกิจและฉุดตลาดหุ้นอเมริกาดิ่งลงตามไปด้วย
       
       ทั้งนี้ราคาน้ำมันร่วงลงแม้รายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ(อีไอเอ) จะระบุว่าสต๊อกน้ำมันดิบลดลง 4.7 ล้านบาร์เรล ผิดจากที่คาดหมายไว้ว่าน่าจะเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 10 ติดต่อกันก็ตาม
       
       ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพุธ(13) ทรุดลงกว่า 100 จุด จากความผิดหวังต่อตัวเลขยอดขายปลีกภายในประเทศ ที่ทำลายความหวังสำหรับการพื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว
       
       ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 184.22 จุด (2.18 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,284.89 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 24.43 จุด (2.69 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 883.92 จุด แนสแดก ลดลง 51.73 จุด (3.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,664.19 จุด
       
       การปิดตัวในแดนลบของตลาดมีขึ้นตามหลังยอดขายปลีกในสหรัฐฯเดือนเมษายนที่ลดลงผิดความคาดหมาย 0.4 เปอร์เซ็นต์ ชี้ให้เห็นว่าแรงขับเคลื่อนสำคัญของกิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดัน

อ่านต่อที่ : น้ำมันร่วง83เซนต์-หุ้นสหรัฐฯปิดลบกว่า100จุดจากตัวเลขขายปลีก

น้ำมันร่วง83เซนต์ แม้สต๊อกสหรัฐฯจะลดลงก็ตาม พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in ข่าวด่วน.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

น้ำมันร่วง83เซนต์ แม้สต๊อกสหรัฐฯจะลดลงก็ตาม

น้ำมันร่วง83เซนต์ แม้สต๊อกสหรัฐฯจะลดลงก็ตาม

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 05:10 น.

       ราคาน้ำมันทรุดลง 1.4 เปอร์เซ็นต์เมื่อวันพุธ(13) จากความมืดมนของตลาดทุนที่มีน้ำหนักเหนือกว่าตัวเลขด้านพลังงานของสหรัฐฯที่พบว่าสต๊อกน้ำมันลดลงอย่างน่าประหลาดใจ
       
        น้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 83 เซนต์ ปิดที่ 58.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่เบรนต์ทะเลเหนือของลอนดอน ลดลง 60 เซนต์ ปิดที่ 57.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
       
        ทั้งนี้ราคาน้ำมันร่วงลงแม้รายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ(อีไอเอ) จะระบุว่าสต๊อกน้ำมันดิบลดลง 4.7 ล้านบาร์เรล ผิดจากที่คาดหมายไว้ว่าน่าจะเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 10 ติดต่อกันก็ตาม

อ่านต่อที่ : น้ำมันร่วง83เซนต์ แม้สต๊อกสหรัฐฯจะลดลงก็ตาม

กลุ่มน้ำมันพืชขาดทุนสต็อกกำไรวูบ 41% พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in เศรษฐกิจ.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

กลุ่มน้ำมันพืชขาดทุนสต็อกกำไรวูบ 41%

บริษัทจดทะเบียนกลุ่มพืชน้ำมัน 3 บริษัท ประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาสที่ 1 สิ้นสุด 31 มี.ค.2552 มีกำไรสุทธิรวม 483.25 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 825.55 ล้านบาท หรือลดลง 41%

บริษัท น้ำมันพืชไทย ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันพืชตราองุ่น รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาสที่ 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.2552 มีกำไรสุทธิ 321.05 ล้านบาท หรือ 0.51 บาทต่อหุ้น ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 584.54 ล้านบาท หรือ 0.94 บาทต่อหุ้น หรือลดลง 45% ซึ่งนางสาวสุดารัตน์ วิทยฐานกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทน้ำมันพืชไทย ระบุว่า กำไรที่ลดลงนั้นเป็นผลมาจากสินค้าคงเหลือยกมาในปี 2552 มีราคาสูง 

ด้านบริษัทสหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาสที่ 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.2552 มีกำไรสุทธิ 41.39 ล้านบาท หรือ 1.28 บาทต่อหุ้น ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 108.91 ล้านบาท หรือ 3.36 บาทต่อหุ้น หรือลดลง 61%

นางสาวอัญชลี สืบจันทศิริ กรรมการบริษัท สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม ระบุว่ากำไรที่ลดลงเป็นผลมาจากรายได้จากการขายลดลง 180.90 ล้านบาท โดยมีปริมาณการขายน้ำมันปาล์มดิบและน้ำมันเมล็ดในปาล์ม ลดลง 9.76% และ 66.11% ตามลำดับ อีกทั้งราคาขายต่อหน่วยของน้ำมันปาล์มดิบและน้ำมันเมล็ดในปาล์ม ที่ปรับตัวลดลง 32.37% และ 50.23% ตามลำดับ

ในขณะที่ต้นทุนขายเพิ่มขึ้นจาก 53.99% เป็น 66.67% ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทลดลงจาก 46.01% เป็น 33.33% ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายของบริษัทลดลง 4.37 ล้านบาท สาเหตุส่วนใหญ่มาจากค่าขนส่งที่ลดลงซึ่งสอดคล้องกับปริมาณขายที่ลดลง

ส่วนบริษัท ล่ำสูง (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มตราหยก รายงานผลประกอบการงวดไตรมาสที่ 1 มีกำไรสุทธิ 120.81 ล้านบาท หรือ 0.15 บาทต่อหุ้น ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 132.51 ล้านบาท หรือ 0.16 บาทต่อหุ้น หรือลดลง 8.83%

สาเหตุของกำไรสุทธิที่ลดลงเนื่องจากรายได้จากการขายของบริษัทและบริษัทย่อยลดลง 766.20 ล้านบาท คิดเป็น 31.49% ในขณะที่ต้นทุนขายลดลงเล็กน้อยจาก 84.29% ในปี 2551 เป็น 81.05% ในปีนี้ ทำให้กำไรขั้นต้นลดลงเป็นจำนวนเงิน 66.33 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจาก รายได้จากการขายในส่วนผลิตภัณฑ์ของบริษัทลดลง 727.37 ล้านบาท คิดเป็น 35.54% โดยมาจากปริมาณขายลดลง 15.15% และราคาขายถัวเฉลี่ยต่อหน่วยลดลง 20.39%

นอกจากนี้บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้อื่นลดลง 9.16 ล้านบาท คิดเป็น 31.05% ซึ่งเป็นการลดลงของบริษัทจำนวนเงิน 4.43 ล้านบาท และในส่วนของบริษัทย่อยลดลง 4.73 ล้านบาท เนื่องจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ลดลง

บล.นครหลวงไทย ออกบทวิเคราะห์ผลการดำเนินงานงวดไตรมาสที่ 1 บริษัทน้ำมันพืชไทย โดยระบุว่า บริษัทน้ำมันพืชไทย มีผลขาดทุนจากการดำเนินงานราว 292 ล้านบาท เนื่องจากยังมีสต็อกสินค้าที่ต้นทุนสูงจากไตรมาส 4 ปี 2551 ทำให้มีอัตรากำไรขั้นต้นเหลือเพียง ลบ 4.5% ขณะที่ USDA ได้มีการคาดการณ์ปริมาณผลผลิตถั่วเหลืองของโลกประจำปีเพาะปลูก 2552/2553 ที่จะเริ่มฤดูกาลเพาะปลูกตั้งแต่เดือนมิ.ย.2552 เป็นต้นไป และเริ่มส่งมอบราวเดือน พ.ย. 2552 โดยคาดปริมาณผลผลิตถั่วเหลืองเพิ่มขึ้น 13.6% เป็น 241.7 ล้านตัน

อย่างไรก็ตาม บล.นครหลวงไทยแนะขายทำกำไร หุ้นน้ำมันพืชไทย ปรับตัวสูงขึ้นจากประเด็นเก็งกำไรเรื่องอุปทานถั่วเหลืองที่ตึงตัว และผลที่ประกาศออกมาถือว่าเป็นไปตามที่คาด ซึ่งในปัจจุบันราคาสูงกว่ามูลค่าเหมาะสมที่ 11.80 บาท รวมทั้งประเด็นราคาถั่วเหลืองในระยะยาวที่มีแนวโน้มถูกกดดันจากอุปทานที่เพิ่มขึ้น

ด้าน บล.ยูไนเต็ด ระบุว่า บริษัทน้ำมันพืชไทยแจ้งผลการดำเนินงานไตรมาสแรกกว่าที่คาดค่อนข้างมาก โดยพลิกจากขาดทุนสุทธิกว่า 920 ล้านบาทใน ไตรมาส 4 ปี 2551 เป็น 321 ล้านบาทหรือฟื้นตัวถึง 135% จากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากราคาและปริมาณการขายที่สูงขึ้น ช่วยดันยอดขายไตรมาสแรกฟื้นตัวถึง 10% โดยจากราคาขายเฉลี่ยของสินค้าหลักอย่างกากถั่วเหลือง ที่ปรับสูงขึ้นกว่า 3% ที่ระดับ 15 บาทต่อกิโลกรัม

ประกอบกับด้วยปริมาณการขายทั้งกากและน้ำมันถั่วเหลืองที่ฟื้นตัวสูงขึ้นอีกครั้งตามอุปสงค์ของผู้เลี้ยงสัตว์ที่เพิ่มขึ้นหลังราคาขายเนื้อสัตว์มีทิศทางสูงขึ้นและผลกระทบด้านบวกจากส่วนต่างของราคาขายน้ำมันถั่วเหลืองและปาล์มที่ลดลง อีกทั้งธุรกิจโรงสกัดน้ำมันในจีนก็ฟื้นตัวตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในจีน ดังนั้น จึงผลักดันรายได้ไตรมาสแรกปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 4 ปีที่แล้ว ที่ระดับ 4,739 ล้านบาทเป็น 5,203 ล้านบาท

บล.ยูไนเต็ด มองว่า ด้วยอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูงสม่ำเสมอทุกครึ่งปีราว 8.4% กอปรกับแนวโน้มกำไรก็ยังสดใสต่อเนื่อง มีโอกาสปรับกำไรทั้งปีขึ้น ดังนั้น เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” โดยมีราคาเป้าหมายปี 2552  ที่หุ้นละ 12.8 บาท

อ่านต่อที่ : กลุ่มน้ำมันพืชขาดทุนสต็อกกำไรวูบ 41%

น้ำมันขึ้นราคาอีก 60สต.14พค.หลังราคาตลาดโลกขึ้นอีก พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in ทั่วไป.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

น้ำมันขึ้นราคาอีก 60สต.14พค.หลังราคาตลาดโลกขึ้นอีก

น้ำมันขึ้นราคาอีก 60สต.14พค.หลังราคาตลาดโลกขึ้นอีก

นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ตลาดขายปลีกหน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุด (วันที่13 พ.ค.52) ราคาน้ำมันดิบดูไบขึ้นมาอยู่ที่ 57.45 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (เพิ่มขึ้น 3.28 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล)น้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์เบนซิน 95 อยู่ที่ 66.51 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (เพิ่มขึ้น 2.72 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล)และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 64.59 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (เพิ่มขึ้น3.20 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล) ส่งผลให้ค่าการตลาดเฉลี่ยเหลือเพียง0.97 บาท/ลิตร ปตท. จึงจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและกลุ่มดีเซลขึ้น60 สตางค์/ลิตร ยกเว้นน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 โดยการปรับราคาครั้งนี้ ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในกรุงเทพฯ และปริมณฑลตั้งแต่เวลา 05.00 น. วันที่ 14 พฤษภาคม เป็นต้นไป 

 

น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85(พีทีที E 85 พลัส) 18.02

น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20(พีทีที E 20 พลัส) 24.64

น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95(พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 95) 26.94

น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91(พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 91) 26.14

น้ำมันเบนซิน 91(พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91) 30.74

น้ำมันไบโอดีเซล (พีทีที B5 พลัส) 20.99

น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (พีทีที เดลต้า เอ็กซ์) 23.99

 

นายวิทยา กล่าวว่า การปรับขึ้นราคาขายปลีกครั้งนี้ เป็นผลจากการที่ต้นทุนราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับสูงขึ้นจากปัจจัยความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่สะท้อนผ่านตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงนี้และรวมถึงดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจ เช่น อัตราว่างงานรายเดือนของสหรัฐฯ ที่ลดลง และผลการทดสอบศักยภาพระบบธนาคารในสหรัฐฯอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ในขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศจีน ทำให้นักวิเคราะห์ประเมินว่ายอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศจีนปี 2552 จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 8.7% อยู่ที่ 10.2 ล้านคัน นอกจากนี้ International Energy Agency ปรับลดคาดการณ์Non OPEC Supply ลงอีก 500,000 บาร์เรล/วัน(ลดลงทั้งสิ้น 1.7 ล้านบาร์เรล/วัน) ปัจจัยดังกล่าวล้วนส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันได้ 

อ่านต่อที่ : น้ำมันขึ้นราคาอีก 60สต.14พค.หลังราคาตลาดโลกขึ้นอีก