ข่าว ในประเทศไทย

สั่งตายเสี่ยรัว5นัดซ้อนสยองคาวัด2ปมสังหาร พฤษภาคม 15, 2009

สั่งตายเสี่ยรัว5นัดซ้อนสยองคาวัด2ปมสังหาร

สั่งตาย “เสี่ยค้าไม้ยูคาฯ” ดับสยองคาวัด หลังมาร่วมงานศพแม่เพื่อน ขณะเดินมาขึ้นรถปิกอัพจะกลับบ้าน ถูกมือปืนชุดซาฟารี เดินมาชักปืนกระหน่ำยิงไม่ยั้ง 5 รัดซ้อน ก่อนวิ่งไปขึ้นรถจยย.ที่เพื่อนติดเครื่องรออยู่หลบหนี ตำรวจตั้ง 2 ปมฆ่า การเมืองท้องถิ่น-ขัดธุรกิจ สงสัยถูกบงการเก็บ

เมื่อวันที่ 14 พ.ค. พ.ต.ท.ภุชงค์ ศรีวิสิฐศักดิ์ สวส.สภ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี เปิด เผยว่าเมื่อกลางดึกวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา รับแจ้งมีเหตุยิงกันบริเวณลานวัดปลั่งเจตนาราษฎร์ หมู่ 13 ต.พัฒนานิคม อ.พัฒนานิคม จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.สมบูรณ์ สุทธิวงษ์ ผกก. พ.ต.ต.เศฎฐพงศ์ สุประเพียร สว.สส. และ   ฝ่ายสืบสวน ที่เกิดเหตุพบเพียงกองเลือดเล็กน้อย เพราะถูกสายฝนที่ตกปรอย ๆ ชะล้างออกไป และพบปลอกกระสุนปืนขนาด .38 ซูเปอร์ตกอยู่ 5 นัด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำส่งรพ.พัฒนานิคม ไปแล้วคือนายภมร บุญฉาบพา อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105/2-3 หมู่ 9 ต.พัฒนานิคม ถูกยิงเข้าที่หน้าอกซ้าย 3 นัด แขนซ้าย 1 นัด และโคนขาซ้าย 1    นัด รวม 5 นัด เสียชีวิตตั้งแต่ในที่เกิดเหตุ   แล้ว แต่พลเมืองดีที่นำส่งไม่ทราบ ในที่เกิด เหตุยังพบรถปิกอัพ 4 ประตู ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กจ 9748 ลพบุรี ของผู้เสียชีวิตจอดอยู่ ภายในรถพบปืนขนาด 11 มม.
 
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายทำธุรกิจค้าไม้ยูคา หล่อเสาและทำท่อปูน ชอบเล่นการเมืองท้องถิ่น โดยเคยลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.อบจ. และสมาชิกสภาเทศบาล หรือ ส.ท. แต่สอบตก ก่อนเกิดเหตุขับรถไปร่วมงานสวดพระอภิธรรมศพมารดาของเพื่อนที่วัด ขณะกำลังเดินลงมาที่ลานเพื่อขับรถกลับบ้าน ถูกคนร้ายเป็นชายสวมชุดซาฟารี สีกรมท่า สวมหมวกแก๊ปปิดบังใบหน้า เดินเข้ามาชักปืนจ่อยิงผู้ตายจนล้มลงกับพื้น ก่อนจะยิงซ้ำอีกหลายนัด ต่อหน้าชาวบ้านที่มาร่วมงานศพ จากนั้นคนร้ายรีบวิ่งไปขึ้นรถจยย. ที่เพื่อนติดเครื่องรอไว้บริเวณหน้าวัดหลบหนีไป เบื้องต้นตำรวจตั้งประเด็นสังหารไปที่เรื่องการเมืองท้องถิ่น เนื่องจากผู้ตายจัดทีมเตรียมลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ท.ในพื้นที่ และเรื่องขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจ โดยเชื่อว่าคนร้ายจะถูกจ้างวานมาสังหารผู้ตาย ซึ่งตำรวจจะสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงและตามจับกุมคนร้าย รวมทั้งผู้บงการมาดำเนินคดีต่อไป.

อ่านต่อที่ : สั่งตายเสี่ยรัว5นัดซ้อนสยองคาวัด2ปมสังหาร

เชิดชูเด็ก12ขวบ เป็นพลเมืองดี เก็บเงินแสนคืนเจ้าของ พฤษภาคม 13, 2009

เชิดชูเด็ก12ขวบ เป็นพลเมืองดี เก็บเงินแสนคืนเจ้าของ

เชิดชูเด็ก12ขวบ เป็นพลเมืองดี เก็บเงินแสนคืนเจ้าของ

พ.ต.อ.อำนาจ อินทรประสาท ผู้กำกับสน.บึงกุ่ม เปิดเผยว่า เหตุเกิดเมื่อวานนี้ (6 พ.ค.) เวลาประมาณ 18.00 น. โดยด.ญ.สุพรรณิกา ทองสา หรือ น้องแพรว อายุ 12 ปี เรียนอยู่ชั้น ป. 5 โรงเรียนคลองกุ่ม เก็บเงินสดได้ประมาณ 140,000 บาท ซึ่งอยู่ในกระเป๋าสะพาย บริเวณโครงการแฟลตเอื้ออาทร ซึ่งผู้เสียหาย คือ น.ส.ศิริพร มหาโคตร ขณะกำลังขึ้นรถ แต่ทำเงินที่เบิกมาตก น้องแพรวเห็นพอดี แต่นางสาวศิริพร ได้ขับรถออกไปแล้ว โดยช่วงเวลาเดียวกัน มีมอเตอร์ไซค์รับจ้างขับมาเห็นเช่นกัน มอเตอร์ไซค์คนดังกล่าวบอกว่าจะแบ่งเงินกับน้องแพรว แต่เด็กบอกว่าไม่เอา ไม่ใช่เงินของหนู จึงไปบอกผู้ปกครอง ผู้ปกครองจึงไปบอกตำรวจว่าเจอเงินตก แต่มอเตอร์ไซค์เก็บเอาไป ตำรวจจึงส่งเจ้าหน้าที่ไปสอบสวนข้อเท็จจริง ก็ตามไปเจอวินมอเตอร์ไซค์จึงคืนให้ ตรวจสอบแล้วว่าเป็นเงินของเจ้าของจริง เบิกมาจากธนาคารจริง จำนวนเงินตรงกัน ซึ่งตำรวจจะมอบประกาศนียบัตรให้น้องแพรว ในวันนี้ (7 พ.ค.) เวลา 13.30 น. เพราะเป็นคนดีที่เก็บเงินได้

ด้านนางสาวศิริพร ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนกำลังก้มเก็บขอในรถ จังหวะนั้นเงินร่วงลงพื้นแต่ได้ขับรถออกไปจึงไม่เห็น จากนั้นน้องแพรว ได้พบเงินพร้อมกับวินมอเตอร์ไซค์ แล้วบอกว่ามาแบ่งกัน แต่น้องแพรวบอกว่าไม่เอา โดยวินมอเตอร์ไซค์ จะเอาเงินไป 80,000 บาท แล้วแบ่งให้น้องแพรว 60,000 บาท น้องแพรวจะเอาไปให้แม่ แต่ก็มาเจอกับวิน คนที่สองแย่งเงินไป ก็เลยไปเล่าให้แม่ฟัง ส่วนตนกลับมาหาเงินแต่ไม่เจอ จึงให้คนประชาสัมพันธ์ให้น้องแพรวก็ออกตัว ว่าเป็นคนเจอเงิน แต่มอเตอร์ไซค์แย่งไปหมดแล้ว ซึ่งน้องแพรวก็ได้ช่วยตามหาคนที่เอาเงินไปแต่ไม่เจอ จึงไปแจ้งความตำรวจ จากนั้นตำรวจได้เข้ามาช่วย จนวินมอเตอร์ไซค์ได้นำเงินมาคืนให้ในที่สุด ทั้งนี้ ตนอยู่ที่แฟลตนี้เช่นกัน ทราบว่าน้องแพรวเป็นลูกที่ผู้ปกครองเก็บมาเลี้ยง อยากชื่นชมว่าเลี้ยงลูกได้ดีมากเพราะไม่คิดเอาเงินของคนอื่น

ทั้งนี้ จากการสอบสวนทราบว่า วินมอเตอร์ไซด์ 2 คัน ชื่อ นายอุดร อ่อนจันทร์ และนายทอง ผลจันทร์ โดย ร.ต.ท.หญิงลัดดาวัลย์ แสงมณี ร้อยเวรเจ้าของคดีเข้าไปสอบถามวินมอเตอร์ไซด์ ให้การว่า ตนเองคิดว่าเงินดังกล่าวไม่มีเจ้าของ จึงเอาเงินมาแบ่งกัน หลังจากนั้นรู้ว่าเงินดังกล่าวมีเจ้าของก็ได้นำเงินดังกล่าวคืนให้เจ้าของเรียบร้อยแล้ว

อ่านต่อที่ : เชิดชูเด็ก12ขวบ เป็นพลเมืองดี เก็บเงินแสนคืนเจ้าของ