jump to navigation

คุมตัวเมียแท็กซี่เชือดคอสาวอัมรินทร์ทำแผน พฤษภาคม 27, 2009

Posted by 1000thainews in อาชญากรรม.
Tags: ,
add a comment

คุมตัวเมียแท็กซี่เชือดคอสาวอัมรินทร์ทำแผน

คมชัดลึก : จากกรณีคนร้ายฆ่าปาดคอ น.ส.อรอัจฉรา พรหมผลิน อายุ 27 ปี ผู้ช่วยบรรณาธิการ กองบรรณาธิการนิตยสาร shape ในเครือบริษัทอัมรินทร์พรินติ้งแอนด์พลับบลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) หมกอำพรางคดีภายในห้องพักเลขที่ 216 อาคารชัยพฤกษ์ อพารต์เมนต์ ถ.ชัยพฤกษ์ แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน เหตุเกิดเมื่อยามดึกวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา

 ล่าสุดวันนี้ (26 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.30น. พ.ต.ท.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล รอง ผกก.สส.สน.ตลิ่งชัน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบได้ควบคุมตัว นางเสาวนีย์ ช้างเขียว อายุ 36 ปี อาชีพขายพวงมาลัย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ห้องเกิดเหตุ โดยเมื่อไปถึงพบชาวบ้านจำนวนมากยืนรออยู่บริเวณหน้าอพารต์เมนต์ และต่างจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งหลายคนรู้จักสนิมสนมกับผู้ต้องหาเป็นอย่างดี

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพจุดที่ 1 บริเวณหน้าห้องเลขที่ 216 นางเสาวนีย์ ได้จุดธูปขอขมาผู้ตาย จากนั้นได้ชี้ไปยังเลขที่ประตูห้องแสดงให้เห็นว่าเป็นห้องที่เข้ามาก่อเหตุ จุดที่ 2 บริเวณประตูระหว่างเปิดอ้าออก ซึ่งเป็นจุดที่มีปากเสียงกับผู้ตาย ก่อนที่จะลงมือตบตีกัน จุดที่ 3 ภายในห้องซึ่งเป็นจุดที่นางเสาวนีย์ ให้การว่า นายสันต์ชัย สังข์แป้น สามีเป็นคนจับศรีษะผู้ตายกระแทกลงกับพื้น จุดที่ 4 ใกล้เคียงกันบริเวณที่นอน ซึ่งเป็นจุดที่สามีใช้มีดปาดคอผู้ตาย ก่อนจะชี้ไปยังห้องน้ำที่ได้นำศพไปทิ้งไว้ จุดที่ 5 ที่ห้องเลขที่ 215 ซึ่งเป็นห้องพักที่ไม่มีผู้พักอาศัย

 นางเสาวนีย์ ให้การว่า สามีได้ปีนข้ามมาไปอาบน้ำล้างคราบเลือดที่เปื้อนตามตัวออก แล้วจึงเดินกลับมายังห้องพักเลขที่ 204 ที่อยู่ตรงข้ามซึ่งเป็นห้องพักของตนกับสามี และจุดสุดท้ายบริเวณหน้าห้องน้ำภายในห้องพัก ซึ่งเป็นจุดที่นางเสาวนีย์ ระบุว่า สามีสั่งให้ตนนำถุงขยะมาใส่เสื้อผ้าเปื้อนเลือด ก่อนที่จะนำไปทิ้ง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นางเสาวนีย์ลงมาจากห้องที่เกิดเหตุ ก่อนจะขึ้นรถกระบะไปชี้จุดที่ผู้ต้องหานำเสื้อผ้าเปื้อนเลือดไปทิ้ง บริเวณริมทางรถไฟชัยพฤกษ์ ซึ่งอยู่ภายในซอยเดียวกัน

 หลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้น นางเสาวนีย์ เปิดเผยว่า สาเหตุที่ต้องฆ่าเพราะช่วงเวลาประมาณ 02.00 น.วันเกิดเหตุ ตนและสามีกำลังนอนหลับอยู่ภายในห้อง ได้ยินเสียงโทรทัศน์ในห้องผู้ตายเปิดเสียงดังมากจนทนไม่ไหว จึงไปเคาะประตูขอร้องให้ผู้ตายลดเสียง กระทั่งมีปากเสียงกับผู้ตายก่อนที่สามีจะลงมือก่อเหตุ ทั้งนี้ อยากให้สามียอมรับสารภาพ เพราะทำอะไรให้ว่ากันไปตามกฎหมาย ตนยืนยันว่าสามีกับตนได้ก่อเหตุฆ่าน.ส.อรอัจฉรา จริง

 ขณะเดียวกันด้านนายสันต์ชัย สามีนางเสาวนีย์ ได้เกาะห้องขังผู้ต้องหาใน สน.ตลิ่งชัน พูดจาร้องขอความเป็นธรรมกับผู้สื่อข่าว และยังยืนยันว่า ไม่ได้รู้เห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ และมั่นใจว่าภรรยาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเกลี้ยกล่อมให้ยอมรับสารภาพ ซึ่งตนไม่เข้าใจว่าเหตุใดเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้ตนเป็นแพะ ทั้งที่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี และขณะนี้ไม่ต้องการพูดอะไรมากไปกว่านี้ ขอเพียงแค่ให้ความเป็นธรรม ทั้งนี้ ยังขอให้ภรรยาพูดความจริง ส่วนตนยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนร้าย

 ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากการพูดคุยกับเพื่อนบ้านใกล้เคียงที่รู้จักสนิทสนมกับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เปิดเผยว่า ได้รู้จักกับผู้ต้องหาทั้งสองเป็นอย่างดี โดยปกตินางเสาวนีย์ เป็นคนใจเย็น ยิ้มแย้มแจ่มใส ส่วนนายสันต์ชัย เป็นคนไม่ค่อยพูดจา นิ่งเงียบ แต่ติดการพนันมวยตู้ ส่วนผู้ตายไม่รู้จัก แต่รู้จักกับเพื่อนผู้ตาย โดยทราบว่า ผู้ตายเป็นคนเรียบร้อย นิ่งเงียบ รักสันโดษ ไม่ค่อยยุ่งหรือสุงสิงกับใคร ชาวบ้านในละแวกนี้จึงไม่เข้าใจว่าเหตุใด นางเสาวนีย์ จึงให้การว่าถูกผู้ตายด่าทอ ยั่วยุด้วยคำหยาบคาย แค่เพียงเรื่องเปิดโทรทัศน์เสียงดังเท่านั้น ไม่น่าจะทำให้ฆ่ากันตายได้ ทั้งนี้ ไม่ได้เข้าข้างใครข้างใดข้างหนึ่ง จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย 

 ด้าน พ.ต.ท. สุกิจ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่นางเสาวนีย์ ให้การรับสารภาพว่า มีส่วนร่วมก่อเหตุกับสามี แต่เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมานางเสาวนีย์ กลับคำให้การ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเกิดความสับสนกับคำให้การของนางเสาวนีย์  จึงให้นางเสาวนีย์สงบสติอารมณ์ก่อน จากนั้นช่วงเช้าวันนี้จึงนำตัวออกมาสอบปากคำอีกครั้ง พร้อมกับให้พูดคุยกับญาติ นางเสาวนีย์ จึงมีสีหน้าที่ผ่อนคลายลง กระทั่งยอมรับสารภาพว่าเป็นคนร่วมก่อเหตุจริง หลังจากนั้นจึงได้นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

 พ.ต.ท.สุกิจ กล่าวต่อว่า หลักฐานทั้งหมดที่นางเสาวนีย์ ให้การนั้นสอดคล้องกับการตรวจพิสูจน์แทบทั้งสิ้น อาทิ ภายในห้องว่างเลขที่ 215 ที่นางเสาวนีย์ ให้การว่า สามีเข้าไปอาบน้ำล้างคราบเลือดพร้อมกับนำผ้าไปเช็ดถูคราบเลือดที่อยู่บนพื้น เจ้าหน้าที่ตำรวจนำน้ำยาตรวจพิสูจน์ไปเทลาดที่พื้นปรากฎว่าเห็นคราบเลือดเด่นชัดขึ้นมาทันที รวมถึงคราบเลือดที่กระเซ็นอยู่ที่ประตูห้องของผู้ต้องหาอีกด้วย นอกจากนั้นคำให้การของพยานในอพารต์เมนต์ที่ระบุว่าเห็นสองสามีภรรยาอยู่ในห้องผู้ตายจริง แต่ช่วงที่เกิดเหตุใหม่ๆ ไม่มีใครกล้าออกมาให้เบาะแส จนกระทั่งจับตัวคนร้ายได้จึงกล้าออกมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

 “จะเอาตัวนายสันต์ชัย ไปฝากขังก่อนจะส่งฟ้องไปตามปกติ เพราะหลักฐานทั้งหมดปรากฏชัด หากนายสันต์ชัย รับสารภาพและให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ก็จะลดโทษให้ครึ่งหนึ่ง แต่หากยังยืนกรานปฏิเสธ เมื่อศาลตัดสินออกมาว่านายสันต์ชัย ผิดจริง ก็ต้องรับโทษไปเต็มๆ ส่วนเรื่องที่ญาติของนายสันต์ชัย ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นการจับแพะนั้น ก็ต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐานที่มีอยู่ ทางญาติสามารถนำหลักทรัพย์มาประกันตัวออกไปสู้คดีได้” พ.ต.ท.สุกิจ กล่าว

อ่านต่อที่ : คุมตัวเมียแท็กซี่เชือดคอสาวอัมรินทร์ทำแผน

09:14 น. สาวท้อง2เดือน โดดตึกหนีตร.ดับอนาถ พฤษภาคม 15, 2009

Posted by 1000thainews in ข่าวด่วน.
Tags: , , , , , , , , , , , , , ,
add a comment

09:14 น. สาวท้อง2เดือน โดดตึกหนีตร.ดับอนาถ

15 พค. 2552 09:14 น.

เมื่อเวลา 04.00 น.ของวันที่ 15 พ.ค. 52 พ.ต.ท.ไสว องอาจ พนักงานสอบสวนหน่วยสอบสวนย่อย สน.โค้งดงตาล ได้รับแจ้งเหตุมีคนพลัดตกจากที่สูงบาดเจ็บสาหัส ที่อาคารพานิชย์ เลขที่ 144/150 ซอยจอมเทียน 2 หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพานิชสูง 5 ชั้น ตรวจสอบที่ป่าด้านหลังอาคาร พบร่างของ น.ส.เป้า ไม่ทราบนามสกุล อายุ 32 ปี ซึ่งตั้งท้องได้ 2 เดือน กระโดดลงมาจากระเบียงห้องพักชั้นที่ 5 ลงมากระแทกพื้นด้านล่างได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่นำส่งที่โรงพยาบาลบางละมุง แต่เสียชีวิตระหว่างนำส่งรพ. เนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว
จากการตรวจสอบภายในห้องพักที่เกิดเหตุ พบมีอุปกรณ์การเสพยาบ้า ยาไอซ์ และถุงบรรจุยาไอซ์ วางอยู่ที่พื้นห้องเป็นจำนวนมาก เบื้องต้นได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนของ สภ.เมืองพัทยา ว่า ในเวลาที่เกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้นำกำลังเข้ามาจับกุมยาเสพติด
ซึ่งในขณะที่กำลังนำกำลังเข้าทำการจับกุมนั้น คนที่อยู่ในห้องพักวิ่งหลบหนี โดยเจ้าหน้าที่ สามารถติดตามจับกุมตัว นายบรรเจิด ประสาทยา อายุ 36 ปี และ นายวิชัย ผจญ อายุ 25 ปี ได้พร้อมของกลางเป็นยาบ้าจำนวนหนึ่ง
ส่วน น.ส.เป้า ได้วิ่งหลบหนีไปทางระเบียงหลังห้องพักก่อนจะกระโดดหนีลงมาจากระเบียงห้องพักและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
นายบรรเจิด ประสาทยา และ นายวิชัย ผจญ ผู้ต้องหาที่จับกุมได้ ยอมรับว่าขณะเกิดเหตุตนและพวกกำลังนั่งเสพยาบ้าอยู่ภายในห้องพักที่เกิดเหตุ โดยมี น.ส.เป้า อยู่ภายในห้องพักด้วย โดยได้ซื้อยาบ้ามาจาก น.ส.เป้า จนกระทั่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้ามาจับกุม
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบสวนชาวบ้านในละแวกที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง พร้อมทั้งจะทำการสอบสวนทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนที่เข้าทำการจับกุมยาเสพติดอย่างละเอียดอีกครั้งต่อไป
อ่านต่อที่ : 09:14 น. สาวท้อง2
เดือน โดดตึกหนีตร.ดับอนาถ