jump to navigation

จีนยังคงซื้อพันธบัตรรบ.USเพิ่ม แม้แสดงท่าทีวิตกมูลค่าจะหดวูบ พฤษภาคม 17, 2009

Posted by 1000thainews in ต่างประเทศ.
Tags: , , , ,
add a comment

จีนยังคงซื้อพันธบัตรรบ.USเพิ่ม แม้แสดงท่าทีวิตกมูลค่าจะหดวูบ
        เอเอฟพี – จากข้อมูลในช่วงหลังๆ มานี้ชี้ชัดว่า จีนกำลังซื้อหาพันธบัตรคลังสหรัฐฯเพิ่มขึ้นอีก ถึงแม้ได้ออกมาแสดงความกังวลอย่างไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก เกี่ยวกับความปลอดภัยในการลงทุนถือครองสินทรัพย์สกุลดอลลาร์
       
        ข้อมูลของกระทรวงคลังสหรัฐฯ ระบุว่าการถือครองพันธบัตรคลังสหรัฐฯ (ทีบอนด์) ของจีนเพิ่มขึ้นเป็น 767,900 ล้านดอลลาร์ในเดือนมีนาคม จาก 744,200 ล้านดอลลาร์ในเดือนก่อนหน้า โดยตัวเลขดังกล่าวไม่รวมมูลค่าการถือครองของฮ่องกง ซึ่งเป็นเขตปกครองพิเศษของแผ่นดินใหญ่ ที่เพิ่มเป็น 78,900 ล้านดอลลาร์ จาก 76,300 ล้านดอลลาร์
       
        สถิตินี้แสดงให้เห็นว่าจีนยังคงเป็นผู้ซื้อทีบอนด์รายใหญ่ แม้จะได้แสดงท่าทีมาหลายปีแล้วว่าพยายามกระจายทุนสำรองเงินตราต่างประเทศที่ตนมีอยู่อย่างมหาศาล ไปลงทุนด้านอื่นๆ นอกเหนือจากสินทรัพย์สกุลดอลลาร์
       
        นอกจากนั้น เดือนมีนาคมที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีเวินเจียเป่าได้แสดงความกังวลอย่างเป็นทางการแบบที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก เกี่ยวกับความปลอดภัยของการถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ จำนวนมาก แต่จากข้อมูลของกระทรวงคลังแดนอินทรีกลับพบว่า ในเดือนเดียวกันนั้น ปักกิ่งซื้อทีบอนด์ถึง 23,700 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นมูลค่าสูงสุดนับจากเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว
       
        ความกังวลของเวินมีขึ้นท่ามกลางความไม่พอใจของปักกิ่งว่า จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ มูลค่าเกือบ 800,000 ล้านดอลลาร์ อาจฉุดมูลค่าสินทรัพย์สกุลดอลลาร์ให้ดิ่งลง
       
        นอกจากนี้ พญามังกรยังห่วงที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เตรียมซื้อทีบอนด์ระยะยาวมูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์เพื่อแก้ปัญหาการไหลเวียนของสินเชื่อ เนื่องจากอาจทำให้ผลตอบแทนจากการซื้อทีบอนด์ในอนาคตลดลง
       
        ความที่เป็นผู้ถือครองทีบอนด์รายใหญ่ ทำให้จีนเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่สุดของสหรัฐฯ โดยอัตโนมัติ และยังเป็นผู้ที่ครอบครองทุนสำรองสกุลดอลลาร์สูงสุดในโลก เกือบสองล้านล้านดอลลาร์ มากกว่าญี่ปุ่นราวสองเท่า และสี่เท่าของรัสเซียและซาอุดีอาระเบีย
       
        ชีรัก มิรานี นักวิเคราะห์ของบาร์เคลย์ แคปิตอล ตั้งข้อสังเกตว่าในไตรมาสแรกปีนี้ จีนถือครองพันธบัตรคลังสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 40,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเพิ่มขึ้นเพียง 7,000 ล้านดอลลาร์เท่านั้น
       
        นักวิเคราะห์บางคนสังเกตเห็นความสัมพันธ์ที่ผ่อนคลายขึ้นระหว่างการที่จีนไว้ใจว่าพันธบัตรสหรัฐฯ เป็นการลงทุนที่ปลอดภัย กับการที่วอชิงตันพึ่งพิงเงินทุนของจีนในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจจากฝันร้าย
       
       กระนั้น นักวิเคราะห์อีกหลายรายก็มองว่า ความสัมพันธ์นี้อาจชะลอความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาความไม่สมดุลของโลก ที่เกิดจากการที่สหรัฐฯ ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดมากขึ้น ขณะที่จีนเกินดุลมากขึ้น และปัญหานี้เป็นสาเหตุหนึ่งของวิกฤตการเงินโลกในปัจจุบัน
       
        “ก่อนหน้านี้ไม่เคยปรากฏเหตุการณ์ที่ประเทศยากจนอย่างจีน กลับอัดฉีดเงินทุนให้ประเทศร่ำรวยอย่างสหรัฐฯ และไม่เคยปรากฏมาก่อนว่าประเทศที่ยึดถืออิสระของตัวเองอย่างมากอย่างสหรัฐฯ ต้องพึ่งพิงการระดมทุนอย่างมากจากประเทศเพียงประเทศเดียว” สภาว่าด้วยความสัมพันธ์ต่างประเทศ (Council on Foreign Relations) ซึ่งเป็นกลุ่มศึกษาวิจัยด้านนโยบายการต่างประเทศชื่อดังของสหรัฐฯ ระบุ
       
        แบรด เซ็ตเซอร์ และอาร์ปานา ปันเดย์ ผู้เชี่ยวชาญของกลุ่มนี้เสริมว่า หากสหรัฐฯยังไม่ปรับฐานที่จำเป็น เพื่อจะได้ชำระสินค้านำเข้าด้วยเงินซึ่งได้จากสินค้าส่งออก ไม่ใช่ด้วยการออกตราสารหนี้กู้ยืมต่างประเทศ แต่ยังคงพึ่งพิงเงินทุนจากจีนอยู่ต่อไปเช่นนี้แล้ว การแก้ไขปัญหาความไม่สมดุลของโลกย่อมยิ่งทำได้ยากขึ้น
       
        ขณะเดียวกัน ตราบใดที่รัฐบาลจีนยังคงผูกโยงอย่างแน่นหนากับดอลลาร์ และถือครองสินทรัพย์สกุลดอลลาร์จำนวนมาก การที่จะสร้างเศรษฐกิจโลกที่มีความสมดุลทางการเงิน ก็ย่อมเป็นเรื่องลำบาก ผู้เชี่ยวชาญทั้งสองให้ความเห็น

อ่านต่อที่ : จีนยังคงซื้อพันธบัตรรบ.USเพิ่ม แม้แสดงท่าทีวิตกมูลค่าจะหดวูบ

สธ.แจง32ทูตต่างชาติไทยรับมือหวัดใหญ่ได้ พฤษภาคม 15, 2009

Posted by 1000thainews in อื่นๆ.
Tags: , , , , , , , , , , , ,
add a comment

สธ.แจง32ทูตต่างชาติไทยรับมือหวัดใหญ่ได้

นพ.ศุภมิตร ชุณห์สุทธิ์วัฒน์ นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค นพ.ทวี โชติพิทยสุนันท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านควบคุมโรคติดต่อ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และนายวิทวัส ศรีวิหค อธิบดีกรมอาเซียน ได้ร่วมบรรยายสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่กระทรวงการต่างประเทศ ให้คณะทูตจาก 32 ประเทศ และ ตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ 5 องค์กรรับฟัง

นพ.ศุภมิตร แถลงภายหลังว่า ได้สรุปภาพรวมสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ในไทย รวมถึงผลสรุปการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนบวก 3 ว่า ไทยและประเทศในภูมิภาคจะรับมือได้สำเร็จ อีกทั้งมีคลังยาเพียงพอ

ด้านนพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดสธ. ในฐานะประธานคณะกรรมการศูนย์ตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข เปิดเผยว่า ผลห้องปฏิบัติการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยืนยันว่า ชาวพระนครศรีอยุธยาที่ป่วยหลังกลับจากยุโรปนั้นเป็นไข้หวัดใหญ่ชนิดบี ที่ระบาดตามฤดูกาลและคนไข้มีอาการปกติดีแล้ว

นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สธ. กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการศูนย์ตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุข ได้ประเมินว่าไทยมีแนวโน้มพบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เพิ่มขึ้นอีก จึงได้ใช้มาตรการแซนด์วิช รวมทั้งการเฝ้าระวังโรคกลุ่มเดินทางจากต่างประเทศที่ด่านตรวจโรคประจำสนามบิน และด่านพรมแดนต่างๆ

นอกจากนี้ จะค้นหาผู้ป่วยในหมู่บ้านชุมชน โรงพยาบาล และคลินิกอย่างเข้มแข็ง รวมทั้งได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ประจำด่านที่สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นวันละเกือบ 100 คน ตลอด 24 ชั่วโมง

อ่านต่อที่ : สธ.แจง32ทูตต่างชาติไทยรับมือหวัดใหญ่ได้

นายกฯอัดยูเนสโกแฝงตัวจุ้นชายแดนเขมร พฤษภาคม 15, 2009

Posted by 1000thainews in อื่นๆ.
Tags: , , , , , , , , , , , , , ,
add a comment

นายกฯอัดยูเนสโกแฝงตัวจุ้นชายแดนเขมร

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า องค์การยูเนสโกได้เข้ามาอยู่ในพื้นที่ที่มีปัญหาระหว่างไทยกัมพูชา บริเวณชายแดน และคงเป็นเรื่องการอนุมัติให้ปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก อย่างไรก็ตามการดำเนินการดังกล่าวกัมพูชาได้ทำตามยูเนสโกกำหนด

“แต่เราก็ยืนยันว่าถ้าเข้ามา ในพื้นที่ของเราก็ต้องแจ้ง และควรให้เราเห็นชอบเพื่อดูแลให้ความสะดวก” นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่ายูเนสโกไม่ได้แจ้งฝ่ายไทยใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า มีปัญหากันอยู่ในขณะนี้

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งแก่ยูเนสโกว่า ตามที่คณะกรรมการมรดกโลกได้ลงมติ ในสมัยประชุมที่ 32 ให้ขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก กับกัมพูชา ขอให้กัมพูชาจัดตั้ง คณะกรรมการประสานงานระหว่างประเทศ (ไอซีซี) เพื่ออนุรักษ์และพัฒนาปราสาทฯ นั้น เนื่องจาก ข้อมติฯ กำหนดให้ทรัพย์สินที่ขึ้นทะเบียนคือ ตัวปราสาทเท่านั้น ไม่รวมถึงพื้นที่กว้างที่สูงยื่นออกไปกับหน้าผาและถ้ำ

ทั้งนี้ บทบาทของยูเนสโกและ ไอซีซีจึงถูกจำกัดด้วยขอบเขตทางภูมิศาสตร์ไว้เพียงเท่านั้น ดังนั้นกิจกรรมใดที่ยูเนสโก ไอซีซี หรือฝ่ายอื่นที่จะทำในพื้นที่ติดกับปราสาท นอกขอบเขตที่ได้ขึ้นทะเบียนจะต้องได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการล่วงหน้าจากรัฐบาลไทย

นอกจากนั้นการเดินทางเข้าสู่ปราสาท ซึ่งจะต้องผ่านดินแดน หรือน่านฟ้าของไทย ก็จะต้องได้รับอนุญาตล่วงหน้าจากรัฐบาลไทยด้วยเช่นเดียวกัน

อ่านต่อที่ : นายกฯอัดยูเนสโกแฝงตัวจุ้นชายแดนเขมร

นายกฯบินไปฮ่องกง พฤษภาคม 15, 2009

Posted by 1000thainews in ข่าวด่วน.
Tags: , , , , , , , , , , , , , ,
add a comment

นายกฯบินไปฮ่องกง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนนตรี ออกเดินทางไปเขตปกครองพิเศษฮ่องกงในช่วงเช้าที่ผ่านมา เพื่อพบปะกับผู้บริหารระดับสูงตลอดจนนักธุรกิจรายใหญ่ของฮ่องกง ซึ่งจะถือโอกาสในครั้งนี้สร้างความเชื่อมั่นและยืนยันว่าไทยมีความพร้อมในการลงทุน นอกจากนี้จะมีการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวต่างประเทศถึงสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศของไทยด้วย
อ่านต่อที่ : นายกฯบินไปฮ่องกง

ไตรมาส2ฟื้นเดอะมอลล์คว้า4หมื่นล. พฤษภาคม 15, 2009

Posted by 1000thainews in เศรษฐกิจ.
Tags: , , , , , , , , , , , , , ,
add a comment

ไตรมาส2ฟื้นเดอะมอลล์คว้า4หมื่นล.

นางวรรณา เพิ่มสุวรรณ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา พบว่ายอดคนเข้าห้างเดอะมอลล์ทุกสาขาเพิ่มขึ้นราว 10% โดยวัดจากจำนวนรถยนต์ที่เข้ามาในห้าง ทำให้ยอดการใช้จ่ายต่อบิลเพิ่มขึ้นราว 8–10% เช่นกัน ซึ่งถือเป็นสัญญาที่ดี และหากสถานการณ์การเมืองในประเทศเรียบร้อยไปจนถึงสิ้นปีก็จะทำให้ยอดขายเป็นไปตามเป้า 4 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ แม้ว่าในเดือนเม.ย. จะมีความวุ่นวายทางการเมืองจนทำให้ยอดขายของบริษัทลดลง แต่ไม่มากนัก เนื่องจากมีเพียงศูนย์การค้าสยามพารากอนแห่งเดียวที่ต้องปิดบริการไป 1 วันครึ่ง ส่วนสาขาของเดอะมอลล์ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ และมีประชาชนเข้ามาใช้บริการมากขึ้น ส่วนหนึ่งอาจเพราะคนไทยงดเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศ

ดังนั้น บริษัทจึงคาดว่ายอดขายในเดือนนี้จะเติบโตราว 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และจะทำให้ยอดขายในไตรมาส 2 นี้เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ 9,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้ร่วมมือกับบริษัท ซิตี้คอร์ป ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อบุคคล ภายใต้ชื่อ ซิตี้ แอดวานซ์ เพื่อเปิดให้บริการซิตี้ แอดวานซ์ ในห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ทั้ง 5 สาขา ได้แก่ รามคำแหง ท่าพระ บางแค บางกะปิ และงามวงศ์วาน และในไตรมาส 2 นี้จะเปิดเพิ่มอีก 2 สาขาคือ โคราชและสยามพารากอน

การเปิดให้เช่าพื้นที่สำหรับซิตี้ แอดวานซ์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ต่อเดือนมากกว่า 1 หมื่นบาทขึ้นไป และกลุ่มเอสเอ็มอี เข้ามารับคำปรึกษาและทำธุรกรรมทางการเงิน โดยหวังว่าลูกค้ากลุ่มนี้จะมาเป็นลูกค้าของเดอะมอลล์ด้วย” นางวรรณา กล่าว

สำหรับยอดผู้ถือบัตรซิตี้ เอ็ม วีซ่า ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา พบว่ามีจำนวน 1.5 แสนคน มากกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 15–20% และมียอดใช้จ่ายราว 1.3–1.4 หมื่นบาทต่อใบเสร็จ มากกว่ายอดการใช้จ่ายปกติที่มียอดใช้จ่ายอยู่ราว 7,000– 8,000 บาทต่อใบเสร็จ

อ่านต่อที่ : ไตรมาส2ฟื้นเดอะมอลล์คว้า4หมื่นล.

ญี่ปุ่น-แคนาดา จับมือป้องกันการระบาดไข้หวัดใหญ่ 2009 พฤษภาคม 15, 2009

Posted by 1000thainews in ข่าวด่วน.
Tags: , , , , , , , , , , , ,
add a comment

ญี่ปุ่น-แคนาดา จับมือป้องกันการระบาดไข้หวัดใหญ่ 2009

ญี่ปุ่นแคนาดา จับมือป้องกันการระบาดไข้หวัดใหญ่ 2009

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
15 พฤษภาคม 2552 09:28 น.

       ในการพบหารือระหว่าง ฮิโรฟูมิ นากาซูเน รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น กับ นายลอเรนซ์ แคนนอน รัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดา ทั้งสองฝ่ายตกลงจะร่วมมือกันป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ซึ่งรัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า ญี่ปุ่นจะร่วมมือกับแคนาดาในการป้องกัน ตลอดจนเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาด
        ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดา แสดงความเชื่อมั่น ว่าทั้งสองประเทศจะมีมาตรการเฝ้าระวังที่มีประสิทธิภาพ และพร้อมจะแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน
        พร้อมกันนี้ นายแคนนอน ได้แสดงความเสียใจต่อผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ของญี่ปุ่นทั้ง 4 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นนักเรียนที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากแคนาดา

อ่านต่อที่ : ญี่ปุ่น-แคนาดา จับมือป้องกันการระบาดไข้หวัดใหญ่ 2009

แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นดีดกลับ พฤษภาคม 15, 2009

Posted by 1000thainews in ข่าวด่วน.
Tags: , , , , , , , , , , , , , ,
add a comment

แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นดีดกลับ

นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้ลุ้นดีดกลับ ตามตลาดต่างประเทศ โดยเช้านี้ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียต่างฟื้นขึ้นได้พอสมควร เฉลี่ยบวก 1-2% ทั้งนี้คงจะต้องรอดูว่า Flow จากต่างชาติจะยังมีอยู่หรือเปล่า ส่วนปัจจัยในประเทศเวลานี้ก็ไม่ได้มีอะไรเด่นชัดเท่าไร พร้อมให้แนวรับ 520, 515 แนวต้าน 540-550 จุด
         

นายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม รองกรรมการผู้จัดการ บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสดีดกลับได้บ้าง โดยคงจะเป็นลักษณะของการเล่นตามกระแสจากต่างประเทศ ที่เช้านี้ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียต่างฟื้นตัวขึ้นมาได้พอสมควรเหมือนกัน เฉลี่ยบวก 1-2% ดังนั้นตลาดบ้านเราก็มีโอกาสที่จะฟื้นเช่นกัน
         

อย่างไรก็ดี เมื่อวานนี้(14 พ.ค.)นักลงทุนต่างชาติได้ขายสุทธิออกมา ดังนั้นคงจะต้องรอดูว่า Flow จากต่างชาติจะยังมีอยู่หรือเปล่า ส่วนปัจจัยในประเทศเวลานี้ก็ไม่ได้มีอะไรเด่นชัดเท่าไร การเคลื่อนไหวของตลาดฯจึงน่าจะอิงไปทางต่างประเทศมากกว่า
         

พร้อมให้แนวรับ 520, 515 จุด แนวต้าน 540-550 จุด

อ่านต่อที่ : แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นดีดกลับ

ดันสงขลาฮับศก.ใต้แข่งมาเลเซีย พฤษภาคม 15, 2009

Posted by 1000thainews in อื่นๆ.
Tags: , , , , , , , , , , , , , ,
add a comment

ดันสงขลาฮับศก.ใต้แข่งมาเลเซีย

นายสุรชัย จิตภักดีบดินทร์ ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ได้กำหนดแนวทางบริหาร จ.สงขลา ปี 2552-2553 มุ่งเน้นพัฒนา 3 เมกะโปรเจกต์ คือ โครงการสร้างรถไฟรางคู่ โครงการสร้างสะพานเชื่อมเศรษฐกิจสงขลา-สตูล และโครงการสร้างเอนเตอร์ เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ครบวงจร ตั้งเป้าผลักดันสงขลาเป็นศูนย์กลาง ภาคใต้ด้านท่องเที่ยว การค้า และลงทุน แข่งขันกับประเทศมาเลเซีย ในอนาคต

นายสุรชัย กล่าวอีกว่า โครงการดังกล่าวถือว่าเป็นโครงการใหญ่ที่สำคัญที่จะต้องดำเนินการอย่าง เร่งด่วนที่สุด เนื่องจากในขณะนี้ประเทศมาเลเซียได้มีนโยบายในการพัฒนาหัวเมืองทางภาคเหนือ ซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกับภาคใต้ของไทย ทั้งนี้ถ้าหากว่าทางหอการค้าจังหวัดดำเนินการในส่วนนี้ช้าเกินไป อาจจะทำให้ประเทศมาเลเซียกลายเป็นประเทศศูนย์กลางแทน ทำให้ นักลงทุนต่างประเทศแห่ไปลงทุนที่นั่นแทน

อ่านต่อที่ : ดันสงขลาฮับศก.ใต้แข่งมาเลเซีย

เมีย”สมคิด”ปัด”ผัวเมา”ท่าเดิน-เสียงพูดแบบนี้ตั้งแต่เกิด ส.ส.ปชป.แจงขาลอยเพราะถูกดึง หาเรื่องจะจัดให้ พฤษภาคม 15, 2009

Posted by 1000thainews in ทั่วไป.
Tags: , , , , , , , , , , , , , ,
add a comment

เมีย”สมคิด”ปัด”ผัวเมา”ท่าเดิน-เสียงพูดแบบนี้ตั้งแต่เกิด ส.ส.ปชป.แจงขาลอยเพราะถูกดึง หาเรื่องจะจัดให้

เมีย"สมคิด"ปัด"ผัวเมา"ท่าเดิน-เสียงพูดแบบนี้ตั้งแต่เกิด ส.ส.ปชป.แจงขาลอยเพราะถูกดึง หาเรื่องจะจัดให้

ส.ส.เพชรบุรีลั่นแค่เข้า"ไปห้าม" เปล่าเตะ-ขาลอยเพราะถูกดึง ถ้าหาเรื่องอีกจะจัดให้ เมีย"สมคิด"ปัดผัวเมา ยันเดินแบบนี้ตั้งแต่เกิด หลังเกิดเหตุวุ่นกลางที่ประชุมสภา ต้องห้ามกันอุตลุด พท.ซัดปชป.เลี้ยงนักเลงโต ปชป.สวนใครเริ่มก่อน

ส.ส.เพชรบุรีลั่นแค่เข้าไปห้าม แต่ถ้าหาเรื่องอีก ก็จะมีเรื่อง

 

นายอภิชาต สุภาแพ่ง ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ถึงกรณี ส.ส.พรรคฝ่ายค้านและรัฐบาลปะทะคารมจนหวิดวางมวยกัน กลางที่ประชุมรัฐสภา ผ่านทางช่อง 3 ว่า ตนนั่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุมาก ถ้านายสมคิด บาลไธสง ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย ไม่เดินเข้ามาในซีกฝ่ายรัฐบาล ก็จะไม่มีเรื่อง เพราะว่าการเดินเข้ามามีเจตนาหาเรื่อง นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ ก็พูดว่า นายสมคิดเป็นถึงครูอาจารย์ จะทำอย่างนี้ได้อย่างไร แต่นายสมคิดดูเหมือนคนไม่มีสติ เพราะเดินส่ายไปส่ายมามายังซีกรัฐบาล ถ้าดูการแถลงข่าวของนายสมคิด ก็รู้ว่าครองสติไม่อยู่และพูดไม่รู้เรื่อง
นายอภิชาต กล่าวว่า เมื่อนายสมคิดเดินเข้ามา ตนก็มองตามไป จากนั้น นายสมคิดพูดว่า “กูไม่กลัวมึง แน่จริงมึงไปเจอกับกูหลังห้องประชุม” ตนจึงเดินอ้อมไปหาโดยหวังจะพานายสมคิดกลับไปยังที่นั่ง อย่างไรก็ตาม เพื่อนๆ ของตนเข้าใจผิด จึงเข้ามาห้ามตน และตนไม่ชอบให้มาใครยึดตัวไว้ เลยพยายามสะบัดตัวออก ขณะที่นายสมคิดยังไม่หยุดด่า ขอยืนยันว่าไม่ได้ยกเท้าถีบ เพราะว่าอยู่ห่างกันเยอะ แต่ที่ดูเหมือนใกล้กันเป็นเพราะว่ามุมกล้อง ส่วนที่ขาลอยเพราะว่าถูกยึดตัวไว้จากหลายคน

“ถ้าผมมีนิสัยแบบนี้ คงมีเรื่องมาตั้งนานแล้ว เพระาผมเป็น ส.ส.มาตั้งแต่ปี 2544 ในสภาวะแบบนี้เราควรรีบทำงานให้ประชาชน ทุกคนตั้งใจทำงาน แต่อีกฝายหนึ่งพยายามขัดแข้งขัดขาการทำงานของรัฐบาลและนายกฯ ทั้งจากในสภาและนอกสภา เพื่อการดึงเกม ไม่นึกถึงพี่น้องประชาชน” นายอภิชาต กล่าว

เมื่อถามว่า นายกัมพล สุภาแพ่ง ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ พี่ชายของนายอภิชาต กวักมือเรียกและด่านายสมคิดก่อนจริงหรือไม่ นายอภิชาต กล่าวว่า ความจริงแล้วนายกัมพลมองว่า นายสมคิดเป็นคนอาชีพครูด้วยกัน จึงบอกว่าทำตัวแบบนี้มันไม่ดี ต่อมาจึงมีการด่ากันไปมา ปกติแล้วนายกัมพลเป็นคนเงียบนิ่งเฉย ถ้าไม่เข้ามาหาเรื่อง ก็จะไม่มีเรื่อง

เมื่อถามว่า จะทำอย่างไรเพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ส.ส.เพชรบุรี กล่าววว่า “ฝ่ายค้านมีประมาณ 4-5 ส. ที่พยายามป่วนสภาอยู่ตลอด ถ้าไม่หาเรื่องจะไม่มีเรื่อง แต่ถ้าเข้ามาเรื่อง ก็บอกได้เลยว่าจะมีเรื่อง เพราะเข้ามาหาเรื่อง ขอยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์พยายามคุยกันว่า แม้ถูกต่อยยังต้องไหว้และอดทน แต่คนเราเป็นคนไม่ใช่พระอิฐพระปูน ก็ต้องมีการตอบโต้บ้าง ทุกคนบอกว่าได้กลิ่นแอกอฮอล์ แต่ผมไม่ได้กลิ่นเพราะอยู่ห่าง เสียดายแทนคนหนองคาย ถึงเวลาต้องคายหนอง”

 

เมีย”สมคิด“ปัดผัวเมา ยันท่าเดิน-เสียงพูดแบบนี้ตั้งแต่เกิด

นางทองมา บาลไธสง ภรรยานายสมคิด บาลไธสง ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย กล่าวตอบโต้เหตุวุ่นวายในสภา ผ่านช่อง 3 เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์อ้างว่า นายสมคิดเดินอย่างครองสติไม่อยู่นั้น เป็นไปไม่ได้ เพราะนายสมคิดไม่ได้กินเหล้าเลย และมีท่าทางการเดินและมีเสียงแบบนี้มาตั้งแต่เกิดแล้ว คนหนองคายรู้กันดี ขอให้ไปดูกันเองว่า ใครกันแน่ที่ครองสติไม่อยู่ ขอให้ดูว่าทางประชาธิปัตย์ทั้งดิ้นและกระโจนเข้ามา ไม่ใช่มาห้ามตามที่กล่าว

“ปกติพี่สมคิดดื่มเหล้าบ้างเวลาสังสรรค์ แต่ปกติจะไม่ออกไปไหน จะนอนตั้งแต่ 2 ทุ่ม การที่ประชาธิปัตย์พูดแบบนี้ ถือว่าเสียหาย ดิฉันเองก็เป็นคนรักษาศีล” นางทองมา กล่าว

 

“ชัย”หักพท.-ท้ายื่นศาลรธน.ตีความ

 

ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน และรัฐบาลปะทะคารมจนหวิดวางมวยกันกลางที่ประชุมรัฐสภา ระหว่างการพิจารณาข้อตกลงระหว่างประเทศ 4 ฉบับ เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ประกอบด้วย 1.ร่างพิธีสารฉบับที่ 3 เพื่อแก้ไขสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 2.กรอบการเจรจากู้เงินจากต่างประเทศตามแผนการก่อหนี้จากต่างประเทศประจำปีงบประมาณ 2552 ภายใต้แผนการก่อหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2552 วงเงิน 600.43 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 19,814.19 ล้านบาท 3.ข้อเสนอผูกพันเปิดตลาดการค้าบริการของไทยชุดที่ 7 ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยบริการของอาเซียน 4.กรอบการเจรจาร่างพิธีสารว่าด้วยการค้าผลิตภัณฑ์ยาสูบที่ผิดกฎหมาย ตามการเสนอของคณะรัฐมนตรี (ครม.)

ทั้งนี้ ที่ประชุมรัฐสภาที่มีนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาเป็นประธานการประชุม เปิดให้สมาชิกอภิปรายรายฉบับ หลังจากรัฐมนตรีที่รับผิดชอบได้เสนอหลักการไปแล้วในวันก่อนหน้านี้ ก่อนเริ่มอภิปรายร่างพิธีสารฉบับที่ 3 ส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.) อาทิ นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ ลุกขึ้นคัดค้านขอให้พิจารณาทีละฉบับ แทนที่การพิจารณาไปพร้อมกัน เนื่องจากมีรายละเอียดแตกต่างกัน และขอให้รัฐบาลถอนออกไปและเสนอเข้ามาใหม่ แต่นายชัยยืนยันว่าทำได้และพร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่าง พร้อมทั้งท้าให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการดำเนินการดังกล่าว

สมคิดปรี่ใส่หวิดเจอลูกถีบประมวล

จากนั้น นายชัยสั่งนับองค์ประชุมก่อนเข้าสู่การพิจารณา ระหว่างรอการนับองค์ประชุม นายสมคิด บาลไธสง ส.ส.หนองคาย พท. ลุกขึ้นขออนุญาตประธานเดินตรวจการเสียบบัตรลงคะแนนของสมาชิกรอบห้องประชุม โดยระบุว่าอาจมีการเสียบบัตรแทนกัน เพราะเท่าที่ดูเห็นว่าสมาชิกไม่น่าครบองค์ประชุม ทำให้นายชัยกล่าวว่า “เป็นถึงครูบาอาจารย์ ขอให้มีมารยาทหน่อย” นายสมคิดตอบโต้ว่า คนที่ไม่มีมารยาทคือพวกที่ชอบเสียบบัตรแทนกัน และเริ่มเดินตรวจ

ต่อมานายกัมพล สุภาแพ่ง ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นกวักมือเรียกนายสมคิดที่นั่งอยู่ในซีกของฝ่ายค้าน ให้ข้ามมาตรวจสอบการเสียบบัตร นายสมคิดเดินปรี่เข้าไปหาทันที ทั้งสองใช้คำพูดหยาบคายด่าตอบโต้กันไปมาลั่นห้องประชุม

ขณะเดียวกันนายอภิชาติ สุภาแพ่ง ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ที่นั่งอยู่ในใกล้กับนายประมวล เอมเปีย ส.ส.ชลบุรี ก็ลุกขึ้นปรี่เข้ามาเหวี่ยงหมัดและถีบนายสมคิดทันทีแต่ไม่โดน เนื่องจาก ส.ส.ของพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคประชาธิปัตย์จำนวนมาก ลุกขึ้นมาห้ามปรามและแยกทั้งสองฝ่ายออกจากกัน ขณะที่นายชัยพยามยามขอร้องให้ทุกคนอยู่ในความสงบและขอให้ทุกคนเสียบบัตรแสดงตนอีกครั้ง ช่วงนั้นนายสมคิดเดินกลับไปนั่งที่ของตัวเองแล้วลุกขึ้นกวักมือเรียกนายประมวล โดยกล่าวว่า “มาเลย ผมไม่กลัว” ทำให้ประธานขอร้องให้ทุกฝ่ายยุติ โดยกล่าวว่า จะเรียกทั้งคู่มาหารือกันเพราะเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างมาตั้งแต่ต้น

ร่างพิธีสารฉบับ3ต้องลงมติ2รอบ

เมื่อทั้งสองฝ่ายสงบสติอารมณ์ บรรยากาศตึงเครียดเริ่มผ่อนคลายลง นายชัยแจ้งต่อที่ประชุมว่ามีผู้เสียบบัตรแสดงตน 311 คน ถือว่าเกินกึ่งหนึ่ง ครบองค์ประชุมแล้ว จากนั้นให้ที่ประชุมลงมติร่างพิธีสารฉบับที่ 3 โดยมีผู้อยู่ในห้องประชุม 307 คน เห็นชอบ 287 ต่อ 0 งดออกเสียง 8 ไม่ลงคะแนน 12 เสียง ทำให้นายสุรพงษ์ประท้วงว่า องค์ประชุมไม่ครบ ประธานอย่ามั่วเนื่องจากมีผู้อยู่ในที่ประชุมแค่ 307 เสียงยังไม่ถึงกึ่งหนึ่งที่ 311 คน ทำให้นายชัย สั่งพักประชุม 5 นาที

เมื่อเปิดประชุมอีกครั้ง ที่ประชุมยังถกเถียงเรื่ององค์ประชุม นายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้ลงมติใหม่ตามข้อบังคับการประชุมข้อ 77 ที่กำหนดว่า เสนอให้ลงมติใหม่ได้หากมีเสียงแตกต่างกันไม่เกิน 20 เสียง แต่ นพ.ชลน่านแย้งว่า ร่างพิธีสารฯตกไปแล้วเพราะการลงคะแนนสิ้นสุดแล้ว และกรณีนี้ไม่ใช่เสียงเห็นชอบและไม่เห็นชอบใกล้เคียงกัน แต่เป็นเรื่ององค์ประชุม อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ประชุมใช้เวลาถกเถียงกันนานกว่าสิบนาที พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี รองประธานสภาผู้แทนราษฎรจาก พท. อภิปรายว่า กรณีนี้ไม่ครบองค์ประชุม เท่ากับการลงมติเป็นโมฆะ ทางออกจึงไม่ใช่การนับองค์ประชุมใหม่ แต่ประธานสามารถสั่งให้มีการลงมติอีกครั้งหนึ่งเพราะถือว่าครั้งแรกไม่สมบูรณ์ ในที่สุดนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้มีการนับองค์ประชุมใหม่อีกครั้ง ผลปรากฏว่ามีสมาชิกอยู่ในห้องประชุม 328 คน จากนั้นมีการลงมติใหม่ ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบ 302 ต่อ 0 งดออกเสียง 9 ไม่ลงคะแนน 15 เสียง ถือว่าร่างพิธีสารฯผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา อย่างไรก็ตาม นายสุนัยกล่าวว่า จะส่งร่างพิธีสารฯให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญต่อไป จากนั้นจึงเข้าสู่การอภิปรายกรอบการเจรจากู้เงินจากต่างประเทศตามแผนการก่อหนี้จากต่างประเทศประจำปีงบประมาณ 2552 ภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธาธารณะประจำปี 2552 ต่อไป

พท.แถลงโวยปชป.เลี้ยงนักเลงโต

ในช่วงเดียวกันนั้น นายสมคิด บาลไธสง นายสุนัย จุลพงศธร นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พท. ร่วมกันแถลงที่ห้องแถลงข่าวรัฐสภา นายสมคิดกล่าวว่า ภายหลังที่ประธานรัฐสภาอนุญาตให้เดินตรวจการเสียบบัตรลงมติ มี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์คนหนึ่ง กวักมือเรียก ก็นึกว่ามีอะไรจะพูดคุยหรือไม่จึงได้เดินเข้าไปหา แต่ใกล้จะไปถึงกลับบอกว่า “มึงมานี่” ตนก็จึงได้เดินเข้าไป เพราะไม่กลัวคำขู่ พอเข้าไปใกล้ ส.ส.คนดังกล่าวก็ได้ตะโกนด่าว่า “ไอ้สัตว์ กูอดทนกับมึงมานานแล้ว”จึงพูดสวนกลับไปว่า “กูนึกว่ามึงเป็นคน มึงเป็นสัตว์เหมือนกูเหรอ” จากนั้น ส.ส.คนดังกล่าวได้พยายามปรี่เข้ามาเพื่อจะชก แต่ ส.ส.ประชาธิปัตย์ดึงตัวไว้ โดยมีนายอภิชาต สุภาแพ่ง และนายประมวล เอมเปีย เข้ามาร่วมผสมโรงจะเอาเรื่องด้วย แต่ก็มีการห้ามปรามไว้จนเกิดเหตุชุลมุน

“ผมก็ยืนดูว่าจะมีสมาชิกจากพรรคประชาธิปัตย์เดินเข้ามาชกผมอีกหรือไม่ หากมีการชกจริงผมก็จะไม่ตอบโต้แต่จะยืนให้ชก ซึ่งจากพฤติกรรมของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์คนดังกล่าวเคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ผมไม่เคยใส่ใจ ครั้งก่อนเขาเคยด่าผมว่า ผมเข้าไปเห่าหอนในสภาตอนที่อภิปรายเหตุการณ์สลายม็อบช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่ผมก็ไม่ใส่ใจ”นายสมคิดกล่าว

นายสุชาติกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้สภาไทยคล้ายกับสภาเกาหลีและไต้หวันเข้าไปทุกวัน เพราะพรรคประชาธิปัตย์เอานักเลงโตมาไว้ในสภา และยังมีนักเลงยืนเบื้องหลังเหตุการณ์สลายม็อบด้วย

จี้ปธ.กำชับบิ๊กปชป.คุมลูกพรรค

นายสุนัยกล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้จะไม่เกิดขึ้นหากประธานรัฐสภาปฏิบัติตามระเบียบบังคับการประชุมรัฐสภา แต่เมื่อองค์ประชุมไม่ครบนายชัยกลับดำเนินการประชุมต่อ โดยอ้างว่ามีสมาชิกครบองค์ประชุม 311 เสียง แต่จากการลงมติลงคะแนนออกมีเพียง 307 เสียงเท่านั้น ดังนั้น เมื่อการเสียบบัตรนับองค์ประชุมใหม่ก็เป็นสิทธิของ ส.ส.ที่สามารถเดินตรวจสมาชิกในการลงคะแนนเพื่อป้องกันการเสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน เพราะเรื่องนี้เคยเกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้ว 

“ขอให้ประธานสภากำชับไปยังผู้ใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์เพื่อให้ปรามลูกพรรคของตัวเองให้ประพฤติตัวให้เหมาะสม ซึ่งการตรวจสอบองค์ประชุมด้วยการเดินตรวจสามารถทำได้ เพราะได้รับอนุญาตจากประธานสภาแล้ว พวกผมไม่คิดหวังว่าจะมีการลงโทษอย่างรุนแรงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่อยากให้พรรคประชาธิปัตย์ควบคุมลูกพรรคของตัวเองให้ดี”นายสุนัยกล่าว

ปชป.แถลงโต้ได้กลิ่นเหล้าคลุ้ง

ขณะที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายกัมพล สุภาแพ่ง นายประมวล เอมเปีย นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี นายพุฒิพงษ์ สงวนวงศ์ชัย ส.ส.สัดส่วน ยกขบวนมาแถลงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นกัน โดยนายกัมพลกล่าวว่า ไม่ได้เปิดฉากด่านายสมคิด บาลไธสง ก่อน แต่เห็นการเดินเข้ามาของนายสมคิดเหมือนเป็นการท้าทาย จึงกวักมือเรียกให้มาพูดคุยกันดีๆ แต่ปรากฏว่านายสมคิดกลับพูดท้าทายให้ไปเจอกันนอกห้อง นายสรวุฒิกล่าวเสริมว่า นายสมคิดกล่าวท้าทายเช่นนั้นจริงๆ โดยกล่าวว่า “มึงออกมาเจอกับกูข้างนอกดีกว่า” จากนั้นก็พูดด่าคนอื่นอีกหลายคำ และจากที่ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ได้กลิ่นเหล้าจากตัวนายสมคิดด้วย จึงอยากให้สื่อไปตรวจสอบว่านายสมคิดดื่มเหล้าก่อนมาประชุมหรือไม่

นายประมวลซึ่งปรี่เข้าไปหานายสมคิดกล่าวว่า ปกติไม่ใช่คนเกเร แต่พฤติกรรมของนายสมคิดเป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้เป็น ส.ส.สมัยแรก แต่ก็ไม่อยากให้สภาไทยมีสิ่งที่แปดเปื้อน ที่เดินเข้าไปหานายสมคิดเพื่อไปรับคำท้าไปเจอกันนอกห้อง 

อ้างทีวีถ่ายมุมสูง-ปัดง้างหมัด

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สถานีโทรทัศน์หลายช่องที่ส่งผู้สื่อข่าวและช่างภาพไปบันทึกการประชุม  จับภาพได้ว่า นายอภิชาต สุภาแพ่ง ง้างหมัดขึ้นมาด้วยนั้น นายสรวุฒิกล่าวว่า “ผมเป็นคนที่เดินไปห้ามไม่ให้มีการปะทะกัน ยืนยันว่า จุดที่นายอภิชาตยืนอยู่ห่างจากนายสมคิดมาก ไม่มีทาง ที่นายอภิชาตจะง้างหมัดเพื่อกระโจนไปต่อยนายสมคิดได้ แต่โทรทัศน์ถ่ายภาพจากมุมสูง จึงอาจทำให้ดูเหมือนอยู่ใกล้กัน ทั้งที่จริงๆ แล้วทั้ง 2 คน ยืนกันคนละแถว”

“ผมอยากให้กลับไปทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง ว่ามาจากการที่นายสมคิดเดินเข้ามาด้วยท่าทางเหมือนท้าทาย ทั้งที่หากต้องการตรวจสอบว่ามีการเสียบบัตรแทนกันหรือไม่ ก็สามารถดูจากที่นั่งที่อยู่ใกล้ๆ กันก็ได้ ผมไม่อยากให้เหตุเช่นเดียวกับที่อาจารย์สมเกียรติ (พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์และแกนนำพันธมิตร ถูกนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พท.กระโดดถีบ) เพราะภาพของสภาไทยวันนี้ ใกล้เคียงกับสภาไต้หวันไปทุกวันแล้ว”นายสรวุฒิกล่าว

ปชป.ยโสฯเฮ-ศาลยกใบเหลือง

ทางด้านศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง มีคำสั่งวันเดียวกัน ยกคำร้องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้จัดการเลือกตั้งใหม่หรือให้ใบเหลือง แทน น.ส.ณิรัฐกานต์ ศรีลาภ ส.ส.เขต 1 จ.ยโสธร พรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากกระทำผิด พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2550 กรณีให้ตัวแทนหรือหัวคะแนนแจกเงินเพื่อจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนน โดยศาลไต่สวนพยานหลักฐาน กกต. ผู้ร้อง และ น.ส.ณิรัฐกานต์ ผู้คัดค้านแล้ว เห็นว่าพยาน กกต.ไม่มีน้ำหนักเพียงพอ ให้การขัดแย้งกันเองในรายละเอียด ไม่น่าเชื่อถือ คำร้อง กกต.ไม่มีมูล จึงให้ยกคำร้อง

ส.ส.สกลฯพท.เจอแขวน5ปี

นอกจากนี้ในเวลา 15.00 น. ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ยังศาลอ่านคำสั่งที่ กกต.ยื่นคำร้องขอให้มีสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) และเลือกตั้งใหม่ ส.ส.เขต 3 จ.สกลนคร แทนนายพงษ์ศักดิ์ บุญศล ส.ส.สกลนคร อดีตพรรคพลังประชาชน ปัจจุบันสังกัดพรรค พท. เนื่องจากถูกร้องคัดค้านว่าปราศรัยหลอกลวง ใส่ร้ายด้วยข้อความอันเป็นเท็จจริง ทำให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยม

ศาลพิเคราะห์แล้วได้ความจากการไต่สวนพยาน กกต. ผู้ร้องแล้ว เชื่อว่านายพงษ์ศักดิ์ผู้คัดค้านกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2550 ม.53 (5) หลอกลวงใส่ร้ายให้เข้าใจผิดเรื่องคะแนนนิยม โดยนายพงษ์ศักดิ์ได้ขึ้นเวทีปราศรัยที่ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2550 เวลา 19.00-21.00 น. โดยใช้ข้อความจูงใจประชาชนและใส่ร้ายพรรคเพื่อแผ่นดินให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าเป็นพรรคไม่ดี ไม่สำนึกบุญคุณ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แล้วให้ประชาชนไปลงคะแนนให้กับพรรคพลังประชาชน ซึ่งมีผลทำให้เลือกตั้งเขตดังกล่าวไม่สุจริตเที่ยงธรรม

ส่วนข้ออ้างที่นายพงษ์ศักดิ์ ผู้คัดค้าน ระบุว่าเทปปราศรัยมีการตัดต่อนั้นไม่พบพิรุธ ข้อความมีความต่อเนื่องเชื่อมโยงกันดี ดังนั้น ศาลจึงมีคำสั่งให้ตัดสิทธิเลือกตั้งนายพงษ์ศักดิ์ ผู้คัดค้าน เป็นเวลา 5 ปี และให้เลือกตั้งใหม่ในเขตดังกล่าว ตามที่ กกต.ยื่นคำร้อง

ภายหลังฟังคำสั่งแล้ว นายพงษ์ศักดิ์กล่าวว่า น้อมรับคำพิพากษา ทำใจมาตั้งแต่ช่วงแรกแล้วว่าจะต้องโดนตัดสิทธิ อย่างไรก็ดี การเลือกตั้งใหม่เตรียมจะส่งภรรยาลงสมัครแทน

อ่านต่อที่ : เมีย”สมคิด”ปัด”ผัวเมา”ท่าเดิน-เสียงพูดแบบนี้ตั้งแต่เกิด ส.ส.ปชป.แจงขาลอยเพราะถูกดึง หาเรื่องจะจัดให้

09:45 น. “อภิสิทธิ์” บินฮ่องกง แจงสถานการณ์การเมือง พฤษภาคม 15, 2009

Posted by 1000thainews in ข่าวด่วน.
Tags: , , , , , , , , , , , , , ,
add a comment

09:45 น. “อภิสิทธิ์” บินฮ่องกง แจงสถานการณ์การเมือง

15 พค. 2552 09:45 น.

เมื่อเวลา 06.45 น. ที่ขส.ทบ.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะได้ออกเดินทางไปยังเขตปกครองพิเศษฮ่องกง โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.รอให้การต้อนรับ โดยการเดินทางครั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้เดินทางด้วยเครื่องบินแบบ Empraer รุ่น ERJ 135 มูลค่า 900 ล้านบาท เครื่องยนต์โรสลอยล์ ของกองทัพบกที่เพิ่งเข้าประจำการเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว และเพิ่งจะบินไปต่างประเทศเป็นครั้งแรก ซึ่งจะใช้เวลาบินจากประเทศไทยไปถึงฮ่องกงประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง อย่างไรก็ตามก่อนออกเดินทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการแก้ไขประตูทางด้านหลังของเครื่องบินที่มีปัญหาปิดไม่สนิท โดยใช้เวลาแก้ไขประมาณ 20 นาทีจึงเสร็จเรียบร้อย ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะมีกำหนดที่จะเดินทางกลับประเทศไทยในเวลา 25.00 น.ของวันเดียวกันนี้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวก่อนออกเดินทางว่า วันนี้จะไปพบผู้บริหารของฮ่องกงเพื่อหารือถึงความสัมพันธ์ โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากเราต้องการให้รักษาระดับเรื่องของการค้าและการท่องเที่ยวให้ได้มากที่สุด จากนั้นจะได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นพร้อมทั้งชี้แจงถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในประเทศไทยให้กลุ่มนักธุรกิจทั้งที่เป็นนักธุรกิจทั่วไป นักลงทุนทางด้านการเงินและนักธุรกิจรายใหญ่ที่มีการลงทุนในภูมิภาคได้รับทราบ นอกจากนี้จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศด้วย ซึ่งก็ถือเป็นโอกาสที่จะอธิบายถึงพัฒนาการต่างๆที่เกิดขึ้น เพราะครั้งนี้ถือเป็นการเดินทางครั้งแรกไปต่างประเทศหลังเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายขึ้นในประเทศ
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ที่เลือกเดินทางมาฮ่องกงเป็นลำดับแรก เพราะถือว่าเป็นศูนย์กลางในหลายด้าน และถือเป็นที่ตั้งประชาคมธุรกิจ และมีสื่อต่างประเทศประจำอยู่เป็นจำนวนมากก็คิดว่าจะเป็นการกระจายข่าวสาร การสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ผู้สื่อข่าวถามว่าหากมีการถามถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะถือโอกาสชี้แจงด้วยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความจริงถ้าถามเรื่องอะไรก็ตอบทั้งนั้น แต่หลักๆก็คือต้องการที่จะไปยืนยันถึงการที่ประเทศไทยยังพร้อมที่จะรับการลงทุนและนักท่องเที่ยว
อ่านต่อที่ : 09:45 น. “อภิสิทธิ์” บินฮ่องกง แจงสถานการณ์การเมือง