ข่าว ในประเทศไทย

09:19 น. บุกแคมป์คนงานหมายขืนใจสาวพม่าเหยื่อต่อสู้ถูกแทงดับ พฤษภาคม 15, 2009

09:19 น. บุกแคมป์คนงานหมายขืนใจสาวพม่าเหยื่อต่อสู้ถูกแทงดับ

15 พค. 2552 09:19 น.

ร.ต.ท.นิติกรณ์ ระวัง ร้อยเวร สภ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉิน รพ.ป่าตอง ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ภูเก็ต ว่า มีหญิงสาวถูกแทงเข้ามารักษาตัว เหตุเกิดภายในแคมป์คนงานก่อสร้าง กะหลิมซอย 6 ถ.พระบารมี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ขอให้เดินทางมาตรวจสอบด้วย
หลังรับแจ้งก็ได้เดินทางไปตรวจสอบที่รพ.ป่าตอง พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษศักดิ์ สงมูลนาค ผกก. เจ้าหน้าที่ชุดสอบสวน เจ้าหน้าที่สายตรวจไปตรวจสอบที่ รพ.และที่เกิดเหตุ โดยที่ห้องฉุกเฉินแพทย์ – พยาบาลกำลังพยายามปั้มหัวใจเพื่อยื้อชีวิตผู้ที่ถูกทำร้ายร่างกายอยู่ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ก็ทราบว่า ผู้ที่ถูกทำร้ายร่างกายชื่อนางอาอีกะ อายุ 33 ปีชาวพม่า ถูกแทงด้วยของมีคมเข้าตามร่างกาย เช่น หน้าอก ชายโครงขวาและแขนซ้ายนับไม่ถ้วน แต่นางอาอีกะทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทางเจ้าหน้าที่จึงได้จัดทำบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เดินทางไปยังแคมป์คนงานก่อสร้าง ที่เป็นจุดเกิดเหตุ อยู่ภายในซอยกะหลิมซอย 6 เจ้าหน้าที่พบคราบเลือดเป็นจำนวนมากอยู่ที่พื้นห้องภายในร้านขายของชำ
จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุนางอาอีกะ ซึ่งเป็นคนงานชาวพม่าและเปิดร้านขายของชำอยู่ภายในแคมป์ โดยมีแฟนหนุ่มชาวพม่าด้วยกัน พักอาศัยอยู่ด้วยกัน แต่ในช่วงเกิดเหตุได้ออกไปทำธุระนอกแคมป์ เหลือเพียงนางอาอีกะ อยู่ในห้องพักเพียงลำพัง จากนั้นได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนบุกเข้ามาที่ห้องพักของนางอาอีกะและพยายามจะข่มขืน แต่นางอาอีกะไม่ยอมและพยายามจะต่อสู้ขัดขืน คนร้ายจึงใช้มีดกระหน่ำแทงตามร่างกายของนางอาอีกะจนเลือดอาบ จากนั้นได้หลบหนีไป โดยที่ไม่ได้ข่มขืน ทำให้คนงานที่พักอาศัยอยู่ในห้องข้างเคียงได้ยินเสียงจึงวิ่งออกมาดูเหตุการณ์เพราะคิดนางอาอีกะ ทะเลาะกับแฟนหนุ่ม แต่กลับเห็นร่างนางอาอีกะนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นห้อง จึงรีบนำส่ง รพ.ป่าตอง ก่อนทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้จัดทำบันทึกสถานที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน
เบื้องต้นตำรวจคาดว่า คนร้ายอาจเป็นคนงานภ�
�ยในแคมป์ด้วยกันและรู้ว่าแฟนของนางอาอีกะ ไม่อยู่ จึงฉวยโอกาสหวังจะเข้ามาข่มขืน แต่นางอาอีกะกลับขัดขืนและต่อสู้ คนร้ายจึงใช้มีดแทงเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งตำรวจจะได้สืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
อ่านต่อที่ : 09:19 น. บุกแคมป์คนงานหมายขืนใจสาวพม่าเหยื่อต่อสู้ถูกแทงดับ

สัญญาสถานีและวางรางตรวจรับงานไม่ได้เปิดใช้รถไฟฟ้าไปฝั่งธนฯวันนี้ยังป่วน พฤษภาคม 15, 2009

สัญญาสถานีและวางรางตรวจรับงานไม่ได้เปิดใช้รถไฟฟ้าไปฝั่งธนฯวันนี้ยังป่วน

รายงานข่าวแจ้งว่า ในขณะที่ผู้บริหาร กทม. กำหนดเปิดใช้โครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีลม ระยะทาง 2.2 กม. จากสาทร-ตากสิน ไปฝั่งธนบุรี ในวันที่ 15 พ.ค.นี้ โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดและร่วมทดสอบนั่งรถไฟฟ้าเวลา 06.00-06.30 น. นั้น แต่ในส่วนของงานจัดซื้อและติดตั้งระบบขนส่งมวลชนส่วนต่อขยายสายนี้ที่ กทม.ลงนามในสัญญาว่าจ้างบริษัทชิโน-ไท เป็นผู้ดำเนินการ ลงนามในสัญญาเดือน ม.ค. 2550 สิ้นสุดสัญญาเดือน ต.ค. 2550 วงเงิน 1,033 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างสถานีและวางราง ซึ่งแม้งานก่อสร้างจะเสร็จแล้วและจะเปิดใช้งานวันนี้แล้ว แต่ยังมีปัญหาเรื่องสัญญาระหว่าง กทม.และบริษัทชิโน-ไท ที่จนขณะนี้ยังไม่ได้ตรวจรับงานแค่เพียงตรวจรับสภาพไว้เท่านั้น เนื่องจากขณะนั้นผู้รับเหมาได้ขอขยายเวลาก่อสร้างไปอีก 180 วัน ตามมติ ครม. อย่างไรก็ตามมติ ครม.   อนุมัติให้ขยายเวลาก่อสร้างได้เฉพาะงานก่อสร้างเท่านั้น แต่สัญญานี้ กทม.ว่าจ้างในลักษณะของงานจัดซื้อและติดตั้งระบบ ถือว่าไม่ใช่งานก่อสร้าง ขณะที่บริษัทแย้งว่าแม้เป็นสัญญาจัดซื้อแต่ในการทำงานก็มีการก่อสร้างด้วยไม่ใช่แค่งานนำโครงสร้างมาติดตั้งเท่านั้น ทำให้มีปัญหาในข้อกฎหมายขึ้นและตรวจรับงานยังไม่ได้ จนต้องนำเสนอสำนักงานกฎหมายและคดี กทม.พิจารณา ซึ่งล่าสุดสำนักงานกฎหมายเห็นว่าหากการทำงานมีลักษณะของการก่อสร้างมากกว่าการจัดซื้อก็สามารถขยายเวลาให้ผู้รับเหมาได้ จะทำให้ไม่ถูกค่าปรับวันละ 0.2% ของวงเงินก่อสร้างหรือราววันละ 2 ล้านบาท รวม 180 วันตกราว 360 ล้านบาท
 
รายงานข่าวแจ้งว่า อย่างไรก็ตามมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า บริษัทผู้รับเหมามีการผลักดันให้ผู้บริหาร กทม.อนุมัติให้ขยายเวลาก่อสร้าง จะได้ไม่ถูกจ่ายค่าปรับ ทำให้ผู้บริหารมอบหมายให้สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ตรวจเช็กรายละเอียดในการทำงานว่ามีเนื้องานก่อสร้างมากกว่าหรือเป็นการติดตั้งมากกว่าตามที่สำนักงานกฎหมายฯพิจารณา ซึ่งหากเป็นงานก่อสร้างมากกว่าก็จะได้ขยายเวลาให้ผู้รับเหมา แต่จะเกิดปัญหาว่าหาก สจส.เห็นว่าเป็นการก่อสร้างมากกว่าแล้วทำไมตอนแรกที่เสนอโครงการถึงกำหนดรูปแบบโครงการเป็นการจัดซื้อพร้อมติดตั้งถึงไม่ใช่งานก่อสร้าง ซึ่งยังไม่มีข้อยุติจนถึงขณะนี้.

อ่านต่อที่ : สัญญาสถานีและวางรางตรวจรับงานไม่ได้เปิดใช้รถไฟฟ้าไปฝั่งธนฯวันนี้ยังป่วน

พบศพที่ 3 เหยื่อนั่งร้านถล่ม! พฤษภาคม 14, 2009

พบศพที่ 3 เหยื่อนั่งร้านถล่ม!

ความคืบหน้าเหตุการณ์นั่งร้านก่อสร้างโรงภาพยนตร์เอสพลานาด สาขารัตนาธิเบศร์ ถล่มว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบร่างนายคำแสง ยาราช อายุ 50 ปี คนงานก่อสร้างแล้ว ในสภาพถูกปูนที่แห้งแล้วทับร่างกาย ส่วนที่ศรีษะผู้ตาย ยังสวมหมวกเซฟตี้อยู่ เบื้องต้นเจ้า หน้าที่ทำการได้เจาะแผ่นปูนที่ทับร่างผู้ตายออก เพื่อนำศพออกอย่างยากลำบาก เนื่องจากปูนแข็งตัว และเกรงจะมีการถล่มลงมาทับซ้ำ ประกอบกับฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง 
อ่านต่อที่ : พบศพที่ 3 เหยื่อนั่งร้านถล่ม!

พบศพ3แล้ว! เหยื่อ”โรงหนัง”ถล่ม สภาพถูกฝังใต้ปูนแห้ง พฤษภาคม 14, 2009

พบศพ3แล้ว! เหยื่อ”โรงหนัง”ถล่ม สภาพถูกฝังใต้ปูนแห้ง

พบศพ3แล้ว! เหยื่อ"โรงหนัง"ถล่ม สภาพถูกฝังใต้ปูนแห้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุการณ์นั่งร้านก่อสร้างโรงภาพยนตร์เอสพลานาด สาขารัตนาธิเบศร์ ถล่มว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบร่างนายคำแสง ยาราช อายุ 50 ปี คนงานก่อสร้างแล้ว ในสภาพถูกปูนที่แห้งแล้วทับร่างกาย ส่วนที่ศรีษะผู้ตาย ยังสวมหมวกเซฟตี้อยู่ เบื้องต้นเจ้าาหน้าที่ทำการได้เจาะแผ่นปูนที่ทับร่างผู้ตายออก เพื่อนำศพออกอย่างยากลำบาก เนื่องจากปูนแข็งตัว และเกรงจะมีการถล่มลงมาทับซ้ำ ประกอบกับฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง 
 

อ่านต่อที่ : พบศพ3แล้ว! เหยื่อ”โรงหนัง”ถล่ม สภาพถูกฝังใต้ปูนแห้ง

09:44 น. พบศพ3แล้ว!เหยื่อนั่งร้านโรงหนังถล่ม พฤษภาคม 14, 2009

09:44 น. พบศพ3แล้ว!เหยื่อนั่งร้านโรงหนังถล่ม

14 พค. 2552 09:44 น.

ความคืบหน้า เหตุการณ์นั่งร้านก่อสร้างอาคารเอสพลานาด แคราย ถล่ม ล่าสุดเจ้าหน้าที่กูภัยได้พบร่างของนายคำแสง ยาราช อายุ 50 ปี คนงานก่อสร้างแล้ว ในสภาพถูกปูนที่แห้งแล้วทับร่างกาย ส่วนที่ศรีษะผู้ตาย ยังสวมหมวกเซฟตี้อยู่
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ทำการ เจาะแผ่นปูนที่ทับร่างผู้ตายออก เพื่อนำศพออกมาแล้ว ขณะที่ บรรยากาศการค้นหาค่อนข้างลำบาก เนื่องจาก ปูนที่แข็งตัวและเกรงจะมีการถล่มลงมาทับซ้ำ ประกอบกับฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง
อ่านต่อที่ : 09:44 น. พบศพ3แล้ว!เหยื่อนั่งร้านโรงหนังถล่ม

ร.ฟ.ท.ซอย 5 สัญญางานก่อสร้างรถไฟสีแดง พฤษภาคม 14, 2009

ร.ฟ.ท.ซอย 5 สัญญางานก่อสร้างรถไฟสีแดง

นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยถึงการดำเนินโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26 กม. มูลค่า 6 หมื่นล้านบาท ว่า อยู่ระหว่างปรับปรุงรายละเอียดสัญญาจ้างงานก่อสร้าง  โดย ร.ฟ.ท.จะแบ่งสัญญางานก่อสร้างเป็น 5 สัญญา จากเดิม 3 สัญญา  เพื่อให้การดำเนินโครงการรวดเร็วขึ้น  หลังจากนี้จะขอความเห็นชอบจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ ไจก้า ผู้ปล่อยกู้

“การแบ่งสัญญาจะช่วยให้ก่อสร้างโครงการได้เร็วขึ้น และกระจายเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้มากขึ้น เพราะมีผู้รับเหมาหลายราย  โดยผู้รับเหมา แต่ละรายสามารถรับงานก่อสร้างได้มากกว่า 1 สัญญาหากมีศักยภาพทั้ง เงิน บุคลากรและเครื่องมืออุปกรณ์ โดย ร.ฟ.ท.ตั้งเป้าเปิดประกวดราคาในเดือนมิ.ย. นี้ คาดว่าผู้รับเหมาไทยจะร่วมประกวดราคาจำนวนมาก เพราะเงื่อนไขเปิดกว้าง โดยไจก้าไม่ได้กำหนดว่าต้องเป็นบริษัทญี่ปุ่นอย่างเดียว” นายยุทธนา กล่าว 

สำหรับสัญญางานก่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดง 5 สัญญา คือ 1.งานโครงสร้างช่วงประดิพัทธ์-บางซื่อ มูลค่า 1.3 หมื่นล้านบาท 2.งานโครงสร้างช่วงบางซื่อ-ทางแยกต่างระดับรัชวิภา บริเวณ กม.11 มูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท 3.ทางแยกต่างระดับรัชวิภา-สถานีการเคหะ มูลค่า 9 พันล้านบาท 4.สถานีการเคหะ-รังสิต มูลค่า 9 พันล้านบาท และ 5.งานระบบอาณัติสัญญาณ และระบบรถไฟฟ้า มูลค่า 2.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้เป็นงานเส้นทางบางซื่อ-รังสิต 2.1 หมื่นล้านบาท ส่วนอีก 7 พันล้านบาท เป็นงานช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ใช้เงินกู้ภายในประเทศ แต่เปิดประกวดราคาพร้อมกัน 

ส่วนการรื้อย้ายผู้บุกรุกโครงการช่วงบางซื่อ-รังสิต จำนวน 12 ชุมชนนั้น  ร.ฟ.ท.จะดำเนินการ ตามเงื่อนไขข้อตกลงกู้เงินจากไจก้า โดยอยู่ระหว่างคัดเลือกบริษัทรื้อย้ายผู้บุกรุกคาดว่าเริ่มรื้อย้ายได้เร็วๆ นี้ โดยมั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหาส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างล่าช้า

นายยุทธนา กล่าวอีกว่า เร็วๆ นี้ ร.ฟ.ท.จะเสนอ ครม.ปรับปรุงค่าก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ระยะ 106 กม. เพิ่มเป็น 1.1 หมื่นล้านบาท จากเดิม 7.6 พันล้านบาท เนื่องจากวงเงินเดิม เป็นราคาเมื่อปี 2548 แต่ปัจจุบันราคาวัสดุอุปกรณ์ ค่าแรงงานสูงขึ้น และ ร.ฟ.ท.ได้ปรับรายละเอียดแบบก่อสร้าง โดยก่อสร้างอุโมงค์เพิ่มช่วงวัดพระพุทธฉาย จ.สระบุรี และใช้วิธีตอกเข็มช่วงสภาพดินอ่อน 60 กม. จากเดิมที่จะใช้วิธีพีวีดี ทำให้มูลค่าโครงการเพิ่มขึ้น

อ่านต่อที่ : ร.ฟ.ท.ซอย 5 สัญญางานก่อสร้างรถไฟสีแดง