ข่าว ในประเทศไทย

15:14 น. อียูสั่งปรับอินเทลผูกขาดตลาด 5 หมื่นล้าน พฤษภาคม 14, 2009

15:14 น. อียูสั่งปรับอินเทลผูกขาดตลาด 5 หมื่นล้าน

14 พค. 2552 15:14 น.

กรรมาธิการยุโรป หรือ อีซี มีคำสั่งปรับ อินเทล คอร์ปอเรชั่น ผู้ผลิตหน่วยประมวลผลหรือชิปคอมพิวเตอร์ของสหรัฐ เป็นเงิน 1,060 ล้านยูโร หรือกว่า 50,750 ล้านบาท โทษฐานละเมิดกฎการแข่งขันทางการค้า ด้วยการใช้กลยุทธการขายที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายกีดกันคู่แข่งคือ บริษัท แอดวานซ์ ไมโคร ดีไวซ์ อิงค์ หรือ เอเอ็มดี ผู้ผลิตชิปรายใหญ่อันดับสอง จนต้องออกจากตลาดไป
เงินค่าปรับจำนวนนี้ถือว่ามากที่สุดเป็นประวัติการณ์การลงโทษในกฎหมายต่อต้านการผูกขาดตลาดของสหภาพยุโรป หลังจากที่เคยสั่งปรับไมโครซอฟต์ คอร์ปอเรชั่น ในข้อหาเดียวกันนี้เป็นเงิน 899 ล้านยูโร เมื่อปีที่แล้ว
อีซีระบุว่า จากการสอบสวนพบว่าในระหว่างปี 2545-2550 อินเทลได้ให้ส่วนลดกับบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ อย่างเอเซอร์ , เดล,เอชพี ,เลโนโว และ เอ็นอีซี เพื่อให้ซื้อหน่วยประมวลผลกลาง หรือ ซีพียู ทั้งหมด หรือเกือบทั้งหมดจากอินเทล รวมทั้งมีการจ่ายเงินให้บริษัทเหล่านี้เลิกหรือเลื่อนการวางจำหน่ายคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งชิปของเอเอ็มดี ซึ่งเป็นการแข่งขันทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม และจำกัดทางเลือกของผู้บริโภคสร้างความเสียหายให้กับผู้บริโภคในยุโรปหลายล้านคน นอกจากนี้อีซี ยังมีคำสั่งให้อินเทลเลิกใช้กลยุทธการขายเช่นในนี้ยุโรปโดยทันที
ด้านอินเทล ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ ซานตา คลารา รัฐแคลิฟอร์เนีย ไม่เห็นด้วยการตัดสินใจของอีซี และเตรียมที่จะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอียู โดยระบุว่ากลยุทธการขายรวมถึงการให้ส่วนลดแก่ลูกค้ารายใหญ่ของอินเทลเป็นไปตามกฎหมาย พร้อมกับปฏิเสธว่าไม่เคยให้ส่วนลดกับลูกค้ารายใดเพื่อแลกกับการไม่ซื้อสินค้าจากเอเอ็มดี
อ่านต่อที่ : 15:14 น. อียูสั่งปรับอินเทลผูกขาดตลาด 5 หมื่นล้าน

ขโมยหิวโซงัดท่ารถเชียงรายฉกแซนวิส-ชาเย็น พฤษภาคม 14, 2009

ขโมยหิวโซงัดท่ารถเชียงรายฉกแซนวิส-ชาเย็น

ขโมยหิวโซงัดท่ารถเชียงรายฉกแซนวิส-ชาเย็น

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 11:15 น.

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

เชียงราย – เศรษฐกิจตกต่ำขโมยหิวโซ ถึงขั้นงัดท่ารถเมล์ขโมยแซนวิส-ชาเย็น อีกรายงัดหอพักนักศึกษากวาดคอมพิวเตอร์– แฟลชไดร์ฟ – แผ่นวีซีดี
       
       รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่ากลางดึกที่ผ่านมา (14 พ.ค.) ร.ต.ท.อาณัติ กาวิชา ร้อยเวร สภ.เมือง จ.เชียงราย ได้รับแจ้งมีเหตุลักทรัพย์บริเวณห้องน้ำของสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงรายแห่งที่ 1 ถนนประสบสุข เขตเทศบาลครเชียงราย จึงร่วมกับตำรวจชุดสืบสวนรุดไปสอบสวนที่เกิดเหตุพบนายธนภัทร มีสภักดิ์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 ม.3 ต.น้ำชำ อ.เมือง จ.แพร่ ซึ่งเป็นคนดูแลสถานที่ยืนรออยู่พร้อมนำเจ้าหน้าที่ไปดูร่องรอยของคนร้าย ที่งัดประตูหน้าห้องน้ำชาย ก่อนจะเข้าไปภายในห้องเก็บของ และได้ขโมยเอาแซนวิสจำนวน 80 ชิ้น ชาโออิชิจำนวน 24 ขวด ออกไป
       
       จากนั้นได้พยายามรื้อค้นกระเป๋าเสื้อผ้าที่มีผู้นำมาฝากเอาไว้จนข้าวของกระจัดกระจาย ซึ่งก็ยังไม่ทราบว่ามีทรัพย์ใดของผู้โดยสารหายไปบ้าง
       
       สอบสวนผู้ที่อยู่บริเวณชานลาที่พักผู้โดยสารได้ความว่าก่อนหน้านี้ได้เห็นชายอายุประมาณ 30 ปีเศษ รูปร่างท้วม ผิวเนื้อดำแดง สูงประมาณ 160 ซ.ม.เข้าไปงัดแงะประตูห้องน้ำชายหลังเสร็จกิจแล้วได้รีบวิ่งหลบหนีไป อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ไม่สามารถหารูปคนร้ายได้ทันทีเพราะจุดที่เกิดเหตุไม่มีกล้องทีวีวงจรปิด จึงได้กระจายกำลังออกค้าหาคนร้ายแต่ก็ไร้วี่แวว
       
       ในช่วงเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากนายชรินทร์ ศักดิ์สกุลโรจน์ อายูบ้านเลขที่ 106 ม.7 ต.หัวง้ม อ.เทิง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นนักศึกษาวิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่งและเข้าพักที่หอพักสั่งสอน ชุมชนเกาะลอย หมู่ 21 เทศบาลนครเชียงราย ว่า เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เก็บไว้ในห้องพักหายไป 1 เครื่อง แฟลชไดร์ฟ 2 เครื่อง แผ่นวีซีดีภาพยนตร์จำนวน 6 แผ่น หลังจากที่ออกไปทำธุระข้างนอกได้ถูกคนร้ายงัดแงะเข้าไป เจ้าหน้าที่จึงออกติดตามหาตัวคนร้านยแต่ยังไม่พบตัวอีกเช่นกัน

อ่านต่อที่ : ขโมยหิวโซงัดท่ารถเชียงรายฉกแซนวิส-ชาเย็น

ทรีคอมปรับทัพเขย่าบัลลังก์ซิสโก้ พฤษภาคม 14, 2009

ทรีคอมปรับทัพเขย่าบัลลังก์ซิสโก้

ทรีคอมปรับทัพเขย่าบัลลังก์ซิสโก้

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 10:51 น.

Peter Chai

       ทรีคอม (3Com) ปรับกลยุทธ์ใหม่เพื่อรุกตลาดอุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ชูแบรนด์เอชทรีซี (H3C) สำหรับทำตลาดในกลุ่มเอนเตอร์ไพรส์โดยเฉพาะ ล่าสุดเปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์สวิตช์เพื่อใช้กับดาต้าเซ็นเตอร์ตระกูลเอชทรีซีที่มีความเร็วในการส่งข้อมูลสูงสุด 2.2 พันล้านแพกเกจต่อวินาที พร้อมโชว์ซอฟต์แวร์ระบบบริหารจัดการอัจฉริยะตัวล่าสุด ซึ่งทรีคอมการันตีว่าใช้งานสะดวกและง่ายดายกว่าคู่แข่งเบอร์หนึ่งอย่างซิสโก้แน่นอน
       
       สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ทรีคอมแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ออกเป็นสามส่วน หนึ่งคือสายเอชทรีซีเพื่อเน้นตลาดองค์กรขนาดใหญ่และใช้งานกับศูนย์กลางข้อมูลหรือดาต้าเซ็นเตอร์ สองคือสายทรีคอมที่จะเน้นตลาดองค์กรขนาดรองลงมาทั้ง SME และ SMB สามคือส่วนของทิปปิ้งพอยต์ (TippingPoint) ที่เน้นการดูแลระบบรักษาความปลอดภัยระดับไฮเอนด์
       
       “การใช้แบรนด์เอชทรีซีในการทำตลาดลูกค้าเอนเตอร์ไพรส์ของทรีคอมนั้นจะสร้างความชัดเจนให้กับบริษัทและพันธมิตรมากขึ้น ขณะเดียวกันก็แสดงว่าเอชทรีซีเป็นแบรนด์ของทรีคอมเต็มตัว” ปีเตอร์ ชัย รองประธานบริษัทและผู้จัดการทั่วไป ทรีคอม เอเชียแปซิฟิก กล่าว
       
       สาเหตุที่ชัยกล่าวเช่นนั้นเป็นเพราะทรีคอมซื้อแบรนด์เอชทรีซีคืนจากหัวเหว่ย (Huawei) ในราคา 882 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อปี 2006 ส่วนแบ่งตลาดอุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เอชทรีซีมีอยู่มากกว่า 35 เปอร์เซ็นต์ในประเทศจีน เช่น อุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่ายข้อมูลทั้งแบบมีสายและไร้สาย สวิตช์เชื่อมต่อโครงข่ายดาต้าเซ็นเตอร์ ระบบโทรศัพท์และระบบรักษาความปลอดภัยเครือข่ายข้อมูล ทั้ง VPN และไฟร์วอลล์ จึงตกเป็นของทรีคอมแต่ผู้เดียว
       
       ชัยระบุว่าการเป็นที่หนึ่งในตลาดจีนเป็นข้อพิสูจน์ว่าผลิตภัณฑ์เอชทรีซีมีคุณภาพดี สิ่งที่ทรีคอมกำลังทำคือการนำโซลูชันเน็ตเวิร์กสำหรับลูกค้าองค์กรของ H3C มาให้บริการกับลูกค้าทั่วโลกนอกประเทศจีน โดยการให้ความสำคัญกับแบรนด์เอชทรีซีจะไม่มีผลกระทบกับสินค้าตระกูลทรีคอมที่มีอยู่เดิม
       
       เพื่อรับกับการประกาศครั้งนี้ ทรีคอมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ตระกูลเอชทรีซีขึ้นใหม่ 2 ชิ้น หนึ่งคือ H3C S12500 สวิตช์สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ความเร็ว 6.6 เทราบิตต่อวินาทีที่สามารถรับส่งแพกเกจข้อมูล 2.2 พันล้านชุดต่อวินาที มาพร้อม 10G อีเธอเน็ตพอร์ตจำนวน 512 พอร์ต และพอร์ต 1G จำนวน 864 พอร์ต หวังชนกับสวิตช์ตระกูล Nexus ของซิสโก้
       
       แอนดรูว์ ฮินด์มาร์ช ผู้จัดการฝ่ายการตลาดด้านผลิตภัณฑ์ประจำภูมิภาค ทรีคอมเอเชียแปซิฟิกให้ข้อมูลว่า S12500 นั้นมีความสามารถเหนือกว่า Nexus 7000 สองเท่าตัว แต่กลับใช้พลังงานน้อยกว่าและมีขนาดเล็กกว่า โดยทรีคอมยังไม่ประกาศราคาจำหน่าย S12500 อย่างเป็นทางการในขณะนี้ กำหนดการวางจำหน่ายจริงคือเดือนกรกฎาคม
       
       สวิตช์อีกรุ่นที่ถูกเปิดตัวใหม่คือ S5800 Flex-Chassis ซึ่งมีสมาชิกในกลุ่มอีก 6 รุ่นที่สามารถเชื่อมต่อสวิตช์ 1G และ 10G เข้าเป็นสวิตช์เสมือนตัวเดียวเพื่อความสะดวกในการใช้งานแอปพลิเคชัน โดยสวิตช์ S5800 ถูกออกแบบมาเพื่อใช้เป็นส่วนเชื่อมต่อดาต้าเซ็นเตอร์และเครือข่าย สามารถรองรับพอร์ต 10G อีเธอร์เน็ตมากกว่า 24 พอร์ต หรือ 192 พอร์ตหากทำงานในรูปเสมือน โดยสามารถรับพอร์ต 1G อีเธอร์เน็ตได้ 80 พอร์ตหรือ 640 พอร์ตกรณีทำงานแบบเสมือน พร้อมวางจำหน่ายในเดือนกรกฎาคมเช่นกัน
       
       พร้อมกันนี้ ทรีคอมยังเปิดตัวโปรแกรม H3C Intelligent Management Center โปรแกรมจัดการที่ช่วยเหลือให้การดึงข้อมูลในดาต้าเซ็นเตอร์เข้าสู่เครือข่ายทำได้ง่ายดายและสะดวกขึ้นกว่าเดิม มีทั้งเวอร์ชันที่ลูกค้าสามารถดาวน์โหลดได้ฟรี และแบบที่ต้องชำระค่าบริการ โดยราคายังไม่เปิดเผย แผนการจำหน่ายคือเดือนมิถุนายน
       
       “สวิตช์และโปรแกรม IMC จะถูกเรียกรวมว่า H3C Extensible Data Center Switching and Management Platform แพลตฟอร์มนี้จะมีหน้าต่างให้จัดการเรื่องความปลอดภัย และทราฟฟิกต่างๆได้ในที่เดียว รองรับทิศทางดาต้าเซ็นเตอร์ยุคหน้า ลดค่าใช้จ่าย ลดงาน เน้น 5 ความต้องการพื้นฐานเครือข่าย เช่น รักษาสิ่งแวดล้อม มาตรฐานเปิด สามารถดำเนินการต่อได้ทุกสถานการณ์ ประสิทธิภาพในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น และความปลอดภัย” แอนดรูว์กล่าว “บริษัทอื่นอาจซื้อบริษัทแล้วเอาเทคโนโลยีมาอินทิเกรด แต่เราพัฒนาเอง H3C IMC ไม่ใช่แค่ระบบที่จัดการสวิตช์ในเครือข่ายแต่สามารถเชื่อมต่อกับซอฟต์แวร์ของบริษัทอื่น ทำให้ลูกค้าดึงข้อมูลจากดาต้าเซ็นเตอร์เข้ามาในเครือข่ายได้ในพื้นที่เดียว”
       
       แอนดรูว์กล่าวด้วยว่า ทรีคอมที่ผ่านมาเน้นการจำหน่ายเครือข่ายและการจัดการเครือข่าย พื้นที่ที่ทรีคอมจะไปในอนาคตคือการเชื่อมระหว่างเครือข่ายเข้ากับซอฟต์แวร์, เครือข่ายกับเซิร์ฟเวอร์ และเครือข่ายกับดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งทั้งหมดจะนำไปสู่การประสานเป็นเครือข่ายครบวงจรไร้รอยต่อหรือ Unified Fabric กับนานาบริษัทพันธมิตร
       
       “เราไม่ได้มองว่าผลิตภัณฑ์ใหม่เหล่านี้จะดึงมาร์เกตแชร์จากคู่แข่งเท่าใด แต่เรามองว่าความสามารถในการแข่งขันของเราดีขึ้น”
       
       นิโคลา เฮย์ส รองประธานบริษัทวิจัย BroadGroup เชื่อว่าทิศทางการเติบโตของตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะส่งผลดีต่อการทำตลาดผลิตภัณฑ์กลุ่มเอชทรีซีของทรีคอม โดยเฉพาะใน 5 ตลาดหลักอาเซียนคือ สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย และเวียดนาม ที่คาดว่าอัตราการเติบโตจะต่อเนื่องไปถึงปี 2015
       
       “สิงคโปร์จะอยู่ในระดับสูงสุด รองลงมาคือ มาเลเซีย เวียดนาม ไทย และอินโดนีเซีย กลุ่มหลักที่จะผลักดันตลาดคือกลุ่มองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่”
       
       สำหรับตลาดโลก บริษัทวิจัยการ์ทเนอร์เคยประมาณการณ์ว่า 70% ของบริษัทชั้นนำ 1,000 แห่งทั่วโลกจะต้องอัปเกรดดาต้าเซ็นเตอร์ของตัวเองแน่นอนภายใน 5 ปีนับจากนี้ เป็นตัวเลขที่น่าสนใจมากสำหรับผู้ค้าอุปกรณ์เครือข่ายทุกราย
       
       Company Related Links :
       3com

อ่านต่อที่ : ทรีคอมปรับทัพเขย่าบัลลังก์ซิสโก้

ครม.ให้ มท.เช่าคอมพ์ 3 พันล้าน พฤษภาคม 14, 2009

ครม.ให้ มท.เช่าคอมพ์ 3 พันล้าน

เมื่อวันที่ 13 พ.ค. นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม. เห็นชอบในหลักการโครงการจัดทำระบบให้บริการประชาชนทางด้านการทะเบียนและบัตรแบบใหม่ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอและอนุมัติวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553-2559 สำหรับเป็นค่าเช่าระบบคอมพิวเตอร์ จำนวน 72 เดือน (72 งวด) ทั้งนี้ในการใช้จ่ายเงินงบประมาณในแต่ละปีให้กรมการปกครองขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป โดยสรุปดังนี้ 1.การดำเนินการตามโครงการจัดทำระบบ  ให้บริการประชาชนทางด้านการทะเบียนใหม่ ด้วยวิธีการเช่าระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ประกอบ วงเงินงบประมาณ 2,005,493,790 บาท 2.การดำเนินการตามโครงการจัดทำระบบบัตรประจำตัวประชาชนแบบใหม่ ด้วยวิธีการเช่าระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ประกอบ วงเงินงบประมาณ 1,485,351,883 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,490,845,673 บาท
 
นายศุภชัย กล่าวว่า ทางกระทรวงมหาด ไทยเสนอว่า โครงการจัดทำระบบให้บริการประชาชนทางด้านการทะเบียนและบัตรแบบใหม่ เป็นโครงการ  ที่มีความสำคัญต่อการให้บริการประชาชนด้านการทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชน ในสำนักทะเบียนทั่วประเทศ รวมถึงการให้บริการส่วนราชการต่าง ๆ จำนวนกว่า 90 หน่วยงาน ที่ร่วมใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลประชากรกลาง มีความจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์คอม พิวเตอร์และระบบโปรแกรมที่มีประสิทธิภาพสูง.

อ่านต่อที่ : ครม.ให้ มท.เช่าคอมพ์ 3 พันล้าน

อินเทลถูกอียูปรับกว่า 5 หมื่นล้านบาท พฤษภาคม 14, 2009

อินเทลถูกอียูปรับกว่า 5 หมื่นล้านบาท

อินเทลถูกอียูปรับกว่า 5 หมื่นล้านบาท 14 พ.ค. – กรรมาธิการยุโรป สั่งปรับอินเทล บริษัทผู้ผลิตหน่วยประมวลผลหรือชิพคอมพิวเตอร์รายใหญ่ จำนวนมหาศาลเป็นประวัติการณ์ ฐานฝ่าฝืนกฎหมายต่อต้านการผูกขาดของสหภาพยุโรป

กรรมาธิการยุโรปสั่งปรับอินเทล บริษัทผู้ผลิตหน่วยประมวลผล หรือชิพคอมพิวเตอร์รายใหญ่จำนวน 1,060 ล้านยูโร หรือกว่า 50,750 ล้านบาท ซึ่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์การรับโทษในกฎหมายต่อต้านการผูกขาดสินค้าของอียู และมากกว่าที่เคยสั่งปรับไมโครซอฟท์ ในข้อหาผูกขาดตลาดจำนวน 899 ล้านยูโร เมื่อปี 2547

กรรมาธิการอียู ระบุว่า อินเทลกระทำความผิดด้วยการทุ่มเงินให้กับบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายอื่น ๆ เช่น เอเซอร์ เดล และเอชพี ให้หันมาใช้หน่วยประมวลผลหรือชิพของอินเทล เพื่อสกัดกั้นหน่วยประมวลผลหรือชิพของแอ๊ดวานซ์ ไมโคร ดีไวซ์เซส หรือเอเอ็มดี ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่งให้ออกไปจากท้องตลาด โดยเสนอส่วนลดเป็นการแลกเปลี่ยน ด้านอินเทลกล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของอียู และเตรียมที่จะยื่นอุทธรณ์ต่อไป ขณะที่เอเอ็มดียินดีกับคำตัดสินครั้งนี้. -สำนักข่าวไทย 

อ่านต่อที่ : อินเทลถูกอียูปรับกว่า 5 หมื่นล้านบาท

พิษเน็ตเร็วสูง โหลดกระจาย ละเมิด2หมื่นล. พฤษภาคม 14, 2009

พิษเน็ตเร็วสูง โหลดกระจาย ละเมิด2หมื่นล.

นายดรุณ ซอว์นีย์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กลุ่มพันธมิตรธุรกิจซอฟต์แวร์ (บีเอสเอ) เปิดเผยว่า มูลค่าการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ของไทยปีที่ผ่านมาสูงถึง 609 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 2 หมื่น ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2550 เกือบ 5,000 ล้านบาท

สาเหตุที่มูลค่าการละเมิด ลิข สิทธิ์เพิ่มสูงขึ้นนั้น เป็นผลมาจากจำนวนการใช้งานคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นการใช้งานซอฟต์แวร์ที่ผิดกฎหมาย ประกอบกับการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (บรอดแบนด์) ที่มีมากขึ้น ส่งผลให้การดาวน์โหลดซอฟต์แวร์เถื่อนทำได้ง่ายขึ้น

สำหรับซอฟต์แวร์ที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์สูงสูด ได้แก่ ซอฟต์แวร์โปรแกรมแปลภาษาต่างประเทศ แอนตี้ไวรัส ไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ และอะโดบิ โฟโต้ช็อป ทั้งนี้ต้องการให้ภาครัฐมีมาตรการในการปราบปรามอย่างจริงจัง

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา วุฒิสภาฝรั่งเศสได้ มีมติ 189 ต่อ 14 เสียง ผ่านร่างกฎหมายต่อต้านการละเมิดลิขสิทธิ์บนอินเทอร์เน็ต โดยระบุบทลงโทษไว้ว่า เว็บไซต์ใดที่ลักลอบเข้าไปดาวน์โหลดเพลงและภาพยนตร์โดยไม่ได้รับอนุญาต จะถูกปิดเว็บไซต์ 1 ปี

อ่านต่อที่ : พิษเน็ตเร็วสูง โหลดกระจาย ละเมิด2หมื่นล.

ช็อค ลูกชายประธานเอฟ1 ผู้อื้อฉาว เสพเฮโรอีนจนเสียชีวิต พฤษภาคม 13, 2009

ช็อค ลูกชายประธานเอฟ1 ผู้อื้อฉาว เสพเฮโรอีนจนเสียชีวิต

ช็อค ลูกชายประธานเอฟ1 ผู้อื้อฉาว เสพเฮโรอีนจนเสียชีวิต

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 7 พ.ค.ว่า เกิดเหตุนายอเล็กซานเดอร์ โมสลีย์ วัย 39 ปี นักเศรษฐศาสตร์ บุตรชายของนายเม็กซ์ มอสลีย์ ประธานสหภาพรถยนต์สูตร1 ได้เสพเฮโรอีนเสียชีวิต ที่บ้านพักในย่านน็อตติ้ง ฮิลล์ ทางตะวันตกของกรุงลอนดอน โดยคนรับใช้พบเขานอนฟุบคาโต๊ะคอมพิวเตอร์ ขณะที่ตำรวจพบร่างเขาพร้อมเฮโรอีน โดยมีเข็มฉีดยาในบริเวณใกล้เคียง

ขณะที่เพื่อนบ้านรายงานว่า หลายคนรู้ว่าอเล็กใช้ยาเสพติด ซึ่งมันไม่ใช่ความลับ และดูเหมือนว่าจะเป็นที่รู้กันว่าโดยกว้างขวางว่า เขาติดโฮเรอีน

รายงานระบุว่า เหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นเรื่องอื้อฉาวล่าสุดของตระกูลมอสลีย์ซึ่งก่อนหน้านี้นายแม็กซ์ถูกแฉว่ามีพฤติกรรมชอบมาโคซิสม์และฟ้องร้องหนังสือพิมพ์นิวออฟเดอะเวิล์ดว่าละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและชนะคดีดังกล่าว

อ่านต่อที่ : ช็อค ลูกชายประธานเอฟ1 ผู้อื้อฉาว เสพเฮโรอีนจนเสียชีวิต

ช็อค ลูกชายประธานเอฟ1 ผู้อื้อฉาว เสพเฮโรอีนจนเสียชีวิต พฤษภาคม 13, 2009

ช็อค ลูกชายประธานเอฟ1 ผู้อื้อฉาว เสพเฮโรอีนจนเสียชีวิต

ช็อค ลูกชายประธานเอฟ1 ผู้อื้อฉาว เสพเฮโรอีนจนเสียชีวิต

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 7 พ.ค.ว่า เกิดเหตุนายอเล็กซานเดอร์ โมสลีย์ วัย 39 ปี นักเศรษฐศาสตร์ บุตรชายของนายเม็กซ์ มอสลีย์ ประธานสหภาพรถยนต์สูตร1 ได้เสพเฮโรอีนเสียชีวิต ที่บ้านพักในย่านน็อตติ้ง ฮิลล์ ทางตะวันตกของกรุงลอนดอน โดยคนรับใช้พบเขานอนฟุบคาโต๊ะคอมพิวเตอร์ ขณะที่ตำรวจพบร่างเขาพร้อมเฮโรอีน โดยมีเข็มฉีดยาในบริเวณใกล้เคียง

ขณะที่เพื่อนบ้านรายงานว่า หลายคนรู้ว่าอเล็กใช้ยาเสพติด ซึ่งมันไม่ใช่ความลับ และดูเหมือนว่าจะเป็นที่รู้กันว่าโดยกว้างขวางว่า เขาติดโฮเรอีน

รายงานระบุว่า เหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นเรื่องอื้อฉาวล่าสุดของตระกูลมอสลีย์ซึ่งก่อนหน้านี้นายแม็กซ์ถูกแฉว่ามีพฤติกรรมชอบมาโคซิสม์และฟ้องร้องหนังสือพิมพ์นิวออฟเดอะเวิล์ดว่าละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและชนะคดีดังกล่าว

อ่านต่อที่ : ช็อค ลูกชายประธานเอฟ1 ผู้อื้อฉาว เสพเฮโรอีนจนเสียชีวิต

ติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนรพ.ราชวิถี พฤษภาคม 13, 2009

ติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนรพ.ราชวิถี

ดร.ศรันย์ สัมฤทธิ์เดชขจร  ผู้อำนวยการหน่วยปฏิบัติการวิจัยเทคโนโลยีโฟโตนิกส์ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) พร้อมเจ้าหน้าที่เนคเทคได้เดินทางไปติดตั้งเครื่องเทอมสกรีน หรือเครื่องเทอร์โมสแกน เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ที่อาคารผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลราชวิถี ซึ่งเป็นเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายจำนวน 1 เครื่อง โดยติดตั้งที่บริเวณประตูทางเข้าผู้ป่วยนอก เพื่อตรวจจับและคัดกรองผู้ป่วยที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 38 องศาเซลเซียส เพื่อเฝ้าระวังการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009

ดร.ศรันย์ กล่าวว่า เครื่องดังกล่าวจะติดตั้งที่โรงพยาบาลราชวิถีประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อช่วยคัดกรองผู้ป่วยที่มีอุณหภูมิสูง และเพื่อให้แพทย์พยาบาลทำประวัติผู้ป่วย โดยเครื่องดังกล่าวจะมีความแม่นยำมาก โดยสามารถตรวจจับความร้อนภายในร่างกายที่อุณหภูมิ 38 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าเป็นไข้ โดยโรงพยาบาลราชวิถีในแต่ละวันจะมีผู้ป่วยประมาณ 3,500-4,000 คน ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระของแพทย์และพยาบาลของโรงพยาบาลได้ จากนั้นจะนำไปติดตั้งที่โรงพยาบาลทรวงอกอีกแห่งหนึ่ง เพื่อช่วยให้ประเทศไทยปลอดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ที่ระบาดอยู่ในขณะนี้ได้อีกทางหนึ่ง อย่างไรก็ตาม หากพบว่ามีผู้ป่วยที่มีอุณหภูมิสูงตามที่กำหนด แพทย์จะมีการนำไปซักประวัติ และตรวจเช็คเพิ่มเติม เพื่อคัดกรองต่อไปว่า เป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่หรือไม่

อ่านต่อที่ : ติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนรพ.ราชวิถี

ติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนรพ.ราชวิถีคัดกรอง”หวัด2009″ พฤษภาคม 13, 2009

ติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนรพ.ราชวิถีคัดกรอง”หวัด2009″

ติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนรพ.ราชวิถีคัดกรอง"หวัด2009"

ดร.ศรันย์ สัมฤทธิ์เดชขจร  ผู้อำนวยการหน่วยปฏิบัติการวิจัยเทคโนโลยีโฟโตนิกส์ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) พร้อมเจ้าหน้าที่เนคเทคได้เดินทางไปติดตั้งเครื่องเทอมสกรีน หรือเครื่องเทอร์โมสแกน เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ที่อาคารผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลราชวิถี ซึ่งเป็นเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายจำนวน 1 เครื่อง โดยติดตั้งที่บริเวณประตูทางเข้าผู้ป่วยนอก เพื่อตรวจจับและคัดกรองผู้ป่วยที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 38 องศาเซลเซียส เพื่อเฝ้าระวังการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009

ดร.ศรันย์ กล่าวว่า เครื่องดังกล่าวจะติดตั้งที่โรงพยาบาลราชวิถีประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อช่วยคัดกรองผู้ป่วยที่มีอุณหภูมิสูง และเพื่อให้แพทย์พยาบาลทำประวัติผู้ป่วย โดยเครื่องดังกล่าวจะมีความแม่นยำมาก โดยสามารถตรวจจับความร้อนภายในร่างกายที่อุณหภูมิ 38 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าเป็นไข้ โดยโรงพยาบาลราชวิถีในแต่ละวันจะมีผู้ป่วยประมาณ 3,500-4,000 คน ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระของแพทย์และพยาบาลของโรงพยาบาลได้ จากนั้นจะนำไปติดตั้งที่โรงพยาบาลทรวงอกอีกแห่งหนึ่ง เพื่อช่วยให้ประเทศไทยปลอดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ที่ระบาดอยู่ในขณะนี้ได้อีกทางหนึ่ง อย่างไรก็ตาม หากพบว่ามีผู้ป่วยที่มีอุณหภูมิสูงตามที่กำหนด แพทย์จะมีการนำไปซักประวัติ และตรวจเช็คเพิ่มเติม เพื่อคัดกรองต่อไปว่า เป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่หรือไม่

\”เครื่องดังกล่าวไม่ได้แตกต่างจากเครื่องเทอร์โมสแกนที่ติดตั้งอยู่ตามสนามบินต่างๆ เพียงแต่ตัวกล้องนักวิจัยเรายังไม่สามารถผลิตได้ เพราะมีลิขสิทธิ์ แต่ตัวควบคุมการทำงาน เราสามารถผลิตได้ โดยใช้เวลาตรวจเพียง 0.03 วินาทีต่อครั้ง  ที่สำคัญผลงานดังกล่าวเคยนำไปเสนอที่การประชุมวิชาการด้านการใช้ประโยชน์ชีววิทยาจากแสง หรือ Bio Phonics ที่ฝรั่งเศส เมื่อปี 2551 ที่ผ่านมา ที่สำคัญหากรัฐบาลสนใจองค์ความรู้ดังกล่าวจะช่วยประหยัดการนำเข้าถึงครึ่งหนึ่ง\” ดร.ศรันย์ กล่าวและว่า หลังจากใช้ประโยชน์ที่โรงพยาบาลแล้ว เนคเทคจะนำไปใช้ประโยชน์ด้านต่างๆ ต่อไป

อ่านต่อที่ : ติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนรพ.ราชวิถีคัดกรอง”หวัด2009″