ข่าว ในประเทศไทย

คาดเกณฑ์วิทยุชุมชนมีผลมิ.ย.นี้ พฤษภาคม 14, 2009

คาดเกณฑ์วิทยุชุมชนมีผลมิ.ย.นี้

ประชาพิจารณ์ร่างหลักเกณฑ์วิทยุชุมชน ผู้ประกอบการขอให้มีโฆษณาได้ เผยร่างหลักเกณฑ์ฯประกาศใช้ได้ต้นเดือน มิ.ย.นี้ เตือนระวังผู้แอบอ้างหลอกเงินช่วยเรื่องใบอนุญาต
 
พ.อ.ดร.นที ศุกลรัตน์ ประธานคณะทำงานด้านกิจการกระจายเสียงวิทยุชุมชน ในคณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ กล่าวภายหลังร่วมรับฟังความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะต่อร่างประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เรื่อง “หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตประกอบกิจการบริการชุมชนชั่วคราว (วิทยุกระจายเสียงชุมชน) และร่างมาตรฐานทางเทคนิคกิจการบริการชุมชน (วิทยุกระจายเสียงชุมชน) ฉบับชั่วคราว” เมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ ผ่านมา ว่าจากการทำประชาพิจารณ์ พบว่า ผู้ประกอบการมีข้อเสนอให้ยืดระยะเวลาการขอใบอนุญาตออกไปเป็น 1 ปี นับจากวันลงทะเบียนเป็นผู้ทดลองออกอากาศ รวมทั้งขอให้มีการโฆษณาในรายการได้
 
สำหรับขั้นตอนการดำเนินงานหลังรับฟังความคิดเห็น คณะทำงานจะนำไปปรับปรุงร่างหลักเกณฑ์ในวันที่ 13 พ.ค.นี้ และยื่นร่างหลักเกณฑ์ที่ได้ปรับปรุงให้คณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์พิจารณาในวันที่ 15 พ.ค. หลังจากนั้นส่งเรื่องให้ กทช.พิจารณาในวันที่ 20 พ.ค.นี้ โดย กทช.จะใช้เวลาพิจารณาและปรับปรุงเนื้อหาเพิ่มเติมอีกประมาณ 7 วัน ก่อนนำข้อมูลแสดงบนเว็บไซต์เป็นเวลา 7 วัน คาดจะประกาศในราชกิจจานุเบกษา และบังคับใช้ได้ประมาณต้นเดือน มิ.ย.นี้
 
พ.อ.ดร.นที กล่าวว่า การยื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการวิทยุชุมชนชั่วคราวมีค่าธรรมเนียมเพียงปีละ 500 บาทเท่านั้น ซึ่งขณะนี้มีผู้แอบอ้างว่าสามารถช่วยให้สถานีวิทยุชุมชนต่าง ๆ ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการวิทยุชุมชนได้ แต่ต้องใช้เงิน 6-7 แสนบาท ซึ่งขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และสถานีวิทยุชุมชนต่าง ๆ จะไม่สามารถขอใบอนุญาตได้ ถ้าไม่มี คุณสมบัติและเนื้อหาตามที่กฎหมายกำหนด.

อ่านต่อที่ : คาดเกณฑ์วิทยุชุมชนมีผลมิ.ย.นี้

เครือข่ายองค์กรประชาชนร้องสภาเลื่อนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สภาเกษตรกรแห่งชาติ พฤษภาคม 13, 2009

เครือข่ายองค์กรประชาชนร้องสภาเลื่อนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สภาเกษตรกรแห่งชาติ

เครือข่ายองค์กรประชาชนร้องสภาเลื่อนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สภาเกษตรกรแห่งชาติ

รัฐสภา 7 พ.ค.- ตัวแทนเครือข่ายองค์กรประชาชนและคณะทำงานติดตามร่าง พ.ร.บ.สภาเกษตรกรแห่งชาติ 17 องค์กร ประมาณ 20 คน เข้ายื่นหนังสือต่อนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ชะลอการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สภาเกษตรกรแห่งชาติ ในวาระการประชุมสมัยสามัญทั่วไปนี้ และขอให้มีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนต่อร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวจากเครือข่ายและองค์กรเกษตรทุกระดับ โดยให้ความสำคัญกับเกษตรกรรายย่อย และนำความเห็นมาปรับแก้ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวอย่างจริงจัง เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรอย่างแท้จริง

ด้านนายชัย กล่าวว่า สภาฯ ได้ทราบถึงปัญหาของเกษตรกรแล้ว โดยตนได้บรรจุวาระการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวแล้ว แต่ได้สั่งเลื่อนการพิจารณาออกไปพิจารณาในสมัยประชุมหน้า ดังนั้น หากเครือข่ายองค์กรประชาชนต้องการเสนอข้อมูลใดที่เกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ขอให้นำไปเสนอกับสภาฯ ทั้งนี้ หากเครือข่ายองค์กรประชาชนเห็นว่ากระบวนการในเสนอร่างกฎหมายไม่เป็นธรรม หรือหากเห็นว่าเนื้อหาของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวยังไม่เหมาะสม ขอเสนอให้เครือข่ายองค์กรประชาชนรวบรวมรายชื่อเพื่อเสนอร่างกฎหมายที่เห็นว่าเหมาะสมเข้ามาประกบกับร่างของรัฐบาล ซึ่งกระบวนการนี้จะทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเสนอร่างกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย

อ่านต่อที่ : เครือข่ายองค์กรประชาชนร้องสภาเลื่อนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สภาเกษตรกรแห่งชาติ

15:55 น. ชัยสั่ง เลื่อนพิจารณาพรบ.เกษตรกร หวั่นม็อบบุก พฤษภาคม 13, 2009

15:55 น. ชัยสั่ง เลื่อนพิจารณาพรบ.เกษตรกร หวั่นม็อบบุก

7 พค. 2552 15:55 น.

คณะทำงานภาคประชาชนติดตามร่างพรบ.สภาเกษตรกร ได้ยื่นหนังสือเรียกร้องให้นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระงับการพิจารณาร่าง พรบ.สภาเกษตรกรแห่งชาติ โดยทางตัวแทนระบุว่า โดยเนื้อหาของร่าง พรบ.ดังกล่าวนั้นยังไม่ได้เปิดให้มีการรับฟังปัญหาของเกษตรกรอย่างจริงจัง จึงอยากให้ทางรัฐสภาเปิดให้มีการรับฟังปัญหาของเกษตรกรอย่างจริงจังเสียก่อน
ด้านนายชัย กล่าวภายหลังรับหนังสือเรียกร้อง ว่า ก่อนหน้านี้ ทราบว่าคณะทำงานภาคประชาชนติดตามร่างพรบ.สภาเกษตรการ จะมายื่นหนังสือ จึงได้สั่งให้เลื่อนการพิจารณาร่าง พรบ.ฉบับนี้ออกไปก่อนแล้ว

อ่านต่อที่ : 15:55 น. ชัยสั่ง เลื่อนพิจารณาพรบ.เกษตรกร หวั่นม็อบบุก

รมว.พาณิชย์ ยืนยันประมูลข้าวสตอกรัฐโปร่งใส พฤษภาคม 13, 2009

รมว.พาณิชย์ ยืนยันประมูลข้าวสตอกรัฐโปร่งใส

รมว.พาณิชย์ ยืนยันประมูลข้าวสตอกรัฐโปร่งใส

ก.พาณิชย์  7 พ.ค. –  นางพรทิวา  นาคาศัย  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยว่า  ยังไม่ได้รับรายงานการยื่นซองเปิดประมูลข้าวสตอกรัฐที่คณะทำงานระบายข้าวได้ให้เอกชนที่สนใจยื่นซองประกวดราคา เมื่อวานนี้  (6 พ.ค.) ซึ่งหลังจากนี้ขึ้นอยู่กับคณะทำงานด้านการเจรจาและต่อรอง  โดยคาดว่าจะรายงานผลให้ทราบภายในสัปดาห์หน้า

ส่วนกระแสข่าวว่ามี 1 บริษัท ที่นักการเมืองในพรรคภูมิใจไทยเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในการยื่นซองประมูลข้าว และเป็นผู้เสนอราคาสูงสุดเฉลี่ย 12,000-14,000  บาทต่อตัน และปริมาณสูงกว่า 2.6  ล้านตันนั้น  ยังไม่ทราบ แต่ขอยืนยันการประมูลข้าวของภาครัฐ  หลังจากกระทรวงพาณิชย์ปรับเปลี่ยนวิธีการใช้ราคาอ้างอิงและยื่นซองประมูลเปิดเผยอย่างโปร่งใสจะไม่ทำให้เกิดปัญหาล็อคสเปก  ซึ่งการประมูลครั้งนี้ได้สั่งการว่า ทุกขั้นตอนจะต้องดำเนินการอย่างโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ และจะดูรายละเอียดผู้ที่ให้ผลประโยชน์สูงสุดแก่ภาครัฐ

นอกจากนี้  ยังสั่งให้คณะทำงานด้านเจรจาและต่อรองพิจารณารายละเอียดและผลประโยชน์ภาครัฐจะต้องได้ประโยชน์สูงสุด.-สำนักข่าวไทย

อ่านต่อที่ : รมว.พาณิชย์ ยืนยันประมูลข้าวสตอกรัฐโปร่งใส

14:10 น. รองผบช.น.ชี้ทางออกจับลิขสิทธ์พัฒน์พงษ์ พฤษภาคม 13, 2009

14:10 น. รองผบช.น.ชี้ทางออกจับลิขสิทธ์พัฒน์พงษ์

7 พค. 2552 14:10 น.

พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงเหตุเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์เกิดตะลุมบอลกับกลุ่มผู้ค้าย่านพัฒน์พงษ์ว่า เมื่อเวลา 20.30 น.ได้รับรายงานจาก สน.บางรัก ว่า พ.อ.นรินทร์ พรรณรายน์ รองประธานคณะทำงานสืบสวนปราบปรามสินค้าละเมิดสินค้าลิขสิทธ์ กระทรวงพาณิชย์ นำกำลังประมาณ 50 คน เข้าปิดตลาดที่พัฒน์พงษ์เพื่อจับกุมสินค้าที่วางขายอยู่ตามแผง โดยกวาดของไส่ถุงดำ ทำให้กลุ่มผู้ค้าเกิดความไม่พอใจเนื่องจากสินค้าไม่ได้ผิดลิขสิทธ์ทุกชิ้น ตามหลักการแล้วผู้เสียหายที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ต้องเข้าไปแจ้งและชี้ว่าเป็นสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธ์
พล.ต.ต.วิบูลย์ กล่าวอีกว่า ควรแจ้งให้ สน.ท้องที่ทราบก่อนเพื่อลงบันทึกประจำวัน เมื่อเข้าไปจับกุมโดยไม่มีหมายจับก็ทำให้เกิดเหตุดังกล่าว ถ้าประสานมาก่อนก็จะไม่มีความรุนแรง ต่อจากนี้ต้องให้ท้องที่ร่วมจับกุมด้วย ทั้งนี้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความ 2 กรณีคือไม่มีใบอนุญาตจำหน่ายตาม พรบ.วิดีทัศน์ กับเช่าที่ไว้จำหน่ายสิ่งผิดกฎหมาย ส่วนการดำเนินคดีละเมิดลิขสิทธ์ต้องดูว่าพฤติการณ์ว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมด้วยว่าทำถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ส่วนกรณีนายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่าจะส่งเจ้าหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ลงมาตรวจสอบในพื้นที่ทุก 2 วันนั้น ตนเองเห็นว่าเป็นสิ่งดี แต่ควรประสานกับท้องที่ให้ตรวจสอบก่อนว่าสินค้าใดบ้างที่เข้าข่ายละเมิดลิขสิทธ์
ในด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ พล.ต.ต.วิบูลย์ กล่าวว่า ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตามนโยบายของรัฐบาล แต่เนื่องจากผู้ค้ามีวิธีหลบเลี่ยง โดยวางสินค้าปะปนกัน จึงมีมาตรการจับกุมแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ 1.จับกุมแหล่งผลิต 2.จับกุมที่เก็บสินค้า 3.ท้องที่ประสานกับทางกองบัญชาการสืบสวนกลางร่วมกันจับกุม
อ่านต่อที่ : 14:10 น. รองผบช.น.ชี้ทางออกจับลิขสิทธ์พัฒน์พงษ์

สุราษฎร์ฯ สางคดีรุกป่าแก่งกรุง-ลงโทษ 2 จนท.ป่าไม้ พฤษภาคม 13, 2009

สุราษฎร์ฯ สางคดีรุกป่าแก่งกรุง-ลงโทษ 2 จนท.ป่าไม้

สุราษฎร์ฯ สางคดีรุกป่าแก่งกรุง-ลงโทษ 2 จนท.ป่าไม้ สุราษฎร์ธานี 7 พ.ค.- รองผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานีสั่งตั้งคณะทำงานเร่งสางคดีบุกรุกอุทยานแห่งชาติแก่งกรุงนับพันไร่ พร้อมดำเนินคดี 2 เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ข้อหาฉ้อโกง-ปลอมแปลงเอกสาร

นายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี หัวหน้าชุดคลี่คลายคดีการบุกรุกพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง ประชุมร่วมกับนายสมชัย มาเสถียร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 สุราษฎร์ธานี  และ พ.ต.อ.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา  รอง ผบก.หน.ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช้าวันนี้ ( 7 พ.ค.) เพื่อเร่งคัดคดีบุกรุกพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติป่าแก่งกรุงที่ถูกบุกรุกมาตั้งแต่ปี 2548 จำนวน 340 คดี พื้นที่ 7,450 ไร่ เนื่องจากคดีส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 90 ยังไม่คืบหน้า และมีการปลูกพืชผลกว่าร้อยละ 40 จึงสั่งตั้งคณะกรรมการเร่งรัดทางคดี หากพบมีผู้เข้าอยู่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวให้ดำเนินการทันทีตามกฎหมาย

ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า  ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมพื้นที่บุกรุกในเขตอุทยานแก่งกรุงได้แล้ว พร้อมปลูกป่าคืน แต่ยังมีพื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติคลองพนมที่น่าห่วง เพราะถูกบุกรุกมากเช่นกัน ซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมแผนป้องกันและเข้าปราบปรามอย่างจริงจัง เพื่อยึดพื้นที่ป่ากลับคืน ส่วนอดีตหัวหน้าอุทยานฯ และช่างรังวัด 6 สำนักงานส่วนฟื้นฟูพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 4 สุราษฎร์ธานี ที่นายเกษมสันต์ จินณวาโถ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช มีคำสั่งย้ายพร้อมตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ล่าสุดพบมูลความผิดของเจ้าหน้าที่ทั้งสอง จึงขออนุมัติอธิบดีฯ เพื่อเข้าแจ้งความในข้อหาฉ้อโกงและปลอมแปลงเอกสารทางราชการ.- สำนักข่าวไทย

อ่านต่อที่ : สุราษฎร์ฯ สางคดีรุกป่าแก่งกรุง-ลงโทษ 2 จนท.ป่าไม้

12:39 น. รองผู้ว่าฯตากสั่ง5นอภ.ชายแดนคุมเข้มตัดไม้ทำลายป่า พฤษภาคม 13, 2009

12:39 น. รองผู้ว่าฯตากสั่ง5นอภ.ชายแดนคุมเข้มตัดไม้ทำลายป่า

7 พค. 2552 12:39 น.

นายสาโรช แสงอรุณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตากในฐานะประธานคณะทำงานแก้ไขปัญหาการบุกรุกทำลายป่าไม้ และทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ 5 อำเภอชายแดนไทย-พม่า ของจังหวัดตาก ( อ.แม่สอด-พบพระ-ท่าสองยาง-แม่ระมาด-อ.อุ้มผาง) เป็นประธานการประชุมคณะทำงานประกอบด้วย นายอำเภอ , เจ้าหน้าที่ป่าไม้ , ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ทั้งหมดกว่า 50 คน เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอแม่สอด เพื่อระดมสรรพกำลังในการป้องกันและดูแลพื้นที่ป่าไม้ที่ถูกทำลายและเร่งฟื้นฟูป่าไม้
นายสาโรช กล่าวว่า ปัจจุบันนานาชาติให้ความสำคัญกับการรักษาปกป้องป่าไม้ และทรัพยากรธรรมชาติ ในส่วนของคณะทำงานจังหวัดตากนั้น จะมีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดในการดูแลหรือการบุกรุกพื้นที่ป่าเพิ่มเติมโดยจะดำเนินการจับกุม และตรวจยึดทันที และให้นายอำเภอแต่ละอำเภอเป็นแกนกลางประสานทุกหน่วยงาน ทั้งการป้องกันและฟื้นฟูป่าไม้
การประชุมดังกล่าว เนื่องมาจากมีกลุ่มนายทุนว่าจ้างชาวกะเหรี่ยงเข้าไปตัดไม้ในป่าสงวน และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ในพื้นที่อำเภอแม่ระมาด เป็นวงกว้าง ทำให้นายคมสัน เอกชัย ผวจ.ตาก ต้องตั้งคณะทำงานดูแลป่าพื้นที่ 5 อำเภอชายแดน
อ่านต่อที่ : 12:39 น. รองผู้ว่าฯตากสั่ง5นอภ.ชายแดนคุมเข้มตัดไม้ทำลายป่า

เมืองตากตั้งโต๊ะลุยปราบคนรุกป่า-พร้อมเร่งปลูกเพิ่ม 10 ล้านต้นในปี 55 พฤษภาคม 13, 2009

เมืองตากตั้งโต๊ะลุยปราบคนรุกป่า-พร้อมเร่งปลูกเพิ่ม 10 ล้านต้นในปี 55
หน้าแรกผู้จัดการ Online | หน้าแรกภูมิภาค | ภาคเหนือ

ShowMemberLite()

เมืองตากตั้งโต๊ะลุยปราบคนรุกป่า-พร้อมเร่งปลูกเพิ่ม 10 ล้านต้นในปี 55

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
7 พฤษภาคม 2552 11:05 น.

ตาก – จังหวัดเรียกประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหาการบุกรุกทำลายป่า เดินหน้าจัดการผู้บุกรุกเด็ดขาด พร้อมเตรียมปลูกป่าเพิ่ม 10 ล้านต้นในปี 52-55
       
       วันนี้(7 พ.ค.)นายสาโรช แสงอรุณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตากในฐานะประธานคณะทำงานแก้ไขปัญหาการบุกรุกทำลายป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ 5 อำเภอชายแดนไทย-พม่า ของจังหวัดตาก( อ.แม่สอด-พบพระ-ท่าสองยาง-แม่ระมาด-อ.อุ้มผาง) ได้เป็นประธานการประชุมคณะทำงานประกอบด้วย นายอำเภอ-ป่าไม้-หัวหน้าหน่วยป้องกันป่าไม้-ตำรวจตระเวนชายแดน-ตำรวจภูธร-เจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กว่า 50 คน ณ ที่ว่าการอำเภอแม่สอด เพื่อระดมสรรพกำลังในการป้องกันและดูแลพื้นที่ป่าไม้ที่ถูกทำลายและเร่งฟื้นฟูป่าไม้
       
       นายสาโรช กล่าวว่า ปัจจุบันนานาชาติให้ความสำคัญกับการรักษาปกป้องป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติ ในส่วของคณะทำงานจังหวัดตากนั้น จะมีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดในการดูแลหรือการบุกรุกพื้นที่ป่าเพิ่มเติมโดยจะดำเนินการจับกุมและตรวจยึดทันที โดยให้นายอำเภอแต่ละอำเภอเป็นแกนกลางประสานทุกหน่วยงาน ทั้งการป้องกันและฟื้นฟูป่าไม้ฯ
       
       รายงานข่าวแจ้งว่าคณะทำงานฯมีแผนในปี 2552-2555 ในการเร่งฟื้นฟูโดยการปลูกป่ามากกว่า 10 ล้านต้น ในพื้นที่ป่าต่างๆ และจะใช้มาตรการเข้มงวดและเฉียบพลันในการดำเนินการกับผู้บุกรุก
       
       อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งนี้ได้พบข้อมูลว่า การปลูกป่ามีปัญหาต้นกล้าไม่พอกับโครงการและแผนที่วางไว้ จึงให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และสำนักบริหารและจัดการในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ที่ 14 เร่งจัดหาต้นกล้ามาเพื่อเร่งฟื้นฟูป่าไม้

อ่านต่อที่ : เมืองตากตั้งโต๊ะลุยปราบคนรุกป่า-พร้อมเร่งปลูกเพิ่ม 10 ล้านต้นในปี 55

“ชัย” หนุนรณรงค์ยุติความรุนแรง พฤษภาคม 13, 2009

“ชัย” หนุนรณรงค์ยุติความรุนแรง

\”ชัย\” หนุนรณรงค์ยุติความรุนแรง รัฐสภา 7 พ.ค.- ประธานสภาผู้แทนฯ หนุนรณรงค์ยุติความรุนแรง พร้อมจับตาคณะกรรมการแก้วิกฤติสองคณะทำงาน ชี้หากทำเพื่อประเทศชาติไม่มีความแตกแยกจะแก้ปัญหาได้

เมื่อเวลา 10.00 น. นายประดิษฐ์  เรืองดิษฐ์ เลขาธิการสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย  พร้อมด้วยกรรมการสมาคมฯ ในฐานะเครือข่ายร่วมรณรงค์หยุดทำร้ายประเทศไทย หยุดใช้ความรุนแรง นำเสื้อโปโลรณรงค์หยุดทำร้ายประเทศไทยไปมอบให้กับนายชัย  ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมเชิญให้สมาคมฯ ร่วมฟังการประชุมของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง และคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

นายชัย เปิดเผยว่า การรณรงค์และสร้างความสมานฉันท์ ตนจะให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง และคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทำงานไปก่อน ส่วนกรอบเวลาการทำงานเชื่อว่าคงไม่ต้องขยายกรอบเวลา เนื่องจากในคำสั่งตั้งคณะกรรมการระบุไว้ว่า ขอให้คณะทำงานดำเนินการโดยเร็วที่สุด จึงขึ้นอยู่กับตัวประธานคณะกรรมการจะมีความสามารถดำเนินการอย่างไร

เมื่อถามย้ำว่าเวลา 45 วันเพียงพอสำหรับการทำงานหรือไม่ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า แล้วแต่เหตุการณ์ หากไม่มีการเล่นแง่  และทุกคนตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมือง ก็ไม่มีปัญหา  ส่วนตัวหวังว่าคณะกรรมการจะช่วยแก้ไขปัญหาได้ คิดว่าทุกอย่างอยู่ที่ความพร้อมของแต่ละคณะ หากมีความสามัคคีปรองดองสมานฉันท์ หยิบยกประเด็นที่จะแก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้ ก็จะทำได้.- สำนักข่าวไทย

อ่านต่อที่ : “ชัย” หนุนรณรงค์ยุติความรุนแรง

ม้ามืดขอเหมาซื้อข้าวรัฐ พฤษภาคม 13, 2009

ม้ามืดขอเหมาซื้อข้าวรัฐ

นายนาคม ธีรสุวรรณจักร รักษาการผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า การเปิดซองระบายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล 2.6 ล้านตัน มีเอกชนยื่นซองประมูล 32 ราย หลังจากนี้จะตั้งคณะทำงานขึ้นมาเจรจาต่อรองราคาและปริมาณ คาดสัปดาห์หน้ารู้ผล

แหล่งข่าวจากวงการค้าข้าว เปิดเผยว่า ผู้ส่งออกเสนอราคาซื้อข้าวยกล็อต 2.6 ล้านตัน มีหลายราย เช่น บริษัท เอเชีย โกลเด้นไรซ์ บริษัท ไชยพรค้าข้าว โรงสีสิงโตทอง จาก จ.กำแพงเพชร และบริษัท วุฒิกวี

สำหรับที่เสนอซื้อเกือบยกล็อต เช่น บริษัท นครหลวงค้าข้าว และบริษัท สยามอินดิก้า โดยราคาเสนอซื้อต่ำสุดเฉลี่ยตันละ 1 หมื่นบาท สูงสุด 1.46 หมื่นบาท

ผู้เข้าร่วมประมูลต่างแปลกใจ เพราะมีบริษัทรายใหม่อย่างบริษัท วุฒิกวี เสนอซื้อยกล็อต ให้ราคาสูงถึงตันละ 1.46 หมื่นบาท ใกล้เคียงกับโรงสีสิงโตทอง ส่วนบริษัท สยามอินดิก้า เสนอซื้อมากเช่นกัน แต่ให้ราคา 1.1-1.2 หมื่นบาท/ตัน

จากการสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ของบริษัท วุฒิกวี ได้รับการชี้แจงว่า วุฒิกวีเป็นบริษัทที่เพิ่งก่อตั้งขึ้น เป็นการรวมกลุ่มกันระหว่างโรงสีและ ผู้ส่งออก

เหตุที่กล้ายื่นเสนอซื้อข้าวยกล็อต เนื่องจากประเมินแนวโน้มแล้วว่า ปีนี้ผลผลิตข้าวน่าจะประสบปัญหาภัยแล้ง มีโอกาสที่ราคาจะดีขึ้น และ ย้ำว่า ถึงแม้จะเป็นรายเล็ก แต่ก็ คิดการใหญ่

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่าจากการตรวจสอบคุณสมบัติของบริษัท วุฒิกวี พบว่า มีคุณสมบัติถูกต้องตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้

อ่านต่อที่ : ม้ามืดขอเหมาซื้อข้าวรัฐ