jump to navigation

14:50 น. คุมตัวเมียแท็กซี่โหดเชือดคอสาวอัมรินทร์ทำแผน พฤษภาคม 27, 2009

Posted by 1000thainews in ข่าวด่วน.
Tags: ,
add a comment

14:50 น. คุมตัวเมียแท็กซี่โหดเชือดคอสาวอัมรินทร์ทำแผน

26 พค. 2552 14:50 น.

จากกรณีคนร้ายฆ่าปาดคอ น.ส.อรอัจฉรา พรหมผลิน อายุ 27 ปี ผู้ช่วยบรรณาธิการ กองบรรณาธิการนิตยสาร shape เครือบริษัทอัมรินทร์พรินติ้งแอนด์พลับบลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) หมกอำพรางคดีภายในห้องพัก อาคารชัยพฤกษ์ อพารต์เมนต์ ถ.ชัยพฤกษ์ แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน
ล่าสุด พ.ต.ท.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล รอง ผบก.สส.สน.ตลิ่งชัน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบ สน.ตลิ่งชัน ควบคุมตัวนางเสาวนีย์ ช้างเขียว อายุ 36 ปี อาชีพขายพวงมาลัย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ณ ห้องที่เกิดเหตุ
เวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ณ ที่เกิดเหตุ โดยจุดที่ 1 บริเวณหน้าห้องเลขที่ 216 นางเสาวนีย์จุดธูปขอขมาต่อผู้ตาย จากนั้นชี้ไปยังเลขที่ประตูห้องแสดงให้เห็นว่าเป็นห้องที่เข้ามาก่อเหตุ จุดที่ 2 ชี้บริเวณประตูระหว่างเปิดอ้าออก ซึ่งเป็นจุดที่มีปากเสียงกับผู้ตาย ก่อนที่จะลงมือตบตีกัน ต่อมาจุดที่ 3 ภายในห้องซึ่งเป็นจุดที่นางเสาวนีย์ให้การว่า นายสันต์ชัย สังข์แป้น สามีของนางสาวนีย์เป็นคนจับศรีษะของผู้ตายกระแทกกับพื้น จุดที่ 4ใกล้เคียงกันบริเวณที่นอน ชี้ว่านายสันต์ชัยใช้มีดปาดคอผู้ตาย ก่อนจะชี้ไปยังห้องน้ำที่นำศพไปทิ้งไว้ จากนั้นจุดต่อมาจุดที่ 5 ชี้ไปที่ห้องเลขที่ 215 ซึ่งเป็นห้องพักที่ว่างอยู่ไม่มีผู้พัก ที่นางเสาวนีย์ให้การว่าสามีได้ปีนข้ามมาเพื่ออาบน้ำล้างคราบเลือดที่เปื้อนตามตัวออก แล้วจึงเดินกลับมายังห้องพักเลขที่ 204 ที่อยู่ตรงข้ามซึ่งเป็นห้องพักของผู้ก่อเหตุ ก่อนจะชี้จุดสุดท้ายบริเวณหน้าห้องน้ำภายในห้องพักซึ่งเป็นจุดที่นางเสาวนีย์ให้การว่า สามีสั่งให้นางเสาวนีย์นำถุงขยะมาใส่เสื้อผ้าเปื้อนเลือดก่อนที่จะนำไปทิ้ง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว นางเสาวนีย์ลงมาจากห้องที่เกิดเหตุ ก่อนขึ้นรถกระบะไปชี้จุด ที่ผู้ต้องหานำเสื้อผ้าเปื้อนเลือดไปทิ้ง เป็นบริเวณริมทางรถไฟชัยพฤกษ์ ซึ่งอยู่ภายในซอยเดียวกัน
นางเสาวนีย์เปิดเผยว่า สาเหตุที่เกิดการฆ่ากันตายในครั้งนี้เพราะว่า เวลาประมาณ 02.00 น.วันเกิดเหตุ ตนและสามีกำลังนอนหลับอยู่ภายในห้อง ได้ยินเสียงโทรทัศน์ของห้องผู้ตายเปิดเสียงดังมาก ก่อนที่ตนจะทนไม่ไหว จึงไปเคาะประตูขอร้องให้ผู้ตายลดเสียง กระทั่งทำให้มีปากเสียงกันกับผู้ตายจนกลายเป็นเรื่องราวตามที่ให้ข่าวไปเมื่อวานนี้ สำหรับสามีตนอยากให้รับสารภาพ ทำอะไรให้ว่ากันไปตามกฎหมาย ตนยืนยันว่าสามีและตนได้ก่อเหตุฆ่าน.ส.อรอัจฉราจริง
เจ้าหน้าที่ตำรวจ บอกว่า ในส่วนของนายสันต์ชัย ต้องฝากขัง และส่งฟ้องไปตามปกติ เนื่องจากหลักฐานทั้งหมดปรากฏชัด หากนายสันต์ชัยรับสารภาพและให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ก็จะลดโทษให้ครึ่งหนึ่ง แต่หากยังยืนกรานปฏิเสธ เมื่อศาลตัดสินออกมาว่านายสันต์ชัยผิดจริง ก็ต้องโดนรับโทษไปเต็มๆ สำหรับการที่ญาติของนายสันชัยได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นการจับแพะนั้น ก็ต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐานที่มีอยู่ อย่างไรก็ตามญาติสามารถนำหลักทรัพย์มาประกันตัวออกไปสู้คดีได้
อ่านต่อที่ : 14:50 น. คุมตัวเมียแท็กซี่โหดเชือดคอสาวอัมรินทร์ทำแผน

คุมเมียไอ้โหดฆ่าปาดคอสาว SHAPE ทำแผน-ผัวโวยเป็นแพะ พฤษภาคม 27, 2009

Posted by 1000thainews in อาชญากรรม.
Tags: ,
add a comment

คุมเมียไอ้โหดฆ่าปาดคอสาว SHAPE ทำแผน-ผัวโวยเป็นแพะ
ตำรวจตลิ่งชัน คุมตัวเมียมือฆ่าปาดคอสาวนิตยสาร SHAPE เครืออัมรินทร์ ทำแผน ฝ่ายเมียยังยืนกรานสามีเป็นคนลงมือก่อเหตุสะเทือนขวัญจริง ด้านสามียังปฏิเสธ ถูกใส่ร้าย ตำรวจจับแพะ
       
       จากกรณีที่คนร้ายฆ่าปาดคอ น.ส.อรอัจฉรา พรหมผลิน อายุ 27 ปี ผู้ช่วยบรรณาธิการ กองบรรณาธิการนิตยสาร SHAPE ในเครือบริษัท อัมรินทร์พรินติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) หมกอำพรางคดีภายในห้องพักเลขที่ 216 อาคารชัยพฤกษ์ อพาร์ตเมนต์ ถ.ชัยพฤกษ์ แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา
       
       ความคืบหน้า วันนี้ (26 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.พ.ต.ท.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล รอง ผกก.สส.สน.ตลิ่งชัน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ได้ควบคุมตัว นางเสาวนีย์ ช้างเขียว อายุ 36 ปี ภรรยาของ นายสัญชัย สังข์แป้น ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ เมื่อไปถึงก็พบว่า มีชาวบ้านได้มุงดูบริเวณหน้าอพาร์ตเมนต์ และต่างจับกลุ่มมวิพากษ์วิจารณ์กันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งมีชาวบ้านหลายคนรู้จักสนิทสนมกับผู้ต้องหาเป็นอย่างดี
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยจุดที่ 1 บริเวณหน้าห้องเลขที่ 216 นางเสาวนีย์ ได้จุดธูปขอขมาต่อผู้ตาย จากนั้นได้ชี้ไปยังประตูห้องแสดงให้เห็นว่าเป็นห้องที่เข้ามาก่อเหตุ จุดที่ 2 ได้ชี้บริเวณประตูระหว่างเปิดอ้าออก ซึ่งเป็นจุดที่มีปากเสียงกับผู้ตาย ก่อนที่จะลงมือตบตีกัน ต่อมาจุดที่ 3 ภายในห้อง ซึ่งเป็นจุดที่นางเสาวนีย์ ให้การว่า นายสัญชัย สังข์แป้น สามีของนางสาวนีย์เป็นคนจับศีรษะของผู้ตายกระแทกลงกับพื้น
       
       จุดที่ 4ใกล้เคียงกันบริเวณที่นอน ชี้ว่า นายสัญชัย ได้ใช้มีดปาดคอผู้ตาย ก่อนที่จะชี้ไปยังห้องน้ำที่ได้นำศพไปทิ้งไว้ จากนั้นจุดต่อมาจุดที่ 5 ได้ชี้ไปที่ห้องเลขที่ 215 ซึ่งเป็นห้องพักที่ว่างอยู่ ไม่มีผู้พัก ที่นางเสาวนีย์ให้การว่า สามีได้ปีนข้ามมา เพื่ออาบน้ำล้างคราบเลือดที่เปื้อนตามตัวออก แล้วจึงเดินกลับมายังห้องพักเลขที่ 204 ที่อยู่ตรงข้ามซึ่งเป็นห้องพักของผู้ก่อเหตุ ก่อนที่จะชี้จุดสุดท้ายบริเวณหน้าห้องน้ำภายในห้องพัก ซึ่งเป็นจุดที่ นางเสาวนีย์ ให้การว่า สามีสั่งให้ นางเสาวนีย์ นำถุงขยะมาใส่เสื้อผ้าเปื้อนเลือดก่อนที่จะนำไปทิ้ง
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า หลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้น นางเสาวนีย์ เปิดเผยว่า สาเหตุที่เกิดการฆ่ากันตายในครั้งนี้ เป็นเพราะว่าเวลาประมาณ 02.00 น.ในวันเกิดเหตุ ตนและสามี กำลังนอนหลับอยู่ภายในห้อง ได้ยินเสียงโทรทัศน์ของห้องผู้ตายเปิดเสียงดังมาก ก่อนที่ตนจะทนไม่ไหว จึงไปเคาะประตูขอร้องให้ผู้ตายลดเสียง กระทั่งทำให้มีปากเสียงกันกับผู้ตายจนกลายเป็นเรื่องราวตามที่ให้ข่าวไปเมื่อวานนี้ สำหรับสามีตนอยากให้ยอมรับสารภาพ ทำอะไรให้ว่ากันไปตามกฎหมาย ตนยืนยันว่า สามีและตนได้ก่อเหตุฆ่า น.ส.อรอัจฉรา จริง
       
       จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นางเสาวนีย์ ลงมาจากห้องที่เกิดเหตุ ก่อนจะขึ้นรถกระบะไปชี้จุดที่ผู้ต้องหาได้นำเสื้อผ้าเปื้อนเลือดไปทิ้ง เป็นบริเวณริมทางรถไฟชัยพฤกษ์ ซึ่งอยู่ภายในซอยเดียวกัน ด้าน นายสัญชัย สามีของนางเสาวนีย์ได้เกาะห้องขังผู้ต้องหาใน สน.ตลิ่งชัน พูดจาร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้สื่อข่าว และยืนยันว่า ไม่ได้รู้เห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ และมั่นใจว่า ภรรยาโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจเกลี้ยกล่อมให้ยอมรับสารภาพ ซึ่งตนไม่เข้าใจว่าเหตุใดเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้ตนเป็นแพะ ทั้งที่ตนให้การร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี ซึ่งตนไม่ต้องการพูดอะไรมากไปกว่านี้ ขอเพียงแค่ให้ความเป็นธรรมแก่ตน ทั้งนี้ ยังขอให้ภรรยา พูดความจริง ส่วนตนยังยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้ร้ายฆ่า น.ส.อรอัจฉรา ต่อไป
       
       จากการสอบถามเพื่อนบ้านบริเวณใกล้เคียงที่รู้จักสนิทสนมกับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เปิดเผยว่า ได้รู้จักกับผู้ต้องหาทั้ง 2 เป็นอย่างดี ซึ่ง นางเสาวนีย์ เป็นคนใจเย็น ยิ้มแย้มแจ่มใส และขายพวงมาลัยเป็นปกติทุกวัน ส่วน นายสัญชัย เป็นคนไม่ค่อยพูดจา เงียบๆ ติดการพนันตู้มวย แต่ไม่ได้มีหนี้สินมากมาย ทั้งนี้ ตนได้รู้จักกับเพื่อนของผู้ตาย และทราบว่า ผู้ตายเป็นคนเรียบร้อย นิ่งเงียบ รักสันโดษ ชาวบ้านในละแวกนี้ จึงไม่เข้าใจว่าเหตุใด นางเสาวนีย์ จึงให้การว่าโดนผู้ตายด่าทอ ยั่วยุด้วยคำหยาบคาย แค่เพียงเรื่องเปิดโทรทัศน์เสียงดังเท่านั้น ไม่น่าจะทำให้เกิดการฆ่ากันตายได้ ซึ่งไม่ได้เข้าข้างใครข้างใดข้างหนึ่ง จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง และทำให้ซื่อตรงที่สุด เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
       
       ด้าน พ.ต.ท. สุกิจ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ หลังจากที่นางเสาวนีย์ให้การยอมรับสารภาพว่า ร่วมมือกระทำความผิดร่วมกับสามี ปรากฏภายหลังว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมานางเสาวนีย์ กลับคำให้การโดยการปฏิเสธอีกครั้ง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเกิดความสับสนกับคำให้การของนางเสาวนีย์ จึงให้นางเสาวนีย์สงบสติอารมณ์ก่อน จากนั้นช่วงเช้าจึงนำตัวออกมาสอบปากคำอีกครั้ง พร้อมกับให้พูดคุยกับญาติ นางเสาวนีย์ จึงมีสีหน้าที่ผ่อนคลายลง แล้วยอมรับสารภาพกับตำรวจอีกครั้งว่าเป็นคนก่อเหตุจริง จึงได้มีการนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
       
       พ.ต.ท.สุกิจ กล่าวต่อว่า หลักฐานทั้งหมดที่นางเสาวนีย์ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น สอดคล้องกับการตรวจพิสูจน์แทบทั้งสิ้น เช่น ภายในห้องว่างเลขที่ 215 ที่นางเสาวนีย์ ให้การว่าสามีเข้าไปอาบน้ำล้างคราบเลือด พร้อมกับนำผ้าไปเช็ดถูคราบเลือดที่อยู่บนพื้นภายในห้อง 215 จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจนำน้ำยาตรวจพิสูจน์ ไปเทลาดที่พื้น ปรากฏเห็นคราบเลือดเด่นชัดขึ้นมาทันที รวมถึงคราบเลือดที่กระเด็นอยู่ที่ประตูห้องของผู้ต้องหาด้วย ประกอบกับคำให้การของพยานภายในอพาร์ตเมนต์ ว่า พบเห็น 2 สามีภรรยาอยู่ในห้องผู้ตายจริง แต่ช่วงที่เกิดเหตุใหม่ๆ ไม่มีใครกล้าออกมาให้เบาะแส จนกระทั่งจับตัวคนร้ายได้ จึงกล้าออกมาให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ
       
       “ในส่วนของ นายสัญชัย จะต้องนำตัวไปฝากขัง และส่งฟ้องไปตามปกติ เนื่องจากหลักฐานทั้งหมดปรากฏชัด หากนายสัญชัยรับสารภาพ และให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ก็จะลดโทษให้ครึ่งหนึ่ง แต่หากยังยืนกรานปฏิเสธ เมื่อศาลตัดสินออกมาว่า นายสัญชัย ผิดจริง ก็ต้องโดนรับโทษไปเต็มๆ สำหรับการที่ญาติของนายสัญชัยได้ออกมาให้การสัมภาษณ์ว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้น เป็นการจับแพะ ก็ต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐานที่มี ซึ่งญาติสามารถนำหลักทรัพย์มาประกันตัวออกไปสู้คดีได้” พ.ต.ท.สุกิจ กล่าว
       
       เมียมือเชือดสาวกอง บก.SHAPE ยัน ผัวสังหารเหยื่อจริง!
       มือฆ่าสาวนิตยสาร SHAPE โวยถูกใส่ร้าย ลั่นให้ตายดีกว่ารับสารภาพ
       ฆ่าโหด! ยิง-ปาดคอสาวนิตยสารดังหมกห้องพัก คาดเหตุชู้สาว

อ่านต่อที่ : คุมเมียไอ้โหดฆ่าปาดคอสาว SHAPE ทำแผน-ผัวโวยเป็นแพะ