ข่าว ในประเทศไทย

“ประเวศ”เตือนพธม.ตั้งพรรคควรขจัดอำนาจ-อิทธิพลเงิน พฤษภาคม 14, 2009

“ประเวศ”เตือนพธม.ตั้งพรรคควรขจัดอำนาจ-อิทธิพลเงิน

"ประเวศ"เตือนพธม.ตั้งพรรคควรขจัดอำนาจ-อิทธิพลเงิน

นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส กล่าวเมื่อวันที่ 14 พ.ค. ถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เตรียมจัดตั้งพรรคการเมืองว่า พันธมิตรฯ สามารถจัดตั้งพรรคการเมืองได้ แต่ต้องนำความรู้และความสามารถมาใช้มิใช่สร้างความรุนแรง เพราะการตั้งพรรคการเมืองถือเป็นการเข้าสู่ระบบ อย่างไรก็ตาม หากนักการเมืองคงใช้วิธีดึงเงินเข้าสู่ระบบการเมืองก็จะทำให้เกิดปัญหาไม่จบสิ้น จึงควรที่จะขจัดอำนาจและอิทธิพลของเงินออกไป เพราะหากยังกระทำไม่ได้ปัญหาดังกล่าวก็ยังคงอยู่

ราษฎรอาวุโส กล่าวย้ำว่า หากรัฐบาลต้องการแก้ปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เกิดขึ้นตลอด 5 – 6 ปีที่ผ่านมา ต้องเน้นการกระจายอำนาจจากส่วนกลางลงสู่ท้องถิ่นเป็นหลักจึงจะประสบผลสำเร็จได้

อ่านต่อที่ : “ประเวศ”เตือนพธม.ตั้งพรรคควรขจัดอำนาจ-อิทธิพลเงิน

ราษฎรอาวุโสชี้พันธมิตรฯตั้งพรรคได้ แนะใช้ความรู้ไม่ใช่ความรุนแรง พฤษภาคม 14, 2009

ราษฎรอาวุโสชี้พันธมิตรฯตั้งพรรคได้ แนะใช้ความรู้ไม่ใช่ความรุนแรง

ราษฎรอาวุโสชี้พันธมิตรฯตั้งพรรคได้ แนะใช้ความรู้ไม่ใช่ความรุนแรง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 16:11 น.

       นายแพทย์ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส กล่าวถึงการที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เตรียมจัดตั้งพรรคการเมืองว่า พันธมิตรฯ สามารถจัดตั้งพรรคการเมืองได้ แต่ต้องนำความรู้และความสามารถมาใช้มิใช่สร้างความรุนแรง เพราะการตั้งพรรคการเมืองถือเป็นการเข้าสู่ระบบ อย่างไรก็ตาม หากนักการเมืองคงใช้วิธีดึงเงินเข้าสู่ระบบการเมืองก็จะทำให้เกิดปัญหาไม่จบสิ้น จึงควรที่จะขจัดอำนาจและอิทธิพลของเงินออกไป เพราะหากยังกระทำไม่ได้ปัญหาดังกล่าวก็ยังคงอยู่
        อย่างไรก็ตาม นายแพทย์ประเวศ ย้ำหากรัฐบาลต้องการแก้ปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เกิดขึ้นตลอด 5 – 6 ปีที่ผ่านมา ต้องเน้นการกระจายอำนาจจากส่วนกลางลงสู่ท้องถิ่นเป็นหลักจึงจะประสบผลสำเร็จได้

อ่านต่อที่ : ราษฎรอาวุโสชี้พันธมิตรฯตั้งพรรคได้ แนะใช้ความรู้ไม่ใช่ความรุนแรง

15:14 น. ศรีลังกาเมินแรงกดดัน ยันเดินหน้ากวาดล้าง LTTE พฤษภาคม 14, 2009

15:14 น. ศรีลังกาเมินแรงกดดัน ยันเดินหน้ากวาดล้าง LTTE

14 พค. 2552 15:14 น.

รัฐบาลศรีลังกา ได้ปฏิเสธเสียงเรียกร้องของนานาชาติ ที่ให้ยุติการทำสงครามกวาดล้างกองกำลังพยัคฆ์ทมิฬอีแลม หรือ LTTE ซึ่งเป็นเวลาไม่กี่ชั่วโมง หลังจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เรียกร้องให้รักษาชีวิตพบเรือนไว้ แต่นายลัคมาน ยาพา อะเบย์วอเดน่ารัฐมนตรีข่าวสารของศรีลังกา กล่าวว่า ศรีลังจะไม่ยอมจำนนต่อแรงกดดันจากนานาชาติเพื่อยุติปฏิบัติการกวาดล้าง
นายอะเบย์วอเดน่า ยังแสดงท่าทีไม่สะทกสะท้าน ต่อแถลงการณ์ของคณะมนตรีความมั่นคงที่ออกมาเมื่อวันพุธ เรียกร้องให้รัฐบาลศรีลังกา และ LTTE รับประกันความปลอดภัยของพลเรือน และให้เคารพต่อพันธสัญญาภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหวางประเทศ ซึ่งนายอะเยย์วอเดน่า กล่าวว่า รัฐบาลไม่มีปัญหาเรื่องนี้อยู่แล้ว เพราะไม่ได้ใช้อาวุธหนักในการเข้าโจมตี และรัฐบาลก็ไม่สามารถทำร้ายประชาชนของตนเองได้
รัฐมนตรีข่าวสาร ยังกล่าวด้วยว่า ไม่เป็นธรรมต่อศรีลังกาที่ต้องตกอยู่ภายใต้การกดดันของการเรียกร้องให้ยุติการสู้รบ และเปิดทางให้เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์เจ้าไปในสมรภูมิทางเหนือ ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้ เนื่องจากรัฐบาลไม่สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่เหล่านี้ ซึ่งแม้แต่คณะกรรมาธิการกาชาดสากล หรือ ICRC ก็ยังส่งอาหารเข้าไปในพื้นที่ได้อย่างยากลำบาก
อ่านต่อที่ : 15:14 น. ศรีลังกาเมินแรงกดดัน ยันเดินหน้ากวาดล้าง LTTE

15:14 น. จับแรงงานต่างด้าวตลาดไทกว่า60คน พฤษภาคม 14, 2009

15:14 น. จับแรงงานต่างด้าวตลาดไทกว่า60คน

14 พค. 2552 15:14 น.

เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปดส. ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองตรวจ และคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน นำโดย นายอิทธิ คงวีรวัฒน์ หัวหน้าฝ่ายตรวจตามกฎหมาย กองตรวจ และคุ้มครองคนหางาน พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 30 นาย ได้ทำการกวาดล้าง ตรวจจับ แรงงานต่างด้าว หลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ภายในตลาดสด ตลาดไท อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
โดยสามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ทั้งหมดกว่า 60 คน และนายจ้างอีก 5 ราย โดยแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชา พม่า และลาว
ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวเนื่องจากปัจจุบันพบว่า มีแรงงานต่างด้าวเข้ามาแย่งคนไทยทำงานเป็นจำนวนมาก จึงทำให้แรงงานไทยมีการตกงานกันมากขึ้น โดยจะมีนายหน้า คนไทยนำแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาเป็นจำนวนมาก

อ่านต่อที่ : 15:14 น. จับแรงงานต่างด้าวตลาดไทกว่า60คน

“ชัญญ่า” ฉุนถูกเขียนแฉ วอนให้นักข่าวที่เขียนขอโทษจะได้ยุติการฟ้องร้อง พฤษภาคม 14, 2009

“ชัญญ่า” ฉุนถูกเขียนแฉ วอนให้นักข่าวที่เขียนขอโทษจะได้ยุติการฟ้องร้อง

“ชัญญ่า” ฉุนไอเอ็นเอ็นวิพากษ์แม่ ร้องขอให้ออกมาขอโทษ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 13:44 น.

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

“ชัญญ่า” ฉุนเว็บไซต์ไอเอ็นเอ็นเขียนข่าววิพากษ์มารดา ข้องใจว่าทำอะไรให้ทำไมต้องว่ากันรุนแรง เผยอยากให้คนเขียนมาคุยกับแม่โดยตรงทุกอย่างจะได้ยุติไม่มีการฟ้องร้อง
       
        ถึงกับออกอาการฉุนทีเดียวสำหรับนางแบบลูกครึ่งสาว “ชัญญ่า ทามาดะ” หลังถูกเว็บไซต์ไอเอ็นเอ็นเขียนวิพากษ์ผู้เป็นมารดาว่าเป็นไฮโซจอมปลอม บงการให้ลูกสาวเกาะคนอื่นเพื่อเข้าสังคม แถมยังซัดไปถึงอดีตอีกว่าเคยเป็นนางแบบดาวยั่วและเปลี่ยนชื่อมาแล้วไม่รู้กี่ตลบ
       
        นอกจากนี้ยังพาดพิงไปถึงตัวเธอด้วยว่ามีเพียงหุ้นลมในกิจการร้านจำหน่ายกระเป๋าแบรนด์เนมกับหนุ่มไรวินทร์ ส่งผลให้ผู้เป็นมารดาประกาศฟ้องเว็บไซต์ดังกล่าวหากไม่ออกมากล่าวขอโทษ ซึ่งล่าสุดชัญญ่าก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวว่า
       
        “คุณแม่ค่อนข้างปรี๊ดมากถ้าคนอ่านข่าวจริงๆ จะทราบว่ามันแรงมาก แรงที่สุดเท่าที่เคยโดนเขียนมา จริงๆ ถ้าเขียนถึงชัญญ่าไม่ดีชัญญ่าไม่เคยโกรธอะไร ซึ่งที่ผ่านๆ มาแรงๆ ทั้งนั้น แต่คราวนี้มาเขียนถึงคุณแม่ อันนี้โกรธมากจริงๆ คือจริงๆ แล้วมันไม่ได้อยู่ที่คุณแม่โกรธเพราะโดนว่าแต่ว่า มันกระทบถึงลูก คือไม่น่าจะมีอะไรน่าจะเคลียร์กันได้ด้วยดี”
       
       “ตอนนี้อยากจะได้คุยกับนักข่าวไอเอ็นเอ็นคนหนึ่งก็มีคนมาบอกแล้วว่าเป็นใคร ตอนนี้ก็อยากจะให้คนๆ นั้นโทรมาขอโทษคุณแม่เป็นการส่วนตัว เพราะคุณแม่อยากจะทราบว่าเฮ้ยโกรธอะไรเกลียดอะไรกันขนาดนั้นเหรอถึงเขียนได้กันขนาดนี้ไปทำอะไรให้เหรอ”
       
        “คือคุณแม่เป็นคนพูดดีอยู่แล้วไม่ต้องเครียดเลยว่าเขาจะพูดไม่ดีใส่ คือถ้าเขายอมทำตามอย่างที่คุณแม่อยากให้ทำก็น่าจะเคลียร์กันได้ด้วยดี แต่ถ้าไม่ทำอย่างรอบที่แล้วให้ลงขอโทษ แต่ก็ลงแบบหน้าหนึ่งว่าเป็นโต้ข่าวไม่มีคำว่าขอโทษเลย อย่างนั้นก็ไม่เอาก็คงต้องฟ้อง”
       
        “ตอนนี้รู้อย่างเดียวว่าคุณแม่อยากคุยกับพี่คนที่เขียนที่ชื่อที่อยู่ไอเอ็นเอ็น ซึ่งคุณแม่ท่านรู้ชื่อแล้ว ไม่รู้นะชัญญ่าไปทำอะไรให้พี่เขานะทำไมต้องด่าแรงขนาดนั้นด้วย คือถึงมันจะจริงหรือไม่จริงเขาก็ไม่ควรจะเขียนแรงขนาดนั้น แล้วเขาได้ยินมาจากไหนแหล่งข่าววงในคือใครช่วยบอกหน่อย แหล่งข่าวคนนี้เขามักจะทำอะไรไม่ดีใส่ชัญญ่าตลอดคือคนนั้นก็ปล่อยไปตามเวรตามกรรม แต่กับพี่คนที่เขียนข่าวก็ต้องคุยกันหน่อย”
       
       “การที่เราฟ้องไม่ใช่ว่าเราอยากได้อะไรก็แค่อยากเรียกสิทธิ์ของเราคืนมา เราก็ไม่ใช่ว่าเป็นดาราดังมากที่ทุกคนจะต้องมาเขียนถึงเราถูกมั้ยคะ แล้วเราก็ต้องมีชีวิตต่อไปจะให้คนมาดิสเครดิตเราทำลายอนาคตเรา มันก็ไม่ถูก คือคนให้ข่าวเขาก็คงไม่ออกมาขอโทษหรอก”
       
        “เขาก็คงแฮปปี้ที่มีข่าวแบบนี้แต่คนเขียนข่าวเขาควรออกมาขอโทษเพราะมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขาแล้วเขาเอาไปเขียน คนให้ข่าวเป็นคนใกล้ตัวค่ะ แต่ไม่ใช่พี่วินค่ะ คนๆ นี้เขาเป็นคนที่เคยสนิทกับที่บ้านแล้วก็มีปัญหากัน แต่คือถ้าบอกแล้วจะรู้เลยเพราะคุณแม่ศัตรูน้อย คนๆ นี้เป็นผู้ใหญ่ค่ะ เป็นเพศหญิง”
       
        “ครั้งแรกบอกว่าชัญญ่าจัดฉาก ครั้งที่สองบอกว่าพี่วินจัดฉาก ครั้งล่าสุดก็บอกว่าคุณแม่จัดฉากต่อไปจะเล่นถึงหมาถึงลูกแมวหรือใครอีกหรือเปล่า คือตอนนี้ทุกคนจัดฉากหมดแล้วเหลือใครบ้างล่ะ คนที่ไม่ได้มาเกี่ยวข้องเดี๋ยวก็มาเกี่ยวจนได้”
       
        มีข่าวว่าวินกับฟลุคร่วมมือกันแฉ?…”ไม่ใช่เลยค่ะ จะเป็นไปได้เหรอคะ ชัญญ่าไม่เคยคิดแบบนั้น ตั้งแต่มีข่าวว่าทะเลาะกันก็ไม่มีอะไรตอนนั้นก็ไม่ได้ทะเลาะกันด้วย มีแต่งอนๆ ก็หันหน้าหนีแล้วก็หันมาคุยกันแค่นั้น ส่วนธุรกิจร้านกระเป๋าคือตอนนี้หาที่ใหม่อยู่ เพราะว่าค่าเช่าแพงมากแล้วก็เป็นหุ้นส่วนกันจริงๆ”
       
        “ข่าวที่บอกว่าชัญญ่าเป็นหุ้นลม ไม่ใช่เลย เป็นหุ้นจริงๆ ค่ะ ความรักกับพี่วินเราไม่ได้เลิกกันค่ะ ก็คือห่างกันซึ่งห่างกันหมายถึงว่าชัญญ่าต้องเรียน พี่วินก็ต้องทำงาน คือทุกคนต้องมีหน้าที่ของตนเองเราก็ต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ชัญญ่าก็ไม่เคยใช้คำว่าแฟนนะไม่เคยเรียกว่าแฟน”
       
        เคลียร์เรื่องที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นไฮโซปลอม
        “เอออันนี้ข้องใจนะ ไฮโซแล้วยังไงล่ะ ใครเป็นคนเขียนล่ะ ชัญญ่าไม่เคยบอกเลยว่าชัญญ่าเป็นไฮโซจากนี้ก็ไม่ต้องเขียนเลยว่าไฮโซชัญญ่าเพราะมันไม่มีแล้วชัญญ่าไม่ได้เป็นไฮโซค่ะ ชัญญ่าก็งงว่าเขียนว่าไฮโซกำมะลออะไรเขียนได้ยังไง”
       
        “แต่ยังไงเราก็ต้องสู้นะ ตอนนี้ไม่กลัวอะไรแล้วนะ เจ็บมาเยอะมาก มีอะไรมาชัญญ่าก็สู้ มีอะไรมาถามได้ ส่วนเรื่องงานตอนนี้ก็มีผู้จัดละครก็มีติดต่อมาบ้าง แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มี คืออะไรที่มันยังไม่ใช่ตัวชัญญ่าๆ ก็ไม่รับ คือถ้าบทมันเป็นอะไรที่เป็นตัวเรามากเลยก็คงจะรับแต่ ณ ตอนนี้ยังไม่มี”
       
        พร้อมปฏิเสธข่าวกิ๊กกับ “ไผ่ วันพ้อยท”
        “ก็สนิทกันๆ รักกันมาก ไม่ใช่ค่ะ(หัวเราะ) ก็เป็นพี่เป็นน้องกัน ชัญญ่าคงสวยไม่พอที่จะเป็นกิ๊กเขาหรอกนะ กับพี่ไผ่ไม่มีอะไรค่ะ ไม่มีเลย แต่ถ้าจะรอดูรูปหลุดน่ะมีอยู่แล้ว เพราะเราไปนั่นไปนี่ไปไหนด้วยกันมันก็ต้องมีภาพหลุดออกมาบ้างแล้วก็บอกไว้ตรงนี้เลยว่าไม่มีพัฒนา”
       
        แล้วเจอกันไผ่บ่อยๆ พี่วินจะน้อยใจหรือเปล่า?
        “ไม่หรอกๆ กับพี่วินก็คุยกันอยู่ทุกวัน ถ้าพี่วินว่างพี่วินก็มาด้วย ตอนนี้ก็พิมพ์คุยกันทุกวัน”
       
        คบกับใครก็มักจะตกเป็นข่าว
        “ชัญญ่าคบมาก่อนหน้านี้แล้วค่ะ ไม่เกี่ยวหรอก แล้วให้ชัญญ่าเป็นเพื่อนกับใครล่ะ พอชัญญ่ามีเพื่อนก็มาว่าอีก ชัญญ่าทำอะไรก็ผิดไปหมด ทำอะไรตอนนี้ก็ผิดไปหมด ไม่เอาแล้วไม่สนใจแล้วค่ะ คือถ้าบางคนถ้าชัญญ่าไม่รู้จักแล้วเขาอยู่ในวงการเป็นพี่ๆ ชัญญ่าก็จะไหว้หมดชัญญ่าถือว่าคุณแม่สอนให้ทำแบบนี้ ถ้าคนไหนไม่พอใจก็ขอโทษด้วยค่ะ”

อ่านต่อที่ : “ชัญญ่า” ฉุนถูกเขียนแฉ วอนให้นักข่าวที่เขียนขอโทษจะได้ยุติการฟ้องร้อง

ปดส.จับแรงงานเถื่อนพื้นที่ปทุมธานีกว่า 40 คน พฤษภาคม 14, 2009

ปดส.จับแรงงานเถื่อนพื้นที่ปทุมธานีกว่า 40 คน

ปดส.จับแรงงานเถื่อนพื้นที่ปทุมธานีกว่า 40 คน

ปทุมธานี 14 พ.ค. – พ.ต.อ.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชน และสตรี (ปดส.) และนายอิทธิ  คงวีระวัฒน์ นิติกรชำนาญการ กองสำรวจและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน นำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 30 นาย กวาดล้างแรงงานต่างด้าวย่านตลาดไท ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ช่วงสายที่ผ่านมา (14 พ.ค.) ได้จำนวน 45 คน ซึ่งมีทั้งชาวพม่า กัมพูชา และลาว  โดยแรงงานดังกล่าวลักลอบเข้ามาเองส่วนหนึ่ง และจ่ายเงินให้กับนายหน้าคนนำพา เจ้าหน้าที่นำตัวแรงงานทั้งหมดส่ง สภ.คลองหลวง  เพื่อดำเนินคดีและผลักดันออกนอกประเทศ. -สำนักข่าวไทย

อ่านต่อที่ : ปดส.จับแรงงานเถื่อนพื้นที่ปทุมธานีกว่า 40 คน

สหประชาชาติฯ ห่วง ปชช.ติดค้างในเขตสู้รบของศรีลังกา พฤษภาคม 14, 2009

สหประชาชาติฯ ห่วง ปชช.ติดค้างในเขตสู้รบของศรีลังกา

สหประชาชาติฯ ห่วง ปชช.ติดค้างในเขตสู้รบของศรีลังกา

 
สภาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น แสดงความกังวลต่อสถานการณ์รุนแรงทางตะวันออกเฉียงเหนือของศรีลังกา ที่มีประชาชนราว 50,000 คน ติดค้างอยู่ในเขตสู้รบระหว่างกองกำลังรัฐบาลกับกลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลม
       

ทั้งนี้ หลังการหารือแบบลับระหว่างประเทศสมาชิกยูเอ็น ทูตรัสเซียอ่านแถลงการณ์ที่มีข้อความระบุว่า บรรดาประเทศสมาชิกยูเอ็น รู้สึกห่วงใยอย่างสุดซึ้งต่อวิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรม ที่กำลังเลวร้ายลงทุกขณะ จากเหตุการณ์สงครามทางตะวันออกเฉียงเหนือของศรีลังกา ที่คร่าชีวิตประชาชนแล้วหลายร้อยคน

อ่านต่อที่ : สหประชาชาติฯ ห่วง ปชช.ติดค้างในเขตสู้รบของศรีลังกา

UN ห่วง ปชช.ติดค้างในเขตสู้รบของศรีลังกา พฤษภาคม 14, 2009

UN ห่วง ปชช.ติดค้างในเขตสู้รบของศรีลังกา

UN ห่วง ปชช.ติดค้างในเขตสู้รบของศรีลังกา

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 10:18 น.

       สภาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น แสดงความกังวลต่อสถานการณ์รุนแรงทางตะวันออกเฉียงเหนือของศรีลังกา ที่มีประชาชนราว 50,000 คน ติดค้างอยู่ในเขตสู้รบระหว่างกองกำลังรัฐบาลกับกลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลม
        ทั้งนี้ หลังการหารือแบบลับระหว่างประเทศสมาชิกยูเอ็น ทูตรัสเซียอ่านแถลงการณ์ที่มีข้อความระบุว่า บรรดาประเทศสมาชิกยูเอ็น รู้สึกห่วงใยอย่างสุดซึ้งต่อวิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรม ที่กำลังเลวร้ายลงทุกขณะ จากเหตุการณ์สงครามทางตะวันออกเฉียงเหนือของศรีลังกา ที่คร่าชีวิตประชาชนแล้วหลายร้อยคน

อ่านต่อที่ : UN ห่วง ปชช.ติดค้างในเขตสู้รบของศรีลังกา

ป.ป.ช.ฟันอดีตผกก.ผิดวินัยร้ายแรง พฤษภาคม 14, 2009

ป.ป.ช.ฟันอดีตผกก.ผิดวินัยร้ายแรง

ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 13 พ.ค. นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษก แถลงผลการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาเรื่องกล่าวหา พ.ต.อ.โรจน์วัฒน์ รัตนเรืองภิญโญ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผกก. สภ.เมืองยโสธร กับพวกปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนเพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีกล่าวหา พ.ต.อ.โรจน์วัฒน์ กับพวก ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ปล่อยปละละเลย ไม่ดำเนินคดีตามกฎหมายกับบุคคลที่เข้าทำร้ายร่างกาย ส.ต.อ.อาทิตย์ แดงดี เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชานั้น
 
นายกล้านรงค์ กล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่า พ.ต.อ.โรจน์วัฒน์ ขณะดำรงตำแหน่ง ผกก.สภ.เมืองยโสธร มีอำนาจ หน้าที่สืบสวนและสอบสวนคดีอาญา และเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนในท้องที่รับผิดชอบของสถานีตำรวจภูธรเมืองยโสธร แต่ปรากฏว่าตั้งแต่เกิดเหตุทำร้าย ส.ต.อ.อาทิตย์ นั้น พ.ต.อ.โรจน์   วัฒน์ ในฐานะผู้บังคับบัญชาและหัวหน้าพนักงานสอบสวน ซึ่งมีอำนาจหน้าที่กลับไม่ดำเนินการ หรือสั่งการให้มีการติดตามจับกุมผู้ที่ทำร้ายร่างกาย ส.ต.อ.อาทิตย์ ทั้งที่ พ.ต.ต.ปรีชา สารถี สวป.ได้รายงานเหตุการณ์และระบุตัวบุคคลที่ทำร้ายร่างกายให้ทราบเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว คณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงมีมติว่าการกระทำของ พ.ต.อ.โรจน์วัฒน์ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลเป็นความผิดทางอาญา ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
 
นายกล้านรงค์ กล่าวต่อว่า สำหรับ พ.ต.ต. ปรีชา ในฐานะ สวป. มีหน้าที่สืบสวนป้องกันปราบปรามการประทำผิดอาญาในท้องที่รับผิดชอบและมีอำนาจหน้าที่สืบสวนและสอบสวนคดีอาญา และ พ.ต.ต.พิจิต พิจารณ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง พงส. ซึ่งในระหว่างวันเวลาที่เกิดเหตุดังกล่าว ได้เข้าเวรมีอำนาจหน้าที่สืบสวน และสอบสวนคดีอาญา แต่ได้ปล่อยปละละเลยให้เหตุการณ์ผ่าน ไปหลายวัน โดยที่มิได้ดำเนินการใด ๆ ตามอำนาจหน้าที่ การกระทำของ พ.ต.ต.ปรีชา และ พ.ต.ต. พิจิต จึงมีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง ฐาน  ไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความตั้งใจ อุตสาหะ เอาใจใส่ ระมัดระวังรักษาประโยชน์ของทางราชการตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 78 (9) จึงให้ส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาโทษทางวินัย และส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดฟ้องคดีต่อศาลที่มีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีแล้วแต่กรณีต่อไป
 
สำหรับคดีดังกล่าว เป็นเรื่องสะเทือนวงการสีกากีในช่วงเดือน ส.ค. 2550 เมื่อ ส.ต.อ. อาทิตย์ แดงดี ถูกลูกน้องนักการเมืองท้องถิ่นบุกทำร้ายตบเตะถึงโรงพักต่อหน้าผู้เป็นนาย นอกจากนี้ยังต้องก้มลงกราบเท้านักการเมืองท้องถิ่นคนดังกล่าวอีก สร้างความด่างพร้อยให้กับวงการตำรวจ เป็นอย่างยิ่ง.

อ่านต่อที่ : ป.ป.ช.ฟันอดีตผกก.ผิดวินัยร้ายแรง