“สแควร์ เอนิกซ์” ส่งภาคต่อของ “ไฟนอล 4” ลงระบบ WiiWare เดือนหน้า พฤษภาคม 14, 2009
Posted by 1000thainews in เทคโนโลยี.Tags: ชื่อ, วันที่, เกม, เครื่องเกม, เปอร์, เล่น, เอน, แฟน, ไฟนอลแฟนตาซี, final fantasy, the, wiiware
add a comment
“สแควร์ เอนิกซ์” ส่งภาคต่อของ “ไฟนอล 4” ลงระบบ WiiWare เดือนหน้า
“สแควร์ เอนิกซ์” ส่งภาคต่อของ “ไฟนอล 4” ลงระบบ WiiWare เดือนหน้า
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 14:33 น.
“สแควร์ เอนิกซ์” เตรียมส่งภาคต่อของ “ไฟนอลแฟนตาซี 4″ เกมดังจากเครื่องซูเปอร์ฟามิคอม โดยใช้ชื่อว่า Final Fantasy IV : The After Years ให้เล่นผ่านระบบ WiiWare ของเครื่องเกมคอนโซล Wii ในวันที่ 1 มิถุนายนนี้
เนื้อหาของ Final Fantasy IV : The After Years เกิดขึ้นในช่วงเวลาหลายปีหลังจากสิ้นสุดเหตุการณ์ใน Final Fantasy IV โลกกลับคืนสู่ความสงบสุข อาณาจักรบารอนได้ถูกปกครองด้วยกษัตริย์ Cecil และราชินี Rosa พร้อมทั้งให้กำเนิดเจ้าชาย Ceodore อย่างไรก็ตามดวงจันทร์ Lunarian กลับโคจรเข้าใกล้โลกผิดปกติ ปราสาทบารอนถูกเหล่าปีศาจเข้าโจมตี เหตุการณ์แปลกประหลาดเกิดขึ้นจนถูกร่ำลือและกลายเป็นเรื่องตำนานเรื่องเล่า 9 เรื่อง
การต่อสู้ภายในเกมจะมีการเพิ่มระบบ Band System ที่ตัวละครหลายตัวสามารถร่วมกันใช้ท่าพิเศษได้ (คล้ายๆท่าประสานของ Chrono Trigger) นอกจากนี้ยังมีการแบ่งดวงจันทร์ออกเป็น 4 เฟส ที่จะส่งผลต่อพลังโจมตีและคาถาต่างๆ ทำให้ผู้เล่นต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ไปตามสถานการณ์ต่างๆ
เกม Final Fantasy IV : The After Years ได้รับการพัฒนาโดย Matrix Software จัดจำหน่ายโดย “สแควร์ เอนิกซ์” และมี “ทาคาชิ โทคิตะ” เป็นโปรดิวเซอร์คอยดูแล มีกำหนดวางจำหน่ายให้เล่นผ่านระบบ WiiWare ของเครื่องเกมคอนโซล Wii ในวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ.2009 ที่กำลังจะถึงนี้
ข้อมูลจาก
Nintendo World Report
อ่านต่อที่ : “สแควร์ เอนิกซ์” ส่งภาคต่อของ “ไฟนอล 4” ลงระบบ WiiWare เดือนหน้า
“จี๋ลี่-เชอรี่” เตรียมผลิตรถไฮเอนด์ป้อนเศรษฐีจีน พฤษภาคม 14, 2009
Posted by 1000thainews in ต่างประเทศ.Tags: จีน, ตลาด, ธุรกิจ, ภาวะเศรษฐกิจโลก, รถยนต์, รถหรู, รูปร่าง, ร่ำรวย, เชอรี่, เศรษฐกิจ, เศรษฐกิจโลก, เอน
add a comment
“จี๋ลี่-เชอรี่” เตรียมผลิตรถไฮเอนด์ป้อนเศรษฐีจีน
“จี๋ลี่-เชอรี่” เตรียมผลิตรถไฮเอนด์ป้อนเศรษฐีจีน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 07:19 น.
รถยนต์ Geely Excellence
เอเชี่ยน วอลล์ สตรีท เจอร์นัล – ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ในจีนไม่ยั่นภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว เดินเครื่องสร้างแบรนด์ไฮเอนด์จับกลุ่มธุรกิจร่ำรวย จี๋ลี่เตรียมเข็นรถหรูที่รูปร่างภายนอกคล้ายโรลส์รอยออกสู่ตลาด เผยไม่วางขายเกลื่อนแต่จะทำตามออร์เดอร์เท่านั้น ขณะที่คู่แข่งอย่างเชอรี่ ก็เตรียมส่งรถยี่ห้อ “รีช” มาเจาะตลาดเศรษฐีจีน
โดยจี๋ลี่ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีนได้เปิดเผยในงาน “เซี่ยงไฮ้ ออโต้ โชว์” เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมาว่า ทางบริษัทเตรียมผลิตรถยนต์หรู “จี๋ลี่ เอ็กเซลเล้นท์” ที่รูปลักษณ์ภายนอกดูคล้ายโรลส์รอย แฟนทอม พร้อมเบาะหลังขนาดใหญ่ที่ห่อหุ้มด้วยหนังชั้นดี ออกสู่ตลาดเพื่อเจาะกลุ่มนักธุรกิจจีน ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้จะไม่วางขายตามโชว์รูมทั่วไป แต่จะผลิตตามออร์เดอร์เท่านั้น ส่วนราคาของรถยนต์รุ่นนี้คาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 1 แสนเหรียญสหรัฐฯ (ราว 3.5 ล้านบาท)
นายแฟรงค์ เจ๋า หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีของค่ายรถยนต์จี๋ลี่ กล่าวว่า รถยนต์รุ่นนี้ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังในอนาคต ว่าตลาดผู้ใช้รถชนชั้นกลางและชนชั้นสูงในจีนจะเติบโตขึ้นและต้องการรถที่หรูหรายิ่งขึ้น “เราผลิตรถรุ่นนี้เพื่อจะแสดงให้เห็นว่า จี๋ลี่มีความทะเยอทะยานที่จะสร้างสุดยอดยนตรกรรมขึ้นมา” และยังว่า การผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่และมีคุณภาพสูงถือเป็นทิศทางการพัฒนาของจี๋ลี่
แหล่งข่าวจากวงการรถยนต์ เปิดเผยว่า เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (6 พ.ค.) บริษัทจี๋ลี่ได้ยื่นประมูลกิจการรถยี่ห้อซาบบ์จากค่ายเจเนอรัล มอเตอร์ โดยการยื่นประมูลครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากจี๋ลี่ได้ยื่นประมูลกิจการรถยี่ห้อวอลโว่จากค่ายฟอร์ด มอเตอร์ เพียงไม่กี่สัปดาห์ โดยการได้มาซื้อกิจการรถยนต์ยี่ห้อดังกล่าว ย่อมหมายถึงการได้เทคโนโลยีที่ช่วยให้จี๋ลี่เดินเครื่องเข้าสู่ตลาดการผลิตรถยนต์หรูหราได้
แม้ว่ารถยนต์ราคาประหยัดยังคงครองตลาดภายในของจีน และรัฐบาลก็สนับสนุนให้คนซื้อรถยต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดเล็ก จนทำให้รถขนาดเล็กขายดี แต่การแข่งขันในตลาดรถยนต์ขนาดเล็กที่สูงลิ่ว ประกอบกับราคารถยนต์ที่ลดลงทำให้ผู้ผลิตมีกำไรน้อยลง ดังนั้น ผู้ผลิตรถยนต์ไฮ-เอนด์ จึงขยายการผลิตรถยนต์ประเภทนี้ พร้อมทั้งปรับรูปโฉมและคุณภาพให้ดีขึ้นด้วย
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา บริษัทเชอรี่ผู้ผลิตรถยนต์ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ ได้ผลิตรถยนต์ขนาดเล็กยี่ห้อ QQ ออกสู่ตลาดจนกลายเป็นรุ่นขายดีไปแล้ว โดยราคาขายของ QQ อยู่ที่คันละ 4,500 เหรียญสหรัฐฯ (ราว 157,500 บาท) และปลายปีนี้ก็จะผลิตรถเก๋งยี่ห้อใหม่ชื่อว่ารีช (Riich) ออกสู่ตลาดเพื่อเจาะกลุ่มผู้ซื้อที่มีฐานะ คาดว่าราคาขายรถยี่ห้อรีชจะตกคันละ 30,000-44,000 เหรียญสหรัฐฯ
Geely Excellence รถยนต์หรูของจี๋ลี่เปิดตัวในงานเซี่ยงไฮ้ มอเตอร์โชว์เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
“เราเคยเน้นแค่การผลิตรถยนต์จำนวนมาก และยุทธศาสตร์ขั้นต่อไปก็คือการพัฒนาไปสู่การผลิตรถยนต์ระดับกลางและรถหรูหรา และรถยนต์สองประเภทนี้จะช่วยให้เรามีรายได้เพิ่มขึ้น และยังจะช่วยให้บริษัทได้ปรับปรุงรูปแบบรถยนต์และการแข่งขันในตลาดด้วย” จิ่น อี้ป๋อ โฆษกบริษัทเชอรี่ ระบุ
เท่าที่ผ่านมา ผู้ผลิตรถยนต์ในจีนไม่ค่อยประสบความสำเร็จในตลาดรถยนต์ขนาดใหญ่นัก โดยจะเห็นได้จากการผลิตรถเก๋งซีดานยี่ห้อ Roewe ของบริษัทเซี่ยงไฮ้ ออโตโมทีฟ ออกขายในปี 2550 แต่ปรากฎว่ายอดขาย Roewe ตลอดทั้งปี 2551 มีเพียง 26,700 คัน ขณะที่รถยนต์ฮอนด้า แอคคอร์ด ที่มีขนาดใกล้เคียงกันมียอดขายถึง 1.7 แสนคัน และรถบูอิค ลาครอส ของจีเอ็ม มียอดขาย 52,000 คัน
เรื่องนี้ปัญหาอยู่ที่ว่า ป้ายทะเบียนรถยนต์ที่ผลิตในจีนนั้นขาดสัญลักษณ์ของรถยนต์นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าสำคัญยิ่งสำหรับลูกค้าเศรษฐีชาวจีน ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้จีนกลายเป็นตลาดสำคัญของรถยนต์ยี่ห้อดัง อย่างเช่น เมอร์ซิเดส-เบนซ์ บีเอ็มอับเบิ้ลยู และออดี้
ดังนั้น ผู้ผลิตรถยนต์ของจีนส่วนใหญ่จึงได้เน้นไปที่ตลาดคนท้องถิ่นที่ต้องการรถยนต์ราคาไม่แพงนัก ซึ่งรถยนต์ที่ผลิตภายในประเทศก็สามารถขายในราคาที่ต่ำกว่ารถนำเข้าได้ มีเพียงบางช่วงเท่านั้นที่ผู้ผลิตรถยนต์ของจีนจะหันมาผลิตเพื่อป้อนตลาดคนมีฐานะ อย่างเช่นที่เชอรี่กำลังจะออกรถยี่ห้อรีชมาในตลาด
ปัจจุบัน บริษัทเชอรี่ได้ส่งออกรถยนต์ ทั้งรถยนต์นั่งขนาดเล็ก รถเก๋ง และรถกระบะประดับยนต์ ไปยังประเทศรัสเซีย ยูเครน เวียดนาม และประเทศอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาติกำลังพัฒนา โดยการส่งออกรถยนต์ของจีนนั้นเป็นไปด้วยดี จนกระทั่งเกิดวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปีที่แล้วที่ทำให้ผู้ซื้อจำกัดการใช้จ่าย สำหรับรถยนต์รีชนั้นนอกจากจะผลิตเพื่อป้อนตลาดในประเทศแล้ว เชอรี่ยังตั้งเป้าว่าจะส่งออกไปยังต่างประเทศด้วย แต่ยังไม่ได้กำหนดว่าจะส่งออกได้เมื่อใด
ในงานออโต โชว์ ซึ่งจัดขึ้นที่เซี่ยงไฮ้เมื่อปีที่แล้ว บริษัทจี๋ลี่ได้เปิดตัวรถไฮ-เอนด์ยี่ห้อ “อิงลอน” โดยนำคำแรกของคำว่าอิงแลนด์และลอนดอนมารวมกัน ซึ่งชื่อนี้ทางจี๋ลี่กล่าวว่า จะทำให้คนรู้สึกถึงความเป็น “ผู้ดี” ส่วนการเปิดตัว “จี๋ลี่ เอ็กเซลเล้นท์” ซึ่งถือเป็นยนตรกรรมชั้นเยี่ยมนั้น ทางจี๋ลี่ก็บอกว่า ด้วยความที่รถยี่ห้อดังกล่าวจะคล้ายโรลส์รอย คือมีที่วางอาหารและเครื่องดื่ม และมีปีกคล้ายนางฟ้า ซึ่งจะทำให้ผู้ขับขี่มีความรู้สึกราวกับเป็น “ฉางเอ๋อ” เทพธิดาแห่งดวงจันทร์ก็ไม่ปาน
อ่านต่อที่ : “จี๋ลี่-เชอรี่” เตรียมผลิตรถไฮเอนด์ป้อนเศรษฐีจีน
เอเชียกรีนหวังถ่านหินดันกำไรครึ่งปีหลังพุ่ง พฤษภาคม 14, 2009
Posted by 1000thainews in เศรษฐกิจ.Tags: การปรับตัว, กำไร, ขาย, ชื่อ, ช่วย, บริษัท, ประเทศ, ผู้จัดการ, ราคา, เอน, เอเชีย, ใกล้
add a comment
เอเชียกรีนหวังถ่านหินดันกำไรครึ่งปีหลังพุ่ง
นายพนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ผู้นำเข้าถ่านหินสะอาดจากประเทศอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า บริษัทเชื่อว่าอัตรากำไรขั้นต้นปี 2552 จะใกล้เคียงกับปีที่แล้วที่มีอัตรากำไรขั้นต้น 14% ภายใต้สมมติฐานว่าราคาถ่านหินในครึ่งปีหลังมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับราคาปัจจุบัน โดยราคาถ่านหินในตลาดโลกอยู่ที่ 60-70 ดอลลาร์ต่อตัน ขณะที่ราคาขายในประเทศอยู่ที่ระดับ 2,700-3,000 บาทต่อตัน
“กำไรสุทธิทั้งปี หวังว่าจะดีกว่าปีที่แล้ว โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 3 และ 4 ปีนี้ ที่น่าจะได้อานิสงส์จากราคาถ่านหินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามเศรษฐกิจโลกที่เริ่มเห็นก้นเหว และราคาน้ำมันที่เริ่มปรับเพิ่มขึ้น เหล่านี้จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กระตุ้นให้การใช้ถ่านหินแทนน้ำมันรวดเร็วกว่าเดิม”
ทั้งนี้ ผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2552 บริษัทรายงานผลประกอบการ มีกำไรสุทธิ 23.67 ล้านบาท ลดลง 32% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 34.89 ล้านบาท เนื่องมาจากรายได้รวมในไตรมาสที่ 1 ปี 2552 มีจำนวน 619 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% จากงวดเดียวกันปีก่อน แต่ต้นทุนขายก็เพิ่มขึ้น 89% จากงวดเดียวกันปีก่อนเช่นเดียวกัน
นายพนมกล่าวอีกว่า สาเหตุที่กำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 2552 ลดลงจากงวดเดียวกันปีก่อนเพราะบริษัทมีการขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ และลูกค้าขนาดกลางที่มีฐานะทางการเงินดี ทำให้ราคาขายถ่านหินมีมาร์จินต่ำ
เขากล่าวอีกว่า บริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมปีนี้ที่ 10-20% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,350 ล้านบาท หรือคิดเป็นยอดขาย 1 แสนตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ที่มียอดขาย 8 แสนตัน เพราะเชื่อว่าความต้องการใช้ถ่านหินยังมีอีกมาก
อ่านต่อที่ : เอเชียกรีนหวังถ่านหินดันกำไรครึ่งปีหลังพุ่ง
ข่าว ในประเทศไทย 