jump to navigation

ล้างสารพัดล้าง พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in คุณภาพชีวิต.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

ล้างสารพัดล้าง

คมชัดลึก : ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล หรือระดับอธิบดี ปลัดกระทรวง คำพูดที่เราได้ยินจากสื่อก็คือ…ย้ายล้างบาง เด้ง ดัน ดึง สวม

 คำเหล่านี้ได้ยินจนชาชิน แล้วก็เลยลืมนึกถึงอะไรๆ อีกหลายอย่าง ที่เป็นผลดีผลร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คำว่า… “ล้าง”

 ล้าง เป็นกริยาที่ทำให้สิ่งสกปรกหมดไป และเพื่อทำความสะอาด ตกแต่งสิ่งดีๆ ให้เกิดใหม่
 แต่คำนี้ก็มีการใช้ที่มีความหมายไม่ตรงกับหน้าที่ “ล้าง” ทุกครั้งไป เช่น ล้างตา คือ เมื่อมีผงเข้าตา หรือตาฝ้าฟาง

 ล้างทุจริต คือ การที่มีคนกระทำทุจริตกันมาก แล้วก็เกิดมีคนสุจริตเห็นว่า จะเป็นความหายนะแก่บุคคล และองค์กร ก็ตั้งกระบวนการจับทุจริต นำคนทำผิดมาลงโทษ    เมื่อกระทำได้สำเร็จแล้ว ชื่อว่า “ล้างทุจริต”

 ล้างกรรม ล้างบาง ล้างกระทรวง คือ การที่ในองค์กรนั้นๆ เปลี่ยนแปลงผู้บังคับบัญชา เพื่อต้องการทำการกำจัดคนเก่าออกไป ต้องการนำคนใหม่ของตนเข้ามา จึงต้องมีการโยก และ ย้าย อย่างขนานใหญ่ อย่างนี้เรียกว่า “ล้างกรรม ล้างบาง ล้างกระทรวง

 ล้าง มีสารพัด ที่จะกล่าวถึง แต่สำหรับการล้างบางนั้น เป็นเรื่องที่จะต้องคำนึงนึกถึงให้จงหนักว่า ทำเพื่อใคร ? และ ทำเพื่ออะไร ?

 และต้องเข้าใจเสมอว่า ผู้ที่จะล้างนั้น จะต้องสะอาดกว่าผู้ที่ถูกล้าง ถ้าผู้ที่ถูกล้างสะอาด แต่ผู้ล้างเลวกว่า สกปรกกว่า คนดูเขาก็จะสงสารคนที่ถูกล้าง คือ ถูกเด้ง ย้าย ปลด   แล้วคนดูเขาก็จะสมเพชการกระทำของที่ล้างบาง  นอกจากสมเพชแล้ว ก็จะพากันสาปแช่งสาปส่ง

 คนเราถ้าถูกคนดีมีศีลธรรมเขาสาปแช่งสาปส่ง โดยที่ตนเองไม่รู้ตัว ความวิบัติที่เกิดก็จะเกิดโดยไม่รู้ตัว ทั้งแก่ตัวเอง ครอบครัว พรรคพวก

 ข้าราชการประจำ และข้าราชการการเมือง ต้องตระหนักในความสุจริต ในการปฏิบัติหน้าที่ให้มั่นคง อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกัน

 ข้าราชการประจำก็ควรคิดว่า “เราเป็นคนของพระราชา” จะต้องไม่เบียดเบียนข้าราชการประจำที่ดี ต้องรู้ว่า  “คนมาจากประชาชน” แล้วจึงมาเป็น “คนของพระราชา”

 การย้าย การโยก การยืน
 การยืน ในความเป็นข้าราชการนั้น  ขอให้ท่านผู้เป็นข้าราชการการเมือง และข้าราชการประจำ พึงสังวรระวัง “คนมหาภัย” ในองค์กรนั้นๆ

 คนมหาภัยจำพวกนี้ เขามีคำพูดติดปากอยู่ ๕ คำ คือ “ได้ครับพี่ ดีครับผม เหมาะสมครับนาย ฉิบหายผมหนี ได้ดีผมกลับ หมดทรัพย์ผมทิ้ง”

“พระราชวิจิตรปฏิภาณ (เจ้าคุณพิพิธ)”

อ่านต่อที่ : ล้างสารพัดล้าง

พี่ชายอดีตผู้นำโสมคุก 4 ปี รับสินบนแลกผลประโยชน์ พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in ทั่วไป.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

พี่ชายอดีตผู้นำโสมคุก 4 ปี รับสินบนแลกผลประโยชน์

พี่ชายอดีตผู้นำโสมคุก 4 ปี รับสินบนแลกผลประโยชน์

พี่ชายอดีตผู้นำเกาหลีใต้ถูกพิพากษาจำคุก 4 ปี ข้อหารับสินบนแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ให้เอกชน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 14 พ.ค.ว่า นายโรห์ กุน ยอง พี่ชายของอดีตประธานาธิบดีโนห์ มู ฮุน ได้ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 4 ปี ในข้อหาใช้อิทธิพลรับสินบนแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ให้แก่เอกชน โดยเขาและผู้ร่วมสมคบคิด อีก 2 ราย ถูกตัดสินว่าผิดจริงในข้อหารับสินบนเป็นเงิน 2.4 ล้านดอลลาร์ จากกิจการการเงินแห่งหนึ่งที่ไม่เปิดเผยชื่อ เพื่อแลกกกับการช่วยขายหุ้นเน่าให้แก่ธนาคารที่รัฐดูแล ในปี 2006 นอกจากนี้ เขายังถูกศาลสั่งปรับเงินอีกเป็นจำนวน 450,000 ดอลลาร์ ทั้งนี้ ถึงขณะนี้นายโนห์  กำลังเผชิญการสอบสวนในคดีทุจริตรับสินบนเป็นจำนวน 6 ล้านดอลลาร์จากนักธุรกิจ โดยคดีดังกล่าวชองนายโนห์และครอบครัวได้ทำลายภาพลักษณ์ของเขาในฐานะนักการเมืองมือสะอาด ในประเทศที่มีประวัติศาสตร์คอรับชั่นมายาวนาน

อ่านต่อที่ : พี่ชายอดีตผู้นำโสมคุก 4 ปี รับสินบนแลกผลประโยชน์

WHOประสาน สธ.แลกเปลี่ยนความร่วมมือสกัดการแพร่ระบาด “หวัด2009” พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in ข่าวด่วน.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

WHOประสาน สธ.แลกเปลี่ยนความร่วมมือสกัดการแพร่ระบาด “หวัด2009”

WHOประสาน สธ.แลกเปลี่ยนความร่วมมือสกัดการแพร่ระบาด “หวัด2009”

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 12:11 น.

       นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับการติดต่อจากนางมาร์กาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) ประสานขอหารือเป็นการส่วนตัว ก่อนการประชุมใหญ่องค์การอนามัยโลก ที่จะมีขึ้นที่สหพันธรัฐสวิส เพื่อแลกเปลี่ยนและประสานความร่วมมือระหว่างกัน ในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หลังไทยได้แสดงความกระตือรือร้นในการป้องกันโรคด้วยการเร่งออกมาตรการ และเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนบวก 3 เมื่อครั้งที่ผ่านมา
        ส่วนการเตือนขององค์การอนามัยโลกว่าเชื้อ H1N1 อาจกลายพันธุ์และดื้อยานั้น นายวิทยา ระบุว่า ขณะนี้ยังมั่นใจในประสิทธิภาพของยาต้านไวรัสที่มีอยู่ ตราบใดที่ยังไม่ได้ใช้ยาอย่างพร่ำเพรื่อกับทุกคน ที่ไม่ได้รับการยืนยันการติดเชื้อ ซึ่งตนเองจะยังไม่เสนอของบประมาณจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี 80 ล้านบาท ในการเพิ่มการผลิตยา เนื่องจากยังเพียงพอ แต่จะให้องค์การเภสัชกรรมคงราคายาต่อไปอีก 1 เดือนแทน

อ่านต่อที่ : WHOประสาน สธ.แลกเปลี่ยนความร่วมมือสกัดการแพร่ระบาด “หวัด2009”

อร่อยถึงเครื่อง “ปลาดุกฟูขี้เมา” / กุ๊กเล็ก พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in ท่องเที่ยว.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

อร่อยถึงเครื่อง “ปลาดุกฟูขี้เมา” / กุ๊กเล็ก

อร่อยถึงเครื่อง “ปลาดุกฟูขี้เมา” / กุ๊กเล็ก

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 10:44 น.

       โดย : กุ๊กเล็ก

       พูดถึงปลาดุกฟู หลายคนคงต้องนึกถึงเมนูยำปลาดุกฟูอันเป็นเมนูยอดฮิต ตอนนี้ กุ๊กเล็ก” ก็มีวัตถุดิบเป็นปลาดุกฟูเหมือนกัน แต่คิดๆดูแล้วไม่ทำยำปลาดุกฟูดีกว่าเพราะมะนาวตอนนี้แสนจะแพง แถมยังเป็นมะนาวหน้าแล้วน้ำแห้งเสียเหลือเกิน เลยเปลี่ยนใจมาทำ ปลาดุกฟูผัดขี้เมา” ที่อร่อยเด็ดไม่แพ้กัน
       
       ส่วนผสม
       
       ปลาดุกย่าง 1 ตัว
       พริกขี้หนู 10 เม็ด
       กระเทียม 1 หัว
       ใบมะกรูด 10 ใบ
       พริกไทยอ่อน 1 ช้อนโต๊ะ
       มะเขือพวง 1 ช้อนโต๊ะ
       น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
       เกลือ 1/2 ช้อนชา
       น้ำปลา 1 ช้อนชา
       น้ำมันพืชสำหรับทอดปลาและผัด
       

       วิธีทำ เริ่มจากนำปลาดุกย่างมาแกะเนื้อเลือกก้างออกแล้วยีให้ละเอียด แล้วจึงนำไปทอดในน้ำมันร้อนจัดจนขึ้นฟูเป็นปลาดุกฟู เสร็จแล้วตักออกจากกระทะวางพักให้สะเด็ดน้ำมัน จากนั้นหันมาตำพริกขี้หนูกับกระเทียมโขลกให้เข้ากัน ตั้งกระทะให้ร้อนอีกครั้งหนึ่งแล้วนำพริกกับกระเทียมที่โขลกรอไว้ลงไปผัดจนหอมฟุ้ง แล้วจึงนำปลาดุกฟูที่พักไว้ลงมาผัดกับพริกจนเข้ากันดี ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาล น้ำปลา ปิดท้ายด้วยการนำใบมะกรูด พริกไทยอ่อน และมะเขือพวงลงไปผัดคลุกเคล้าอีกครั้ง ก็เป็นอันเสร็จ ปลาดุกฟูขี้เมา”จานอร่อย กินกับข้าวสวยร้อนๆ รับรองต้องได้เติมข้าวเพิ่มอีกแน่ๆ

อ่านต่อที่ : อร่อยถึงเครื่อง “ปลาดุกฟูขี้เมา” / กุ๊กเล็ก

‘พรชัย’ไขก๊อก ปธ.บอร์ด ปตท.เคมิคอล พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in เศรษฐกิจ.
Tags: , , , , , , , , , ,
add a comment

‘พรชัย’ไขก๊อก ปธ.บอร์ด ปตท.เคมิคอล

เมื่อวันที่ 13 พ.ค. นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. กล่าวว่า หลังจากที่มีการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด)  ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) แล้ว หลังจากนี้คงต้องมีการปรับเปลี่ยนบอร์ด บริษัท ปตท. เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ด้วยว่าใครจะเป็นประธาน บอร์ดคนต่อไป หลังจากที่ นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงานลาออกจากตำแหน่งประธานบอร์ด มีผลวันที่ 15 พ.ค.นี้แล้ว
  
แหล่งข่าวระบุว่า เบื้องลึกที่นายพรชัยต้องลาออกจากตำแหน่ง มาจากบริษัท ปตท. ต้องการนำคนของตัวเองไปนั่งในตำแหน่ง   ประธานบอร์ดของบริษัทลูกต่าง ๆ เพื่อให้การบริหารงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน หากนำคน    นอกมาบริหารงานก็อาจจะบริหารงานไม่สอดคล้อง และทำให้มีผลการดำเนินงานขาดทุนสะสมได้
  
ด้านนายพรชัย กล่าวว่า การลาออกครั้งนี้เป็นการแสดงสปิริตให้ บริษัท ปตท.ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เข้ามาดำเนินการใน ปตท. เคมิคอล ได้สะดวกมากขึ้น หลังจากที่คณะกรรมการ ปตท. มีมติว่าจะเข้ามาดูแลกิจการของบริษัทในกลุ่ม ปตท. มากขึ้น ภายใต้วิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งตนทราบเรื่องนี้มาก่อนแล้วและเห็นด้วย เพราะ ปตท. เป็นรัฐวิสาหกิจ หากดูแลกิจการในเครือได้ดีขึ้น จะทำให้ภาครัฐได้เงินรายได้ที่เกิดจากเงินปันผลและภาษีต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น.

อ่านต่อที่ : ‘พรชัย’ไขก๊อก ปธ.บอร์ด ปตท.เคมิคอล

สหรัฐฯ เปิดตัวคนไข้รายแรกหลังผ่าตัดเปลี่ยนใบหน้าสำเร็จ พฤษภาคม 13, 2009

Posted by 1000thainews in เทคโนโลยี.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

สหรัฐฯ เปิดตัวคนไข้รายแรกหลังผ่าตัดเปลี่ยนใบหน้าสำเร็จ
หน้าแรกผู้จัดการ Online | หน้าแรกวิทยาศาสตร์ | วิจัย

วิจัย การแพทย์-สุขภาพ

ShowMemberLite()

สหรัฐฯ เปิดตัวคนไข้รายแรกหลังผ่าตัดเปลี่ยนใบหน้าสำเร็จ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
7 พฤษภาคม 2552 11:47 น.

คอนนี คัลพ์ (ซ้าย) หญิงวัย 46 ปี เป็นผู้ป่วยรายแรกของสหรัฐฯ ที่ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนใบหน้าใหม่สำเร็จ โดยแถลงข่าวที่คลีฟแลนด์คลินิก มลรัฐโอไฮโอ เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 52 พร้อมกับ ดร.มาเรีย ไซมิวโนว์ (ขวา) แพทย์เจ้าของไข้ (เอพี)

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

คอนนี คัลพ์ กับใบหน้าใหม่ที่ผ่าตัดเปลี่ยนใหม่โดยได้รับบริจาคใบหน้าจากผู้ใจบุญที่เสียชีวิตไปแล้ว (เอพี)

คอนนี คัลพ์ ก่อนที่จะเสียโฉมด้วยลูกปืนจากสามีของเธอ (เอพี)

ใบหน้าของ คอนนี คัลพ์ หลังจากถูกสามียิงเมื่อปี 2547 (เอพี)

คอนนี คัลพ์ ก่อน (ซ้าย) และหลัง (ขวา) ผ่าตัดเปลี่ยนใบหน้า (เอพี)

คอนนี คัลพ์ ก่อน (ซ้าย) และหลัง (ขวา) ผ่าตัดเปลี่ยนใบหน้า (เอพี)

\”คอนนี คัลพ์\” คนแรกของสหรัฐฯ ที่ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนใบหน้าที่เสียโฉมให้กลับมาเหมือนปรกติได้อีกครั้ง หลังจากถูกสามียิงแสกหน้าเมื่อ 5 ปีก่อน จมูก โหนกแก้ม เพดานปากแตกละเอียด เจ้าตัวเผยอยากกลับเข้าสังคมอีกครั้ง พร้อมให้กำลังใจทุกคนที่ประสบชะตากรรมคล้ายกับเธอ
       
       คลีฟแลนด์คลินิก (Cleveland Clinic) เมืองคลีฟแลนด์ มลรัฐโอไฮโอ แถลงข่าวเปิดตัว \”คอนนี คัลพ์\” (Connie Culp) หญิงอเมริกันวัย 46 ปี จากเมืองยูเนี่ยนพอร์ท ซึ่งเป็นคนไข้รายแรกของสหรัฐฯ ที่ประสบความสำเร็จในการผ่าตัดเปลี่ยนใบหน้าใหม่ที่ได้รับบริจาคจากผู้ใจบุญที่เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งทำให้เธอกลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนคนปรกติอีกครั้ง จากที่ต้องทนทุกข์ทรมานนานถึง 5 ปี และเป็นที่เกลียดกลัวของคนทั่วไป
       
       \”ฉันคาดเดาได้เลยว่าฉันเป็นบุคคลที่พวกคุณตั้งใจมาเฝ้าดูกันในวันนี้ แต่ฉันคิดว่ามันจะสำคัญยิ่งกว่า ถ้าพวกคุณมุ่งเป้าไปที่ครอบครัวของผู้เสียสละที่ทำให้ฉันได้มีใบหน้านี้\” คัลพ์ เผยในระหว่างการแถลงข่าวที่คลินิก เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา ตามรายงานจากสำนักข่าวเอพี ซึ่งลักษณะใบหน้าอันผิดรูปผิดร่างและสาเหตุที่ทำให้คัลพ์เป็นเช่นนั้นได้ถูกปิดไว้เป็นความลับมาโดยตลอดในระหว่างการรักษาและเพิ่งเปิดเผยในวันแถลงข่าวนี้เอง
       
       สาเหตุที่ทำให้คัลพ์เสียโฉม เนื่องจากเธอถูกสามียิงเข้าที่กลางใบหน้าด้วยปืนลูกซอง โดยเหตุเกิดในปี 2547 ซึ่งสามีของเธอก็ถูกตัดสินให้จำคุก 7 ปี ขณะที่ตัวเธอรอดจากความตาย และต้องใช้ชีวิตอยู่ต่ออย่างน่าสมเพชเวทนา เป็นที่หวาดกลัวของคนทั่วไป โดยเฉพาะกับเด็กๆ เพราะใบหน้าอัปลักษณ์ ไม่เหมือนคนปรกติทั่วไป แต่เธอก็ยังโชคดีที่มีลูกสาวและลูกชายอยู่เคียงข้าง
       
       ทั้งนี้ แรงกระสุนจากปืนลูกซองทำให้กระดูกบริเวณจมูก แก้ม และเพดานปากถูกทำลายย่อยยับ ชิ้นส่วนของกระสุนและเศษกระดูกที่แตกละเอียดหลายร้อยชิ้นฝังเข้าไปบนใบหน้าของเธอ และทำให้เธอต้องต่อท่อช่วยหายใจเข้ากับหลอดลมโดยตรง มีเพียงบริเวณเปลือกตาด้านบน หน้าผาก ริมฝีปากล่าง และคาง ที่ยังอยู่ในสภาพดีอยู่
       
       คัลพ์ เล่าว่า ดร.ไรซัล โจฮัน (Dr. Risal Djohan) ศัลยแพทย์ประจำคลีฟแลนด์คลินิก ได้พบกับลักษณะการบาดเจ็บของเธอในอีก 2 เดือนหลังจากเกิดเหตุ ซึ่งเขาก็ไม่มั่นใจและไม่คิดว่าจะรักษาเธอได้ แต่เขาก็พยายามอย่างเต็มที่ ในที่สุดก็ทำให้เธอกลับมามีใบหน้าที่เหมือนคนปรกติอีกครั้งหลังจากเข้ารับการรักษาผ่าตัดรักษาใบหน้ารวม 30 ครั้ง โดยคณะแพทย์ที่รักษาได้นำกระดูกซี่โครงบางส่วนของคัลพ์มาใส่ทดแทนโหนกแก้ม นำกระดูกบริเวณขาบางส่วนมาใส่ทดแทนขากรรไกรส่วนบน และปลูกถ่ายผิวหนังใหม่บนใบหน้าจากผิวหนังส่วนโคนขา ทว่านั่นก็ยังไม่ทำให้เธอสามารถกินอาหารแข็งๆ ได้ หรือดมกลิ่นและหายใจเองได้
       
       กระทั่งเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ปีที่ผ่านมา ดร.มาเรีย ไซมิวโนว์ (Dr. Maria Siemionow) นำทีมแพทย์ผ่าตัดรักษาใบหน้าให้คัลพ์อีกครั้งโดยใช้เวลานานถึง 22 ชั่วโมง ซึ่งในครั้งนี้แพทย์ได้นำเอากระดูก กล้ามเนื้อ เส้นเลือด เส้นประสาท และผิวหนัง จากผู้หญิงอีกคนหนึ่งซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว มาแทนที่ส่วนต่างๆ บนใบหน้าของคัลพ์ถึง 80% ซึ่งคัลพ์นับเป็นคนไข้รายที่ 4 ของโลกที่เข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนใบหน้าจากใบหน้าของผู้อื่น
       

       ดร.ไซมิวโนว์ เปิดเผยว่า หลังการผ่าตัดครั้งสุดท้ายในเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว พอเข้าสู่เดือน ม.ค. คัลพ์ก็เริ่มกินพิซซา ไก่ และแฮมเบอร์เกอร์ได้เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี โดยเฉพาะคุกกี้และกาแฟที่คัลพ์ชอบมากเป็นพิเศษ แต่อย่างไรก็ดี ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับผู้ที่บริจาคใบหน้าให้กับคัลพ์ ซึ่งแม้ครอบครัวของผู้ใจบุญดังกล่าวจะมาร่วมในงานแถลงข่าวด้วย ซึ่งเมื่อพวกเขาได้เห็นใบหน้าของคัลพ์ทั้งก่อนและหลังการผ่าตัดเปลี่ยนใบหน้า ก็ถูกพาตัวออกไปจากงานทันที
       
       ด้านคัลพ์กล่าวต่อว่า ใครก็ตามที่มีรูปร่างหน้าตาเสียโฉมและดูไม่สวยงามเหมือนกับคนอื่นๆ มันไม่ยุติธรรมต่อพวกเขาเลย เพราะเราไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขากันบ้าง พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่ผู้ที่ทนทุกข์ทรมานเพราะได้รับบาดเจ็บจนรูปโฉมเปลี่ยนไปด้วย ซึ่งคัลพ์ยังได้เข้ารับการบำบัดจิตกับจิตแพทย์ ดร.เคธี คอฟฟ์แมน (Dr. Kathy Coffman) ด้วยเพราะเธออยากจะกลับเข้าสู่สังคมอีกครั้ง เพราะก่อนหน้านี้เวลาเธอไปไหนมาไหนก็มักจะทำให้ผู้คนหวาดกลัวและไม่อยากเข้าใกล้ และยังได้ยินเสียงซุบซิบนินทาต่างๆนานา
       
       คัลพ์ออกจากโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมา และต้องมาพบแพทย์เพื่อติดตามผลการรักษาเป็นระยะ โดยหลังจากนั้นแพทย์พบว่าเธอมีอาการปฏิเสธเพียงเล็กน้อยและครั้งเดียวเท่านั้น ซึ่งแพทย์ก็ได้ให้ยาสเตอรอยด์เพื่อระงับอาการดังกล่าวในปริมาณหนึ่ง แต่คัลพ์จะต้องกินยากดภูมิคุ้มกันต่อไปตลอดชีวิต เพียงวันละ 1 เม็ดเล็กๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายต่อต้านใบหน้าใหม่ของเธอ
       
       อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้คณะแพทย์ของฮาร์วาร์ดร่วมกับโรงพยาบาลบริกแฮมแอนด์วีเมนส์ (Brigham and Women\’s Hospital) เมืองบอสตัน ได้แถลงผลสำเร็จการผ่าตัดเปลี่ยนใบหน้าให้ผู้ป่วยรายที่ 2 ของสหรัฐฯ หรือรายที่ 7 ของโลก ไปเมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมานี้เอง ส่วนคนไข้รายแรกของโลกที่ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนใบหน้าสำเร็จในปี 2548 เป็นหญิงชาวฝรั่งเศสที่ถูกสุนัขที่เลี้ยงไว้ขย้ำจนเสียโฉม

อ่านต่อที่ : สหรัฐฯ เปิดตัวคนไข้รายแรกหลังผ่าตัดเปลี่ยนใบหน้าสำเร็จ

‘ติ๊กชิโร่’แจ้งตร.โดนแก๊ง18มงกุฎตุ๋น พฤษภาคม 13, 2009

Posted by 1000thainews in ทั่วไป.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

‘ติ๊กชิโร่’แจ้งตร.โดนแก๊ง18มงกุฎตุ๋น

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 6 พ.ค. นายมนัสวิน นันทเสน หรือ ติ๊ก ชิโร่ นักร้องและนักแสดงชื่อดังเจ้าของเพลง “รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง” ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.บัญชา บุญเชิด พนักงานสอบสวน (สบ1) สน.ดินแดง เพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่า ถูกแก๊ง 18 มงกุฎ ตุ๋นหลอกเชิดเงิน ที่ร้านโดนัทโดดีโด ภายในห้างแฟชั่นมอลล์ อนุสาวรีย์ชัยฯ
 
นายมนัสวิน หรือ ติ๊ก ชิโร่ ให้การว่า ตนเปิดร้านขายโดนัท ชื่อโดดีโด อยู่ที่ชั้น 2 ของห้างแฟชั่นมอลล์ ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยปกติจะมีพนักงานขายประจำอยู่ที่ร้าน 2 คน ต่อมาเวลาประมาณ 14.00 น. ของวันที่ 5 พ.ค. ก็มีหญิงวัยกลางคน ทำทีมาขอซื้อโดนัทที่ร้าน 5 กล่อง รวมราคา 460 บาท ผู้หญิงคนดังกล่าวได้ให้พนักงานคนหนึ่งในร้าน นำโดนัทไปส่งชั้นล่างของห้างสรรพสินค้า โดยยังไม่ได้ชำระเงิน พร้อมกับบอกให้พนักงานยืนรอ และจะไปเอาเงินมาให้ จากนั้นหญิงคนดังกล่าวก็ได้ย้อนกลับมาที่ร้าน แล้วหลอกพนักงานอีกคนที่อยู่ในร้านว่า ได้ชำระค่าโดนัทไปแล้ว 1,000 บาท แต่พนักงานคนที่ถือโดนัทตามไปส่งนั้นไม่มีเงินทอน ให้มา เอาเงินทอนที่ร้าน ประกอบช่วงนั้นมีลูกค้าเยอะ พนักงานกำลังยุ่งไม่ทันได้เอะใจ จึงหยิบเงินทอนแก่หญิงคนดังกล่าวไปเป็นเงิน 540 บาท
      
นักร้องคนดัง ยังกล่าวด้วยว่า ที่มาแจ้งความวันนี้ ก็ไม่ได้ต้องการให้เป็นคดีความแต่อย่างใด เพียงแค่ต้องการให้ลงบันทึกประจำวันไว้เท่านั้น และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจสอบแก๊งมิจฉาชีพรายนี้ด้วย เพราะเท่าที่ทราบจากผู้ค้าในห้างแฟชั่นมอลล์ด้วยกัน เมื่อวานนี้ก็เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันหลายครั้ง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นการก่อเหตุของกลุ่มคนแก๊งเดียวกัน เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อรายงานผู้บังคับบัญชา เพื่อประสานขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดของห้างดังกล่าวต่อไป.

อ่านต่อที่ : ‘ติ๊กชิโร่’แจ้งตร.โดนแก๊ง18มงกุฎตุ๋น

ชี้รัฐขึ้นภาษีเหล้าหน่อมแน้ม! ไม่ช่วยลดขี้เมา หวั่น บ.เหล้านอกสบช่องจี้เปลี่ยนโครงสร้างภาษีใหม่ พฤษภาคม 13, 2009

Posted by 1000thainews in คุณภาพชีวิต.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

ชี้รัฐขึ้นภาษีเหล้าหน่อมแน้ม! ไม่ช่วยลดขี้เมา หวั่น บ.เหล้านอกสบช่องจี้เปลี่ยนโครงสร้างภาษีใหม่
หน้าแรกผู้จัดการ Online | หน้าแรกคุณภาพชีวิต | สุขภาพ

สุขภาพ ข่าว

ShowMemberLite()

ชี้รัฐขึ้นภาษีเหล้าหน่อมแน้ม! ไม่ช่วยลดขี้เมา หวั่น บ.เหล้านอกสบช่องจี้เปลี่ยนโครงสร้างภาษีใหม่

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
7 พฤษภาคม 2552 07:24 น.

       ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา ชี้ รัฐขึ้นภาษีแบบกระปริบกระปรอย อาจไม่ค่อยได้อะไร คนดื่มเหล้าไม่ลด แค่ไหลจากเหล้าแพงไปเหล้าถูก ชี้ ควรขึ้นภาษียกแผง ห่วงขึ้นแบบไม่เท่าเทียมเหลื่อมล้ำ บ.ต่างชาติ สบช่องกดดันไทยเปลี่ยนโครงสร้างภาษีใหม่ ด้านเอ็นจีโอ ชี้ ขึ้นภาษีหวังรายได้เข้ารัฐมากกว่าสุขภาพประชาชน จี้ หากห่วงจริงต้องออกมาตรการห้ามขายเพิ่มไปด้วย ยกธนาคารโลกคุมเหล้าเบียร์ เศรษฐกิจกับสุขภาพคนในประเทศดีกระฉูด
       
       นพ.บัณฑิต ศรไพศาล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยปัญหาสุรา กล่าวว่า การขึ้นภาษีเหล้าเบียร์ในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ขึ้นดีกว่าไม่ขึ้น แต่แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลยังไม่กล้า ยังคงเกรงใจธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ เพราะขึ้นภาษีช้ากว่าที่ควรจะเป็นแบบกระปริบกระปรอย ซึ่งจะส่งผลกระทบทำให้เกิดความไม่เท่าเทียม โดยอธิบายไม่ได้ว่าทำไมเหลื่อมล้ำ ทั้งนี้ การที่ภาครัฐทำให้เหล้ามีราคาที่แตกต่างกันไม่ได้แก้ปัญหาเท่าที่ควร หากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดไหนขึ้นภาษีช้าก็จะได้เปรียบ เพราะมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บางชนิดก็ขึ้นราคาเต็มเพดานไปแล้ว ที่สำคัญ ไม่ช่วยให้การบริโภคลดลง แต่ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนเป็นดื่มเหล้าที่มีราคาถูกมากขึ้น
       
       
อ่านต่อที่ : ชี้รัฐขึ้นภาษีเหล้าหน่อมแน้ม! ไม่ช่วยลดขี้เมา หวั่น บ.เหล้านอกสบช่องจี้เปลี่ยนโครงสร้างภาษีใหม่