ข่าว ในประเทศไทย

15:09 น. ผลตรวจดช.9ขวบเชียงใหม่ปลอดเชื้อหวัด2009 พฤษภาคม 17, 2009

15:09 น. ผลตรวจดช.9ขวบเชียงใหม่ปลอดเชื้อหวัด2009

17 พค. 2552 15:09 น.

ทพ.ดร.สุรสิงห์ วิศรุตรัตน์ รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ผลการตรวจสวอปเชื้อหวัดของเด็กชายฝาแฝดอายุ 9 ขวบที่ถูกเจ้าหน้าที่กักตัวไส้ดูอาการ หลังกลับจากเดินทางไปพร้อมกับครอบครัวเพื่อเยี่ยมญาติในประเทศญี่ปุ่น เมื่อกลับมาถึงไทยแล้วพบมีอาการไข้ขึ้นสูงและถูกกักตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสันทราย จ.เชียงใหม่ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุดผลการส่งเชื้อตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เชียงใหม่ออกมาแล้ว ได้ข้อสรุปว่าไม่เป็น negative คือเป็นเพียงเชื้อไข้หวัดธรรมดาไม่ได้เป็นไข้หวัดใหญ่หรือเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009แต่อย่างใด แต่เนื่องจากผู้ป่วยยังมีอาการเป็นไข้อ่อนเพลียแพทย์จึงยังคงให้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลต่อ
ทพ.ดร.สุรสิงห์ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ จ.เชียงใหม่นั้นนอกจากเด็กชายฝาแฝดอายุ 9 ขวบรายนี้แล้ว เมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมาทางจังหวัดได้มีการพบผู้ป่วยต้องสงสัยเพิ่มเติมอีก 2 รายที่พบว่ามีอาการไข้ขึ้นสูงและมีประวัติเดินทางในประเทศกลุ่มเสี่ยงกลับเข้ามาใน จ.เชียงใหม่ แต่เมื่อส่งเชื้อตรวจวิเคราะห์อย่างละเอียดแล้วเช้านี้(17 พ.ค.)ได้ข้อสรุปชัดแล้วว่าไม่มีเชื้อหวัดใหญ่ 2009 แต่อย่างใด

อ่านต่อที่ : 15:09 น. ผลตรวจดช.9ขวบเชียงใหม่ปลอดเชื้อหวัด2009

ชาวสวนลิ้นจี่ ขู่ปิดถนนยาว ขอเงินชดเชย พฤษภาคม 15, 2009

ชาวสวนลิ้นจี่ ขู่ปิดถนนยาว ขอเงินชดเชย

นายอดุลย์ชัย อินต๊ะขาว ประธานสหกรณ์ผู้ปลูกลิ้นจี่เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในวันที่ 16 พ.ค.นี้ หากรัฐบาลไม่จ่ายเงินชดเชยลิ้นจี่กิโลกรัมละ 3 บาทตามข้อเรียกร้อง เกษตรกร 5,000 คนจะนำลิ้นจี่คนละ 1 กิโลกรัม มากองหน้าที่ว่าการอำเภอฝาง และจะปิดถนนประท้วงอย่างยืดเยื้อ

ทั้งนี้ เพื่อตอบโต้ที่รัฐบาล เพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องของเกษตรกร เพราะให้เวลารัฐบาลมานาน แต่รัฐบาลก็ยังซื้อเวลาอยู่เรื่อยๆ ไม่สนใจความเดือดร้อนของเกษตรกรที่ราคาผลผลิตลดลงกว่า 50% แม้ทางจังหวัดจะมารับหนังสือด้วยตนเอง แต่ก็ยังไม่มั่นใจว่าเกษตรกรจะได้ รับคำตอบที่น่าพอใจ

อย่างไรก็ตาม วานนี้ชาวสวนลิ้นจี่ใน อ.ฝาง แม่อาย และ ไชยปราการ กว่า 500 คน รวมตัวประท้วงอยู่หน้าที่ว่าการอำเภอฝาง เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือต้นทุนผลิตกิโลกรัมละ 3 บาท และตั้งกองทุนช่วยเหลือชาวสวนลิ้นจี่ในระยะยาว วงเงิน 250 ล้านบาท

อ่านต่อที่ : ชาวสวนลิ้นจี่ ขู่ปิดถนนยาว ขอเงินชดเชย

ส่งกฤษฎีกาตีความ กรณีตัดสินคดีดร.แป้ง ภายใน 1- 2 เดือนรู้ผล พฤษภาคม 15, 2009

ส่งกฤษฎีกาตีความ กรณีตัดสินคดีดร.แป้ง ภายใน 1- 2 เดือนรู้ผล

คมชัดลึก :เชียงใหม่ – ผอ.กต.เชียงใหม่ เผยคดี “ดร.แป้ง” ยังไม่ยุติ ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ส่งเรื่องต่อให้ คกก.กฤษฎีกาตีความ คาดอีก 1-2 เดือนทราบผล ขณะที่บรรยากาศป้ายแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัครคึก เร่งปิดป้ายทั่วเขตเทศบาล

  นายพงษ์พันธ์ ริ้วทองทวี ผอ.เลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ความคืบหน้ากรณีศาลปกครองสูงสุดได้พิพากษาตัดสิทธิ์การลงรับสมัครเลือกตั้งของ ร.อ.หญิง เดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ ว่าให้เป็นโมฆะตามคดีแดงหมายเลข 175/2550 และคดีดำหมายเลข 179/2550 เมื่อวันที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา ล่าสุดวันที่ 7 พฤษภาคม นายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ได้ส่งหนังสือแจ้งให้ กกต.เชียงใหม่ ทราบว่าขณะนี้ได้ส่งเรื่องให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นได้รับทราบ

 ทั้งนี้ ได้มีการส่งต่อเรื่องดังกล่าวให้คณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นผู้ตีความแล้ว คาดไม่เกิน 1-2 เดือนจะทราบผลการตีความเพื่อ กกต.เชียงใหม่จะได้ประกาศจัดการเลือกตั้งใหม่ อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้หาก ร.อ.หญิง เดือนเต็มดวง ยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด แต่อีกด้านหนึ่งหากมีการตีความว่าสามารถทำหน้าที่รักษาการต่อไปได้ก็ไม่เป็นปัญหา

 อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวแล้วมองว่าในเมื่อศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาตัดสิทธิ์แล้วบุคคลผู้นั้นก็ควรต้องยอมรับคำตัดสินและปล่อยให้เกิดการเลือกตั้งใหม่โดยเร็วที่สุด เพื่อลดความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ ช่วงระหว่างที่ยังไม่มีการตีความต้องรอต่อไปจนกว่าจะทราบผลที่ชัดเจน

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาบริเวณทั่วเขตเทศบาลนครเชียงใหม่มีว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศบาลนครเชียงใหม่หลายรายได้เริ่มติดป้ายหาเสียง ทั้งป้ายผ้า คัตเอาท์ แนะนำตนเอง เช่น ป้ายผ้าแนะนำตัวนางวิภาวัลย์ วรวุฒิพงศ์ นายวัลลภ แซ่เตี๋ยว เป็นต้น

อ่านต่อที่ : ส่งกฤษฎีกาตีความ กรณีตัดสินคดีดร.แป้ง ภายใน 1- 2 เดือนรู้ผล

15:14 น. มช.พัฒนาแผ่นซับหน้ามันจากไคโตซานแบบกระดาษ-แผ่นฟิล์ม พฤษภาคม 14, 2009

15:14 น. มช.พัฒนาแผ่นซับหน้ามันจากไคโตซานแบบกระดาษ-แผ่นฟิล์ม

14 พค. 2552 15:14 น.

ผศ.ภูริวัฒน์ ลี้สวัสดิ์ อาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ทีมวิจัยได้ร่วมกันวิจัยการพัฒนาแผ่นซับหน้ามันจากไคโตซาน โดยวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากระบวนการเตรียมแผ่นซับหน้ามันจากไคโตซานทั้งแบบฟิล์มและแบบกระดาษ ซึ่งจะพัฒนาให้มีคุณสมบัติสำหรับใช้ดูดซับความมันบนใบหน้า โดยจะเตรียมแผนซับหน้ามันจากสารสะลายไคโตซานที่มีความเข้มข้น 1% w/v ในกรดอะซิติก 1% v/v ผสมกับพลาสติกไซเซอร์ สารดูดซับ และเยื่อปอสา
โดยหลังจากนั้นนำสารผสมเทลงบนแม่พิมพ์ หลังจากนั้นอบแห้งที่อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส นำแผ่นซับหน้ามันที่ได้ไปทดสอบสมบัติด้านควมเรียบเนียน ความนุ่ม ความยืดหยุ่น ความหนา และการดูดซับน้ำมัน สำหรับการเตรียมแผ่นซับหน้ามันแบบฟิล์มควรเลือกใช้ทั้ง PEG 600 และ Sorbitol เป็นพลาสติกไซเซอร์ เพื่อทำให้ฟิล์มมีความอ่อนนุ่ม และคงรูปร่างที่ดี ส่วนการเตรียมแผ่นซับหน้ามันแบบกระดาษจะใช้ Sorbitol เพียงชนิดเดียว เพื่อให้กระดาษซับหน้าที่ได้มีความอ่อนนุ่มและยืดหยุ่น
สำหรับสารดูดซับที่ทำให้แผ่นซับหน้ามันสามารถดูดซับน้ำมันได้ดีคือ Talcum และ Colloidal Silicon Dioxide โดยที่สาร Colloidal Silicon Dioxide จะทำให้แผ่นซับหน้ามันสามารถดูดซับน้ำมันได้ดีกว่า Talcum แต่ทำให้แผ่นซับหน้ามันดูดซับน้ำมันมีความเรียบเนียนมากกว่า แต่เมื่อนำสารดูดซับทั้งสองชนิดมาผสมกันจะทำให้แผ่นซับหน้ามันดูดซับน้ำมันได้น้อยลง โดยปริมาณของสารดูดซับที่ใช้ต้องมีความเหมาะสมไม่มากหรือน้อยเกินไป จึงจะทำให้กระดาษหรือฟิล์มซับหน้ามันที่ได้สามารถดูดซับน้ำมันได้มากที่สุด ทั้งนี้ สารลดแรงตึงผิวที่เหมาะสมที่จะนำมาเติมลงในตำรับคือ Span 20
ผศ.ภูริวัฒน์ กล่าวต่ออีกว่า การพัฒนาแผ่นซับหน้ามันจากไคโตซานพบว่าแแบบกระดาษสามารถดูดซับน้ำมันได้มากกว่าแบบฟิล์มและมีความเรียบเนียน นุ่มมากกว่า ตำรับฟิล์มซับหน้าไคโตซานที่เหมาะสมจะได้ฟิล์มที่ดูดน้ำมันได้ 34.96% ตำรับกระดาษซับหน้ามันจากไคโตซานที่เหมาะสมจะประกอบด้วยจะได้ฟิล์มที่ดูดน้ำมันได้ 60.16% ทั้งนี้ แผ่นซับหน้ามันจากไคโตซานทั้งแบบฟิล์มและแบบกระดาษมีความคงสภาพทางกายภาพที่ดี จึงเหมาะสมต่อการนำไปจำหน่ายในท้องตลาด

อ่านต่อที่ : 15:14 น. มช.พัฒนาแผ่นซับหน้ามันจากไคโตซานแบบกระดาษ-แผ่นฟิล์ม

15:14 น. มช.พบเชื้อราอาบัสคูลาร์ไมคอร์ไรซ่าช่วยดูดซับแร่ธาตุในต้นส้ม พฤษภาคม 14, 2009

15:14 น. มช.พบเชื้อราอาบัสคูลาร์ไมคอร์ไรซ่าช่วยดูดซับแร่ธาตุในต้นส้ม

14 พค. 2552 15:14 น.

ผศ.ดร.สมจิตร อยู่เป็นสุข นักวิชาการภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ส้มเขียวหวานมีพื้นที่เพาะปลูกมากในพื้นที่ภาคเหนือและในปัจจุบันพบว่าเกษตรกรมีการใช้สารเคมีจำนวนมากในการเพาะปลูกส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น แต่พบว่าพืชดูดปุ๋ยไปใช้ได้เป็นส่วนน้อย ส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมเนื่องจากมีธาตุอาหารตกค้างในดินและปนเปื้อนลอยออกไปในแหล่งน้ำ
ดังนั้น ทีมวิจัยจึงได้วิจัยการเพิ่มประสิทธิภาพของการดูดธาตุอาหารในต้นกล้าส้มเขียวหวาน มะนาว ส้มโอ และส้มเกลี้ยง ด้วยเชื้อราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซา ซึ่งเชื้อดังกล่าวเป็นเชื้อราที่อาศัยอยู่ร่วมกับรากพืชแบบพึ่งพาอาศัยกัน โดยจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมน้ำและแร่ธาตุให้แก่ และยังช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดิน ทำให้ดินร่วนซุยเหมาะแก่การระบายน้ำและอากาศ และยังช่วยทำให้พืชต้านทานต่อจุลินทรีย์ในดินที่เป็นสาเหตุของโรคพืช
สำหรับ เชื้อราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซ่ามีอยู่ในธรรมชาติ จากการศึกษาพื้นที่เพาะปลูกส้มในภาคเหนือของประเทศไทยในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย พบว่าเชื้อราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซ่าจะช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตของต้นมะนาว ส้มโอ และส้มเขียวหวานพันธุ์คลีโอพัตรา ฟรีมองต์ โอเชียน และสายน้ำผึ้ง ทั้งนี้ เชื้อราดังกล่าวมีผลต่อการเจริญเติบโตของกิ่งตอนส้มเขียวหวานสายพันธุ์ต่างๆ และพืชตระกูลส้มบางชนิด เช่น มะนาว และส้มโอ
ผศ.ดร.สมจิตร กล่าวต่ออีกว่า ผลการวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่าการใส่ปุ๋ยไนโตรเจนและฟอสฟอรัสในปริมาณมาก จะทำให้ศักยภาพของเชื้อราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซ่าในการส่งเสริมการเจริญของต้นส้มลดลง และพบว่าเชื้อราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซ่าช่วยให้ต้นกล้ามะนาวและส้มโอดูดธาตุอาหารจากดินได้ดีและโตเร็วกว่าต้นส้มชนิดอื่น รวมทั้ง ส้มเขียวหวานพันธุ์คลีโอพัตราและโทรเยอร์ ที่นิยมใช้เป็นต้นตอของส้มสายน้ำผึ้ง ต้นกล้าของมะนาวและส้มโอมีการตอบสนองต่อเชื้อราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซ่าได้ดีมากเมื่อเปรียบเทียบกับต้นกล้าของส้มชนิดอื่น
อ่านต่อที่ : 15:14 น. มช.พบเชื้อราอาบัสคูลาร์ไมคอร์ไรซ่าช่วยดูดซับแร่ธาตุในต้นส้ม

15:14 น. ท่องเที่ยวเชียงใหม่วิกฤติ นักท่องเที่ยวลด30% พฤษภาคม 14, 2009

15:14 น. ท่องเที่ยวเชียงใหม่วิกฤติ นักท่องเที่ยวลด30%

14 พค. 2552 15:14 น.

นายกนก สุวรรณวิสูตร์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ภาคเหนือตอนบน) เปิดเผยว่า อัตราการเข้าพักโรงแรมในช่วงโลว์ซีซั่นของจ.เชียงใหม่ ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่เดือน พ.ค.อยู่ในระดับไม่สูงกว่า 40% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตลาดนักท่องเที่ยวโดยรวมลดลงทุกกลุ่ม ทั้งต่างชาติและในประเทศ เฉพาะตลาดยุโรป – อเมริกาลดลงไปประมาณ 25%
โลว์ซีซั่นปีนี้ถือเป็นช่วงวิกฤตอย่างแท้จริงของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจ.เชียงใหม่ แต่โชคดียังมีตลาดประชุมสัมมนาของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้ามาช่วยไม่ให้ธุรกิจได้รับผลกระทบมากกว่านี้ กลุ่มประชุมสัมมนา ถือเป็นตลาดหลักสำคัญในช่วงโลว์ซีซั่นที่มาชดเชยจำนวนนักท่องเที่ยวที่หายไป ปีนี้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาราว 20% แต่ยังเพิ่มขึ้นไม่มากนัก
“ภาคเอกชนต้องออกแรงมากกว่าปกติ เพื่อให้ได้ตลาดกลุ่มนี้เข้ามาทดแทนตลาดนักท่องเที่ยวที่หายไป โดยจัดกิจกรรมกระตุ้นในหลายเวที เพื่อดึงหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในส่วนกลางมาจัดประชุมสัมมนาในพื้นที่ ไม่กระจุกตัวเฉพาะในส่วนกลางหรือในช่วงใกล้ปิดปีงบประมาณเท่านั้น”นายกนกกล่าว
นางวีรพรรณ เพียรกุศล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า จำนวนนักท่องเที่ยวโดยรวมในช่วงโลว์ซีซั่นปีนี้ลดลงไปกว่า 30% โดยเฉพาะกลุ่มยุโรปลดลงมากที่สุด นอกจากปัจจัยวิกฤตเศรษฐกิจโลก ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ปัญหาการเมืองภายในประเทศยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวด้วย
ยอมรับว่าต้องติดตามสถานการณ์ของตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยปกติช่วงโลว์ซีซั่นราวเดือน ก.ค. – ส.ค.จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจากยุโรปทะยอยเดินทางเข้ามา ส่วนช่วงเดือน ต.ค. – พ.ย.เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวจากสเปนและอิตาลี แต่ปีนี้ต้องติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิดอีกครั้งว่านักท่องเที่ยวเหล่านี้จะกลับเข้ามาหรือไม่ เนื่องจากการจองโปรแกรมทัวร์ล่วงหน้าของนักท่องเที่ยวเหล่านี้ลดลงไปอย่างมาก
อ่านต่อที่ : 15:14 น. ท่องเที่ยวเชียงใหม่วิกฤติ นักท่องเที่ยวลด30%

ไม่ได้ถูกมาเฟียตามล่า’เต๋า’ โต้ควงหมอนวด พฤษภาคม 14, 2009

ไม่ได้ถูกมาเฟียตามล่า’เต๋า’ โต้ควงหมอนวด

คมชัดลึก :“เต๋า” สมชาย เข็มกลัด ยันกลับมาปักหลักกรุงเทพฯ ไม่ใช่เพราะถูกมาเฟียเชียงใหม่คุกคาม แต่อยากทำงาน ออกตัวไม่ได้ควงหมอนวด แต่ยังไม่ขอเผยเรื่องความรักครั้งใหม่

 ประกาศลั่นว่าจะขอกลับตัวเป็น “เต๋า” สมชาย ในมาดใหม่ พร้อมขอโอกาสกลับมาทำงานในวงการบันเทิงอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ดี ยังมีข่าวลือว่า เหตุที่ เต๋า ทิ้งเชียงใหม่ มาปักหลักอยู่ในกรุงเทพฯ เวลานี้ เพราะโดนมาเฟียหมายหัวไว้อยู่ ซึ่งเรื่องนี้ เต๋า ออกโรงโต้ทันควัน โดยเผย

 “ไม่เกี่ยวเลย ไม่ว่าจะเป็นที่เชียงใหม่ หรือลำปาง ผมบอกได้เลย ว่าทุกคนน่ารักหมด ผมไม่ได้ถูกมาเฟียคุกคาม เพราะผมไม่ใช่มาเฟีย แล้วผมก็ไม่ได้มีอะไร แต่ถ้าผมไม่กลับมาอยู่กรุงเทพฯ ผมก็ไม่ได้ทำงาน เพราะระยะทางมันไกล จะให้ไปๆ กลับๆ ก็ไม่ไหว ผมเหนื่อย เอาให้ดีสักทางดีกว่า  ในเมื่อผมได้โอกาสแล้ว ผมก็ต้องทำโอกาสให้ดีที่สุด” เต๋าแจกแจง

 หันมาถามถึงภาพปาปาราซซีกับสาวนางหนึ่ง ซึ่งถูกเม้าท์ว่า เต๋า ควงหมอนวด พระเอกคนดังกล่าวว่า การที่เขามีข่าวกับผู้หญิงไม่ใช่เรื่องแปลก

 “แต่เรื่องหมอนวด ไม่มีหรอก เพราะผมถือว่าคนเราจะมีความรู้สึกของตัวเขาเอง ถ้าจะให้ผมแก้ข่าวหรือต้องอธิบาย ก็คงต้องพูดวันละประมาณล้านเรื่องน่ะ เพราะวันหนึ่งผมเป็นนี่ แล้วก็เป็นนี่อีก จริงๆแล้วต้องดูกันยาวๆดีกว่า ผมไม่อยากให้ไปว่าอะไรใครทั้งนั้น ตัวผมโดนว่ามาเยอะแล้ว ผมก็ไม่อยากให้คนอื่นโดนว่า แล้วผมเชื่อว่า ทุกอย่างอยู่ที่ระยะเวลา ซึ่งผมคงไม่ฟ้อง ถ้าฟ้อง มันจะต้องฟ้องกันกี่เรื่องล่ะ เพราะมันเยอะ สุดท้ายผมเชื่อว่าก็อยู่ที่ตัวเรา อยู่ที่เวลามากกว่า ส่วนเรื่องชีวิตคู่ มันเป็นเรื่องของอนาคต ชีวิตคู่มันต้องใช้เวลา วันหนึ่งผมก็อยากมี ไว้ถึงเวลาแล้วผมจะบอก”

 เต๋า กล่าวต่อถึงเรื่องบวช ว่าในชีวิตนี้ เขาตั้งใจว่าอยากจะบวชให้ครบ 5 รอบ เพราะชอบเลข 5 และที่ผ่านมา 3 ครั้ง ก็ทำเพื่อคนอื่นทั้งนั้น

 “ครั้งแรกผมบวชให้คุณย่า ครั้งที่สองบวชให้ปู่ ครั้งที่สามก็ให้คุณแม่น้องนัท (มีเรีย เบเนเดตตี้) ถ้าครั้งต่อไป ผมอยากให้แก่ตัวเอง เพาะเราทำให้คนอื่นเยอะแล้ว ปีที่แล้วผมหดหู่ในชีวิตมาก ปีที่แล้วญาติผมเสียไปเยอะ แต่ถ้าจะบวชอีกที ก็คงอีก 10 ปีมั้ง ผมอยากบวชให้ครบพรรษาสักครั้ง เพราะยังบวชไม่เคยถึงเลย แต่การบวชบางทีก็ต้องมีเหตุผล ไม่ใช่บวชไปเรื่อย ต้องมีเหตุผล ก็พยายามทำให้ดีที่สุด แต่บางอย่าง ถ้าให้ผมพูด มันอาจจะเป็นวิบากกรรม

 ชาติที่แล้วผมคงทำไว้เยอะ ตอนนี้ผมไม่รู้สึกกดดันอะไรเลย แต่ถ้าเดินมาแล้วนักข่าวไม่สัมภาษณ์ผม อันนั้นกดดันกว่า เพราะกลับมามันต้องมีความสุข ตอนนี้แค่ผมอาบน้ำก็มีความสุขแล้ว คนเราต้องสุขจากข้างใน อันนั้นสำคัญ ผมหลอกคนอื่นไม่ได้ ทำไมผมต้องหลอกตัวเอง ถ้าผมไม่หลอกตัวเอง ผมก็ไม่หลอกคนอื่น” เต๋ากล่าวสรุป

อ่านต่อที่ : ไม่ได้ถูกมาเฟียตามล่า’เต๋า’ โต้ควงหมอนวด

ยกน้ำหนักยุวชนชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 1 ที่เชียงใหม่ พฤษภาคม 14, 2009

ยกน้ำหนักยุวชนชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 1 ที่เชียงใหม่

อ่านต่อที่ : ยกน้ำหนักยุวชนชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 1 ที่เชียงใหม่

สวนสัตว์เชียงใหม่จ่อเปิด“โดมหิมะ”บ้านใหม่แพนด้า มิ.ย.นี้ พฤษภาคม 14, 2009

สวนสัตว์เชียงใหม่จ่อเปิด“โดมหิมะ”บ้านใหม่แพนด้า มิ.ย.นี้

สวนสัตว์เชียงใหม่จ่อเปิด“โดมหิมะ”บ้านใหม่แพนด้า มิ.ย.นี้

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 14:14 น.

       ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – สวนสัตว์เชียงใหม่เตรียมเปิด “โดมหิมะ” จำลองบรรยากาศบ้านเกิดหมีแพนด้า มูลค่า 70 ล้านบาท ให้บริการนักท่องเที่ยวในช่วง มิ.ย.52 นี้ หลังการก่อสร้างคืบหน้ากว่า 90% แล้ว เหลือเพียงทดลองระบบผลิตหิมะเทียม และกำหนดอัตราค่าบริการ
       
       นายธนภัทร พงษ์ภมร ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ เปิดเผยความคืบหน้า โครงการก่อสร้างส่วนจัดแสดงหมีแพนด้าเพิ่มเติม โดยมีการติดตั้งเครื่องผลิตหิมะเทียม พร้อมจำลองบรรยากาศให้เหมือนกับแหล่งที่อยู่ตามธรรมชาติของหมีแพนด้า ในประเทศจีนว่า ขณะนี้การก่อสร้างมีความคืบหน้าไปกว่า 90% แล้ว เหลือเพียงขั้นตอนการติดตั้งและทดสอบระบบ รวมทั้งการปรับภูมิทัศน์และการเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น ตามแผนสวนสัตว์เชียงใหม่ตั้งใจจะเปิดส่วนจัดแสดงดังกล่าวนี้ ให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ในช่วงเดือนมิถุนายน 2552
       
       สำหรับส่วนจัดแสดงหมีแพนด้าเพิ่มเติมดังกล่าวนี้ ซึ่งใช้งบประมาณทั้งสิ้นประมาณ 70 ล้านบาทนั้น ได้มีการติดตั้งเครื่องผลิตหิมะเทียมที่นำเข้ามาจากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยจะทำการผลิตหิมะใหม่ออกมาทดแทนทุกๆ 4 ชั่วโมง
       
       ทั้งนี้ภายในจะใช้เป็นส่วนจัดแสดงหมีแพนด้าให้นักท่องเที่ยวชม ประมาณ 3-4 เดือนต่อปี คือในช่วงประมาณ ม.ค.-มี.ค. ของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะตกในประเทศจีนบ้านเกิดหมีแพนด้า ขณะที่ในช่วงที่เหลือของปีจะเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเล่นหิมะเทียมได้ด้วย โดยการเข้าไปแต่ละครั้ง นักท่องเที่ยวจะต้องผ่านขั้นตอนการปรับอุณภูมิร่างกายก่อนทุกครั้งเพื่อสุขภาพ
       
       ทั้งนี้การเข้าชมหมีแพนด้าในส่วนจัดแสดงเพิ่มเติมนั้น นายธรภัทร กล่าวว่า จะต้องมีการจัดเก็บค่าเข้าชมหรือค่าเข้าใช้บริการแยกจากเข้าชมหมีแพนด้าในส่วนจัดแสดงเดิม เพราะมีต้นทุนเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม เวลานี้กำลังอยู่ระหว่างการกำหนดอัตราที่เหมาะสม คาดว่าจะทราบความแน่ชัดภายในเดือน พ.ค.นี้ โดยในการเข้าชมแต่ละรอบนั้น จะให้เวลารอบละ 20 นาที และจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวรอบละไม่เกิน 100 คน ซึ่งเชื่อมั่นว่าเมื่อเปิดให้บริการส่วนจัดแสดงนี้แล้วจะเป็นจุดดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมสวนสัตว์เชียงใหม่มากยิ่งขึ้น

อ่านต่อที่ : สวนสัตว์เชียงใหม่จ่อเปิด“โดมหิมะ”บ้านใหม่แพนด้า มิ.ย.นี้

เชียงใหม่การันตีมาตรการควบคุมหวัด 2009 รับแข่งยกน้ำหนักเยาวชน พฤษภาคม 14, 2009

เชียงใหม่การันตีมาตรการควบคุมหวัด 2009 รับแข่งยกน้ำหนักเยาวชน

เชียงใหม่การันตีมาตรการควบคุมหวัด 2009 รับแข่งยกน้ำหนักเยาวชน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 12:48 น.

       ดร.ท.พ.สุรสิงห์ วิศรุตรัตน์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับ น.พ.ทรงวุฒิ หุตามัย ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 เชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วันนี้ (14 พ.ค.) ว่า เพื่อวางมาตรการป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ก่อนจะมีการแข่งขันกีฬายกน้ำหนักเยาวชนชิงแชมป์โลก ระหว่างวันที่ 19-24 พฤษภาคมนี้ ที่โรงยิมเนเซียม 2 สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ซึ่งจะมีคณะนักกีฬาจาก 60 ประเทศทั่วโลกกว่า 700 คน เข้าร่วมการแข่งขัน รวมถึงประเทศกลุ่มเสี่ยงทั้งเม็กซิโก อเมริกา และกลุ่มประเทศยุโรป ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่วางระบบป้องกันดูแลเรื่องนี้อย่างเต็มที่ มั่นใจว่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนานาประเทศได้แน่นอน ทั้งนี้ ทีมแพทย์ผู้ดูแลนักกีฬาทั้งหมดของประเทศไทยจะหารือเพื่อทำความเข้าใจกับแพทย์จากประเทศที่มีการระบาดของโรคดูแลทีมนักกีฬาอย่างรัดกุม โดยสำนักบริการการแพทย์ฉุกเฉินจัดทีมแพทย์ฉุกเฉินประจำสนามแข่งขันทุกรายการไว้พร้อมแล้ว
        อย่างไรก็ตาม รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เชื่อว่าไม่มีปัญหาเรื่องนี้ เพราะประเทศเสี่ยงนั้นมีการคัดกรองตั้งแต่ต้นทางแล้วก่อนถึงไทย และเมื่อมาถึงเชียงใหม่จะมีระบบดูแลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งวันพรุ่งนี้ (15 พ.ค.) อธิบดีกรมควบคุมโรคจะมาติดตามความพร้อมและประชุมร่วมกับทุกฝ่ายอีกครั้ง เพื่อเพิ่มความมั่นใจก่อนที่ทัพนักกีฬาแต่ละประเทศทยอยเดินทางมาระหว่าง 16-18 พฤษภาคมนี้

อ่านต่อที่ : เชียงใหม่การันตีมาตรการควบคุมหวัด 2009 รับแข่งยกน้ำหนักเยาวชน