jump to navigation

แพทย์ห่วงสุขภาพจิต”เคอิโงะ” วอนสื่ออย่าโหมตีข่าว พฤษภาคม 17, 2009

Posted by 1000thainews in ข่าวด่วน.
Tags: , , , ,
add a comment

แพทย์ห่วงสุขภาพจิต”เคอิโงะ” วอนสื่ออย่าโหมตีข่าว
       น.พ.บัณฑิต ศรไพศาล ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กล่าวว่า ทางออกการตามหาบิดาชาวญี่ปุ่นของ ด.ช.เคอิโงะ วัย 9 ขวบ อ.เมือง จ.พิจิตร ควรจะเป็นการหารือกันระหว่างผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางเลือกว่า เด็กควรอยู่ประเทศญี่ปุ่น หรือประเทศไทยโดยเร็ว เพราะไม่ใช่เรื่องที่ให้เด็กตัดสินใจเอง แม้ว่าเด็กอาจจะมีความฝัน หรือความปรารถนาที่จะได้เจอพ่อก็ตาม และนำเสนอผลที่ได้เสนอต่อสื่อมวลชน เพื่อให้สังคมเข้าใจ ซึ่งสื่อมวลชนก็ไม่ควรไปสร้างความหวังกับเด็ก หรือนำเสนอเหตุการณ์ตลอดเวลา เพราะอาจทำให้ข้อเท็จจริงบางอย่างไม่ถูกเปิดเผย
        ขณะเดียวกันก็ต้องเตรียมความพร้อมให้เด็กไว้ก่อน ไม่เช่นนั้นเด็กอาจจะรู้สึกผิดหวังได้ หากไม่เป็นไปตามที่คิดไว้
        น.พ.บัณฑิต กล่าวต่อไปว่า ต้องให้ ด.ช.เคอิโงะ ยอมรับสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ว่าเขาจะต้องเจออะไรบ้าง ไม่ว่าจะไปอยู่กับบิดาที่ญี่ปุ่น หรืออยู่กับป้าที่เมืองไทย
        น.พ.บัณฑิต กล่าวว่า ตามปกติแล้ว เด็กกำพร้าจะมีความฝัน และมีความปรารถนาที่จะเจอบิดามารดา แต่หากไม่ได้ให้ความหวังเด็กมากจนเกินไป เมื่อไม่เจอเด็กก็จะรู้สึกชินไปเอง และอาจยอมรับความเป็นจริงได้เอง

อ่านต่อที่ : แพทย์ห่วงสุขภาพจิต”เคอิโงะ” วอนสื่ออย่าโหมตีข่าว

เผยเด็กติดเน็ตรับรู้โลกภายนอกน้อยลงคุมใจตัวเองไม่ได้ พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in ทั่วไป.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

เผยเด็กติดเน็ตรับรู้โลกภายนอกน้อยลงคุมใจตัวเองไม่ได้

เผยเด็กติดเน็ตรับรู้โลกภายนอกน้อยลงคุมใจตัวเองไม่ได้

น.ส.ประพิมพ์พรรณ สุวรรณกูฏ นักพัฒนาสังคม สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และผู้สูงอายุ (สท.) กล่าวเมื่อวันที่ 14 พ.ค.ว่า จากการศึกษา เรื่อง ผลกระทบของอินเทอร์เน็ตต่อสุขภาพกาย และสุขภาพจิตของเด็กและเยาวชนไทย : กรณีศึกษากรุงเทพมหานคร ร่วมกับ สำนักทดสอบทางการศึกษาและจิตวิทยา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โดยศึกษาพฤติกรรมการรับข้อมูลข่าวสารทางอินเทอร์เน็ตของเด็กและเยาวชนทั้ง ด้านการศึกษา ด้านบันเทิง ด้านลบ และด้านธุระ/ซื้อขาย รวมถึงความสัมพันธ์ของผลต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต กับกลุ่มตัวอย่างเป็นเด็กและเยาวชนในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 1,584 คน

ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีพฤติกรรมการรับสื่ออินเทอร์เน็ตบันเทิงมาก ที่สุด ได้แก่ รับข่าวสาร พูดคุยติดต่อเพื่อน ดูหนังฟังเพลง เสนอความคิดเห็นในกระทู้ต่าง ๆ รองลงมาด้านการศึกษา ได้แก่ เพื่อส่งงานให้อาจารย์ทางอีเมล์ หาข้อมูลในการเรียนหรือเตรียมตัวสอบ ค้นคว้าผ่านห้องสมุดดิจิตอล และแลกเปลี่ยนข่าวสารการเรียนกับเพื่อน ด้านธุระ/ซื้อขาย ได้แก่ ติดต่อธุระ ซื้อขายสินค้า หาข้อมูลสินค้า ทำธุระทางการเงิน จ่ายค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ หาข้อมูลเพื่อการทำงานที่มิใช่การเรียน สร้างรายได้

ขณะที่ ด้านลบ ได้แก่ ดูเรื่องต่างๆ ที่ตอบสนองอารมณ์ทางเพศ ดูคลิปวิดีโอหรือภาพโป๊เปลือย ค้นข้อมูลที่ไม่เหมาะสมหรือเป็นของต้องห้าม นินทาหรือด่าว่ากัน สื่อสารกับเพื่อนในเรื่องที่ไม่อยากให้ผู้ใหญ่รู้ ใช้เพื่อการพนัน เล่นเกมออนไลน์เพื่อการเอาชนะและความสะใจผลจากการใช้อินเตอร์เน็ตมีผลต่อ สุขภาพจิตทางบวกของเด็กและเยาวชนมากที่สุด ได้แก่ ทำให้มีเพื่อนใหม่เพิ่มขึ้น เข้าใจและพอใจกับชีวิตของตนเอง มีความสุขกับสิ่งที่ทำแต่ละวัน สามารถจัดการปัญหาต่าง ๆ ให้สำเร็จ มีความมุ่งมั่นในการทำภารกิจต่าง ๆ รู้สึกสนุก เพลิดเพลินใจ รองลงมาคือ สุขภาพกาย ในทางลบ ได้แก่ ทำให้อ่อนล้าสายตา สายตาสั้นลง ตาลาย เมื่อยแขน ปวดศีรษะ มึนศีรษะ ปวดก้นกบ หลัง ไหล่ กล้ามเนื้อมือและนิ้ว ร่างกายเมื่อยล้า อ่อนเพลีย ลืมเวลาทานอาหารจนปวดท้อง เพลินจนไม่ได้เข้าห้องน้ำ ทำให้มีผลต่อระบบขับถ่าย และสุขภาพจิตในทางลบ ได้แก่ ทำให้รู้สึกเศร้าโดยไม่ทราบสาเหตุ ไม่สามารถควบคุมสภาพจิตใจตนเองได้ หงุดหงิดกังวลใจกับเรื่องเล็กน้อย ทำงานต่าง ๆ ที่ได้รับมอบหมายเสร็จไม่ทัน ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างลดลง เบื่อหน่ายท้อแท้กับการดำเนินชีวิต

น.ส.ประพิมพ์พรรณ กล่าวว่า การใช้อินเตอร์เน็ตของเด็กและเยาวชนยังเกิดผลกระทบด้านสังคม คือ ถูกหลอก เกิดอาชญากรรมเจอคนที่พูดไม่ดีรู้สึกแย่ ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น อยากไปเจอเพื่อน ๆ น้อยลง รู้จักแต่คนที่เล่นเกมที่รุนแรง อยู่ในโลกความฝัน ทำให้ไม่ค่อยรู้เรื่องภายนอก ไม่ค่อยได้คุยกับพ่อแม่ ไม่คุยกับคนรอบข้าง บางทีทำให้ทะเลาะกันเพราะมีความคิดเห็นต่างกัน อย่างไรก็ตามเด็กและเยาวชนยังแสดงความเห็นในการจัดการเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม เช่น ควรมีกฎหมายสั่งปิด ปราบปราม เพื่อการสร้างสื่อที่ดีต่อสังคม ออกมาตรการควบคุมอายุผู้เข้าชม รณรงค์ให้ผู้คนรู้จักละอายใจที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์เหล่านั้น หรือมีขั้นตอนการลงโทษ คอยตรวจสอบ เว็บไซต์ต่าง ๆ อยู่เป็นประจำ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลมากขึ้น เกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพและการละเมิดโดยการนำภาพคนอื่นมาตัดต่อให้เกิดความ เสียหาย ผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานด้วยไม่ใช่ปล่อยให้เล่นเพลิน สำหรับข้อเสนอแนะเชิงนโยบายจากงานวิจัยครั้งนี้ คือ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตระหนักถึงปัญหาที่เกิดจากการใช้อินเตอร์เน็ตของ เด็กและเยาวชนไทย ซึ่งพบว่า เนื้อหาที่มีอยู่มากกว่า 1,000 ล้านเว็บไซต์ทั่วโลกมีทั้งส่วนที่เป็นประโยชน์และที่ก่อให้เกิดโทษ จึงควรมีมาตรการที่เข้มงวด มีประสิทธิภาพในการจัดการและป้องกันปัญหาที่เกิดจากอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะด้านเนื้อหา หรือรูปภาพต่าง ๆ โดยการออกข้อบังคับเพื่อปราบปรามสิ่งยั่วยุที่อาจจะมีอยู่มากเกินไปในสังคมไทย

อ่านต่อที่ : เผยเด็กติดเน็ตรับรู้โลกภายนอกน้อยลงคุมใจตัวเองไม่ได้

ปิดจมูกเรียนหนังสือ พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in อื่นๆ.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

ปิดจมูกเรียนหนังสือ

คมชัดลึก :เนื่องจากโรงงานแป้งมัน ที่อยู่ในบริเวณ ต.จานใหญ่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้ก่อมลพิษส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง รบกวนสุขภาพจิตของคนในชุมชน และสถานที่หน่วยงานราชการที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงมาก เช่น โรงเรียน ชุมชน อบต. และมหาวิทยาลัย

ปัญหานี้มีมานานแล้ว แต่ก็ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาแก้ไขเลย เด็กนักเรียนเดือดร้อนกันมาก ต้องนั่งเรียนพร้อมกับปิดจมูกไปด้วย ผู้ที่อาศัยอยู่ในชุมชนก็หายใจไม่ค่อยสะดวก
 อยากได้อากาศบริสุทธิ์กลับคืนมาค่ะ
ผู้ปกครอง

อ่านต่อที่ : ปิดจมูกเรียนหนังสือ

หนุ่มไอ้แมงมุมเพี้ยนชอบปืนป่าย-ถูกเมียเบื่อโบกมือลา พฤษภาคม 13, 2009

Posted by 1000thainews in ทั่วไป.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

หนุ่มไอ้แมงมุมเพี้ยนชอบปืนป่าย-ถูกเมียเบื่อโบกมือลา

หนุ่มไอ้แมงมุมเพี้ยนชอบปืนป่าย-ถูกเมียเบื่อโบกมือลา

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 7 พ.ค.ว่า นายทิโมเมียร์ เปตรูนิค ชาวโครเอเชีย วัย 38 ปี ถูกตำรวจนำตัวลงจากเครนสูง 100 ฟุต ในเมืองดูก้า เรซ่า ภายหลังแสดงพฤติกรรมเป็นไอ้แมงมุมปืนป่ายอาคาร และถูกส่งโรงพยาบาลโรคจิต ก่อนจะถูกแพทย์วินิจฉัยว่า สุขภาพจิตดีแต่ชอบหมกมุ่น ขณะที่เจ้าตัวเปิดเผยว่า เขาไม่อาจหยุดพฤติกรรมชอบปืนป่ายได้ และเมื่อตื่นเช้ามา เห็นเครนตั้งอยู่ก็รู้สึกว่าตัวเองต้องปืน และรู้สึกดีที่ได้ทำ เพราะได้เห็นวิวอันสวยงาม แต่สำหรับภรรยาเขาทิ้งเขาไปแล้วเพราะเบื่อพฤติกรรมชอบปืนป่ายของเขา

อ่านต่อที่ : หนุ่มไอ้แมงมุมเพี้ยนชอบปืนป่าย-ถูกเมียเบื่อโบกมือลา

กรมสุขภาพจิตแนะผู้ปกครองช่วยคลายทุกข์ให้ลูกพลาดแอดมิชชั่นส์ พฤษภาคม 13, 2009

Posted by 1000thainews in ทั่วไป.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

กรมสุขภาพจิตแนะผู้ปกครองช่วยคลายทุกข์ให้ลูกพลาดแอดมิชชั่นส์

กรมสุขภาพจิตแนะผู้ปกครองช่วยคลายทุกข์ให้ลูกพลาดแอดมิชชั่นส์

สำนักข่าวไทย  7 พ.ค.-รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต แนะผู้ปกครองช่วยดูแลและคลายทุกข์ให้ลูกที่พลาดจากการสอบแอดมิชชั่นส์ ทั้งรับฟังและหมั่นสังเกตอาการ อย่าปล่อยให้อยู่คนเดียว ระบุคนทุกข์น้อยเพราะเตรียมใจไว้มาก ขณะที่คนทุกข์มากนอกจากไม่ได้เตรียมใจแล้วยังแบกความคาดหวังคนรอบข้างด้วย

นพ.วชิระ  เพ็งจันทร์  รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต  กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงผลการคัดเลือกบุคคลเข้าสถาบันอุดมศึกษา (แอดมิชชั่นส์) และอาจมีนักเรียนพลาดหวัง เสียใจและอาจคิดทำร้ายตนเองว่า อยากให้ใช้หลักในการคิดว่าการสอบเข้ามหาวิทยาลัยเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของชีวิตเท่านั้น  ยังมีสิ่งต่าง ๆ อีกมากมายที่นักเรียนยังค้นไม่พบและอาจทำให้ประสบความสำเร็จได้ เช่น การสอบใหม่ในปีหน้า  การเรียนในมหาวิทยาลัยเปิด ซึ่งหากได้ศึกษาผู้ที่ประสบความสำเร็จ หลายคนก็ไม่ใช่คนเรียนเก่งหรือจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง บางคนเรียนไม่จบ กลับประสบความสำเร็จมากกว่าผู้ที่จบการศึกษา ดังนั้น จึงไม่ได้วัดแค่การสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ ความทุกข์ของแต่ละคนขึ้นอยู่กับการเตรียมใจเมื่อทราบผลสอบ  คนที่เตรียมใจไว้มากจะได้เปรียบเพราะทุกข์น้อย  ขณะที่คนที่ไม่ได้เตรียมใจไว้เลยจะทุกข์มาก เพราะแบกความคาดหวังของคนรอบข้างไว้ด้วย เช่น พ่อแม่และญาติ ๆ เพิ่มความกดดัน

นพ.วชิระ  กล่าวว่า ดังนั้น พ่อแม่จึงเป็นคนสำคัญที่ต้องช่วยดูแลลูกให้คลายความกดดันและให้กำลังใจ  ไม่ว่าลูกจะสอบเข้าได้หรือไม่ก็ตาม และหมั่นสังเกต  เมื่อใดที่ลูกมาพูดในลักษณะระบายความทุกข์ให้ฟัง  ต้องตั้งใจฟังอย่าตำหนิ รวมทั้งอย่าปล่อยให้อยู่คนเดียว ทั้งนี้ กรมสุขภาพจิตพร้อมให้ฮอตไลน์คลายเครียดหรือสายด่วนรับปรึกษาและให้คำแนะนำที่หมายเลขโทร. 1323  ซึ่งมีถึง 26 คู่สายตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งตั้งแต่เดือน ต.ค.ปี 2551 ถึง เม.ย. 2552 พบว่ามีผู้โทรศัพท์เข้ามาขอคำปรึกษาจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าจากปีที่แล้ว  ส่วนมากเป็นปัญหาเศรษฐกิจ  รองลงมาเป็นปัญหาส่วนตัว  โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเพิ่มอีก 6 คู่สาย.-สำนักข่าวไทย

อ่านต่อที่ : กรมสุขภาพจิตแนะผู้ปกครองช่วยคลายทุกข์ให้ลูกพลาดแอดมิชชั่นส์