ข่าว ในประเทศไทย

กลุ่มติดอาวุธไนจีเรียคืนชีพขู่โจมตีบริษัทนํ้ามัน พฤษภาคม 15, 2009

กลุ่มติดอาวุธไนจีเรียคืนชีพขู่โจมตีบริษัทนํ้ามัน

กลุ่มติดอาวุธในไนจีเรีย เริ่มออกอาละวาดในบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์อีกครั้ง หลังหยุดยิงไปหลายเดือน ขีดเส้นตายให้บริษัทน้ำมันอพยพเจ้าหน้าที่ออกจากพื้นที่ภายใน 48 ชั่วโมง และล่าสุดโจมตีเรือสินค้าลำหนึ่งและจับลูกเรือต่างชาติ 15 คนเป็นตัวประกัน
 
ขบวนการปลดปล่อยสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ หรือเอ็มอีเอ็นดี ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในไนจีเรีย เพิ่มเวลาเป็น 48 ชั่วโมงกำหนดเส้นตายให้บรรดาบริษัทน้ำมันต่างชาติในบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ อพยพเจ้าหน้าที่ออกไป และขู่ปฏิบัติการโจมตีเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินหลังจากผ่านเส้นตาย โดยแหล่งข่าวความมั่นคงที่ทำให้บริษัทน้ำมันและก๊าซยักษ์ใหญ่ของแอฟริกา ระบุว่า พวกเขาได้รับคำขู่จากกลุ่มหัวรุนแรงติดอาวุธอย่างจริงจัง แต่ยังไม่มีแผนการอพยพเจ้าหน้าที่
 
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เอ็มอีเอ็นดีสั่งให้คนงานบริษัทน้ำมันในไนจีเรีย ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในแอฟริกา อพยพออกจากสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากมีการปะทะกันอย่างหนักระหว่างเอ็มอีเอ็นดีและกองกำลังรักษาความมั่นคง โดยกลุ่มเอ็มอีเอ็นดีระบุว่า ได้บุกจู่โจมฐานทัพทหาร 2 แห่งในพื้นที่บ่อน้ำมันทางตอนใต้ของประเทศเมื่อคืนที่ผ่านมา การบุกเกิดขึ้นหลังจากปะทะกับทหารเมื่อเช้าวันพุธ ซึ่งกลุ่มติดอาวุธอ้างว่า ได้จมเรือปืนของกองทัพไป 2 ลำและทหารฝ่ายรัฐบาลได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
 
อย่างไรก็ตาม กลุ่มติดอาวุธเอ็มอีเอ็นดี ได้เริ่มอาละวาดอย่างจริงจังตามคำขู่เมื่อเช้าวันพฤหัสบดี โดยได้โจมตีฐานทัพทหาร 2 แห่ง และทำลายเรือปืน 5 ลำ แต่เจ้าหน้าที่กองทัพของรัฐบาลยังไม่ได้ออกมาแถลงเกี่ยวกับเหตุการณ์  ดังกล่าว นอกจากนี้ กลุ่มติดอาวุธยังได้ปล้นเรือสินค้าเอ็มวี สปิริต ในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ และจับลูกเรือชาวต่างชาติ 15 คนเป็นตัวประกัน
 
เหตุการณ์รุนแรงในบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ เงียบสงบเป็นเวลาหลายเดือนติดต่อกัน หลังจากกลุ่มติดอาวุธประกาศหยุดยิงแต่เพียงฝ่ายเดียว ภายหลังก่อเหตุโจมตีบริษัทน้ำมันที่เข้ามาลงทุนในภาคใต้ของประเทศ ความขัดแย้งดังกล่าว ซึ่งกลุ่มติดอาวุธต่อสู้และลักพาตัวคนงานต่างชาติหลายร้อยคนเพื่อเรียกค่าไถ่ ทำให้การผลิตน้ำมันของไนจีเรียลดลงไปถึง 1 ใน 4.

อ่านต่อที่ : กลุ่มติดอาวุธไนจีเรียคืนชีพขู่โจมตีบริษัทนํ้ามัน

ตั้งสนง.ตำรวจอาเซียนที่มาเลย์ร่วมมือปราบปรามอาชญากรรม พฤษภาคม 15, 2009

ตั้งสนง.ตำรวจอาเซียนที่มาเลย์ร่วมมือปราบปรามอาชญากรรม

สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เตรียมตั้งสำนักงานตำรวจอาเซียน (Aseanapol) ในมาเลเซีย เพื่อกระชับความร่วมมือในด้านความมั่นคงและการปราบปรามอาชญากรของภูมิภาค

โดยสำนักงานตำรวจอาเซียนถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมความร่วมมือของตำรวจในภูมิภาค หลังจากที่มีแต่เพียงแค่การประชุมระดับผู้บัญชาการตำรวจของอาเซียนเท่านั้น ด้าน นายไฮชามมุดดิน ฮุสเซน รมว.มหาดไทยมาเลเซียกล่าวว่า สำนักงานตำรวจอาเซียนจะรับภาระในการควบคุมการก่ออาชญากรรมในภูมิภาค โดยเฉพาะการค้ายาเสพติดและการลักลอบค้ามนุษย์ 
 
ซึ่งการตั้งสำนักงานตำรวจอาเซียนไม่เพียงแต่ช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานความมั่นคงขององค์กรแล้ว ยังเป็นการยกระดับอาเซียนสู่ภูมิภาค นอกจากนี้ นายไฮชาม  มุดดิม ยังกล่าวถึงกรณีที่นายมาส เซลามัต บิน คาสตารี ผู้นำกลุ่มเจมาห์ อิสลามิยาห์ (เจไอ) ประจำสิงคโปร์ ที่ถูกจับกุมได้ในมาเลเซียเมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากหลบหนีจากเรือนจำสิงคโปร์มาเป็นเวลาปีกว่า เป็นเพราะการให้ความร่วมมือในด้านข้อมูลระหว่างสิงคโปร์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ทำให้ตำรวจมาเลเซียสามารถจับกุมนายมาส เซลามัต ได้ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างไกลผู้คนในรัฐยะโฮร์ ทางภาคใต้ของประเทศ
 
ขณะที่หน่วยตำรวจของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้ส่งมอบพื้นที่ควบคุมแห่งหนึ่งให้แก่ตำรวจติมอร์ตะวันออก ประเทศน้องใหม่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อวันพฤหัสบดีเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เกิดเหตุรุนแรงถึงขั้นนองเลือด ทำให้ติมอร์ฯ ตกสู่ภาวะสงครามกลางเมืองเมื่อปี 2549 ยูเอ็นระบุว่า การส่งมอบพื้นที่แรกเกิดขึ้นในเขตลาเต็มทางตะวันออกไกลของติมอร์ฯ แต่ตำรวจยูเอ็นจะยังคอยให้ความช่วยเหลือและปกป้องสิทธิมนุษยชน.

อ่านต่อที่ : ตั้งสนง.ตำรวจอาเซียนที่มาเลย์ร่วมมือปราบปรามอาชญากรรม

รุมตำหนิทหารผ่านศึกมะกันสร้างปัญหาให้”ซูจี” พฤษภาคม 15, 2009

รุมตำหนิทหารผ่านศึกมะกันสร้างปัญหาให้”ซูจี”

คมชัดลึก :หลายฝ่ายรุมตำหนิอดีตนทหารผ่านศึกชาวอเมริกันว่าสร้างปัญหาให้”ออง ซาน ซูจี” นำฝ่ายค้านพม่า

(15พ.ค.) นายคยี วิน หัวหน้าทีมทนายความของนางออง ซาน ซูจี ผู้นำฝ่ายค้านพม่า ตำหนินายจอห์น วิลเลี่ยม แย็ททอว์ อดีตทหารผ่านศึกเวียดนามชาวอเมริกันวัย 53 ปี เมื่อวันพหัสบดีว่าเป็น”คนโง่” (Fool) หลังจากเขาได้ว่ายน้ำข้ามทะเลสาปเข้าไปที่บ้านของนางซูจีในนครย่างกุ้ง และพักอยู่ที่นั่นโดยไม่ได้รับเชิญนานสองวัน ถ่ายภาพตนเองขณะอยู่ที่นั่น ก่อนจะถูกจับได้ระหว่างว่ายน้ำกลับเข้าฝั่ง ส่งผลให้รัฐบาลทหารพม่าตั้งข้อหานางซูจี เมื่อวันพฤหัสบดีว่า ละเมิดเงื่อนไขในการควบคุมตัวเธอไว้ที่บ้านพัก และย้ายเธอไปคุมขังที่เรือนจำอินเส่งในนครย่างกุ้ง สร้างความไม่พอใจไปทั่วโลก

 กลุ่มทนายความของนางซูจียืนยันก่อนหน้านี้ว่านางซูจีได้ขอให้นายแย็ททอว์กลับออกจากบ้านของเธอ แต่เธอก็สงสารเขา ขณะที่ทนายความคนหนึ่งเปิดเผยว่า นายแย็ททอว์ได้ถูกทางพม่าตั้งข้อหาละเมิดกฏหมายความมั่นคงและคนเข้าเมืองของพม่า หลังจากเดินทางเข้าพม่าด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว ก่อนแอบว่ายน้ำไปที่บ้านของนางซูจี

 หนังสือพิมพ์ฝ่ายค้าน”อิระวดี”เรียกเขาว่าเป็น”สทอคเกอร์” (a “stalker” ) ซึ่งหมายถึงผู้ที่คลั่งไคล้และเฝ้าติดตามคนดังที่ตนชื่นชอบ “อิระวดี”ระบุว่า เขาคือกรณีล่าสุดของนักประท้วงชาวตะวันตกผู้ไม่รู้เดียงสา ที่สร้างปัญหามากกว่าผลดีให้กับแนวร่วมประชาธิปไตยในพม่า เย็ททอว์ได้บอกกับกลุ่มชาวพม่าลี้ภัยในไทยว่า เขากำลังแต่งหนังสือจากความเชื่อเรื่อง”ความกล้าหาญ” ซึ่งอิระวดีสรุปว่าเขาคือคนเพี้ยนที่ลุยเดี่ยวทำเรื่องนี้.ขณะที่กลุ่มรณรงค์ในสหรัฐฯเพื่อพม่า ( US Campaign for Burma ) ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ตำหนินายแย็ททอว์ว่า ไม่คิดให้รอบคอบถึงแผนการและผลกระทบที่จะตามมาจากการลักลอบเข้าไปในบ้านพักของนางซูจี 

 รายละเอียดเกี่ยวกับนายแย็ททอว์ บ่งชี้ว่า เขาเรียนจบด้านจิตวิทยา และไปจากหมู่บ้านเล็กๆในรัฐมิสซูรี่ เป็นผู้นับถือนิกายมอร์มอนที่มีบุตร 7 คนจากการแต่งงานหลายครั้ง บุตรชายคนหนึ่งซึ่งมีวัย 17 ปีเสียชีวิตเมื่อ  2 ปีก่อนจากอุบัติเหตุเกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์เขาอายุ 19 ปีตอนที่คอมมิวนิสต์เวียดนามเหนือบุกเข้ายึดกรุงไซง่อนได้ เขามีมุมมองโลกแบบเฟ้อฝัน และคิดว่าสิ่งที่ตนเองทำไปเป็นการช่วยเหลือนางซูจี มีรายงานข่าวด้วยว่าเขาเป็นโรคเบาหวาน

อ่านต่อที่ : รุมตำหนิทหารผ่านศึกมะกันสร้างปัญหาให้”ซูจี”

09:03 น. WHOระบุไม่พบหลักฐานว่าหวัด 2009 เกิดจากความผิดพลาดในห้องแลป พฤษภาคม 15, 2009

09:03 น. WHOระบุไม่พบหลักฐานว่าหวัด 2009 เกิดจากความผิดพลาดในห้องแลป

15 พค. 2552 09:03 น.

นายเคอิจิ ฟูคูดะ เจ้าหน้าที่ระดับสูงขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO แถลงที่นครเจนีวาของสวิสเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ไม่พบหลักฐานที่สนับสนุนทฤษฏี ในรายงานที่นักวิทยาศาสตร์ชาวออสเตรเลีย ชื่อนายเอเดรียน กิบส์ ได้เสนอต่อ WHO เมื่อวันเสาร์ที่ว่าที่ว่า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ปี 2009 หรือ ไวรัสไข้หวัดใหญ่เอ เอช 1 เอ็น 1 ได้ถูกสร้างขึ้นในห้องแลป ระหว่างความพยายามที่จะผลิตวัคซีนป้องกันโรค
เขากล่าวด้วยว่า นักวิทยาศาสตร์ของ WHO ได้ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบทฤษฎีนี้และเชื่อว่าไม่เป็นความจริง มีความเป็นไปได้มากกว่าที่ว่าไวรัสชนิดนี้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่กรณีนี้ก็นับเป็นตัวอย่างที่ดีของการร่วมมือกันข้ามพรมแดนของประเทศต่างๆ และนักวิทยาศาสตร์ยังได้ใช้ประโยชน์จากการที่เทคโนโลยีใหม่ๆ ช่วยให้มีการแบ่งปันข้อมูลระหว่างกันได้ดีกว่าในอดีต พร้อมย้ำด้วยว่า จนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าไวรัสชนิดนี้มีอาการดื้อยาต้านไวรัสที่ใช้อยู่
ในวันเดียวกัน บริษัทผู้ผลิตวัคซีนและกลุ่มผู้เชี่ยวชาญอิสระ ประชุมร่วมกันที่ WHO ในนครเจนีวา เพื่อหารือเกี่ยวกับการตัดสินใจในประเด็นต่างๆ ก่อนเร่งผลิตวัคซีนที่จะใช้ป้องกันโรคนี้ ซึ่งรวมทั้งการตัดสินใจว่าเมื่อใดจึงสมควรจะเปลี่ยนการผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ธรรมดา มาเป็นวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่อาจระบาดไปทั่วโลก อย่างในปัจจุบัน ผลที่ได้จากการประชุมจะส่งต่อถึงนางมาร์กาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการ WHO ผู้คาดว่าจะออกคำแนะนำในเรื่องนี้ในสัปดาห์หน้า

อ่านต่อที่ : 09:03 น. WHOระบุไม่พบหลักฐานว่าหวัด 2009 เกิดจากความผิดพลาดในห้องแลป

08:40 น. องค์การนิรโทษกรรมสากล ร้อง UN, ASEAN กดดันพม่าปล่อย”ซูจี” พฤษภาคม 15, 2009

08:40 น. องค์การนิรโทษกรรมสากล ร้อง UN, ASEAN กดดันพม่าปล่อย”ซูจี”

15 พค. 2552 08:40 น.

องค์การนิรโทษกรรมสากลออกมาเรียกร้องที่กรุงลอนดอนของอังกฤษเมื่อวันพฤหัสบดี ให้สหประชาชาติ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง จีน ญี่ปุ่น กับสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ใช้อิทธิพลกดดันพม่าให้ปล่อยตัวนางอองซาน ซูจี ผู้นำเรียกร้องประชาธิปไตยในพม่าโดยเร็วที่สุด และว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติต้องเข้าแทรกแซง หลังจากนางซูจีถูกย้ายจากการควบคุมตัวที่บ้านพักไปคุมขังที่เรือนจำอินเส่งในนครย่างกุ้ง พร้อมถูกตั้งข้อหาละเมิดเงื่อนไขของการถูกควบคุมตัวที่บ้านพัก หลังจากชาวอเมริกันคนหนึ่งแอบว่ายน้ำไปพักอยู่ที่บ้านของเธอ และถูกจับได้ขณะว่ายน้ำกลับเข้าฝั่ง
นายเบนจามิน ซาแวคกี ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับพม่าขององค์การนิรโทษกรรมสากล ระบุว่ารัฐบาลทหารพม่าจะต้องปล่อยตัวนางซูจีทันที และไม่ใช่นำตัวเธอกลับไปควบคุมตัวไว้ที่บ้านพัก เขาเน้นด้วยว่าปัจจุบัน หญิงรับใช้สองคนที่บ้านของนางซูจี คือนางขิ่นขิ่น วินกับบุตรสาว และนายแพทย์ทิน เมียว วิน แพทย์ประจำตัวของเธอ ได้รวมอยู่ในกลุ่มนักโทษการเมืองมากกว่า 2,100 คนที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือจำของพม่าด้วยแล้ว ซึ่งพวกเขาเสี่ยงที่จะถูกทรมาณ และได้รับการปฏิบัติไม่ดีต่างๆ รวมทั้งสภาพในเรือนจำพม่าก็แย่มาก ส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้ต้องโทษ
นาซาแวคกีย้ำว่า หากนานาชาติไม่ร่วมใจกันเรียกร้อง รัฐบาลพม่าจะยังคงมีพฤติกรรมเมินเฉยเรื่องสิทธิมนุษยชนต่อไป จึงมีความจำเป็นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ที่คณะมนตรีความมั่นคงฯกับชาติสมาชิกอาเซียน จะต้องส่งสัญญานที่ชัดเจน ไปถึงบรรดานายพลของพม่าว่า พวกเขาไม่อาจมีพฤติกรรมแบบเดิม โดยไม่ต้องรับโทษอีกต่อไปแล้ว

อ่านต่อที่ : 08:40 น. องค์การนิรโทษกรรมสากล ร้อง UN, ASEAN กดดันพม่าปล่อย”ซูจี”