ข่าว ในประเทศไทย

09:09 น. WHOระบุผู้ติดเชื้อหวัด2009 พุ่ง6,497 ราย ยอดตาย65 พฤษภาคม 15, 2009

09:09 น. WHOระบุผู้ติดเชื้อหวัด2009 พุ่ง6,497 ราย ยอดตาย65

15 พค. 2552 09:09 น.

องค์การอนามัยโลก เผย พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทั่วโลก 6,497 รายใน 33 ประเทศกับอีก 1 เขตปกครองพิเศษ คือ เม็กซิโก สหรัฐอเมริกา แคนาดา สเปน สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี นิวซีแลนด์ อิสราเอล อิตาลี บราซิล เกาหลีใต้ เนเธอร์แลนด์ ญี่ปุ่น เอลซัลวาดอร์ ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ โคลอมเบีย สวีเดน คอสตาริกา เดนมาร์ก กัวเตมาลา ไอร์แลนด์ โปแลนด์ โปรตุเกสอาร์เจนตินา ปานามา นอร์เวย์ จีน ออสเตรเลีย คิวบา ฟินแลนด์ ไทย และเขตปกครองพิเศษฮ่องกง
ส่วนยอดผู้เสียชีวิต มี 65 ราย เป็นผู้เสียชีวิตในเม็กซิโก 60 ราย ในสหรัฐฯ 3 ราย ในแคนาดาและคอสตาริกา อีกชาติละราย โดยสหรัฐฯ เป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด คือ 3,352 ราย
อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลก ยังไม่ได้รวมข้อมูลจากทางการเบลเยียม ที่ระบุว่า พบผู้ติดเชื้อแล้ว2 ราย ซึ่งทำให้เบลเยียมกลายเป็นชาติที่ 34 ที่พบผู้ติดเชื้อชนิดนี้
ด้านบริษัทผลิตยารายใหญ่ของโลก เริ่มวางแผนพัฒนาวัคซีนป้องกันไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปอดบวมและอาการเจ็บป่วยอื่นๆ มากกว่าไข้หวัดตามฤดูกาลทั่วไป โดยเจ้าหน้าที่ด้านยาและนักวิทยาศาสตร์จะประชุมร่วมกันที่องค์การอนามัยโลก เพื่อพิจารณาว่าจะเริ่มกระบวนการผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่หรือไม่และเมื่อใด ขณะเดียวกัน บริษัทผลิตยาก็กำลังรอข้อมูลความรุนแรงของไวรัสดังกล่าว เพื่อพิจารณาว่าจะเริ่มผลิตวัคซีนได้เร็วสุดเมื่อใด
มารี-พอล เคนี ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยวัคซีนขององค์การอนามัยโลก กล่าวว่า การผลิตวัคซีนป้องกันไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่อาจเริ่มขึ้นหลังจากที่บริษัทผลิตยาผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดทั่วไปเสร็จเรียบร้อยแล้ว
อ่านต่อที่ : 09:09 น. WHOระบุผู้ติดเชื้อหวัด2009 พุ่ง6,497 ราย ยอดตาย65

09:03 น. WHOระบุไม่พบหลักฐานว่าหวัด 2009 เกิดจากความผิดพลาดในห้องแลป พฤษภาคม 15, 2009

09:03 น. WHOระบุไม่พบหลักฐานว่าหวัด 2009 เกิดจากความผิดพลาดในห้องแลป

15 พค. 2552 09:03 น.

นายเคอิจิ ฟูคูดะ เจ้าหน้าที่ระดับสูงขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO แถลงที่นครเจนีวาของสวิสเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ไม่พบหลักฐานที่สนับสนุนทฤษฏี ในรายงานที่นักวิทยาศาสตร์ชาวออสเตรเลีย ชื่อนายเอเดรียน กิบส์ ได้เสนอต่อ WHO เมื่อวันเสาร์ที่ว่าที่ว่า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ปี 2009 หรือ ไวรัสไข้หวัดใหญ่เอ เอช 1 เอ็น 1 ได้ถูกสร้างขึ้นในห้องแลป ระหว่างความพยายามที่จะผลิตวัคซีนป้องกันโรค
เขากล่าวด้วยว่า นักวิทยาศาสตร์ของ WHO ได้ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบทฤษฎีนี้และเชื่อว่าไม่เป็นความจริง มีความเป็นไปได้มากกว่าที่ว่าไวรัสชนิดนี้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่กรณีนี้ก็นับเป็นตัวอย่างที่ดีของการร่วมมือกันข้ามพรมแดนของประเทศต่างๆ และนักวิทยาศาสตร์ยังได้ใช้ประโยชน์จากการที่เทคโนโลยีใหม่ๆ ช่วยให้มีการแบ่งปันข้อมูลระหว่างกันได้ดีกว่าในอดีต พร้อมย้ำด้วยว่า จนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าไวรัสชนิดนี้มีอาการดื้อยาต้านไวรัสที่ใช้อยู่
ในวันเดียวกัน บริษัทผู้ผลิตวัคซีนและกลุ่มผู้เชี่ยวชาญอิสระ ประชุมร่วมกันที่ WHO ในนครเจนีวา เพื่อหารือเกี่ยวกับการตัดสินใจในประเด็นต่างๆ ก่อนเร่งผลิตวัคซีนที่จะใช้ป้องกันโรคนี้ ซึ่งรวมทั้งการตัดสินใจว่าเมื่อใดจึงสมควรจะเปลี่ยนการผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ธรรมดา มาเป็นวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่อาจระบาดไปทั่วโลก อย่างในปัจจุบัน ผลที่ได้จากการประชุมจะส่งต่อถึงนางมาร์กาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการ WHO ผู้คาดว่าจะออกคำแนะนำในเรื่องนี้ในสัปดาห์หน้า

อ่านต่อที่ : 09:03 น. WHOระบุไม่พบหลักฐานว่าหวัด 2009 เกิดจากความผิดพลาดในห้องแลป

WHOปัดหวัด 2009 เกิดในห้องแล็บ ยันมาจากธรรมชาติ พฤษภาคม 15, 2009

WHOปัดหวัด 2009 เกิดในห้องแล็บ ยันมาจากธรรมชาติ

WHOปัดหวัด 2009 เกิดในห้องแล็บ ยันมาจากธรรมชาติ

นายเคอิจิ ฟูคูดะ เจ้าหน้าที่ระดับสูงขององค์การอนามัยโลก แถลงที่นครเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ว่า ไม่พบหลักฐานที่สนับสนุนทฤษฏี ในรายงานที่นักวิทยาศาสตร์ชาวออสเตรเลีย ชื่อนายเอเดรียน กิบส์ ได้เสนอต่อองค์การอนามัยโลกว่า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ปี 2009 ถูกสร้างขึ้นในห้องทดลองระหว่างความพยายาม ในการผลิตวัคซีนป้องกันโรค

นายฟูคูดะ กล่าวว่า นักวิทยาศาสตร์ขององค์การอนามัยโลกได้ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบทฤษฎีนี้และเชื่อว่าไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้มากกว่าที่ไวรัสชนิดนี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม กรณีนี้เป็นตัวอย่างที่ดีในการร่วมมือกันข้ามพรมแดน และนักวิทยาศาสตร์ยังได้ใช้ประโยชน์จากการที่เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อแบ่งปันข้อมูลระหว่างกันได้ดีกว่าในอดีต พร้อมย้ำด้วยว่า จนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าไวรัสชนิดนี้มีอาการดื้อยาต้านไวรัสที่ใช้อยู่

วันเดียวกัน บริษัทผู้ผลิตวัคซีนและกลุ่มผู้เชี่ยวชาญอิสระ ประชุมร่วมกันที่องค์การอนามัยโลก เพื่อหารือตัดสินใจในประเด็นต่างๆ ก่อนเร่งผลิตวัคซีนที่จะใช้ป้องกันโรคนี้ ซึ่งรวมทั้งการตัดสินใจว่า เมื่อใดจึงสมควรเปลี่ยนการผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ธรรมดา มาเป็นวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ที่อาจระบาดไปทั่วโลกอย่างในปัจจุบัน

อ่านต่อที่ : WHOปัดหวัด 2009 เกิดในห้องแล็บ ยันมาจากธรรมชาติ

สธ.ปัดซื้อยาต้าน”หวัด2009″แต่อาจซื้อวัคซีนหวัดใหญ่เพิ่ม พฤษภาคม 14, 2009

สธ.ปัดซื้อยาต้าน”หวัด2009″แต่อาจซื้อวัคซีนหวัดใหญ่เพิ่ม

สธ.ปัดซื้อยาต้าน"หวัด2009"แต่อาจซื้อวัคซีนหวัดใหญ่เพิ่ม

นพ.มล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณะสุข (สธ.) กล่าววันนี้  (14 พ.ค.) ถึงแนวทางการผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ชนิดเอ /เอช1 เอ็น 1 ว่า จนถึงขณะนี้คณะกรรมการด้านวัคซีนขององค์การอนามัยโลกยังไม่ได้ประกาศให้ ทำการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เนื่องจากการศึกษาแกะรอยเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ยังทำได้เพียง 60%  ไม่เพียงพอต่อการเริ่มต้นผลิตวัคซีน เพราะการผลิตวัคซีนได้จะต้องทราบองค์ประกอบของเชื้อไวรัสครบ 100% จากข้อมูลขณะนี้ยังไม่มีบริษัทยาใดประกาศว่าจะผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัด ใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 กรณีมีการระบุว่าประเทศไทยจะสั่งซื้อวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในขณะนี้ จึงเป็นข่าวที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง กรมควบคุมโรคอาจเพิ่มการสั่งซื้อวัคซีนไข้หวัดธรรมดากว่า 1.4 ล้านโดส

อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวด้วยว่า ในส่วนของวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลปกติ ขณะนี้ยังไม่มีการสั่งซื้อ ต้องรอให้คณะกรรมการด้านวัคซีนขององค์การอนามัยโลกประกาศสายพันธุ์ของไวรัส ที่จะระบาดในปี 2553 ออกมาก่อน จึงจะมีการกำหนดนโยบายว่าจะสั่งซื้อวัคซีนชนิดใด เป็นจำนวนเท่าใด คาดว่าประเทศไทยจะสั่งซื้อวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฤดูกาลปกติทั้งหมด 2.2 ล้านโด๊ส สำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยงและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและปศุสัตว์ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ใช้เพียง 8 แสนโด๊ส

อ่านต่อที่ : สธ.ปัดซื้อยาต้าน”หวัด2009″แต่อาจซื้อวัคซีนหวัดใหญ่เพิ่ม