jump to navigation

ไขปริศนา”สนธิ ลิ้มทองกุล”เคยเป็น “บุคคลล้มละลาย”ต้องห้ามนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคพันธมิตรฯหรือไม่ พฤษภาคม 27, 2009

Posted by 1000thainews in ทั่วไป.
Tags: ,
add a comment

ไขปริศนา”สนธิ ลิ้มทองกุล”เคยเป็น “บุคคลล้มละลาย”ต้องห้ามนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคพันธมิตรฯหรือไม่

ไขปริศนา"สนธิ ลิ้มทองกุล"เคยเป็น "บุคคลล้มละลาย"ต้องห้ามนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคพันธมิตรฯหรือไม่

ถ้าเป็น"บุคคลล้มละลายโดยทุจริต" พ.ร.บ.ล้มละลายฯบัญญัติให้ขยายระยะเวลาเป็นบุคคลล้มละลายเป็น 10 ปี เมื่อนายสนธิ ถูกปลดพ้นจากบุคคลล้มลายเมื่อพ้นกำหนด 3 ปีนับแต่มีคำพิพากษา จึงมิใช่"บุคคลล้มละลายโดยทุจริต" ไม่เข้าเงื่อนไขการมีลักษณะต้องห้ามเป็นกรรมการบริหารพรรค

มีการตั้งคำถามว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.)ซึ่งเคยเป็น”บุคคลล้มละละลาย”จะเป็นหัวหน้าพรรคหรือกรรมการบริหารพรรคพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.)ได้หรือไม่

ก่อนตอบคำถามดังกล่าว ต้องเปิดดู พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2550 กำหนด ลักษณะต้องห้ามของกรรมการบริหารพรรคการเมืองไว้ข้อหนึ่งว่า  “เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต”(มาตรา 11)

นายสนธิ ลิ้มทองกุล ถูกศาลล้มละลายกลาง พิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลายเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2543 (ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 118 ตอนที่ 17 ง วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2544)

 

พ้นจากการเป็นบุคคลล้มลายตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2546 เนื่องจากครบกำหนด 3 ปีนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาให้ล้มละลาย จึงพ้นจากบุคคลล้มละลายตาม  พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 35(ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 120 ตอนที่ 111ง วันที่ 30 ธันวาคม 2546)

ดังนั้น นายสนธิ จึงผ่านเงื่อนไขแรกคือ ไม่ได้เป็นบุคคลล้มละลาย สามารถ เป็นกรรมการบริหารพรรคได้

แต่ยังมีเงื่อนไขที่สองคือ”เคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต”

ประเด็นนี้อต้องมาดูนิยมของคำว่า “บุคคลล้มละลายโดยทุจริต”ใน พ.ร.บ.ล้มละลายฯซึ่งให้ความหมายว่า บุคคลล้มละลายที่ถูกศาลพิพากษาว่า มีความผิดตามมาตรา 163 ถึง มาตรา 170  แห่ง พ.ร.บ.นี้หรือเป็นบุคคลล้มละลายอันเนื่องมากจากหรือเกี่ยวกับการกระทำความผิดฐานยักยอกหรือฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาหรือการกระทำความผิดอันมีลักษณะ เป็นการกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชนตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน

การกระทำความผิดตามมาตรา 163-170 ตามนิยามดังกล่าว มีสาระสำคัญคือ การยักย้าย ซุกซ่อน ทำลายทรัพย์สิน แจ้งเท็จหรือทำบัญชีเท็จ  รับสินเชื่อจากบุคคลอื่นด้วยอุบายหลอกลวง ฉ้อฉลหรือให้สินบนเจ้าหนี้เพื่อประนอมหนี้ฯลฯ

ตาม พ.ร.บ.ล้มลายละลายฯ”บุคคล(ธรรมดา)ล้มละลาย” จะพ้นจากการเป็นบุคคลล้มละลายทันทีที่พ้นกำหนดระยะเวลา 3 ปีนับแต่วันที่ศาลได้พิพากษาให้ล้มละลาย(มาตรา 81/1)

แต่ถ้าเป็น”บุคคลล้มละลายโดยทุจริต”  พ.ร.บ.ล้มละลายฯบัญญัติให้ขยายระยะเวลาเป็นบุคคลล้มละลายเป็น 10 ปี(มาตรา 81/1(2))

ดังนั้น เมื่อนายสนธิ ถูกปลดพ้นจากบุคคลล้มลายเมื่อพ้นกำหนด 3 ปีนับแต่มีคำพิพากษา(ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 120 ตอนที่ 111ง วันที่ 30 ธันวาคม 2546)

นายสนธิจึงมิใช่”บุคคลล้มละลายโดยทุจริต” ไม่เข้าเงื่อนไขการมีลักษณะต้องห้ามเป็นกรรมการบริหารพรรคตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2550

นายสนธิ จึงเป็นหัวหน้าหรือกรรมการบริหารพรรคพันธมิตรฯได้

 

 

 

 

อ่านต่อที่ : ไขปริศนา”สนธิ ลิ้มทองกุล”เคยเป็น “บุคคลล้มละลาย”ต้องห้ามนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคพันธมิตรฯหรือไม่

บริษัทญี่ปุ่นล้มละลายพุ่ง9.4% เอเชียอ่วมพิษศก.กระทบแรงขึ้น พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in ต่างประเทศ.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

บริษัทญี่ปุ่นล้มละลายพุ่ง9.4% เอเชียอ่วมพิษศก.กระทบแรงขึ้น

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานโดยอ้าง โตเกียว โชโก รีเสิร์ช บริษัทวิจัยในญี่ปุ่นวานนี้ว่า บริษัทและองค์กรในญี่ปุ่นได้ยื่นหนังสือขอสิทธิคุ้มครองการล้มละลายต่อศาลล้มละลายเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 11 แล้ว ในเดือนเม.ย. โดยอัตราการล้มละลายของบริษัทในญี่ปุ่นพุ่งขึ้นถึง 9.4% หรือที่จำนวน 1,329 คดี เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา

บริษัทต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทขนาดเล็กยังคงประสบปัญหาอย่างหนัก ในการระดมทุน เนื่องจากขาดแคลน ความต้องการซื้อ” การอาสึสะ คาโต นักเศรษฐศาสตร์จากบีเอ็นพี ปารีบาส ในกรุงโตเกียว กล่าว

“ความกังวลอย่างมากในครั้งนี้อยู่ที่การยื่นหนังสือขอการคุ้มครองล้มละลายที่เพิ่มสูงขึ้นนั้นจะยิ่งทำให้อัตราการว่างงานสูงขึ้น และส่งผลกระทบต่อความสามารถของผู้บริโภคเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ” คาโต กล่าวเสริม

ด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ออกโรงเตือนองค์กรธุรกิจ ในเอเชียในทิศทางเดียวกันว่า วิกฤตเศรษฐกิจโลกกำลังโจมตีระบบเศรษฐกิจ ในเอเชียด้วยความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และทำให้ขณะนี้เอเชียได้กลายเป็นภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจหนักที่สุดแห่งหนึ่งในโลกแล้ว

“ความเสี่ยงขององค์กรธุรกิจต่างๆ นั้นสูงขึ้นเรื่อยๆ และดัชนีชี้วัดด้านการตลาดได้แสดงให้เห็นถึงสัญญาณเตือนภัยแล้ว” ทาคาโตชิ คาโต รองผู้อำนวยการจัดการไอเอ็มเอฟกล่าวระหว่างร่วมงานประชุมสภาความร่วมมือทางธุรกิจแปซิฟิกประจำปีในกรุงวอชิงตัน สหรัฐ

ผู้แทนจากไอเอ็มเอฟ ระบุว่า บริษัทขนาดใหญ่ในเอเชียกำลังเจอชะตากรรมเช่นเดียวกับบริษัทขนาดใหญ่ในสหรัฐ ที่ในช่วงก่อนหน้านี้มีสถานะทางการเงิน ที่แข็งแกร่ง ทว่า เมื่อความต้องการของ ผู้บริโภคลดลง บริษัทเหล่านั้นก็ได้พบกับแรงกดดันให้ต้องลดกิจกรรมในบริษัท รวมทั้งการลดค่าใช้จ่าย

ทั้งนี้ ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ว่า บริษัทและองค์กรต่างๆ ในเอเชียจะพยายามหาทางรอดด้วยการแบ่งแยกส่วนการบริหารงานผ่านการควบรวมกิจการมากขึ้น และในระยะสั้นเชื่อว่าบริษัทต่างๆ จะใช้วิธีการปรับโครงสร้างพนักงานในบริษัท หากสถานการณ์ดังกล่าวยังคงดำเนินต่อไป

อ่านต่อที่ : บริษัทญี่ปุ่นล้มละลายพุ่ง9.4% เอเชียอ่วมพิษศก.กระทบแรงขึ้น

จีเอ็มส่อปิดตำนาน74ปีในดาวโจนส์ พฤษภาคม 13, 2009

Posted by 1000thainews in ข่าวด่วน.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

จีเอ็มส่อปิดตำนาน74ปีในดาวโจนส์

จอห์น เพรสท์โบ ผู้บริหารบริษัท Dow Jones Indexes เปิดเผยว่า หุ้นของบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) อาจถูกถอนออกจากการซื้อขายในดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เนื่องจากจีเอ็มมีความเสี่ยงที่จะล้มละลาย หรือถูกปรับโครงสร้างองค์กร ซึ่งหมายความว่ามูลค่าหุ้นหรือกลุ่มผู้ถือหุ้นของจีเอ็มต้องสิ้นสุดลงไปด้วย หลังจากหุ้นจีเอ็มเข้าเทรดในดัชนีดาวโจนส์มานานเกือบ 74 ปี
          
ราคาหุ้นจีเอ็มทรุดตัวลงกว่า 93% ในปีที่แล้ว หลังจากจีเอ็มประสบปัญหาทางการเงินจนต้องขอรับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลราว 1.54 หมื่นล้านดอลลาร์และได้ขอเพิ่มทุนอีก 1.16 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อไม่นานมานี้
          
\”จีเอ็มมีแค่ 2 ทางเลือก คือปล่อยให้ตัวเองล้มละลาย หรือ ยอมให้รัฐบาลเข้ามาเทคโอเวอร์ แต่ทั้ง 2 ทางเลือกล้วนแต่เป็นปัจจัยลบต่อหุ้นของจีเอ็มที่เข้าเทรดในดัชนีดาวโจนส์ ซึ่งผมประเมินว่าท้ายที่สุดแล้วหุ้นจีเอ็มจะต้องถูกถอนออกจากการซื้อขายในดัชนีดาวโจนส์\” เพรสท์โบกล่าว
          
นักวิเคราะห์โพลล์บลูมเบิร์กคาดว่า จีเอ็มอาจมีตัวเลขขาดทุนไตรมาสแรก 11.34 ดอลลาร์หุ้น หรือเทียบเท่าประมาณ 6.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับที่ขาดทุนสุทธิ 5.74 ดอลลาร์/หุ้น หรือ 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยขณะนี้จีเอ็มมียอดขาดทุนแล้ว 8.2 หมื่นล้านดอลลาร์นับตั้งแต่ปีพ.ศ.2547
          
อย่างไรก็ตาม จูเลีย กิบสัน โฆษกของจีเอ็ม ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน    

อ่านต่อที่ : จีเอ็มส่อปิดตำนาน74ปีในดาวโจนส์

ศาลสหรัฐตัดสินปูทางควบรวมเฟียต-ไครสเลอร์ พฤษภาคม 13, 2009

Posted by 1000thainews in ทั่วไป.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

ศาลสหรัฐตัดสินปูทางควบรวมเฟียต-ไครสเลอร์

ผู้พิพากษาศาลล้มละลายของสหรัฐในนครนิวยอร์ก มีคำตัดสินที่เป็นการปูทางไปสู่การควบรวมระหว่างเฟียต บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชื่อดังของอิตาลีกับไครสเลอร์ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของสหรัฐที่กำลังประสบปัญหาทางการเงินอย่างรุนแรง
 
หลังจากการพิจารณาของศาลเกือบ 8 ชั่วโมงเมื่อวันอังคาร ในที่สุด ผู้พิพากษาอาเธอร์  กอนซาเลส ปฏิเสธข้อโต้แย้งจากกลุ่มผู้บริหารของไครสเลอร์ที่ระบุว่า แผนการปรับโครงสร้างบริษัทที่รัฐบาลสหรัฐให้การสนับสนุนนั้นผิดกฎหมาย แต่ผู้พิพากษากอนซาเลส บอกว่า แผนการปรับโครงสร้างดังกล่าวมีความยุติธรรมและ เป็นไปตามปกติ และการตัดสินของศาล ทำให้เฟียตสามารถเข้ากอบกู้ไครสเลอร์ไม่ให้ล้มตาม  ข้อตกลงที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาให้การสนับสนุน
 
นอกจากนี้ เฟียต ยังปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่า จะลดพนักงาน 18,000 อัตรา ด้วยการปิดหรือลดขนาดของโรงงาน 10 แห่งในยุโรป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อเสนอเข้าควบรวมกิจการบริษัทรถยนต์โอเปิลของเยอรมนี การปฏิเสธของเฟียตมีขึ้น หลังจากมีรายงานว่า บริษัทเฟียตต้องการลดพนักงานนับหมื่น ถ้าสามารถทำข้อตกลงกับบริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ ในการควบรวมกิจการกับบริษัทโอเปิล
 
ทั้งนี้ รัฐบาลประธานาธิบดีโอบามา ขีดเส้นตายวันที่ 1 มิ.ย.ให้มีการบรรลุข้อตกลงเพื่อดึงไครสเลอร์ให้หลุดพ้นจากวิกฤติทางหนี้สิน
 
หนังสือพิมพ์นิกเคอิในญี่ปุ่น รายงานว่า บริษัทนิสสัน มอเตอร์ ของญี่ปุ่นกำลังขอเงินเพิ่มเติมอีก 100,000 ล้านเยน (36,360 ล้านบาท) จากโครงการเงินกู้ฉุกเฉินของรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือบริษัทญี่ปุ่นในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจโลก โดย บริษัทนิสสันได้รับเงินมาแล้ว 50,000 ล้านเยน  ภายใต้โครงการเงินกู้ดังกล่าว และได้ยื่นเรื่องขอกู้เงินเพิ่มเติมอีก หลังจากที่บริษัทประสบปัญหาในช่วงอุตสาหกรรมรถยนต์โลกซบเซา.

อ่านต่อที่ : ศาลสหรัฐตัดสินปูทางควบรวมเฟียต-ไครสเลอร์

ศาลไฟเขียวไครสเลอร์ขายสินทรัพย์ให้เฟียต พฤษภาคม 13, 2009

Posted by 1000thainews in เทคโนโลยี.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

ศาลไฟเขียวไครสเลอร์ขายสินทรัพย์ให้เฟียต

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า นายอาเธอร์ กอนซาเลส ผู้พิพากษาคดี ไครสเลอร์ ผู้ผลิตรถยนต์อันดับสามของสหรัฐ ยื่นคำร้องขอรับการพิทักษ์ทรัพย์ภายใต้กฎหมายล้มละลาย ตัดสินเมื่อวันอังคาร (5 พ.ค.) ให้ไครสเลอร์ดำเนินการขายสินทรัพย์ส่วนใหญ่ให้กับเฟียต ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของอิตาลี โดยกำหนดให้ผู้สนใจยื่นข้อเสนอซื้อสินทรัพย์แต่ละรายการภายในวันที่ 20 พ.ค. จากนั้นจะตัดสินข้อเสนอซื้อภายในวันที่ 26 พ.ค. และประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิซื้อในวันที่ 27 พ.ค. การซื้อขายสินทรัพย์จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันหลังจากนั้น

นอกเหนือจากการขายสินทรัพย์ให้เฟียตแล้ว ไครสเลอร์ระบุในเอกสารที่ยื่นต่อศาลล้มละลายว่า บริษัทวางแผนใช้จ่ายเงิน 668 ล้านดอลลาร์ในระยะ 9 สัปดาห์ เพื่อดำเนินการปลดพนักงาน และพนักงานประจำจะได้หยุดงานโดยไม่ได้รับเงินเดือนเป็นเวลา 2 สัปดาห์ช่วงสิ้นเดือน มิ.ย. ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายประมาณ 21 ล้านดอลลาร์

ทางด้าน เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ป (จีเอ็ม) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อีกรายหนึ่งของสหรัฐ ที่ประสบปัญหาการเงินเช่นเดียวกัน มีแนวโน้มรายงานการขาดทุนต่อเนื่องไตรมาสที่ 8 ในวันพฤหัสบดีนี้ (7 พ.ค.) 6,900 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะยิ่งสร้างแรงกดดันให้บริษัทต้องหาทางเจรจากับสหภาพแรงงาน รัฐบาล และผู้ถือหุ้นกู้ ในการลดภาระหนี้สิน 44,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อรักษาธุรกิจให้อยู่รอดต่อไป

นักวิเคราะห์หลายรายเชื่อว่า การที่ไครสเลอร์ และจีเอ็ม ปิดโรงงานนานเกินไป อาจทำให้บริษัทจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ให้บริษัททั้งสองต้องปิดตัวลง ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อ ฟอร์ด มอเตอร์ ที่ใช้บริการจากซัพพลายเออร์รายเดียวกัน โดยปัจจุบันจีเอ็มปิดโรงงาน 14 แห่งในอเมริกาเหนืออย่างน้อย 9 สัปดาห์ ขณะที่ไครสเลอร์เตรียมปิดโรงงานหลายแห่งในช่วง 1-2 เดือนนี้

ทั้งนี้ ฟอร์ด เป็นผู้ผลิตรถยนต์สหรัฐเพียงรายเดียว ที่ยังสามารถประคองตัวอยู่ได้ และกำลังเปิดตัวรถใหม่ 3 รุ่น

อ่านต่อที่ : ศาลไฟเขียวไครสเลอร์ขายสินทรัพย์ให้เฟียต