jump to navigation

ไทยดิ่งแรงสุดเอเชีย พฤษภาคม 15, 2009

Posted by 1000thainews in หุ้น.
Tags: , , , , , , , , , , , , , ,
add a comment

ไทยดิ่งแรงสุดเอเชีย

วานนี้ นักลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกตายเป็นเบื่อ หลังดัชนีดาวโจนส์ทรุดแรง 184 จุด หรือ 2.18% เพราะนักลงทุนออกอาการผิดหวังเรื่องเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวแล้ว เนื่องจากยอดค้าปลีกของสหรัฐและตัวเลขการส่งออกของจีนในเดือนเม.ย.ลดลงฮวบฮาบ และแย่กว่าที่ตลาดคาด นอกจากนี้ที่ผ่านมาตลาดหุ้นทั่วโลกได้ทะยานขึ้นอย่างแรงและรวดเร็ว เมื่อมีข่าวร้ายออกมานักลงทุนก็พร้อมใจกันเทขายทำให้ตลาดถึงเวลาปรับฐาน <img alt=”” hspace=3 src=”http://www.posttoday.com/medias/20090515/15618.jpg” align=right vspace=3 border=1>

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาแม้ว่าดัชนีหุ้นไทยจะปรับตัวขึ้นหลังเพื่อนบ้าน แต่โดยรวมแล้วก็พุ่งขึ้นถึง 28% จึงจูงใจให้นักลงทุนกระหน่ำขายออกรุนแรง และวานนี้ MSCI ได้ประกาศลดน้ำหนักลงทุนตลาดหุ้นไทยลงเหลือ 1.8% จาก 2% ทำให้ดัชนีบ้านเราร่วงมากที่สุดถึง 26.16 จุด หรือ 4.73% มาปิดที่จุดต่ำสุดของวัน ที่ 526.55 จุด เพราะนักลงทุนต่างชาติและสถาบันรุมกันกระหน่ำขาย 2,145 ล้านบาท และ 1,056 ล้านบาท ตามลำดับ

สำหรับแรงขายที่พุ่งเป้าไปที่หุ้นในตระกูลปตท. (PTT) มีผลให้ราคาหุ้นทรุดเฉลี่ยกว่า 6% และฉุดให้ดัชนีโดยรวมร่วงกว่า 12.48 จุด

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ กล่าวว่า หากมีปัจจัยลบเข้ามาตลาดก็พร้อมที่จะปรับฐานลงอย่างรุนแรงทันที เพราะดัชนีที่ปรับตัวขึ้นก่อนหน้านี้เป็นเพียงภาวะชั่วคราวเท่านั้น และคาดว่าในช่วงไตรมาส 3 หุ้นก็จะลงแรงกว่านี้

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาหุ้นขึ้นจากสภาพคล่องที่ไหลออกจากตลาดเงิน เมื่อดอกเบี้ยลงเหลือ 0-0.25% ผสมกับความเชื่อว่าเศรษฐกิจถึงจุดต่ำสุด จึงทำให้เงินไหลกลับเข้าตลาดหุ้นและลงทุนในลักษณะของการเทรดดิง หรือมีกำไร 10-20% ก็พร้อมจะขายทันที ขณะที่พื้นฐานเศรษฐกิจยังไม่ดี เห็นได้จากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ทุกประเทศยังโตติดลบ แต่คิดว่าไตรมาส 4 จะดีขึ้น

หุ้นไทยที่พุ่งขึ้น 30-40% จากจุดต่ำสุดก็มีสิทธิที่จะลงแรงและมีโอกาสที่จะหลุดลงต่ำกว่า 500 จุด และอาจเห็นแถว 400 จุดต้นๆ ได้เช่นกัน” นายไพบูลย์ กล่าว

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า หุ้นที่ลงแรงวานนี้ถือว่าเป็นการปรับฐาน หลังจากขึ้นติดต่อกันมานานแล้ว แต่นักลงทุนควรจะพิจารณาแนวโน้มในระยะต่อไปมากกว่า

นอกจากนี้ ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาหุ้นไทยเพิ่มขึ้น 22.8% ถือว่าเร็วและดีกว่าหลายประเทศ เช่น มาเลเซีย เพิ่มขึ้น 16.7% ฟิลิปปินส์ บวก 21.9% แต่อินโดนีเซีย ขึ้นมากกว่าถึง 36%

นางภัทรียา กล่าวว่า ผลของการตกต่ำของตลาดหุ้นทั่วโลกทำให้ตลท.ปรับเป้าหมายการเติบโตของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (มาร์เก็ตแคป) จากเดิมภายในปี 2556 จะอยู่ที่ 12 ล้านล้านบาท เป็นลดลงเหลือเติบโตเท่ากับจีดีพีของประเทศ ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ 7.5-8 ล้านล้านบาท

ที่ทบทวนเพราะวิกฤตครั้งนี้ ทำให้มาร์เก็ตแคปลดลงจาก 6 ล้านล้านบาท เหลือ 4.3 ล้านล้านบาท ในปัจจุบัน” นางภัทรียา กล่าว

ทั้งนี้ MSCI ลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทยเพราะถอดหุ้นธนาคารกสิกรไทย (KBANK) และบริษัท ท่าอากาศยานไทย (AOT) ออกจากการคำนวณ

อ่านต่อที่ : ไทยดิ่งแรงสุดเอเชีย

THAI-MCOTกำไรโต พฤษภาคม 15, 2009

Posted by 1000thainews in หุ้น.
Tags: , , , , , , , , , , , , , ,
add a comment

THAI-MCOTกำไรโต

นักวิเคราะห์และนักวิชาการต่าง คาดการณ์ตรงกันว่า ในไตรมาสแรกปีนี้เศรษฐกิจไทยจะติดลบมากกว่า 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะมีปัจจัย ลบทางการเมืองและปัจจัยต่างประเทศ ประเดประดังเข้ามา ทำให้การส่งออก ทรุดลงแรง และกระทบต่อธุรกิจของ เอกชน แต่ผลการดำเนินงานของ บริษัทในตลาดหุ้นที่เป็นรัฐวิสาหกิจยัง มีผลกำไรสุทธิที่ดี โดยเฉพาะบริษัท การบินไทย (THAI) กำไรพุ่งขึ้นกว่า 255% เป็น 7,868.56 ล้านบาท คิดเป็นกำไรหุ้นละ 4.63 บาทต่อหุ้น

อย่างไรก็ตาม หากแกะเข้าไปดูในรายละเอียดของกำไร ก็จะพบว่าการบินไทยมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสูงถึง 4,609 ล้านบาท ขณะที่ช่วงเดียวกันปีก่อนขาดทุนจากค่าเงิน 663 ล้านบาท ส่วนผลงานที่แท้จริงกลับแย่ลง มีรายได้รวมเพียง 41,270 ล้านบาท ลดลงถึง 14,581 ล้านบาท หรือ 26.1% เทียบกับจำนวน 55,851 ล้านบาท แม้ว่าได้ราคาน้ำมันเครื่องบินที่ลดลงโดยเฉลี่ย 45.2% มาช่วยก็ตาม

ทั้งนี้ ข่าวดีเรื่องการบินไทยกำไรปูด ช่วยให้ราคาหุ้น THAI แข็งแกร่ง ระหว่างวันพุ่งขึ้นถึง 19.20 บาท ก่อนย่อมาปิดที่ 17.10 บาท บวก 0.10 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย หนาตา 770 ล้านบาท สวนทางกับดัชนีหุ้นโดยรวมที่ดิ่งลงแรงถึง 26.16 จุด ซึ่งคิดเป็น 4.73%

ส่วนบริษัท อสมท (MCOT) สามารถ ทำกำไรสุทธิได้ดีขึ้น เป็น 293 ล้านบาท คิดเป็นกำไรหุ้นละ 0.42 บาทในไตรมาสแรกปีนี้ พุ่งขึ้น 25.31% จากกำไรสุทธิ 233.82 ล้านบาท หรือ 0.34 บาทต่อหุ้น เพราะ รายได้รวมเพิ่มขึ้น 11% จาก 930 ล้านบาท เป็น 1,031 ล้านบาท ขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้นเพียง 4% เป็น 637 ล้านบาท

อ่านต่อที่ : THAI-MCOTกำไรโต

D1ยอมIEC จ่ายค่าผิดนัด หุ้นเอ-โฮสต์ พฤษภาคม 15, 2009

Posted by 1000thainews in หุ้น.
Tags: , , , , , , , , , , , , , ,
add a comment

D1ยอมIEC จ่ายค่าผิดนัด หุ้นเอ-โฮสต์

นายทรงวุธ เวชชานุเคราะห์ กรรมการ บริษัท ดราก้อน วัน (D1) เปิดเผยว่า บริษัทสามารถบรรลุข้อตกลงกับ บริษัท ไออีซี บิซิเนส พาร์ทเนอร์ส (IECBC) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง (IEC) ในกรณีที่บริษัทผิดนัดสัญญาในการเข้าซื้อหุ้นของ บริษัท เอ-โฮสต์ (AHOST) ที่เดิมบริษัทระบุว่าจะซื้อหุ้น AHOST ทั้งหมด 100% ซึ่งก่อนหน้าได้ซื้อบางส่วนแล้ว ส่วนหุ้นที่เหลืออีก 203,700 หุ้น จะต้องซื้อให้เสร็จในปี 2551 แต่สุดท้ายบริษัทก็ได้ยกเลิกที่จะซื้อหุ้นที่เหลือ

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 30 เม.ย. คณะกรรมการของบริษัทได้รับทราบผลการเจรจากับ IECBP โดยทาง D1 ตกลงจะชดใช้ความเสียหายให้กับ IECBP ด้วยหุ้น AHOST จำนวน 777,700 หุ้น หรือ 12.69% ในอัตราหุ้นละ 14.82 บาท ซึ่งเป็นมูลค่าทางบัญชีของหุ้น A-HOST คิดเป็นจำนวนเงิน 11.52 ล้านบาท และรายการนี้จะไม่มีการใช้จ่ายเงินสดเกิดขึ้นแต่อย่างใด

ทั้งนี้ หลังการชำระค่าปรับด้วยหุ้น AHOST ให้ IECBP แล้ว จะทำให้บริษัทเหลือถือหุ้นให้ AHOST ในสัดส่วน 83.64% จากเดิมที่ถือหุ้นอยู่ 96.60% ส่วน IECBP จะถือหุ้นเพิ่มเป็น 16.36%

อย่างไรก็ตาม รายการครั้งนี้คณะกรรมการของบริษัทได้พิจารณาแล้วเห็นว่ามีความเหมาะสมในการกำหนดราคาหุ้น ส่วนประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับคือ บริษัทไม่ต้องมีหนี้สิน

อ่านต่อที่ : D1ยอมIEC จ่ายค่าผิดนัด หุ้นเอ-โฮสต์

ลดลงทุนหุ้นไทยดัชนีรูด26จุด พฤษภาคม 15, 2009

Posted by 1000thainews in ทั่วไป.
Tags: , , , , , , , , , , , , , ,
add a comment

ลดลงทุนหุ้นไทยดัชนีรูด26จุด

ตลท.แชมป์ขึ้นสูงสุด22% มาร์เกตแคปเพิ่ม1.1ล้านล.

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ดัชนีดิ่งลงแรงทันทีที่เปิดตลาด ตามแรงเทขายหุ้นขนาดใหญ่ลังได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นต่างประเทศที่ร่วงลงตามความกังวลตัวเลขค้าปลีกสหรัฐที่ลดลงต่อเนื่อง โดยเดือน เม.ย. ติดลบ 0.4% และการที่สถาบันจัดอันดับ บริษัท มอร์แกน สแตนเลย์ แคปปิตอล อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ เอ็มเอสซีไอ เล็งถอนหุ้นธนาคารกสิกรไทย และบริษัทท่าอากาศยานไทย (เอโอที) ออกจากการคำนวณดัชนี รวมทั้งเอ็มเอสซีไอ ประเทศไทย ได้ลดน้ำหนักการลงทุนหุ้นไทยจาก 2% เหลือ 1.8% ส่งผลให้เกิดแรงเทขายตลอดทั้งวัน โดยดัชนีเปิดตลาดที่ 534.41 จุด และอ่อนตัวในแดนลบมาปิดตลาดที่ 526.55 จุด ร่วงลง 26.16 จุด หรือ 4.73% มูลค่าการซื้อขาย 29,930.18 ล้านบาท ลดลงจาก 3-4 วันก่อนมีการซื้อขายสูงถึงวันละ 30,000 ล้านบาท
 
นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.นครหลวงไทย จำกัด กล่าวว่า การที่ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงแรง เนื่องจากเป็นการปรับฐาน เพราะที่ผ่านมาดัชนีได้ปรับขึ้นแรงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดหุ้นย่านเอเชียปรับตัวลดลง และยังมีข่าวที่เอ็มเอสซีไอจะถอนหุ้นธนาคารกสิกรไทย และเอโอที ออกจากการคำนวณดัชนีอีก เนื่องจากฟรีโฟลทได้ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ทำให้นักลงทุนสถาบันเทขายหุ้นออกมา อย่างไรก็ตาม มองว่านักลงทุนระยะยาวอาจเข้ามาซื้อหุ้น เพราะปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยน ส่วนรายย่อยไม่ควรผลีผลามเข้ามาซื้อ ควรขายทำกำไร
 
นายอภิสิทธิ์ ลิมป์ธำรงกุล รองผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า กระแสข่าวเอ็มเอสซีไอ ถอนหุ้นออกจากการคำนวณดัชนีนั้น ทำให้นักลงทุนสถาบันที่ใช้การคำนวณการลงทุนในเอ็มเอสซีไอ ลดหุ้นออกจากพอร์ตลงทุน แต่มองว่าคงเป็นผลกระทบระยะสั้น เพราะหลังจาก นี้ เอ็มเอสซีไอต้องนำหุ้นตัวอื่นเข้าไปคำนวณในดัชนีฯ และถ้าพิจารณาตามปัจจัยพื้นฐานไม่ได้เปลี่ยนแปลง จึงเชื่อว่านักลงทุนรายย่อย หรือรายอื่นที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวกับเอ็มเอสซีไอ จะกลับเข้าไปซื้อหุ้นตามเดิม
 
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาดัชนีราคาหุ้นไทยเพิ่มขึ้นมาแล้ว 22.8% สูงกว่าตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย เพิ่มขึ้น 16.7% ฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 21.9% แต่หากรวมผลตอบแทนจากการจ่ายเงินปันผลหุ้นไทยเพิ่มขึ้น 25.8% โดยขณะนี้มูลค่าตลาดรวม (มาร์เกตแคป) เพิ่มขึ้น จากที่ต่ำสุดอยู่ที่ 3.2 ล้านล้านบาท ในช่วงเกิดวิกฤติการเงิน และเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านล้านบาท อยู่ที่ 4.3 ล้านล้านบาท (ณ 13 พ.ค.) หรือเพิ่มขึ้นกว่า 20% ซึ่งก่อนเกิดปัญหาวิกฤติการเงิน มาร์เกตแคปของไทยสูงถึง 6 ล้านล้านบาท แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ลดลง 50% ตามดัชนีหุ้น ทำให้ตลท.เตรียมทบทวนเป้าหมายมาร์เกตแคปในปี 56 ใหม่ จากเดิมที่วางเป้าหมายไว้ 12 ล้านล้านบาท.

อ่านต่อที่ : ลดลงทุนหุ้นไทยดัชนีรูด26จุด

‘จีสตีล’ปฏิเสธเบี้ยวหนี้ พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in หุ้น.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

‘จีสตีล’ปฏิเสธเบี้ยวหนี้

วานนี้หุ้นบริษัท จี สตีล (GSTEEL) ถูกเทขายตั้งแต่เปิดตลาด กดราคาหุ้นเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน และปิด 0.47 บาท ลดลง 0.05 บาท หรือ 9.62%

สาเหตุที่หุ้น GSTEEL ดิ่งลงแรงสวนทางกับตลาดโดยรวมที่บวกกว่า 8 จุด เนื่องจากนักลงทุนตื่นข่าวสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ของ GSTEEL ลงสู่ระดับ “SD” จากเดิม “CC” เนื่องจากบริษัทไม่ได้ชำระคืนเงินกู้มูลค่า 15 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 525 ล้านบาท ซึ่งครบกำหนดเมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ S&P คาดการณ์ว่า GSTEEL อาจจะผิดนัดชำระคืนดอกเบี้ยสำหรับหุ้นกู้มูลค่า 170 ล้านเหรียญสหรัฐ ด้วยอัตราดอกเบี้ย 10.5% และจะครบกำหนด ไถ่ถอนในปี 2553 แม้ว่าจนถึงขณะนี้ GSTEEL ยังไม่เคยผิดนัดชำระคืนดอกเบี้ยดังกล่าวก็ตาม

แหล่งข่าวจากผู้บริหาร บริษัท GSTEEL เปิดเผยว่า หุ้นกู้มูลค่า 4,000 ล้านบาท จะครบกำหนดไถ่ถอนทั้งจำนวนเดือนพ.ย. 2553 และที่ผ่านมาบริษัทไม่มีปัญหาในการจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ ซึ่งจ่ายปีละ 2 ครั้ง คือ เดือนเม.ย. และต.ค. ของทุกปี ซึ่งเดือน เม.ย. ที่ผ่านมาได้จ่ายตามปกติ

สำหรับหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอน ปีหน้า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับสถาบันการเงิน เพื่อรีไฟแนนซ์หนี้ส่วนนี้

ทั้งนี้ ส่วนสาเหตุหุ้นกู้ถูกลดเครดิต เชื่อว่ามาจากสถานการณ์เหล็กไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมาไม่ดี แต่ขณะนี้ได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้วและกำลังมีสัญญาณที่ดีขึ้นในไตรมาส 2 โดยอุตสาหกรรมเหล็กถูกลดเครดิตเกือบทุกบริษัท

“เชื่อว่าเมื่อสถานการณ์เหล็กดีขึ้น มีแนวทางรีไฟแนนซ์ ทุกอย่างน่าจะดีขึ้น รวมทั้งสัดส่วนหนี้สินต่อทุนของ GSTEEL ต่ำมากเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ หรือไม่ถึง 0.5 เท่า แสดงถึงความแข็งแรงของบริษัท” แหล่งข่าวเปิดเผย

สำหรับสภาพคล่องทางการเงินของ GSTEEL อยู่ในระดับดี โดยไตรมาส 2 เริ่มมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น และกำลังผลิตได้เพิ่มขึ้น 70% จากไตรมาสแรก

นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิลล์คอนสตีลอินดัสทรีส์ (MILL) กล่าวว่า สภาพคล่องของมิลล์คอนฯ อยู่ในสภาพปกติ ไม่ได้มีปัญหา และปัจจุบันการผลิตเหล็กดีขึ้น 10-15% และราคาดีขึ้นถึง 20% จากไตรมาสแรก

แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์ เปิดเผยว่า ราคาหุ้น GSTEEL ปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดแล้ว และในไตรมาส 2 มีโอกาสฟื้นตัว ตามราคาเหล็กโลกที่เริ่มขยับขึ้น ซึ่งราคาหุ้นที่ปรับตัวลงได้สะท้อนข่าวร้ายหมดแล้ว เป็นจังหวะซื้อเพื่อเก็งกำไร

อ่านต่อที่ : ‘จีสตีล’ปฏิเสธเบี้ยวหนี้

จีเอ็มส่อปิดตำนาน74ปีในดาวโจนส์ พฤษภาคม 13, 2009

Posted by 1000thainews in ข่าวด่วน.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

จีเอ็มส่อปิดตำนาน74ปีในดาวโจนส์

จอห์น เพรสท์โบ ผู้บริหารบริษัท Dow Jones Indexes เปิดเผยว่า หุ้นของบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) อาจถูกถอนออกจากการซื้อขายในดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เนื่องจากจีเอ็มมีความเสี่ยงที่จะล้มละลาย หรือถูกปรับโครงสร้างองค์กร ซึ่งหมายความว่ามูลค่าหุ้นหรือกลุ่มผู้ถือหุ้นของจีเอ็มต้องสิ้นสุดลงไปด้วย หลังจากหุ้นจีเอ็มเข้าเทรดในดัชนีดาวโจนส์มานานเกือบ 74 ปี
          
ราคาหุ้นจีเอ็มทรุดตัวลงกว่า 93% ในปีที่แล้ว หลังจากจีเอ็มประสบปัญหาทางการเงินจนต้องขอรับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลราว 1.54 หมื่นล้านดอลลาร์และได้ขอเพิ่มทุนอีก 1.16 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อไม่นานมานี้
          
\”จีเอ็มมีแค่ 2 ทางเลือก คือปล่อยให้ตัวเองล้มละลาย หรือ ยอมให้รัฐบาลเข้ามาเทคโอเวอร์ แต่ทั้ง 2 ทางเลือกล้วนแต่เป็นปัจจัยลบต่อหุ้นของจีเอ็มที่เข้าเทรดในดัชนีดาวโจนส์ ซึ่งผมประเมินว่าท้ายที่สุดแล้วหุ้นจีเอ็มจะต้องถูกถอนออกจากการซื้อขายในดัชนีดาวโจนส์\” เพรสท์โบกล่าว
          
นักวิเคราะห์โพลล์บลูมเบิร์กคาดว่า จีเอ็มอาจมีตัวเลขขาดทุนไตรมาสแรก 11.34 ดอลลาร์หุ้น หรือเทียบเท่าประมาณ 6.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับที่ขาดทุนสุทธิ 5.74 ดอลลาร์/หุ้น หรือ 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยขณะนี้จีเอ็มมียอดขาดทุนแล้ว 8.2 หมื่นล้านดอลลาร์นับตั้งแต่ปีพ.ศ.2547
          
อย่างไรก็ตาม จูเลีย กิบสัน โฆษกของจีเอ็ม ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน    

อ่านต่อที่ : จีเอ็มส่อปิดตำนาน74ปีในดาวโจนส์

ร้องกลต.KTCขึ้นXDผิดเวลา พฤษภาคม 13, 2009

Posted by 1000thainews in หุ้น.
Tags: , , , , , , , , , ,
add a comment

ร้องกลต.KTCขึ้นXDผิดเวลา

นางจารุพรรณ อินทรรุ่ง ผู้อำนวยการฝ่ายงานเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า มีนักลงทุนมาร้องเรียนก.ล.ต. เรื่องการขึ้นเครื่องหมาย XD ของบริษัท บัตรกรุงไทย (KTC) แล้ว แต่บริษัทจ่ายเงินปันผลไม่ได้ ทำให้นักลงทุนได้รับความ เสียหายเพราะราคาหุ้นปรับตัวลงวันที่ขึ้นป้าย XD

ทั้งนี้ ก.ล.ต.ได้ส่งเรื่องนี้ให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยพิจารณา เพราะการขึ้นเครื่องหมายต่างๆ เป็นหน้าที่ของตลาดหลักทรัพย์

นายฮั่งใช้ อัคควัสกุล นักลงทุนรายย่อย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ควรเข้ามาดูแลการขึ้นเครื่องหมายต่างๆ ของบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะกรณีที่เกิดขึ้นกับ KTC ซึ่งขึ้นป้าย XD เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2552 แล้ว ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลง 16% แต่ภายหลังการประชุมสามัญผู้ถือ หุ้นเมื่อวันที่ 30 เม.ย. มติผู้ถือหุ้นไม่อนุมัติให้เพิ่มทุนและจ่ายเงินปันผล ทำให้นักลงทุนได้รับความเสียหาย

นายฮั่งใช้ กล่าวว่า ในฐานะ ผู้ถือหุ้น ได้ใช้สิทธิถามผู้บริหารในการประชุมผู้ถือหุ้นว่า ผู้ถือหุ้นได้รับความเสียหายจากการปรับตัวลงจากการขึ้น XD และต้องการให้บริษัทรับผิดชอบ โดยเสนอให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล

อ่านต่อที่ : ร้องกลต.KTCขึ้นXDผิดเวลา

SCIBซิลลิงสนิท หาช่องโกยกำไร พฤษภาคม 13, 2009

Posted by 1000thainews in หุ้น.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

SCIBซิลลิงสนิท หาช่องโกยกำไร

วานนี้ หุ้นของธนาคารนครหลวงไทย (SCIB) ซื้อขายร้อนแรงและราคาหุ้นพุ่งชนซิลลิง ปิดที่ระดับ 13.20 บาท บวก 3 บาท หรือ 29.41% ด้วยมูลค่าซื้อขายบวม 342.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าปกติ ที่ซื้อขายประมาณ 50 ล้านบาท ต่อวัน

โบรกเกอร์ เปิดเผยว่า หุ้น SCIB คึกคักขึ้นผิดตา เป็นเพราะนายบันเทิง ตันติวิท ประธานกรรมการ บริษัท ทุนธนชาต (TCAP) ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อต่างๆ ว่าบริษัทสนใจซื้อหุ้นของธนาคารนครหลวงไทย (SCIB) จากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินที่ถืออยู่ 1,005 ล้านหุ้น หรือ 47.58% ของทุนชำระแล้ว

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีเสียงตอบรับข้อเสนอดังกล่าวจากกองทุนฟื้นฟูฯ และข่าวเรื่องบริษัททุนธนชาต ที่มีธนาคารโนวาสโกเทียถือหุ้นใหญ่ สนใจซื้อธนาคารนครหลวงไทย ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะตลาดรับทราบข่าวนี้มานานแล้ว แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าอะไร

อ่านต่อที่ : SCIBซิลลิงสนิท หาช่องโกยกำไร