ข่าว ในประเทศไทย

ผบช.น.ปล่อยแถวสายตรวจ GPS สน.พลับพลาไชย 2 พฤษภาคม 14, 2009

ผบช.น.ปล่อยแถวสายตรวจ GPS สน.พลับพลาไชย 2

ผบช.น.ปล่อยแถวสายตรวจ GPS สน.พลับพลาไชย 2

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 15:25 น.

       พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นประธานปล่อยแถว “สายตรวจ จีพีเอส” ของ สน.พลับพลาไชย 2 ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามนโยบายของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ที่ให้แต่ละ สน.เสนอโครงการในการเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานสายตรวจ สน.พลับพลาไชย 2 จึงนำระบบเทคโนโลยีจีพีเอส ซึ่งเป็นระบบติดตามตรวจสอบเส้นทาง เช่นเดียวกับที่ติดในรถยนต์ มาติดตั้งในรถจักรยานยนต์สายตรวจของ สน. จำนวน 3 คัน เพื่อความรวดเร็วในการส่งกำลังไปสมทบเมื่อประสบเหตุการณ์ติดตามสกัดจับคนร้าย และติดตามประเมินผลการออกตรวจของสายตรวจในแต่ละวัน
        สำหรับอุปกรณ์จีพีเอสที่ติดตั้งในรถจักรยานยนต์สายตรวจดังกล่าวจะรับสัญญาณดาวเทียม แล้วแปรสัญญาณออกมาเป็นค่าพิกัดตำแหน่ง เวลา และความเร็ว ก่อนแสดงผลออกมาที่คอมพิวเตอร์ในศูนย์วิทยุของ สน. โดยหลังจากนำร่องโครงการมาเป็นเวลา 4 เดือน ทำให้การทำงานของสายตรวจมีประสิทธิภาพดีขึ้น โดยยังไม่มีคดีอุกฉกรรจ์เกิดขึ้น และคดีรถจักรยานยนต์ประชาชนหายลดน้อยลง
        พ.ต.อ.ธีระพงษ์ คล้ายแก้ว ผู้กำกับการ สน.พลับพลาไชย 2 กล่าวว่า เมื่อนำระบบนี้มาใช้ใหม่ๆ ต้องพยายามทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ว่าไม่ใช่การจับผิดการทำงาน แต่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการออกตรวจและลดอาชญากรรมในพื้นที่ ซึ่งปรากฏว่าผลตอบรับของประชาชนดีมาก เป็นที่พอใจของประชาชน หลังจากนี้จะมีโครงการวันสตอปเซอร์วิสเพิ่มขึ้นอีก คาดว่าจะดำเนินการได้ในเร็วๆ นี้

อ่านต่อที่ : ผบช.น.ปล่อยแถวสายตรวจ GPS สน.พลับพลาไชย 2

กมธ.ป.ป.ช.กัดไม่ปล่อย ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ชี้พบฮั้ว บ.ที่ปรึกษาโกง พฤษภาคม 14, 2009

กมธ.ป.ป.ช.กัดไม่ปล่อย ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ชี้พบฮั้ว บ.ที่ปรึกษาโกง

กมธ.ป.ป.ช.กัดไม่ปล่อย ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ชี้พบฮั้ว บ.ที่ปรึกษาโกง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 15:10 น.

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์

“ชาญชัย” แจงพบเหตุทุจริต รฟม.ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-บางซื่อ พบบริษัทที่ปรึกษาประเมินราคาเกินจริง ปรับจากราคาออกแบบ 1.2 พันล้าน ขึ้นเป็น 1.4 พันล้าน ลั่นตามจิกไม่ปล่อยแน่
       
       เมื่อเวลา10.30 น.นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวกรณีการตรวจสอบการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-บางซื่อ ซึ่งบริษัท รถไฟฟ้ามหานคร (รฟม.) ได้จ้างบริษัทที่ปรึกษา คือ กลุ่มบริษัท BBML ได้แก่ บริษัท เอเซี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ จำกัด, บริษัท แปซิฟิค คอนซัลแตนท์ และ บริษัท โชติจินดา มูเชล คอนซัลแตนท์ จำกัด ทำการออกแบบประกวดราคาแล้วเสร็จเป็นเงินจำนวน 1,200 ล้านบาท
       
       นายชาญชัย กล่าวอีกว่า ซึ่งล่าสุดได้มีการคิดราคาค่าก่อสร้างที่เป็นจริงลดลงมาเหลือ 11,666 ล้านบาท แต่ปรากฏว่า มีการเปลี่ยนแปลง โดยให้ นายสายันต์ อิ่มสม-สมบูรณ์ ซึ่งเป็นผู้จัดการโครงการ ได้ปรับราคาขึ้นเป็น 14,000 บาท ทั้งนี้ กลุ่มบริษัท BBML ได้มีหนังสือขอปลดตัว นายสายันต์อิ่มสม-สมบูรณ์ เป็น นายอำไพ ภู่ศรีพงษ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอเชียเอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ จำกัด เข้ามาแทน และเมื่อเข้ามาแล้ว นายอำไพ ได้ไปลงนามสัญญา ยืนยันว่า ราคาเหมาะสมที่บริษัท ช.การช่าง ประมูลได้นั้น คือ ราคา 14,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ทั้งที่ไม่มีอำนาจลงนาม แต่นายสายันต์เห็นว่าไม่ถูกต้องจึงได้ทำหนังสือยื่นกลับไปในวันที่ 26 มี.ค.ว่า นายอำไพ เซ็นลงนามไปนั้นไม่ถูกต้อง และทางคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.ตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องนี้ นายอำไพ ทำถูกต้องหรือไม่แต่ทางบริษัท BBML ให้นายสายันต์ ลาป่วยลงวันที่ 26 มี.ค.เพื่อนำมาเป็นหลักฐานว่านายสายันต์ลาป่วยจริง ซึ่งทำให้เห็นว่ามีความไม่ชอบมาพากลในวิธีการทำงาน
       
       นายชาญชัย กล่าวต่อว่า กรณีที่เกิดขึ้นถือว่าบริษัทที่ปรึกษาสร้างความเสียหายมา โดยร่วมกับคณะกรรมาธิการประกวดราคาและคณะผู้บริหารของ รฟม.ซึ่งตนเห็นว่าการทุจริตโครงการนี้ประมาณ 6-7 ล้านบาท แต่ยังมีความพยายามที่จะดำเนินการต่อ ซึ่งทางกรรมาธิการต้องการให้บริษัทที่ปรึกษานำตัวเลขที่แท้จริงมาเปิดเผย และการทุจริตครั้งนี้ไม่ว่าใครจะมีอำนาจไปสั่งการ อย่างไรตนจะต้องตรวจสอบให้เรียบร้อย เพราะการประมูลครั้งนี้ต้องเป็นเรื่องจริง เพราะการประมูลครั้งนี้จบสิ้นไปแล้ว รอเพียงทาง องค์กรความร่วมมือแห่งประเทศญี่ปุ่น (ไจก้า) รอการยืนยันแล้วนำเข้า ครม.แต่ก็มีปัญหากฎหมายมาตรา 190 ทั้งนี้ โครงการทั้งหลายไม่มีเจตนาที่จะล้ม แต่เป็นเพราะการทุจริตและกระทำความผิดโดยมิชอบ ซึ่งเมื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ปรากฏว่าคืออะไรก็ต้องเปิดเผยให้ทุกฝ่ายรับทราบ เพราะถ้าปล่อยให้มีการทุจริตด้วยเงินจำนวนมหาศาล ตนคิดว่าประเทศนี้ไม่อยู่ในสภาพที่จะดำรงต่อไปได้

อ่านต่อที่ : กมธ.ป.ป.ช.กัดไม่ปล่อย ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ชี้พบฮั้ว บ.ที่ปรึกษาโกง

“มัทเธอุส” แนะเสือใต้รีบขาย “ริเบรี” ให้ผีหากได้ 63 ล้านป. พฤษภาคม 14, 2009

“มัทเธอุส” แนะเสือใต้รีบขาย “ริเบรี” ให้ผีหากได้ 63 ล้านป.

“มัทเธอุส” แนะเสือใต้รีบขาย “ริเบรี” ให้ผีหากได้ 63 ล้านป.

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 14:57 น.

รีเบรี

       “ซูเปอร์แมน” โลธาร์ มัทเธอุส อดีตดาวเตะทีมชาติเยอรมัน ออกโรงกระตุ้นบอร์ดบริหารทีมบาเยิร์น มิวนิค ให้รีบปล่อยฟรองค์ ริเบรี ปีกเลือดน้ำหอม ให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หายได้ราคาสูงถึง 63 ล้านปอนด์ (ราว 3,339 ล้านบาท) ตามที่เป็นข่าวจริง
       
       ก่อนหน้านี้อูลี เฮอร์เนสส์ ผู้อำนวยการทั่วไปของทีมเสือใต้จะออกมาปฏิเสธการขาย ฟรองค์ ริเบรี ออกไปในช่วงซัมเมอร์นี้ แม้ว่าจะมีข่าวพัวพันกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยมูลค่าที่กำลังจะกลายเป็นสถิติโลกที่ 63 ล้านปอนด์ (ราว 3,339 ล้านบาท) ก็ตาม
       
       ทว่าตำนานแข้งทีมอินทรีเหล็กอย่าง มัทเธอุส ที่เคยประสบความสำเร็จมากมายกับทีมเสือใต้มองว่า “หากข่าวดังกล่าวเป็นความจริง มันเป็นโอกาสดีของบาเยิร์น ซึ่งผมคิดว่าพวกเขาควรจะตกลงใจขายฟรองค์ออกจากทีมให้เร็วที่สุด”
       
       อย่างไรก็ดีซูเปอร์แมนวัย 48 ปี เชื่อว่า แมนฯยูจะซื้อริเบเรี ก็ต่อเมื่อขายคริสเตียโน โรนัลโด ออกจากทีมเท่านั้น “หากโรนัลโด ไม่ย้ายทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็คงไม่คิดซื้อริเบรีไปร่วมทีม เพราะโรนัลโดทำประตูได้ถึง 30 ลูกต่อฤดูกาล ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ริเบรีทำได้แน่นอน”

อ่านต่อที่ : “มัทเธอุส” แนะเสือใต้รีบขาย “ริเบรี” ให้ผีหากได้ 63 ล้านป.

โฆษกบช.น. ปัด จนท.สหกรณ์โกงเงินกู้ 50 ล้าน! พฤษภาคม 14, 2009

โฆษกบช.น. ปัด จนท.สหกรณ์โกงเงินกู้ 50 ล้าน!

โฆษกบช.น. ปัด จนท.สหกรณ์โกงเงินกู้ 50 ล้าน!

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม
14 พฤษภาคม 2552 13:51 น.

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น. ในฐานะ โฆษก บช.น.

รอง ผบช.น.ปัด ข่าวสหกรณ์ตำรวจนครบาลถูกโกงเงิน 50 ล้าน ระบุ มีนายทุนนำเงินมาปล่อยให้ ตร.ที่ทำหน้าที่ในสหกรณ์ ปล่อยเงินกู้ให้เรียกดอกราคาสูงกว่าสหกรณ์ ส่วนบทลงโทษทางวินัยต้องรอดูว่ามีผู้มาร้องเรียนหรือไม่ และต้องพียานหลักฐานเอาผิดด้วย
       
       วันนี้ (14 พ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น. ในฐานะ โฆษก บช.น. กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวเจ้าหน้าที่สหกรณ์ออมทรัพย์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล โกงเงินกู้สหกรณ์ตำรวจนครบาลจำนวน 50 ล้านบาท ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่การโกงเงินของสหกรณ์ แต่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจในสหกรณ์บางคนที่หากินด้วยการปล่อยเงินกู้นอกระบบ โดยจะเจรจาตกลงกับตำรวจที่มารอขอกู้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ โดยจะสำรองจ่ายเงินไปก่อน และมีตำรวจที่เป็นสมาชิกสหกรณ์บางส่วนที่มากู้เงินสหกรณ์หลงไปใช้บริการนอกระบบนั้น
       
       พล.ต.ต.สุพร กล่าวต่อว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางสหกรณ์ได้แก้ปัญหาดังกล่าวทำให้สมาชิกฯ กู้ได้เร็วขึ้น ขณะนี้สมาชิกฯ ไม่มีใครเดือดร้อน เมื่อส่งเรื่องขอกู้ก็จะมีการอนุมัติรวดเร็วขึ้น เพื่อตัดวงจรเงินนอกระบบนั้น ทำให้ไม่สามารถที่จะหมุนเงินส่วนนั้นได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้เห็นกันเฉพาะสมาชิกฯ คนนั้นกับเจ้าหน้าที่ในสหกรณ์บางคน ที่ยอมจ่ายเงินลักษณะค่าปากถุงกันเอง ไม่เกี่ยวกับทางสหกรณ์ฯ แม้แต่อย่างใด และยืนยันว่าระบบสหกรณ์ของกองบัญชาการตำรวจนครบาลยังมั่นคงดีไม่มีปัญหา
       
       “กรณีที่ระบุว่ามีการโกงเงินกันมากจำนวนถึง 50 ล้านบาทนั้น ตนเชื่อว่าน่าจะมีลักษณะนายทุนเข้ามาหาประโยชน์โดยการให้สมาชิกฯ กู้ยืมมากกว่า ตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สหกรณ์ฯ เองไม่น่าจะมีเงินมากขนาดนั้น นายทุนที่มีเงินติดต่อรู้จักกับเจ้าหน้าที่บางคน เอาเงินมาให้ช่วยปล่อยหาสมาชิกฯ บางคนที่ต้องการเงินเร็ว ๆ ก็เอา โดยยินยอมจ่ายดอกเบี้ยที่สูงกว่าของสหกรณ์ฯ สำหรับการที่จะดำเนินการขั้นวินัยก็ขึ้นอยู่กับว่าจะมีผู้มาร้องเรียนเอาโทษเจ้าหน้าที่สหกรณ์ฯ ที่กระทำดังกล่าวเพียงใด เราจะต้องมีพยานมายืนยันเอาผิดด้วย” รอง ผบช.น. กล่าว
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น สืบเนื่องจากมี ตำรวจยศ ด.ต.หญิง รายหนึ่งสังกัดสหกรณ์ออมทรัพย์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล เชิดเงินจำนวน 50 ล้านบาทหายไปอย่างไร้ร่องรอย และไม่ได้มาปฏิบัติราชการเป็นเวลาเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา โดยมีพฤติการณ์ที่จะมีการระดมทุนจากนายตำรวจระดับสูง และบุคคลที่มีฐานะทางการเงินดี เพื่อนำเงินมาปล่อยกู้แก่ข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อยในกองบัญชาการตำรวจนครบาล และสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ที่ขอยื่นกู้ ระหว่างรอการอนุมัติตามระเบียบทางราชการ โดยมีการเสนอให้มีการเรียกเก็บดอกเบี้ยที่มีอัตราสูงกว่าปกติ ทำให้มีผู้ที่หลงเชื่อนำเงินมาระดมทุนเพื่อปล่อยกู้จำนวนหลายราย กระทั่งมีเงินหมุนเวียนจำนวนหลายล้านบาท จนในที่สุด ด.ต.หญิง คนดังกล่าวได้เชิดเงินหนีไปในที่สุด

อ่านต่อที่ : โฆษกบช.น. ปัด จนท.สหกรณ์โกงเงินกู้ 50 ล้าน!

ตราดปล่อยขบวนผลไม้ส่งออกสู่ประเทศเพื่อนบ้าน พฤษภาคม 14, 2009

ตราดปล่อยขบวนผลไม้ส่งออกสู่ประเทศเพื่อนบ้าน

ตราดปล่อยขบวนผลไม้ส่งออกสู่ประเทศเพื่อนบ้าน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 10:36 น.

ตราด –หอการค้าจ.ตราด ปล่อยขบวนผลไม้จากเกษตรกรเพื่อส่งออกสู่กัมพูชาและเวียดนาม
       
       ที่ศูนย์รวบรวมผลผลิตทางการเกษตร ต.ทุ่งนนทรี อ.เขาสมิง นายประทีป จงสืบธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด พร้อมด้วยนายประเสริฐ ศิริ ประธานหอการค้าจังหวัดตราด ร่วมปล่อยขบวนรถผลไม้คุณภาพของจังหวัดตราด สู่กัมพูชา และเวียดนาม ตามโครงการส่งเสริมการส่งออกผลไม้ของสำนักงานหอการค้าจังหวัดตราด ร่วมกับส่วนราชการต่าง ๆ ร่วมกันตั้งจุดรับซื้อผลไม้ของเกษตรกรเพื่อระบายผลผลิตสู่ประเทศเพื่อนบ้าน
       
       นายประเสริฐ ศิริ ประธานหอการค้าจังหวัดตราด กล่าวว่า การจัดโครงการในครั้งนี้เพื่อเป็นอีกหนึ่งมาตรการ ในการป้องกันปัญหาราคาผลไม้ตกต่ำให้กับเกษตรกรของจังหวัดตราด สำหรับการจัดโครงการนี้ดำเนินการโดยตั้งจุดรับซื้อผลไม้ ในราคาแทรกแซงตลาดจากเกษตรกร ทั้ง เงาะ ลองกอง มังคุด และทุเรียน โดยผลผลิตคุณภาพที่รับซื้อทั้งหมดจะทำการส่งออกโดยทางถนน ผ่านเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 318 (ตราด– คลองใหญ่) ผ่านจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็กซึ่งเชื่อต่อกับเส้นทางหมายเลข 48 ของกัมพูชาที่เปิดใช้งานแล้ว ทำให้การขนส่งผลไม้ใช้เวลารวดเร็วขึ้น
       
       ประกอบกับทางด่านศุลกากรช่วยผ่อนปรนเวลา ในการข้ามแดนสู่กัมพูชา ยิ่งทำให้คุณภาพของผลไม้จากตราดสู่พนมเปญมีคุณภาพเทียบเท่ากันกับที่ส่งไปขายในกรุงเทพฯ อย่างไรก็ตามนอกจากตลาดกัมพูชา และเวียดนามแล้ว ยังมีตลาดของประเทศลาว ที่ทางหอการค้าจังหวัดตราดได้ทำการเจรจาเพื่อหาตลาดไว้แล้ว
       
       ทั้งนี้หากผลผลิตจากจังหวัดตราดไม่พอต่อการป้อนตลาด จุดรับซื้อแห่งนี้ก็พร้อมที่จะรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรของจังหวัดจันทบุรี และระยองอีกด้วย ทั้งนี้หากเกษตรกรที่สนใจนำผลไม้ไปขายยังจุดรับซื้อแห่งนี้ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการแล้วไปจนถึงเดือนสิงหาคมสอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักงานหอการค้าจังหวัดตราด

AC_FL_RunContent( ‘codebase’,’http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=7,0,19,0′,’width’,’500′,’height’,’100′,’src’,’/Home/images/bn_myfirst4′,’quality’,’high’,’pluginspage’,’http://www.macromedia.com/go/getflashplayer’,’movie’,’/Home/images/bn_myfirst4′ ); //end AC code
อ่านต่อที่ : ตราดปล่อยขบวนผลไม้ส่งออกสู่ประเทศเพื่อนบ้าน

“ซูจี” ส่อถูกตั้งข้อหาปล่อยต่างชาติลักลอบเข้าบ้าน พฤษภาคม 14, 2009

“ซูจี” ส่อถูกตั้งข้อหาปล่อยต่างชาติลักลอบเข้าบ้าน

"ซูจี" ส่อถูกตั้งข้อหาปล่อยต่างชาติลักลอบเข้าบ้าน

เจ้าหน้าที่พม่าจะตั้งข้อหาต่อ นางอองซาน ซูจี ผู้นำเรียกร้องประชาธิปไตยในพม่าและแม่บ้านอีก 2 คนกรณีที่ชายชาวสหรัฐลักลอบว่ายน้ำข้ามทะเลสาบเข้าไปเยี่ยมนางที่บ้าน ซึ่งเป็นสถานที่กักบริเวณด้วย

นายจอห์น เย็ตตอว์ ถูกตำรวจพม่าควบคุมตัวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วหลังลักลอบว่ายน้ำเข้าไปหา นางซูจี ที่บ้านในนครย่างกุ้ง ซึ่งเธอถูกกักบริเวณอยู่และพักค้างคืนเป็นเวลา 2 วัน ทั้งนี้ ทนายความของนางซูจี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะตั้งข้อหาต่อนางซูจีและแม่บ้านของเธออีก 2 คน อย่างไรก็ตาม ทนายความไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวเพิ่มเติม

อ่านต่อที่ : “ซูจี” ส่อถูกตั้งข้อหาปล่อยต่างชาติลักลอบเข้าบ้าน

ข่าวก่อนขึ้นแท่น พฤษภาคม 14, 2009

ข่าวก่อนขึ้นแท่น

แจ้งตร.รพ.ปล่อยคนไข้ตาย
 
เมื่อ เวลา 15.30 น. วันที่ 13 พ.ค. นางอารีย์ รวมชัย อายุ 42 ปี ภรรยาของ    นายประสิทธิ์ เย็นใจ เหยื่อ รพ.เอกชนเแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา ที่เสียชีวิตเนื่องจาก  เส้นเลือดในสมองแตก แต่กลับถูกปล่อยทิ้งไว้ ไม่มีแพทย์และพยาบาลมาดูแลอาการกว่า 10 ชั่วโมง กระทั่งเสียชีวิตเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา ได้เดินทางมาแจ้งความกับ ร.ต.อ. ประมวล บุญชาลี ร้อยเวร สภ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่รับแจ้งความและจะได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป.

ปล่อยตะเพียนกินปลิงตัวจิ๋ว
 
เมื่อ เวลา 09.00 น. วันที่ 13 พ.ค. นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผวจ.กาญจนบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ร่วมปล่อยลูกปลาตะเพียนและปลาชนิดอื่น ๆ 150,000 ตัว ที่ริมน้ำแควใหญ่ บ้านชุกกุ่ม เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ต.ท่ามะขาม เพื่อให้ปลาดังกล่าว ไปกินปลิงน้ำจืดขนาดจิ๋วจำนวนมาก ที่ถูกค้นพบในบริเวณดังกล่าว นอกจากนี้ ทางประมงจังหวัดยังเร่งตรวจสอบบริเวณลำน้ำแควน้อยแม่กลอง และ จุดที่มีนักท่องเที่ยวไปเล่นน้ำ บริเวณหาดทรายท่าล้อ หรือหาดท่าอ้อ พบว่าไม่มีปลิงชนิดดังกล่าวแต่อย่างใด จึงขอให้นักท่องเที่ยวมั่นใจได้.

แห่ขอโชคลาภ‘จิ้งจกสีแดง’
 
เมื่อ วันที่ 13 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 7/1 หมู่ 9 ต.สามตุ่ม อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ของนายบริบูรณ์ ธูปแก้ว ซึ่งพบจิ้งจกสีแดงหรือน้องถุงเงิน ถุงทอง ที่ในท้องมีไข่ 2 ฟอง ได้มีชาวบ้านจำนวนมาก แห่แหนมาขอชมจิ้งจกประหลาดกันตลอดทั้งวันทั้งคืน บางรายบอกว่าหลังมาดูและตั้งจิตอธิษฐาน พบว่ามีโชคดีเกิดขึ้นกับชีวิตหลายอย่าง บางรายได้นำจิ้งจกสีแดงไปตีเป็นเลขเด็ด 27 และ 72 ตามความเชื่อ.

ไฟไหม้โรงงานอบยางพารา
 
เมื่อ เวลา 13.30 น. วันที่ 13 พ.ค. พ.ต.ท.มนูญ เจริญศรี สารวัตรเวร สภ.สำนักทอง จ.ระยอง ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานอบยางพาราแผ่นดิบ ของบริษัท ไทยฮั้วยางพารา จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่เลขที่ 83/4 หมู่ 1 ต.สำนักทอง จึงประสานขอรถดับเพลิงกว่า 10 คันเดินทางไประงับเหตุ แต่การฉีดน้ำสกัดเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากภายในโกดังมียางพารากว่า 100 ตันที่เป็นเชื้อไฟอย่างดีเก็บอยู่ ประกอบกับมีถังบรรจุแก๊ส แอลพีจี ขนาด 5,000 กิโลกรัม จำนวน 2 ถัง วางอยู่ หลังเวลาผ่านไปนานกว่า 3 ชั่วโมงเจ้าหน้าที่จึงสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ สอบสวนทราบว่าขณะคนงานกำลังช่วยกันสุมไฟเพื่ออบยางพาราในเตาที่ 4 ไฟเกิดลุกไหม้แล้วลามไปยังเตาข้างเคียงก่อนจะเกิดเหตุดังกล่าว เบื้องต้นค่าเสียหายประมาณ 5 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะเร่งสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป.

ผัวเมียลักทรัพย์สาวเมืองผู้ดี
 
เมื่อ เวลา 15.00 น. วันที่ 13 พ.ค. พ.ต.อ.สมบัติ ชูชัยยะ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.เอก มหาสวัสดิ์ สว.1 กก.2 ตำรวจท่องเที่ยวอยุธยา ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนางแก่นจันทร์ พงษ์กุหลาบ อายุ 27 ปี พร้อมของกลางเป็นกระเป๋าสะพายสีเขียวและทรัพย์สินของใช้ส่วนตัวของนักท่องเที่ยว โดยจับกุมได้ที่บ้านพัก หมู่ 1 ต.ไผ่ลิง สืบเนื่องจากเมื่อกลางดึก วันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา นางแก่นจันทร์ อายุ 27 ปี พร้อม สามี คือนายธวัชชัย คงวิลัยศรี อายุ  30 ปี ได้ลักเอากระเป๋าถือของ น.ส.ซาช่า เอ็มมานูเอล อายุ 18 ปี นักท่องเที่ยวสาวจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มาจากที่พักย่านตลาดเจ้าพรหม กลางเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ได้ทรัพย์สินเป็นพาสปอร์ต เงินสดไทย 3,000 บาท โทรศัพท์มือถือ กล้องดิจิตอล และบัตรเครดิต  ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสอง ได้ร่วมกันก่อเหตุ จึงบุกไปจับกุมที่บ้านพัก แต่นายธวัชชัยได้ชักปืนจะยิงสู้ตำรวจและหนีไปได้ ส่วนทรัพย์สินผู้เสียหายถูกเผาทิ้งจนวอด เจ้าหน้าที่จะเร่งจับกุมคนร้ายที่เหลือต่อไป.

จนท.พิทักษ์ป่าค้ากระดูกเสือ
 
เมื่อ เวลา 15.30 น. วันที่ 13 พ.ค. พ.ต.ต.อรรถสิทธิ์  พัฒนาประทีป สวป.สภ.จอมบึง จ.ราชบุรี ได้รับการประสานจากนายวินันท์  วิระนะ หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน  ซึ่งตั้งอยู่ ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี และนายธนิต  นุ่นลอย เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน ทำหน้าที่หัวหน้าเขตพื้นที่ห้ามล่าสัตว์ป่าเขาประทับช้าง อ.จอมบึง ว่าขอให้สกัดจับรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน บบ 2898 ราชบุรี ซึ่งขับออกมาจากสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสนมุ่งหน้าเข้าตัวอำเภอจอมบึง เนื่องจากสงสัยว่ารถคันดังกล่าวนั้นจะขโมยซากสัตว์ภายในสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสนออกมา เมื่อสกัดจับและตรวจ ค้นพบกระดูกเสือโคร่งขนาดใหญ่ น้ำหนักกว่า 13 กก.บรรจุอยู่ในถุงปุ๋ยที่บริเวณกระบะรถดังกล่าว และยึดปืนพร้อมเครื่องกระสุนได้อีก 2 กระบอก จึงคุมตัวนายสราวุธ เชื้อสมุทร อายุ 40 ปี เจ้าพนักงานพิทักษ์ป่าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน นายตรีภพ ยิ่งทวี อายุ 20 ปี พนักงานจ้างเหมาและนายมงคล พงษ์ชุมพล อายุ 28 ปี สอบสวน ทั้งหมดรับว่าได้ขุดกระดูกเสือโคร่งเพื่อนำไปขาย ได้ราคากิโลกรัมละกว่า 10,000 บาท จึงคุมตัวดำเนินคดีต่อไป.

ฆ่าโหดยิงหัวตร.ชุมชนตาย
 
เมื่อ เวลา 03.00 น. วันที่ 13 พ.ค. ร.ต.ท.สมบัติ จึงประสบสุข ร้อยเวรสภ.เขาดิน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ได้รับแจ้งว่าพบศพเป็นชายที่บริเวณริมถนนสายเขาเขียว-เขาเสด็จ หมู่ 2  ต.เขาชะงุ้ม อ.โพธาราม จึงรีบไปสอบสวน ที่เกิดเหตุพบศพเป็นชายอายุประมาณ 50 ปี ลักษณะการแต่งกายคล้ายตำรวจ สวมเสื้อยืด   สีขาวมีโลโก้ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สวม กางเกงขายาวสีกากี ที่บริเวณใบหน้ามีร่องรอยถูกทำร้ายจนหน้าบวม ที่แก้มซ้ายและกกหูด้านซ้ายมีรอยถูกอาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิง 2 นัด ส่วนมือและเท้าของผู้ตายถูกมัดโยงกันไว้ด้วยเชือกเส้นเดียวกัน แต่ภายในตัวไม่พบหลักฐานใด ๆ ต่อมาได้มีญาติผู้ตายมาชี้ศพยืนยันว่าเป็นนาย  อำนาจ บุญทา อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/1 ต.บ้านสิงห์ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เป็นอาสาสมัครตำรวจชุมชน โดยญาติยังไม่แน่ใจถึงสาเหตุถึงการลวงมาฆ่าในครั้งนี้ แต่ในเบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะมาจากเรื่องชู้สาวและความขัดแย้งส่วนตัว เจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป.

ซิวพ่อเฒ่าประดิษฐ์ปืนขาย
 
เมื่อ เวลา 12.00 น. วันที่ 13 พ.ค. พ.ต.อ.สมเดช ฐิตวัฒนะสกุล ผกก.สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี พร้อม พ.ต.ท.บรรจง อมฤทธิ์ รอง  ผกก.ป. และ พ.ต.ต.เชิดชัย ป้อชำนิ สวป. ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมแหล่งผลิตและจำหน่ายอาวุธปืนเถื่อนรายใหญ่ใน จ.ราชบุรี พร้อมผู้ต้องหาคือ นายยอม กินลา อายุ 69 ปี และนายเกรียงไกร กัณหา อายุ 33 ปี พร้อมของกลาง อาวุธปืนขนาด.38 ไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก อาวุธปืนลูกซองพกสั้น เบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืน .38 กระสุนปืนลูกซอง และชิ้นส่วนปืน และเครื่องมือสำหรับใช้ในการผลิต อีกหลายรายการ สอบสวนนายยอม รับว่ามีประวัติเคยถูกจับคดีผลิตและจำหน่ายอาวุธปืน ภายหลังได้เข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.บ้านโป่ง แต่ก็ยังลักลอบทำการผลิตอาวุธปืนเถื่อนขายให้กับบรรดาวัยรุ่น และ ผู้ที่สั่งซื้อ ในราคากระบอกละ 3,000 บาท ซึ่งอาวุธปืนที่นายยอม ผลิตขายออกไปนั้น มีจำนวนไม่น้อยที่ถูกกลุ่มคนร้ายนำไปก่อเหตุทางอาชญากรรม เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

อ่านต่อที่ : ข่าวก่อนขึ้นแท่น

เมินเอกชน เน้นให้กู้รัฐ พฤษภาคม 14, 2009

เมินเอกชน เน้นให้กู้รัฐ

นายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารมีความสนใจเข้าปล่อยสินเชื่อให้กับรัฐวิสาหกิจต่างๆ ที่กระทรวงการคลัง หรือหน่วยงานที่รัฐบาลให้การค้ำประกัน และสนใจที่จะปล่อยสินเชื่อในโครงการกระตุ้น เศรษฐกิจระยะที่ 2 ของรัฐบาล ที่เตรียมออกพ.ร.ก. และพ.ร.บ. เพื่อกู้เงิน 8 แสนล้านบาท ไว้ลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคโลจิสติกส์ และระบบชลประทาน

เลอศักดิ์ จุลเทศ

นายเลอศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ธนาคารมีสภาพคล่องส่วนเกินล้นอยู่หลายหมื่นล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการออกสลากออมสินในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี จนมียอดขายสลากร่วม 5 หมื่นล้านบาท ขณะที่ยอดเงินฝากคงค้าง ณ สิ้นไตรมาสแรกของปี 2552 มีอยู่สูงกว่า 7.2 แสนล้านบาท

ดังนั้น การมุ่งเน้นปล่อยสินเชื่อโดยตรงให้กับรัฐวิสาหกิจที่กระทรวง การคลังค้ำประกันและรัฐบาล จึงเป็นแนวทางหนึ่งในการระบายสภาพคล่องของธนาคาร

ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ที่ผ่านมาธนาคารปล่อยกู้ให้กับรัฐวิสาหกิจเพื่อนำไปลงทุนในหลายโครงการแล้ว เช่น โครงการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) การรถไฟแห่งประเทศไทย 3,600 ล้านบาท การทางพิเศษแห่งประเทศไทยอีก 800 ล้านบาท รวมทั้งยอมลดดอกเบี้ยในโครงการรับจำนำข้าวให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 3.5 หมื่นล้านบาท

แหล่งข่าวธนาคารกรุงไทยเปิดเผยว่า ธนาคารได้เตรียมพร้อมสำหรับการปล่อยกู้ให้กับรัฐวิสาหกิจและรัฐบาล ทั้งในรูปเงินลงทุนและวงเงินทุนหมุนเวียนในปีนี้ไว้ไม่น้อยกว่า 2-2.5 แสน ล้านบาท

“สินเชื่อเอกชนนั้นปีนี้คงจอดสนิทแล้ว เพราะเสี่ยงเกินไปที่จะเกิดหนี้เสีย จึงเชื่อว่าปีนี้ทั้งปีก็จะติดลบ 1% ถึงลบ 2% เพราะเอกชนชะลอการผลิต จึงต้องจัดสรรสภาพคล่องมารองรับการปล่อยกู้ให้กับรัฐบาล เอกชนที่รับเหมางานจากรัฐบาลแทน ซึ่งน่าจะสร้างรายได้ และลดความเสี่ยง เพราะขณะนี้ต้นทุนทางการเงินระยะ 1 ปีต่ำมากแค่ 1.6-1.8% หากสามารถปล่อยกู้ที่ระดับดอกเบี้ย 4.5-5% ก็สามารถทำกำไรได้ดีกว่าให้เอกชนกู้ที่จะมีหนี้เสีย 2-5%” แหล่งข่าวเปิดเผย

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า การที่รัฐบาลเตรียมกู้เงิน 8 แสนล้านบาท ถือเป็นข่าวดีที่ช่วยขับเคลื่อนการลงทุน ซึ่งสภาพคล่องในประเทศ มีเพียงพอไม่เป็นปัญหา และหากเป็นไปได้ธนาคารกรุงเทพก็มีความพร้อมและต้องการเข้าร่วมปล่อยเงินกู้ให้รัฐบาลด้วย

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ธนาคาร กรุงเทพได้สั่งการให้ จัดเตรียมเงินเพื่อรองรับการปล่อยกู้ให้กับรัฐบาล ในปีนี้ไว้ร่วม 1-2 แสนล้านบาท ทั้งการประมูลพันธมิตร และการปล่อยกู้โครงการรัฐ

อ่านต่อที่ : เมินเอกชน เน้นให้กู้รัฐ