jump to navigation

15:14 น. ศรีลังกาเมินแรงกดดัน ยันเดินหน้ากวาดล้าง LTTE พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in ข่าวด่วน.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

15:14 น. ศรีลังกาเมินแรงกดดัน ยันเดินหน้ากวาดล้าง LTTE

14 พค. 2552 15:14 น.

รัฐบาลศรีลังกา ได้ปฏิเสธเสียงเรียกร้องของนานาชาติ ที่ให้ยุติการทำสงครามกวาดล้างกองกำลังพยัคฆ์ทมิฬอีแลม หรือ LTTE ซึ่งเป็นเวลาไม่กี่ชั่วโมง หลังจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เรียกร้องให้รักษาชีวิตพบเรือนไว้ แต่นายลัคมาน ยาพา อะเบย์วอเดน่ารัฐมนตรีข่าวสารของศรีลังกา กล่าวว่า ศรีลังจะไม่ยอมจำนนต่อแรงกดดันจากนานาชาติเพื่อยุติปฏิบัติการกวาดล้าง
นายอะเบย์วอเดน่า ยังแสดงท่าทีไม่สะทกสะท้าน ต่อแถลงการณ์ของคณะมนตรีความมั่นคงที่ออกมาเมื่อวันพุธ เรียกร้องให้รัฐบาลศรีลังกา และ LTTE รับประกันความปลอดภัยของพลเรือน และให้เคารพต่อพันธสัญญาภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหวางประเทศ ซึ่งนายอะเยย์วอเดน่า กล่าวว่า รัฐบาลไม่มีปัญหาเรื่องนี้อยู่แล้ว เพราะไม่ได้ใช้อาวุธหนักในการเข้าโจมตี และรัฐบาลก็ไม่สามารถทำร้ายประชาชนของตนเองได้
รัฐมนตรีข่าวสาร ยังกล่าวด้วยว่า ไม่เป็นธรรมต่อศรีลังกาที่ต้องตกอยู่ภายใต้การกดดันของการเรียกร้องให้ยุติการสู้รบ และเปิดทางให้เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์เจ้าไปในสมรภูมิทางเหนือ ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้ เนื่องจากรัฐบาลไม่สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่เหล่านี้ ซึ่งแม้แต่คณะกรรมาธิการกาชาดสากล หรือ ICRC ก็ยังส่งอาหารเข้าไปในพื้นที่ได้อย่างยากลำบาก
อ่านต่อที่ : 15:14 น. ศรีลังกาเมินแรงกดดัน ยันเดินหน้ากวาดล้าง LTTE

รัสเซียเตรียมคิดค่าบริการหากนาซาขอยืมยานไปอวกาศ พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in ต่างประเทศ.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

รัสเซียเตรียมคิดค่าบริการหากนาซาขอยืมยานไปอวกาศ

รัสเซียเตรียมคิดค่าบริการหากนาซาขอยืมยานไปอวกาศ มอสโก 14 พ.ค.- รัสเซียจะคิดค่าบริการองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐ หรือ นาซา ที่มีแผนจะใช้ยานโซยุซของรัสเซีย ส่งนักบินอวกาศเดินทางไปสถานีอวกาศนานาชาติ เนื่องจากยานของนาซาจะหมดอายการใช้งานในปีหน้า

นาซาจำเป็นต้องพึ่งยานโซยุซของรัสเซีย เพราะกระสวยอวกาศที่ตนเองพัฒนาขึ้นจะหมดอายการใช้งานในปีหน้า  หลังพานักบินอวกาศเดินทางไปกลับสถานีอวกาศนานาชาติมานานเกือบ 30 ปี ส่วนยานลำใหม่ที่สร้างขึ้นจะนำออกใช้งานได้เร็วที่สุดก็คือปี 2557  

ผู้อำนวยการสำนักงานอวกาศรัสเซีย เผยว่า ทางรัสเซียได้ตกลงกับองค์การนาซาของสหรัฐ ที่จะคิดค่าบริการให้ยืมยานโซยุซอยู่ที่ครั้งละ  51 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,800 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นไป แต่ไม่ได้ระบุค่าบริการในกรณีที่ยืมยานโซยุซระหว่างปี 2553 ถึง 2555 แต่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว รัสเซียเคยคิดค่าบริการดังกล่าวอยู่ที่ 21.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 770 ล้านบาท

ส่วนกรณีที่รัสเซียเคยระบุว่า จะไม่ให้บุคคลภายนอกร่วมเดินทางไปสถานีอวกาศนานาชาติอีกแล้ว เพราะมีการเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่จนที่นั่งบนยานมีไม่พอเพียงนั้น  ล่าสุด  ผู้อำนวยการสำนักงานอวกาศรัสเซีย ยืนยัน จะยังเปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกที่สนใจได้ร่วมเดินทางด้วยเช่นเดิม เช่นกรณีของมหาเศรษฐีอเมริกัน ที่เพิ่งร่วมเดินทางไปสถานีอวกาศนานาชาติเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา.- สำนักข่าวไทย

อ่านต่อที่ : รัสเซียเตรียมคิดค่าบริการหากนาซาขอยืมยานไปอวกาศ

เนคเทคยังเห็นโอกาส “ฮาร์ดไดร์ฟ” เบียดคู่ “แฟลชไดร์ฟ” ได้อีก 10 ปี พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in เทคโนโลยี.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

เนคเทคยังเห็นโอกาส “ฮาร์ดไดร์ฟ” เบียดคู่ “แฟลชไดร์ฟ” ได้อีก 10 ปี

เนคเทคยังเห็นโอกาสฮาร์ดไดร์ฟ” เบียดคู่แฟลชไดร์ฟ” ได้อีก 10 ปี

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 07:11 น.

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

ตัวอย่างฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟของซีเกทที่จัดแสดงในงานประชุมวิชาการ

โซนแสดงสินค้าของเวสเทิร์นดิจิทัล

รศ.ดร.ชิต เหล่าวัฒนา

ดร.พันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์

เนคเทคยังเห็นโอกาสฮาร์ดไดร์ฟ” เบียดคู่แฟลชไดร์ฟ” ได้อีก 10 ปี วางเป้ารักษาการเป็นฐานผลิตอันดับ 1 ของโลก ครองตลาด 42% ระบุที่ผ่านมา คนรู้จักไทยในฐานะผู้ผลิตและประกอบ จึงจัดประชุมนานาชาติเปิดตัวนักวิจัยให้อุตสาหกรรมต่างชาติได้รู้จัก
       
       ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) จัดงานประชุมวิชาการนานาชาติ The 2nd International Data Storage Technology Conference 2009 (DST-CON 2009) เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางวิชาการเกี่ยวกับอุตสาหกรรมคลัสเตอร์ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟระหว่างภาคการศึกษา ภาคอุตสาหกรรม และองค์กรที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 พ.ค.52 ณ ศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี
       
       ดร.พันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) กล่าวกับทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ว่า การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นเป็นปีที่ 2 แล้ว ทั้งนี้ไทยมีอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ที่ใหญ่มากและดำเนินการมากว่า 25 ปีแล้ว แต่คนทั่วไปมองว่าไทยเป็นเพียงผู้ผลิตและประกอบ ส่วนงานวิชาการและการเรียนการสอนเกี่ยวกับฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟในไทยยังไม่เป็นที่รู้จัก จึงจัดงานขึ้นเพื่อรวบรวมผลงานวิจัยและแสดงให้เห็นถึงบุคลากรที่จะรองรับอุตสาหกรรมฮาร์ดไดร์ฟ
       
       ทั้งนี้การประชุม DST-CON 2009 ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันระหว่างประเทศและส่งเสริมให้ไทยคงความเป็นเลิศด้านการผลิตฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟและอุปกรณ์เป็นอันดับ 1 ของโลก
       
       ดร.พันธ์ศักดิ์ยืนยันหนักแน่นมาไทยมาถึงจุดดังกล่าวแล้ว
โดยฐานการผลิตในไทยมีส่วนแบ่งตลาดฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟทั่วโลก 42% คิดเป็นมูลค่า 500,000 ล้านบาท ส่วนคู่แข่งที่สำคัญคือ มาเลเซีย สิงคโปร์และจีน ซึ่งฐานการผลิตส่วนใหญ่อยู่ในเอเชีย เนื่องจากเป็นตลาดที่การใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตเติบโตมากที่สุด
       
       อย่างไรก็ดีเมื่อทีมข่าววิทยาศาสตร์ฯ ได้ถามถึงอนาคตของธุรกิจฮาร์ดไดร์ฟซึ่งมีแนวโน้มว่าจะถูกธุรกิจแฟลชไดร์ฟเข้ามาแทนที่ ทาง ดร.พันธ์ศักดิ์ได้ให้ความเห็นว่าทั้ง 2 เทคโนโลยีมีข้อได้เปรียบ-เสียเปรียบต่างกัน 3 ข้อ
       
       ข้อแรกคือราคาของข้อมูลต่อบิตสำหรับฮาร์ดไดร์ฟถือว่ากินขาด เพราะถูกกว่ามาก ข้อต่อมาคือการใช้พลังงานของไดร์ฟแบบไซลิดสเตท (Solid State Drive: SSD) ได้เปรียบฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ และข้อสุดท้ายเรื่องการทนต่อแรงสั่นสะเทือนซึ่งฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟเสียเปรียบในเรื่องนี้
       
       “บางการประยุกต์ไม่ต้องยกอุปกร์ณบันทึกข้อมูลไปไหน-มาไหนก็ใช้ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ แต่บางอย่างต้องใช้ในแบบเคลื่อนที่ ซึ่งอย่างน้อยทั้ง 2 อย่างนี้จะอยู่คู่กันไปอีก 10 ปี แต่หลังจากนี้ก็ไม่ทราบแล้ว” ดร.พันธ์ศักดิ์กล่าว
       
       สำหรับเทคโนโลยีเกี่ยวกับฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟนั้น รศ.ดร.ชิต เหล่าวัฒนา ผู้อำนวยการโปรแกรมฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) กล่าวว่า เทคโนโลยีเกี่ยวกับฮาร์ดิสก์ไดร์ฟที่สำคัญมี 2 ส่วนคือ เทคโนโลยีด้านการผลิตซึ่งไทยจะเน้นให้ความสำคัญในส่วนนี้ และเทคโนโลยีเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ซึ่งต่างชาติยังเป็นเจ้าของเทคโนโลยีและผู้ออกแบบอยู่ แต่ไทยกำลังส่งอาจารย์มหาวิทยาลัยไปเรียนรู้เทคโนโลยีต้นที่ต่างประเทศ จำนวน 15 คน ซึ่งคาดว่าจะกลับมาช่วยพัฒนาในส่วนนี้ได้
       
       รศ.ดร.ชิตยังกล่าวด้วยว่า ในส่วนของงานวิจัย เนคเทคจะเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงอาจารย์ตามมหาวิทยาลัยต่างๆ กับอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ ซึ่งปัจจุบันเนคเทคมีงานวิจัยที่ร่วมกับเอกชนผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟประมาณ 150 โครงการ พร้อมยกตัวอย่างโครงการวิจัยที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้แก้ปัญหาเพิ่มกำลังการผลิตโดยใช้พื้นที่เท่าเดิมและไม่ต้องขยายโรงงานใหม่ ช่วยให้บริษัทประหยัดค่าใช้จ่ายลงได้ราว 8,000 ล้านบาท
       
       ทางด้าน ดร.พันธ์ศักด์ได้เสริมอีกว่า เมื่อใดที่ไทยหมดความสามารถในการแข่งขัน นักลงทุนก็จะย้ายฐานการผลิต ซึ่งที่ผ่านมาทุกประเทศล้วนใช้เงื่อนไขทางด้านภาษีเป็นแรงจูงใจนักลงทุน แต่ต่อไปไม่ใช้สามารถใช้กลไกดังกล่าวได้ต่อไป เนคเทคจึงได้วางกลยุทธ์ในการสร้างคนและห้องปฏิบัติการเพื่อช่วยแก้ปัญหาให้แก่ภาคอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการให้ทุนระดับปริญญาโท-เอก ซึ่งไม่ใช่การศึกษาเพียงในกระดาษแต่ได้ลงมือปฏิบัติจริง.

อ่านต่อที่ : เนคเทคยังเห็นโอกาส “ฮาร์ดไดร์ฟ” เบียดคู่ “แฟลชไดร์ฟ” ได้อีก 10 ปี

ปากีฯวอนขอความช่วยเหลือประชาชนไร้ที่อยู่อาศัยหลายแสน พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in ต่างประเทศ.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

ปากีฯวอนขอความช่วยเหลือประชาชนไร้ที่อยู่อาศัยหลายแสน

คมชัดลึก :ยูเอ็น-ผู้นำปากีฯ วอนประชาคมโลกช่วยเหลือประชาชนเกือบล้านคนที่ต้องไร้ที่อยู่อาศัย เพราะการกวาดล้างกลุ่มตาลีบัน และอัล-ไกดาในหุบเขาสวาท

นายอาซิฟ อาลี ซาร์ดารี ประธานาธิบดีปากีสถาน กล่าวระหว่างเข้าร่วมประชุมที่สำนักงานใหญ่ขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ในนครนิวยอร์ก สหรัฐ เมื่อวันพุธ (13 พ.ค.) ตามเวลาประเทศไทย วิงวอนให้นานาประเทศช่วยเหลือประชาชนของตัวเองหลายแสนคนที่ต้องพลัดที่นาคาที่อยู่ เพราะการสู้รบอันหนักหน่วงในพื้นที่ชนเผ่าทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ

 นายซาร์ดารีวิงวอนให้ชาวโลกใส่ใจต่อหายนะด้านมนุษยชนที่เกิดขึ้น โดยบอกว่า คนเหล่านี้ต้องสูญเสียพืชผลทางการเกษตร รายได้ ชีวิตความเป็นอยู่ และบ้านเรือนไป จึงอยากขอให้โลกช่วยกอบกู้ฐานะของพวกเขากลับคืนมา

 ด้านนายบัน คี มุน เลขาธิการยูเอ็น กล่าวว่า พร้อมจะให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวปากีสถานที่ต้องไร้ที่อยู่เพราะความขัดแย้งครั้งนี้ แต่ได้ขอให้ผู้นำปากีสถานปกป้องชีวิตของประชาชนเป็นอันดับแรกในการปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้

 ขณะที่สถานการณ์การสู้รบยังคงดุเดือด ทางการปากีสถานส่งเฮลิคอปเตอร์หลายลำหย่อนหน่วยคอมมานโดเข้าไปปฏิบัติการ “ค้นหาและทำลาย” ในพื้นที่ปิโอชาร์ในหุบเขาสวาท โดยปิโอชาร์นี้เป็นฐานหลัง ที่ประเมินว่ามีนักรบตาลีบันอยู่ถึง 4,000 คน และมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นที่ซ่อนตัวของมาอูลานา ฟาซลัลเลาะห์ ผู้บัญชาการตาลีบันในหุบเขาสวาทด้วย

 การทิ้งระเบิดทางอากาศเพื่อถล่มฐานที่มั่นของตาลีบันทั่วหุบเขาสวาทนี้ ได้เปลี่ยนให้รีสอร์ทเล่นสกีที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามมาก และเคยเป็นที่ชื่นชอบของชาวตะวันตกให้กลายเป็นซากปรักหักพัง ด้านกลุ่มตาลีบันได้ตอบโต้ด้วยการบุกทำลายที่จอดรถบรรทุกขนเสบียงไปป้อนให้แก่ทหารสหรัฐ และทหารนาโต ที่ประจำการอยู่ในอัฟกานิสถาน และเผารถบรรทุกไป 8 คัน

 ทางการปากีสถานได้ปฏิบัติการถล่มหุบเขาสวาท และพื้นที่รายรอบเต็มรูปแบบ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ภายหลังจากตาลีบันรุกคืบเข้ามาครอบครองพื้นที่ห่างจากกรุงอิสลามาบัด เมืองหลวง เพียงแค่ 100 กิโลเมตรเท่านั้น จนถึงขณะนี้ทางการปากีสถานอ้างว่าได้สังหารกลุ่มติดอาวุธไปแล้วกว่า 750 คน ขณะที่ฝ่ายทหารสูญเสียชีวิตเพียง 29 คน และไม่มีรายงานว่าประชาชนเสียชีวิต ส่วนยอดคนที่ต้องหนีตายจากบ้านเกิดนั้นสูงถึง 8 แสนคน

 ผู้สื่อข่าวของเอพีที่ไปเยี่ยมค่ายผู้ลี้ภัย 3 แห่ง ที่อยู่ทางใต้ของสมรภูมิ กล่าวว่า ค่ายเหล่านี้อยู่ในสภาพที่ร้อนมาก และเต็มไปด้วยฝุ่น แต่มีอาหาร ที่พักอาศัย และการรักษาขั้นพื้นฐานให้แก่ประชาชนที่หนีตายมา ขณะที่เจ้าหน้าที่เผยว่า ยอดผู้ลี้ภัยที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้ เพราะมีคนอีกเป็นจำนวนมากที่ไปอาศัยอยู่กับญาติๆ โดยไม่ได้มาลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่

อ่านต่อที่ : ปากีฯวอนขอความช่วยเหลือประชาชนไร้ที่อยู่อาศัยหลายแสน

เฟอร์รารีขู่ลาเอฟวัน2010 พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in กีฬา.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

เฟอร์รารีขู่ลาเอฟวัน2010

“ม้าลำพอง” เฟอร์รารี แถลงผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารของทีมเมื่อวันที่ 12 พ.ค. มีมติให้ทีมถอนตัวออกจากการแข่งขันฟอร์มูลาวันฤดูกาล 2010 หากสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (เอฟไอเอ) ยืนยันใช้เพดานงบประมาณ 40 ล้านปอนด์ (ราว 2,120 ล้านบาท)

ข้อกำหนดดังกล่าวจะทำให้ทีมที่เลือกใช้เพดานงบประมาณมีอิสรภาพในการพัฒนาทางด้านเทคนิคมากกว่า ซึ่งเฟอร์รารีมองว่าเป็นการปฏิบัติแบบ 2 มาตรฐาน

“ผิดหวังกับวิธีการที่เอฟไอเอนำมาตัดสินใจเรื่องสำคัญๆ และไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับผู้ผลิตและทีมต่างๆได้ กฎการจัดการที่นำมาพัฒนาฟอร์มูลาวันกว่า 25 ปีที่ผ่านมาถูกละเลยไปแล้ว” เฟอร์รารี ซึ่งร่วมแข่งมาทั้ง 60 ฤดูกาล ออกแถลงการณ์ หลังจากที่โตโยต้าและเรดบุลล์เคยขู่มาแล้ว ขณะที่เรโนลต์ประกาศคำขู่ตามเฟอร์รารีไม่นาน

เฟอร์รารีที่มีผลประกอบการสูงถึง 441 ล้านยูโร (ราว 2.1 หมื่นล้านบาท) ในไตรมาสแรกของปีนี้ ยังหวั่นใจว่า ทีมอาจแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่สามารถอยู่ภายใต้เพดานงบประมาณโดยมีอิสรภาพทางด้านเทคนิคมากขึ้น กับกลุ่มที่อยู่ไม่ได้

อ่านต่อที่ : เฟอร์รารีขู่ลาเอฟวัน2010

“ปธ.เอฟไอเอ” ช็อก! ลูกชายตายปริศนาในบ้านตัวเอง พฤษภาคม 13, 2009

Posted by 1000thainews in กีฬา.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

“ปธ.เอฟไอเอ” ช็อก! ลูกชายตายปริศนาในบ้านตัวเอง
หน้าแรกผู้จัดการ Online | หน้าแรกกีฬา | Motorsport

 

ShowMemberLite()

\”ปธ.เอฟไอเอ\” ช็อก! ลูกชายตายปริศนาในบ้านตัวเอง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
7 พฤษภาคม 2552 11:19 น.

       แม็กซ์ มอสลีย์ ประธานสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (เอฟไอเอ) ต้องพบกับข่าวร้ายสุดขีด เมื่ออเล็กซานเดอร์ ลูกชายวัย 39 ปี เสียชีวิตแบบปริศนาในบ้านของตัวเอง เมื่อช่วงเย็นวันอังคารที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น

อเล็กซานเดอร์ (ซ้าย) ลูกชาย แม็กซ์ มอสลีย์

       ประธานเอฟไอเอผู้อื้อฉาวจากเหตุการณ์มั่วเซ็กกับสาวบริการเมื่อปีที่ผ่านมา นอกจากจะถูกกดดันจากสมาคมทีมแข่งเอฟวัน (FOTA) กรณีออกกฎใหม่ในปี 2010 แล้ว ยังต้องพบเรื่องเศร้าที่สุดในชีวิต เมื่อลูกชายหัวแก้วหัวแหวนต้องจบชีวิตลงแบบปริศนา
       
       โดย \”สกายนิวส์\” สื่อชั้นนำของอังกฤษ รายงานว่า อเล็กซานเดอร์ มอสลีย์ วัย 39 ปี ถูกพบกลายเป็นร่างไร้วิญญาณ อยู่ในบ้านพักย่านนอนติง ฮิลล์ บริเวณตะวันตกของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งสื่อผู้ดีเชื่อว่า สาเหตุการเสียชีวิตน่าจะมาจากการเสพย์ยาเกินขนาดของลูกชายปธ.เอฟไอเอ
       
       อย่างไรก็ดีตำรวจสกอตแลนด์ ยาร์ด เผย เบื้องข้อมูลเบื้องต้นถึงการเสียชีวิตของอเล็กซานเดอร์ เพียงว่า \”เราได้รับแจ้งเหตุเมื่อช่วงเย็นวันอังคารว่ามีพบชายเสียชีวิตในเคหะสถาน เราจำเป็นต้องชันสูตรสาเหตุการตายอย่างละเอียด และจะแจ้งให้ทราบต่อไป\”
       
       ภายหลังการเสียชีวิตของลูกชายมอสลีย์ เอฟไอเอได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจไปยังบอสใหญ่และครอบครัว พร้อมเผยว่ามอสลีย์วัย 59 ปี ได้ยกคิวที่จะเดินทางไปยัง คาตาลุนญาเซอร์กิต ประเทศสเปน สังเวียนแข่งสแปนิช กรังด์ปรีซ์ สุดสัปดาห์นี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อ่านต่อที่ : “ปธ.เอฟไอเอ” ช็อก! ลูกชายตายปริศนาในบ้านตัวเอง

กำลังผสมถล่มตาลีบันพลเรือนตายเป็นเบือ พฤษภาคม 13, 2009

Posted by 1000thainews in ทั่วไป.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

กำลังผสมถล่มตาลีบันพลเรือนตายเป็นเบือ

กองกำลังผสมนานาชาติ นำโดยสหรัฐ โจมตีทางอากาศกลุ่มหัวรุนแรง แต่มีพลเรือนเสียชีวิตร่วมด้วยกว่า 100 ศพ ทั้งกองทัพสหรัฐและรัฐบาลอัฟกานิสถานสั่งสอบสวนเป็นการด่วน ส่วนปากีสถานยิงระเบิดถล่มกลุ่มหัวรุนแรง ดับ 27 ศพ ประชาชน 5 แสนอพยพหนีตาย
 
อับดุล กาฟาร์ วาตันดาร์ หัวหน้าตำรวจจังหวัดฟาราห์ พื้นที่ห่างไกลทางตะวันตกของอัฟกานิสถาน เปิดเผยเมื่อวันพุธว่า การปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มหัวรุนแรง มีผู้เสียชีวิต 100 ศพ ซึ่งรวมทั้งพลเรือน ในการโจมตีที่นองเลือดที่สุดในรอบเกือบ 8 ปี กองทัพสหรัฐได้เปิดการสอบสวนการโจมตีเมื่อคืนวันจันทร์และวันอังคารในจังหวัดฟาราห์แล้ว ขณะที่ ประธานาธิบดีฮามิด คาร์ไซ ของอัฟกานิสถาน สั่งให้รัฐบาลของเขาสอบสวนรายงานการเสียชีวิตของพลเรือนจำนวนมากแล้ว พร้อมทั้งกล่าวว่า เขาจะหารือกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐในวันพุธ (6 พ.ค.) เกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่ว่า มีพลเรือนเสียชีวิตหลายสิบคนในการโจมตีดังกล่าว
 
วาตันดาร์ กล่าวว่า มีผู้เสียชีวิต 100 ศพใน 2 หมู่บ้าน โดยข้อมูลที่เขาได้รับมาพบว่า มีประชาชนที่ไม่ใช่นักรบของกลุ่มหัวรุนแรงมากกว่า 100 คนเสียชีวิต แต่ขณะนี้ เจ้าหน้าที่กำลังพยายามแยกนักรบกลุ่มหัวรุนแรงและจำนวนพลเรือนอยู่ ก่อนหน้านี้ วาตันดาร์กล่าวว่า จำนวนพลเรือนที่เสียชีวิตในการปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้มีมากกว่า 30 ศพ แต่นั่นไม่ใช่จำนวนที่แท้จริง
 
ด้านนายโมฮัมหมัด ยูนุส ราซูลี รองผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวว่า เขาได้เห็นศพของเด็กประมาณ 20 ศพ ที่ชาวบ้านนำไปยังเมืองเอกของจังหวัดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หากได้รับการยืนยัน จำนวนพลเรือนที่เสียชีวิต 30 ศพ จะเป็นอีกครั้งหนึ่งที่มีพลเรือนเสียชีวิตสูงที่สุดในการโจมตี    ทางอากาศของกองกำลังต่างชาติ ซึ่งบุกอัฟกานิสถาน ในปี 2544 เพื่อขับไล่รัฐบาลตาลีบัน และ ยังคงเดินหน้าขุดรากถอนโคนกลุ่มหัวรุนแรงในอัฟกานิสถานอยู่
 
ส่วนกองกำลังทหารของปากีสถาน ยิงระเบิดถล่มฐานที่มั่นของกลุ่มหัวรุนแรงในเมืองบูเนอร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเมื่อวันพุธ ทำให้กลุ่มหัวรุนแรงเสียชีวิตไป 27 ศพ และทำลายรถยนต์ไป 8 คัน ขณะเดียวกัน พลเรือนปากีสถานถึง 500,000 คน อพยพหนีออกจากหุบเขาสวัตในปากีสถาน ตามคำสั่งของรัฐบาล ก่อนกองกำลังรัฐบาลจะเคลื่อนพลบุกกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธตาลีบันครั้งใหญ่ ที่ซ่องสุมกำลังในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งพลเรือนเหล่านี้ ก็รีบอพยพหนีด้วยความตื่นตกใจ
 
ด้านประธานาธิบดีโอบามา จะพยายามเกลี้ยกล่อมให้ผู้นำปากีสถานและอัฟกานิสถาน กวาดล้างกลุ่มหัวรุนแรง ในการประชุม 3 ฝ่ายที่กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อสลายความไม่ไว้วางใจที่เป็นอุปสรรคต่อความพยายามปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย โดยโอบามาจะจัดการหารือแบบตัวต่อตัวกับคาร์ไซ และประธานาธิบดีอาซิฟ อาลี ซาร์ดารี ของปากีสถาน และประชุมพร้อมกันทั้ง 3 ฝ่ายด้าย.

อ่านต่อที่ : กำลังผสมถล่มตาลีบันพลเรือนตายเป็นเบือ

ยึดปืนสงครามแก๊งโจรปล้นร้านทอง พฤษภาคม 13, 2009

Posted by 1000thainews in ทั่วไป.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

ยึดปืนสงครามแก๊งโจรปล้นร้านทอง

เปิดปากยอมรับซื้อมาจากทหารเร่งตามล่าอีก2

ตะลึง! ปืนสงครามนานาชนิดและกระสุนเกือบหมื่นนัด คล้ายคลังแสงย่อม ๆ ยึดได้จาก3โจรปล้นร้านทองที่พัทยา หัวหน้าแก๊งเป็นพ่อค้าข้าวหลามหนองมน รับสารภาพลงทุนครึ่งล้านซื้ออาวุธมาจากทหาร “ร. 21 รอ.” ส่วนสาเหตุบุกปล้นมาจากความคึกคะนอง อยากทดลองใช้อาวุธที่สะสมไว้ บวกกับลูกบ้าเพราะดูหนังมากไป โดยเฉพาะหัวหน้าแก๊งมีอาชีพขายข้าวหลามในตลาดหนองมน ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน เมื่อไปชวนเพื่อนก็เออออด้วย เพราะเห็นว่าทำแล้วได้เงินใช้ และมีเงินผ่อนรถ ส่วนอีก 2 คนที่ยังหลบหนีคาดได้ตัวเร็ว ๆ นี้ ทางด้าน “ระนอง” เจ้าหน้าที่เรียกประชุมเจ้าของร้านทอง วางมาตรการป้องกันโจรอย่างเข้มงวด

ความคืบหน้าคดีกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธ สงครามนานาชนิด บุกปล้นร้านทองเยาวราช ย่านหาดจอมเทียน หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปจำนวนมากนั้น 
 
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 6 พ.ค. พล.ต.ท.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล ผู้ช่วยผบ.ตร. รักษาการแทนผบช.ภ.2 พล.ต.ต.โกศล พัวเวส พล.ต.ต.   นิวัฒน์ รัตนาธรรมวัฒน์ พล.ต.ต.ปราโมช ปทุมวงศ์ รอง ผบช.ภ.2 รักษาการ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เงามุข รอง ผบก.หน.ศสส.ภ.2 และพ.ต.อ.ธีรพล จินดาหลวง รอง ผบก.ภ.จว. ชลบุรี รักษาการแทน ผกก.สภ.พัทยา ได้ควบคุมตัวนายเกษม หรือไก่ กลิ่นดี อายุ 32 ปี นาย   กมล แสงเพิ่ม อายุ 36 ปี และนายสุรชาติ ยอดทอง อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาในคดีปล้นร้านทองเยาวราชพัทยา มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ที่ห้องประชุมสำนักงานตำรวจภูธรภาค 2 อ.เมือง ชลบุรี
 
การแถลงข่าวครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำของกลางที่ยึดได้จำนวนมากมาโชว์กับสื่อมวลชนด้วย ประกอบด้วย อาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 2 กระบอก (ติดกล้องเล็ง 1 กระบอก) อาวุธปืนอาก้า 2 กระบอก อาวุธปืนคาร์บิน 1 กระบอก อาวุธปืนเอ็ม 3 (ปกม.96) 1 กระบอก อาวุธปืนลูกโม่ .38 จำนวน 1 กระบอก เครื่องยิงลูกระเบิดแบบ เอ็ม 79 จำนวน 1 กระบอก ระเบิดขว้าง 2 ลูก ระเบิดควัน 1 ลูก กระสุนปืนเอ็ม 16 กว่า 6,000 นัด กระสุนปืนอาก้า 512 นัด กระสุนเอ็ม 79 จำนวน 22 นัด กระสุนปืน .38 จำนวน 18 นัด กระสุนปืนคาร์บิน 233 นัด กระสุนปืนกลเอ็ม 60 จำนวน 400 นัด และปลอกกระสุนปืนชนิดต่าง ๆ จำนวนมาก
 
รวมทั้งลังใส่กระสุนปืน 2 ลัง ซอง กระสุนปืนเอ็ม 16 ขนาด 20 นัด 7 ซอง ซอง กระสุนปืนเอ็ม 3 จำนวน 1 ซอง ซองกระสุนปืนคาร์บิน 2 ซอง ซองกระสุนปืนอาก้า 2 ซอง ถุงมือผ้าลายเทาขาว 1 คู่ โม่งคลุมหน้า 4 ผืน อุปกรณ์ล้างปืน 1 ชุด รถปิกอัพโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน นข 1090 นครนายก รถเก๋งโตโยต้า วีออส ทะเบียน กน 4889 ชลบุรี และสร้อยคอทองคำ 32 เส้น
 
ต่อมาเวลา 10.30 น. พล.ต.ต.ปราโมช พร้อมด้วยกำลังตำรวจคอมมานโด สภ.พัทยา ได้ควบคุมตัวนายกมล และนายสุรชาติ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในร้านทองที่เกิดเหตุ ท่ามกลางความสนใจของชาวบ้านทั้งคนไทยและต่างชาติ ต่างพากันมายืนมุงดูการทำแผนเป็นจำนวนมาก จากนั้นได้คุมตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดใช้เครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 ยิงถล่มใส่รถตำรวจจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บในซอยชัยพฤกษ์ 2 แล้วเดินทางไปบ้านของนายเกษม เลขที่ 153 หมู่ 5 ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง ซึ่งใช้เป็นสถานที่ในการวางแผนปล้น และชี้จุดที่จอดรถทิ้งไว้ก่อนที่จะพากันไปแบ่งทองแล้วแยกย้ายกันหลบหนี โดยใช้เวลาทำแผนประมาณ 2 ชั่วโมง จึงแล้วเสร็จ
 
พล.ต.ต.ปราโมช เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำนายกมล ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือใช้อาวุธสงครามยิงเข้าไปในร้านทอง และทำหน้าที่คุมเชิงในระหว่างที่นายศร กับนายดำ สองคนร้ายที่อยู่ระหว่างหลบหนี ทุบกระจกกวาดทองใส่กระเป๋า ส่วนนายสุรชาติทำหน้าที่ขับรถเก๋งพาหลบหนี นอกจากนี้ยังสารภาพอีกว่าเป็นคนใช้เครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 ยิงใส่รถตำรวจ เพื่อเปิดทางหลบ หนี จากนั้นจึงนำทองคำทั้งหมดที่ปล้นมาได้ประมาณ 180 บาท ไปแบ่งกัน 4 ส่วน ได้คนละประมาณ 40 บาทเท่านั้น ไม่ได้ทองคำไปถึง 300 บาท ตามที่เป็นข่าว ส่วนอาวุธปืนสงครามจำนวนมากนั้น ติดต่อซื้อมาจากเพื่อนคนหนึ่งซึ่งเป็นทหารอยู่ในกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 รอ.) ค่ายนวมินทราชินี อ.เมืองชลบุรี ในราคา 5 แสนบาท
 
“ส่วนนายเกษม ให้การภาคเสธว่า ไม่ได้เป็นคนลงมือก่อเหตุ แต่ยอมรับว่าได้ใช้บ้านของตัวเองเป็นสถานที่วางแผนการทั้งหมด และเป็นคนจัดหาอาวุธปืนบางส่วนให้กลุ่มคนร้าย สรุปแล้วคดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 5 คน ยังเหลืออีก 2 คนที่อยู่ระหว่างการหลบหนี เบื้องต้นทราบชื่อแล้วคือนายศร เป็นคนจ.ระยอง มีอาชีพขับรถแท็กซี่ป้ายดำที่เมืองพัทยา กับนายดำ ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งทางตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับมาดำเนินคดีตามกฎหมาย คาดว่าน่าจะได้ตัวเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน” พล.ต.ต.ปราโมช กล่าว
 
ทางด้าน พ.ต.ท.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวนฯ ภ.จว.ชลบุรี เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหากลุ่มนี้ถึงสาเหตุบุกเข้าปล้นร้านทองดังกล่าว มาจากความฮึกเหิม อยากทดลองใช้อาวุธปืนที่สะสมไว้ บวกกับลูกบ้าและชอบลองของ เพราะอาจดูภาพยนตร์มากไป โดยเฉพาะนายกมลซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง มีอาชีพขายข้าวหลามอยู่ในตลาดหนองมน จึงไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน เมื่อไปชวนเพื่อน ๆ ก็เออออด้วย เพราะเห็นว่าทำแล้วได้เงินใช้ และมีเงินผ่อนรถ    
 
ส่วนที่ จ.ระนอง นายธรรมา รัตนะพิสัย เจ้าของร้านทองไทยเจริญ เลขที่ 79 ถนนเรืองราษฎร์ อ.เมืองระนอง กล่าวว่า ผู้ประกอบร้านทองในระนอง ส่วนใหญ่เป็นญาติพี่น้องกัน มีการพูดคุยกันตลอด และช่วยนั่งมองหน้าร้านให้กันหากใครไม่อยู่ร้าน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาตรวจตราอย่างสม่ำเสมอ คิดว่าน่าจะปลอดภัย อีกทั้งทุกร้านมีการติดกล้องวงจรปิด บางส่วนก็มีการฝึกใช้อาวุธ จึงน่าจะป้องกันได้ดีในระดับหนึ่ง
 
ขณะที่ พ.ต.อ.ภิญโญ หวลกสินธุ์ ผกก. สภ.เมืองระนอง เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการป้องกันเหตุปล้นร้านทอง จึงได้เชิญเจ้าของร้านทองมาประชุมเพื่อวางมาตรการในการป้องกันเหตุร้าย โดยขอความร่วมมือให้ติดตั้งกล้องวงจรปิด พร้อมทั้งติดตั้งกริ่งเตือนภัย หากเป็นไปได้อยากให้มีการติดตั้งเหล็กดัดที่เคาน์เตอร์หรือตู้โชว์ทอง ระหว่างผู้ขายกับผู้ซื้อ นอกจากนี้ยังได้ขอความร่วมมือให้ร้านทองเปิดและปิดร้านพร้อมกันทุกวัน คือ เปิดเวลา 08.00 น. และปิดเวลา 17.00 น. ส่วนวันหยุดก็ให้หยุดพร้อมกัน ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดีจากเจ้าของร้านทอง.

อ่านต่อที่ : ยึดปืนสงครามแก๊งโจรปล้นร้านทอง

เวียนเทียนล้นพุทธมณฑล พฤษภาคม 13, 2009

Posted by 1000thainews in ภูมิภาค.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

เวียนเทียนล้นพุทธมณฑล

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 6 พ.ค. 52 ที่ลานหน้าพระศรีศากยะทศพลญาณ ประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม พระสงฆ์ คณะผู้นำชาวพุทธนานาชาติ และพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก เข้าร่วมในพิธีขบวนธรรมยาตรา อัญเชิญเครื่องสักการะแด่องค์พระศรีศากยะทศพลญาณ ประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์ โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ กล่าวสัมโมทนียกถาและนำเจริญจิตตภาวนา ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และนายสนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย เปิดกรวยสักการะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นได้ร่วมพิธีเวียนเทียนรอบองค์พระศรีศากยะทศพลญาณ ประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์ นอกจากนี้ได้มีการแสดงม่านน้ำพุทธประวัติ ชุดวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลโลก ที่บริเวณหน้าองค์ประธานพุทธมณฑล.

อ่านต่อที่ : เวียนเทียนล้นพุทธมณฑล