ข่าว ในประเทศไทย

“สุเทพ”ปัดหยิบ”ข้าวโพดเดือด” ถกในวงกินข้าวพรรคร่วม พฤษภาคม 14, 2009

“สุเทพ”ปัดหยิบ”ข้าวโพดเดือด” ถกในวงกินข้าวพรรคร่วม

"สุเทพ"ปัดหยิบ"ข้าวโพดเดือด" ถกในวงกินข้าวพรรคร่วม

เมื่อวันที่ 14 พ.ค. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ปะทะคารมกับนางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กรณีที่นายอภิสิทธิ์คัดค้านการระบายสต็อกข้าวโพดเก่า วว่า เรื่องนี้ไม่ได้หยิบขึ้นมาพูดคุย เพราะเราคุยในภาพรวม และมีเวลาพูดคุยกินข้าวแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ไม่ห่วงเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะไม่ใช่เรื่องระหว่างนายกฯกับรัฐมนตรี ปัญหาเกิดขึ้นเพราะข้าราชการที่เข้าไปชี้แจง ชี้แจงไม่ถูกต้องเท่าที่ควร ทั้งนี้ การระบายข้าวโพดเก่ามีคณะกรรมการดูอยู่ ซึ่งเมื่อเปลี่ยนชุดใหม่ก็ต้องให้พิจารณากันใหม่ โดยการแทรกแซงราคาข้าวโพดนั้น คณะรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบเท่ากัน เพราะกระทบกับชีวิตของคนไทยส่วนใหญ่

นายสุเทพ ยังกล่าวปฏิเสธว่า นางพรทิวาไม่ได้กล่าวโจมตีนายกฯ ว่าสองมาตรฐาน แต่ยอมรับว่าถ้ารัฐมนตรีจะต่อว่าอะไรนายกฯ คงมีอะไรอยู่ในใจ แต่ยืนยันในฐานะผู้จัดการรัฐบาล ว่า ยังไม่มีปัญหาในการร่วมรัฐบาล ระหว่างพรรคร่วมกับประชาธิปัตย์ เพราะถ้าเขาติดใจอะไร คิดว่าคงบอกตนแล้ว

อ่านต่อที่ : “สุเทพ”ปัดหยิบ”ข้าวโพดเดือด” ถกในวงกินข้าวพรรคร่วม

“ชัญญ่า” ฉุนถูกเขียนแฉ วอนให้นักข่าวที่เขียนขอโทษจะได้ยุติการฟ้องร้อง พฤษภาคม 14, 2009

“ชัญญ่า” ฉุนถูกเขียนแฉ วอนให้นักข่าวที่เขียนขอโทษจะได้ยุติการฟ้องร้อง

“ชัญญ่า” ฉุนไอเอ็นเอ็นวิพากษ์แม่ ร้องขอให้ออกมาขอโทษ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 13:44 น.

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

“ชัญญ่า” ฉุนเว็บไซต์ไอเอ็นเอ็นเขียนข่าววิพากษ์มารดา ข้องใจว่าทำอะไรให้ทำไมต้องว่ากันรุนแรง เผยอยากให้คนเขียนมาคุยกับแม่โดยตรงทุกอย่างจะได้ยุติไม่มีการฟ้องร้อง
       
        ถึงกับออกอาการฉุนทีเดียวสำหรับนางแบบลูกครึ่งสาว “ชัญญ่า ทามาดะ” หลังถูกเว็บไซต์ไอเอ็นเอ็นเขียนวิพากษ์ผู้เป็นมารดาว่าเป็นไฮโซจอมปลอม บงการให้ลูกสาวเกาะคนอื่นเพื่อเข้าสังคม แถมยังซัดไปถึงอดีตอีกว่าเคยเป็นนางแบบดาวยั่วและเปลี่ยนชื่อมาแล้วไม่รู้กี่ตลบ
       
        นอกจากนี้ยังพาดพิงไปถึงตัวเธอด้วยว่ามีเพียงหุ้นลมในกิจการร้านจำหน่ายกระเป๋าแบรนด์เนมกับหนุ่มไรวินทร์ ส่งผลให้ผู้เป็นมารดาประกาศฟ้องเว็บไซต์ดังกล่าวหากไม่ออกมากล่าวขอโทษ ซึ่งล่าสุดชัญญ่าก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวว่า
       
        “คุณแม่ค่อนข้างปรี๊ดมากถ้าคนอ่านข่าวจริงๆ จะทราบว่ามันแรงมาก แรงที่สุดเท่าที่เคยโดนเขียนมา จริงๆ ถ้าเขียนถึงชัญญ่าไม่ดีชัญญ่าไม่เคยโกรธอะไร ซึ่งที่ผ่านๆ มาแรงๆ ทั้งนั้น แต่คราวนี้มาเขียนถึงคุณแม่ อันนี้โกรธมากจริงๆ คือจริงๆ แล้วมันไม่ได้อยู่ที่คุณแม่โกรธเพราะโดนว่าแต่ว่า มันกระทบถึงลูก คือไม่น่าจะมีอะไรน่าจะเคลียร์กันได้ด้วยดี”
       
       “ตอนนี้อยากจะได้คุยกับนักข่าวไอเอ็นเอ็นคนหนึ่งก็มีคนมาบอกแล้วว่าเป็นใคร ตอนนี้ก็อยากจะให้คนๆ นั้นโทรมาขอโทษคุณแม่เป็นการส่วนตัว เพราะคุณแม่อยากจะทราบว่าเฮ้ยโกรธอะไรเกลียดอะไรกันขนาดนั้นเหรอถึงเขียนได้กันขนาดนี้ไปทำอะไรให้เหรอ”
       
        “คือคุณแม่เป็นคนพูดดีอยู่แล้วไม่ต้องเครียดเลยว่าเขาจะพูดไม่ดีใส่ คือถ้าเขายอมทำตามอย่างที่คุณแม่อยากให้ทำก็น่าจะเคลียร์กันได้ด้วยดี แต่ถ้าไม่ทำอย่างรอบที่แล้วให้ลงขอโทษ แต่ก็ลงแบบหน้าหนึ่งว่าเป็นโต้ข่าวไม่มีคำว่าขอโทษเลย อย่างนั้นก็ไม่เอาก็คงต้องฟ้อง”
       
        “ตอนนี้รู้อย่างเดียวว่าคุณแม่อยากคุยกับพี่คนที่เขียนที่ชื่อที่อยู่ไอเอ็นเอ็น ซึ่งคุณแม่ท่านรู้ชื่อแล้ว ไม่รู้นะชัญญ่าไปทำอะไรให้พี่เขานะทำไมต้องด่าแรงขนาดนั้นด้วย คือถึงมันจะจริงหรือไม่จริงเขาก็ไม่ควรจะเขียนแรงขนาดนั้น แล้วเขาได้ยินมาจากไหนแหล่งข่าววงในคือใครช่วยบอกหน่อย แหล่งข่าวคนนี้เขามักจะทำอะไรไม่ดีใส่ชัญญ่าตลอดคือคนนั้นก็ปล่อยไปตามเวรตามกรรม แต่กับพี่คนที่เขียนข่าวก็ต้องคุยกันหน่อย”
       
       “การที่เราฟ้องไม่ใช่ว่าเราอยากได้อะไรก็แค่อยากเรียกสิทธิ์ของเราคืนมา เราก็ไม่ใช่ว่าเป็นดาราดังมากที่ทุกคนจะต้องมาเขียนถึงเราถูกมั้ยคะ แล้วเราก็ต้องมีชีวิตต่อไปจะให้คนมาดิสเครดิตเราทำลายอนาคตเรา มันก็ไม่ถูก คือคนให้ข่าวเขาก็คงไม่ออกมาขอโทษหรอก”
       
        “เขาก็คงแฮปปี้ที่มีข่าวแบบนี้แต่คนเขียนข่าวเขาควรออกมาขอโทษเพราะมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขาแล้วเขาเอาไปเขียน คนให้ข่าวเป็นคนใกล้ตัวค่ะ แต่ไม่ใช่พี่วินค่ะ คนๆ นี้เขาเป็นคนที่เคยสนิทกับที่บ้านแล้วก็มีปัญหากัน แต่คือถ้าบอกแล้วจะรู้เลยเพราะคุณแม่ศัตรูน้อย คนๆ นี้เป็นผู้ใหญ่ค่ะ เป็นเพศหญิง”
       
        “ครั้งแรกบอกว่าชัญญ่าจัดฉาก ครั้งที่สองบอกว่าพี่วินจัดฉาก ครั้งล่าสุดก็บอกว่าคุณแม่จัดฉากต่อไปจะเล่นถึงหมาถึงลูกแมวหรือใครอีกหรือเปล่า คือตอนนี้ทุกคนจัดฉากหมดแล้วเหลือใครบ้างล่ะ คนที่ไม่ได้มาเกี่ยวข้องเดี๋ยวก็มาเกี่ยวจนได้”
       
        มีข่าวว่าวินกับฟลุคร่วมมือกันแฉ?…”ไม่ใช่เลยค่ะ จะเป็นไปได้เหรอคะ ชัญญ่าไม่เคยคิดแบบนั้น ตั้งแต่มีข่าวว่าทะเลาะกันก็ไม่มีอะไรตอนนั้นก็ไม่ได้ทะเลาะกันด้วย มีแต่งอนๆ ก็หันหน้าหนีแล้วก็หันมาคุยกันแค่นั้น ส่วนธุรกิจร้านกระเป๋าคือตอนนี้หาที่ใหม่อยู่ เพราะว่าค่าเช่าแพงมากแล้วก็เป็นหุ้นส่วนกันจริงๆ”
       
        “ข่าวที่บอกว่าชัญญ่าเป็นหุ้นลม ไม่ใช่เลย เป็นหุ้นจริงๆ ค่ะ ความรักกับพี่วินเราไม่ได้เลิกกันค่ะ ก็คือห่างกันซึ่งห่างกันหมายถึงว่าชัญญ่าต้องเรียน พี่วินก็ต้องทำงาน คือทุกคนต้องมีหน้าที่ของตนเองเราก็ต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ชัญญ่าก็ไม่เคยใช้คำว่าแฟนนะไม่เคยเรียกว่าแฟน”
       
        เคลียร์เรื่องที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นไฮโซปลอม
        “เอออันนี้ข้องใจนะ ไฮโซแล้วยังไงล่ะ ใครเป็นคนเขียนล่ะ ชัญญ่าไม่เคยบอกเลยว่าชัญญ่าเป็นไฮโซจากนี้ก็ไม่ต้องเขียนเลยว่าไฮโซชัญญ่าเพราะมันไม่มีแล้วชัญญ่าไม่ได้เป็นไฮโซค่ะ ชัญญ่าก็งงว่าเขียนว่าไฮโซกำมะลออะไรเขียนได้ยังไง”
       
        “แต่ยังไงเราก็ต้องสู้นะ ตอนนี้ไม่กลัวอะไรแล้วนะ เจ็บมาเยอะมาก มีอะไรมาชัญญ่าก็สู้ มีอะไรมาถามได้ ส่วนเรื่องงานตอนนี้ก็มีผู้จัดละครก็มีติดต่อมาบ้าง แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มี คืออะไรที่มันยังไม่ใช่ตัวชัญญ่าๆ ก็ไม่รับ คือถ้าบทมันเป็นอะไรที่เป็นตัวเรามากเลยก็คงจะรับแต่ ณ ตอนนี้ยังไม่มี”
       
        พร้อมปฏิเสธข่าวกิ๊กกับ “ไผ่ วันพ้อยท”
        “ก็สนิทกันๆ รักกันมาก ไม่ใช่ค่ะ(หัวเราะ) ก็เป็นพี่เป็นน้องกัน ชัญญ่าคงสวยไม่พอที่จะเป็นกิ๊กเขาหรอกนะ กับพี่ไผ่ไม่มีอะไรค่ะ ไม่มีเลย แต่ถ้าจะรอดูรูปหลุดน่ะมีอยู่แล้ว เพราะเราไปนั่นไปนี่ไปไหนด้วยกันมันก็ต้องมีภาพหลุดออกมาบ้างแล้วก็บอกไว้ตรงนี้เลยว่าไม่มีพัฒนา”
       
        แล้วเจอกันไผ่บ่อยๆ พี่วินจะน้อยใจหรือเปล่า?
        “ไม่หรอกๆ กับพี่วินก็คุยกันอยู่ทุกวัน ถ้าพี่วินว่างพี่วินก็มาด้วย ตอนนี้ก็พิมพ์คุยกันทุกวัน”
       
        คบกับใครก็มักจะตกเป็นข่าว
        “ชัญญ่าคบมาก่อนหน้านี้แล้วค่ะ ไม่เกี่ยวหรอก แล้วให้ชัญญ่าเป็นเพื่อนกับใครล่ะ พอชัญญ่ามีเพื่อนก็มาว่าอีก ชัญญ่าทำอะไรก็ผิดไปหมด ทำอะไรตอนนี้ก็ผิดไปหมด ไม่เอาแล้วไม่สนใจแล้วค่ะ คือถ้าบางคนถ้าชัญญ่าไม่รู้จักแล้วเขาอยู่ในวงการเป็นพี่ๆ ชัญญ่าก็จะไหว้หมดชัญญ่าถือว่าคุณแม่สอนให้ทำแบบนี้ ถ้าคนไหนไม่พอใจก็ขอโทษด้วยค่ะ”

อ่านต่อที่ : “ชัญญ่า” ฉุนถูกเขียนแฉ วอนให้นักข่าวที่เขียนขอโทษจะได้ยุติการฟ้องร้อง

อบจ.ภูเก็ตเตรียมเปิดให้บริการโรงพยาบาลอบจ.แห่งแรก พฤษภาคม 14, 2009

อบจ.ภูเก็ตเตรียมเปิดให้บริการโรงพยาบาลอบจ.แห่งแรก

อบจ.ภูเก็ตเตรียมเปิดให้บริการโรงพยาบาลอบจ.แห่งแรก

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 10:31 น.

       ศูนย์ข่าวภูเก็ต -นายกอบจ.ภูเก็ตคุยเปิดประมูลปรับปรุงซ่อมแซม อาคารโรงพยาบาลอบจ.ภูเก็ตได้ภายในเดือนหน้า เผยใช้งบประมาณเท่าเดิมแต่ได้ปริมาณงานเพิ่มขึ้น ยันต้นปี 53 เปิดให้บริการได้แน่นอน เฟสแรกเน้นให้บริการผู้สูงอายุ
       
       นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้าการเปิดให้บริการโรงพยาบาลอบจ.ภูเก็ต ถนนศรีสุทัศน์ ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่า เรื่องของการสร้างโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ตนั้นทางอบจ.ภูเก็ตไม่ได้นิ่งนอนใจและให้ความสำคัญในการดูแลรักษาสุขภาพและความเป็นอยู่ของประชาชน
       
       ในส่วนของการดำเนินการเรื่องของโรงพยาบาลอบจ.ภูเก็ต คาดว่าจะสามารถเปิดประมูลเพื่อหาผู้ดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซม ตกแต่งภายใน – ภายนอกอาคาร และปรับปรุงภูมิทัศน์ ซึ่งงบประมาณในการดำเนินการนั้นยังใช้งบประมาณเท่าเดิมคือจำนวน 333 ล้าน ซึ่งเดิมนั้นจะใช้ในการปรับปรุงตึก 10 ชั้น และไม่มีลิฟต์
       
       ทั้งนี้ อบจ.ภูเก็ตได้ศึกษารายละเอียดในการใช้งบ ทำให้สามารถเพิ่มปริมาณงานมากกว่าเดิมในขณะที่งบประมาณจำนวนเท่าเดิม โดยใช้งบจำนวน 333 ล้านบาท ใช้สำหรับการปรับปรุงซ่อมแซมตึก 10 ชั้น 1 หลัง ตึก 5 ชั้นจำนวน 1 หลัง มีลิฟท์ นอกจกานั้นยังรวมถึงการปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์ โดยในเดือนมิ.ย.ที่จะถึงนี้จะเปิดประมูลเพื่อหาผู้รับเหมาในการดำเนินการ
       
       สาเหตุที่การดำเนินการช้าเนื่องจากต้องมีการทบทวนแบบ แต่ขณะนี้การดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว และถ้าได้ผู้รับเหมาเข้ามาดำเนินงานตามที่กำหนดได้ ยืนยันว่าต้นปี 2553 โรงพยาบาลอบจ.ภูเก็ตจะเปิดให้บริการได้อย่างแน่นอน
       
       นายไพบูลย์ กล่าวต่อไปว่า ในการเปิดให้บริการโรงพยาบาลอบจ.ภูเก็ต ในเฟสแรกนั้นจะเป็นการเปิดให้บริการในส่วนของผู้สูงอายุ เพราะจากการจัดโครงการแพทย์พยาบาลเยี่ยมบ้านประชาชนพบว่า ประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ตส่วนใหญ่โดยเฉพาะผู้สูงอายุป่วยเป็นโรคเบาหวาน โรคความดัน ก็เลยคิดว่าโรงพยาบาลที่ตั้งขึ้นมาน่าจะให้บริการในส่วนของผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเรื้อรัง
       
       นอกจากการรักษาพยาบาลแล้ว จะเน้นในเรื่องของการฟื้นฟูและป้องกันปัญหาสุขภาพของผู้สูงอายุโดยจะใช้ตึก5ชั้นที่ปรับปรุง โดยให้เป็นสถานที่สำหรับการจัดกิจกรรมต่างๆของผู้สูงอายุโดยเฉพาะ
       
       สำหรับความพร้อมของแพทย์พยาบาลคิดว่าไม่มีปัญหาทั้งด้านบุคลากร แพทย์พยาบาล อุปกรณ์เครื่องมือ และเวชภัณฑ์ที่ทันสมัย แต่จะเน้นบริการเฉพาะด้านไปก่อน เพราะจะเน้นในทุกเรื่องเป็นไปไม่ได้ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายนั้นทางโรงพยาบาลอบจ.ภูเก็ตจะคิดค่ารักษาพยาบาลที่มีอัตราต่ำกว่าโรงพยาบาลทั่วไป แต่ในเรื่องของมาตรฐานนั้นทัดเทียมและมีคุณภาพเช่นเดียวกันกับโรงพยาบาลอื่นๆ

อ่านต่อที่ : อบจ.ภูเก็ตเตรียมเปิดให้บริการโรงพยาบาลอบจ.แห่งแรก

พม่าให้กงสุลสหรัฐเข้าพบชาวอเมริกันว่ายน้ำเข้าบ้านซูจี พฤษภาคม 14, 2009

พม่าให้กงสุลสหรัฐเข้าพบชาวอเมริกันว่ายน้ำเข้าบ้านซูจี

พม่าให้กงสุลสหรัฐเข้าพบชาวอเมริกันว่ายน้ำเข้าบ้านซูจี พม่า 14 พ.ค. – ทางการพม่าอนุญาตให้เจ้าหน้าที่สถานกงสุลสหรัฐ เข้าพบชายชาวอเมริกันที่ถูกจับกุมฐานว่ายน้ำข้ามทะเลสาบ เข้าไปค้างคืนในบ้านพักของนางออง ซาน ซูจี ผู้นำฝ่ายค้าน

สถานีโทรทัศน์แห่งชาติพม่ายังได้เผยแพร่ภาพนิ่งที่ยืนยันว่า นายจอห์น วิลเลียม เยียตตอว์ ได้พบนายโคลิน เฟิร์สต์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่กงสุลสหรัฐ ด้านสถานทูตสหรัฐยืนยันว่า มีการพบปะระหว่างเจ้าหน้าที่กงสุลกับนายเยียตตอว์จริง โดยการพูดคุยใช้เวลาประมาณ 30 นาที ซึ่งนายเยียตตอว์ดูมีสุขภาพแข็งแรงดี และเขายืนยันว่าได้รับการปฏิบัติจากเจ้าหน้าที่พม่าเป็นอย่างดี พร้อมกับระบุว่า จนถึงขณะนี้ นายเยียตตอว์ยังไม่ถูกทางการแจ้งข้อหาใด ๆ อย่างเป็นทางการ

นายเยียตตอว์ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม หลังมีรายงานว่าเขาว่ายน้ำข้ามทะเลสาบอินเลย์ ไปยังบ้านพักของนางซูจี และพักค้างคืนอยู่ที่นั่นเป็นเวลาถึง 2 คืน ทั้งที่ตามกฎหมายของพม่าจะไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าไปยังบ้านพักของผู้นำฝ่ายค้านพม่าเด็ดขาด ยกเว้นแพทย์ประจำตัวและทนายความเท่านั้น. -สำนักข่าวไทย

อ่านต่อที่ : พม่าให้กงสุลสหรัฐเข้าพบชาวอเมริกันว่ายน้ำเข้าบ้านซูจี

13:48 น. นายกฯยันจนท.ต้องเดินหน้าปราบปรามสิ่งผิดกฎหมาย พฤษภาคม 13, 2009

13:48 น. นายกฯยันจนท.ต้องเดินหน้าปราบปรามสิ่งผิดกฎหมาย

7 พค. 2552 13:48 น.

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์การปะทะกันของกลุ่มผู้ค้าย่านสีลมและเจ้าหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ที่บุกเข้าจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ว่า ได้คุยกับทางนายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ แล้วซึ่งท่านก็บอกว่าเคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้มาในหลายพื้นที่ ก็คงต้องมาทบทวนดูว่าวิธีการควรทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดการปะทะกัน แต่ความจำเป็นในการเดินหน้าทำตามนโยบายในเรื่องของการปราบปรามสิ่งที่ผิดกฎหมาย และต้องเผชิญกับอิทธิพลนั้นอย่างไรก็ต้องเดินหน้า
ผู้สื่อข่าวถามว่าแต่ปัญหาที่เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นเพราะทำเกินกว่าเหตุหรือเป็นเพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อิทธิพล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายอลงกรณ์บอกว่าในส่วนของการปฏิบัติ การทั้งหมดถ้ามีการกระทำอะไรที่เกินกว่าเหตุก็จะมีการดำเนินการในส่วนของรัฐที่จะมีการแก้ไขและให้ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ
ต่อข้อถามว่ายังยืนยันจะเดินหน้าตามนโยบายในการรักษาความถูกต้องใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การดำเนินการตามนโยบายคือการปราบปรามสิ่งที่ผิดกฎหมายนั้นจะต้องทำ
เมื่อถามว่ารัฐมีเครื่องมือให้กับข้าราชการที่ลงพื้นที่ไปปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เวลาเกิดเหตุแต่ละครั้งก็ต้องมาทบทวนดูว่าตรงไหนจะปรับปรุงได้ต่อไป
อ่านต่อที่ : 13:48 น. นายกฯยันจนท.ต้องเดินหน้าปราบปรามสิ่งผิดกฎหมาย

นายกฯชี้หากบุกพัฒน์พงษ์เกินกว่าเหตุ ต้องมีผู้รับผิดชอบ พฤษภาคม 13, 2009

นายกฯชี้หากบุกพัฒน์พงษ์เกินกว่าเหตุ ต้องมีผู้รับผิดชอบ

นายกฯชี้หากบุกพัฒน์พงษ์เกินกว่าเหตุ ต้องมีผู้รับผิดชอบ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันที่ 7 พ.ค.ถึงเหตุการณ์การปะทะกันของกลุ่มผู้ค้าย่านพัฒน์พงษ์และเจ้าหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ที่บุกเข้าจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ว่า ได้คุยกับทางนายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ บอกว่าเคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้มาในหลายพื้นที่ ก็คงต้องมาทบทวนดูว่าวิธีการควรทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดการปะทะกัน แต่ความจำเป็นในการเดินหน้าทำตามนโยบายในเรื่องของการปราบปรามสิ่งที่ผิดกฎหมาย และต้องเผชิญกับอิทธิพลนั้นอย่างไรก็ต้องเดินหน้า

ผู้สื่อข่าวถามว่า ครั้งนี้ได้ทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ หรือเพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อิทธิพล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายอลงกรณ์บอกว่าในส่วนของการปฏิบัติ การทั้งหมดถ้ามีการกระทำอะไรที่เกินกว่าเหตุ ก็จะมีการดำเนินการในส่วนของรัฐที่จะมีการแก้ไขและให้ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ ทั้งนี้ ยืนยันว่า จะต้องดำเนินการตามนโยบายคือการปราบปรามสิ่งที่ผิดกฎหมาย

อ่านต่อที่ : นายกฯชี้หากบุกพัฒน์พงษ์เกินกว่าเหตุ ต้องมีผู้รับผิดชอบ

‘ประวิตร’ท้วงตัดงบฯ กองทัพมีความจำเป็น พฤษภาคม 13, 2009

‘ประวิตร’ท้วงตัดงบฯ กองทัพมีความจำเป็น

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เปิดเผยว่า การที่คณะรัฐมนตรีปรับลดงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 วงเงิน 2 แสนล้านบาท ทำให้กระทบทุกกระทรวง แต่การจัดงบของกองทัพที่ผ่านมา ถือว่ายังน้อยน่าจะขยับขึ้นได้อีก ซึ่งเรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยอีกครั้ง

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ความจำเป็นของกองทัพในการใช้งบประมาณเพื่อพัฒนายุทโธปกรณ์ เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องคุยกัน นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รู้เรื่องนี้ดี ทั้งนี้กองทัพไม่ได้ต่อรอง เพียงแต่พูดถึงความต้องการ และหลักความจำเป็น ทุกอย่างมีข้อเท็จจริง

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อกองทัพประกาศจุดยืนชัดว่าเป็นกองทัพของประชาชน และเป็นกองทัพ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังนั้นไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล ถ้าสั่งการในเรื่องที่ถูกต้อง ก็ต้องยินดีปฏิบัติ การเมืองเป็นเรื่องของพรรคการเมืองและนักการเมือง แต่เมื่อพรรคการเมืองมาเป็นรัฐบาล ก็เป็นผู้บังคับบัญชาของกองทัพ และทำงานร่วมกับกองทัพได้

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กล่าวว่า ไม่ว่ารัฐบาลจะปรับลดอย่างไรกองทัพรับได้หมด

อ่านต่อที่ : ‘ประวิตร’ท้วงตัดงบฯ กองทัพมีความจำเป็น