jump to navigation

ตีพิมพ์บันทึกเทียนอันเหมิน พฤษภาคม 15, 2009

Posted by 1000thainews in ต่างประเทศ.
Tags: , , , , , , , , , , , , , ,
add a comment

ตีพิมพ์บันทึกเทียนอันเหมิน

ตีพิมพ์บันทึกเทียนอันเหมิน จีน 15 พ.ค. – บันทึกความทรงจำของอดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน เกี่ยวกับเหตุการณ์ปราบปรามนักศึกษาที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ถูกนำออกตีพิมพ์แล้ว

บันทึกความทรงจำดังกล่าวซึ่งถูกนำออกตีพิมพ์เป็นหนังสือ นำมาจากเทปบันทึกคำให้สัมภาษณ์ความยาว 30 ชั่วโมง ของนายจ้าว จื่อหยาง อดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ระหว่างที่ถูกกักบริเวณในบ้านพัก ภายหลังจากที่เขาถูกปลดจากตำแหน่ง หลังเกิดเหตุปราบปรามนักศึกษาที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ส่วนหนึ่งของเทปบันทึกคำให้สัมภาษณ์ ระบุอย่างชัดเจนว่านายจ้าวได้ประณามเหตุการณ์ที่ทหารปราบปรามนักศึกษาอย่างทารุณ ระหว่างวันที่ 3-4 มิถุนายน 2532 ว่าเป็นเหมือนโศกนาฏกรรม และเขาเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นอกจากนี้ นายจ้าวยังยกย่องการปกครองระบอบประชาธิปไตยของชาติตะวันตกด้วย การแสดงความเห็นดังกล่าวของนายจ้าว ทำให้เขาถูกปลดจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน และถูกกักบริเวณในบ้านพัก ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในปี 2548. –สำนักข่าวไทย

อ่านต่อที่ : ตีพิมพ์บันทึกเทียนอันเหมิน

07:43 น. หนังสือเปิดใจ”เจ้า จื่อ หยาง” ก่อนครบรอบ 20 ปี นองเลือดเทียนอันเหมิน พฤษภาคม 15, 2009

Posted by 1000thainews in ข่าวด่วน.
Tags: , , , , , , , , , , , , , ,
add a comment

07:43 น. หนังสือเปิดใจ”เจ้า จื่อ หยาง” ก่อนครบรอบ 20 ปี นองเลือดเทียนอันเหมิน

15 พค. 2552 07:43 น.

เพียงไม่กี่สัปดาห์ ก่อนถึงวันครบรอบ 20 ปี เหตุปราบปรามนองเลือดต่อนักศึกษาผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยที่จตุรัสเทียนอันเหมิน ของจีน ระหว่าง 3-4 มิถุนายน ปี 2532 ได้มีการออกหนังสือหนา 306 หน้า ชื่อ”นักโทษแห่งรัฐ : สารลับจากนายกฯ”เจ้า จื่อ หยาง” โดยนายเจ้าเป็นนายกรัฐมนตรีจีนในช่วงนั้น ผู้ถูกข้อหา”สร้างความแตกแยกในพรรค” และถูกปลดจากตำแหน่งเมื่อ 24 มิถุนายนปีเดียวกัน
นายเจ้าปรากฏตัวครั้งสุดท้ายต่อหน้าสาธารณชน เมื่อ 19 พฤษภาคม โดยเขาไปที่จตุรัสเทียนอันเหมิน ที่ซึ่งนักศึกษากำลังอดอาหารประท้วง และหลั่งน้ำตาขออภัยพวกเขา โดยกล่าวว่า ” ผมมาถึงช้าเกินไป” วันรุ่งขึ้นได้มีการประกาศกฏอัยการศึกในกรุงปักกิ่ง และสองสัปดาห์ต่อมา
รัฐบาลจีนก็ส่งทหารและรถถังเข้าปราบปรามอย่างนองเลือด เชื่อกันว่ามีผู้เสียชีวิตหลายพันคน
หนังสือเขียนขึ้นจากการใช้เวลา 4 ปี แกะและแปลเทปบันทึกเสียงความยาวรวม 30 ชั่วโมง ของนายเจ้าผู้ตกจากอำนาจเพราะคัดค้านการปราบปรามผู้ประท้วง เขาแอบอัดเทปเหล่านี้ในช่วงถูกควบคุมตัวอย่างเข้มงวดที่บ้านพักนาน 15 ปี และมอบให้กับหลายๆคนที่เขาไว้วางใจ นำออกจากจีน ก่อนถึงแก่อสัญกรรมเมื่อปี 2548
หนังสือเล่มนี้เป็นบันทึกความทรงจำ เกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆที่นำไปสู่การประท้วง และรายละเอียดของวิธีรับมือกับปัญหาของคณะผู้นำจีน จนนำไปสู่การปราบปรามนองเลือด และเป็นครั้งแรกที่ผู้อ่านจะได้รับรู้ถึงความรู้สึกโดดเดี่ยวของนายเจ้าในช่วงที่ถูกควบคุมตัวด้วย ช่วยให้ได้รู้ถึงวิธีการทำงานของคนวงในพรรคคอมมิวนิสต์จีนในช่วงวิกฤต ที่ไม่ค่อยมีใครได้ทราบ และมีบทสรุปที่ค่อนข้างไม่ธรรมดา โดยนายเจ้าได้เรียกร้องให้จีนเป็นประเทศประชาธิปไตยแบบรัฐสภา เพื่อพัฒนาไปสู่ความทันสมัยอย่างแท้จริง
หนังสือเล่มนี้ซึ่งแปลเป็นภาษาอังกฤษมีกำหนดออกขายทั่วโลกในวันที่ 19 พฤษภาคม ส่วนฉบับภาษาจีนจะตีพิมพ์เผยแพร่ช่วงสิ้นเดือน โดยสำนักพิมพ์ที่ฮ่องกงของนายโป๋ ผู หนึ่งในบรรณาธิการของหนังสือ ซึ่งเป็นบุตรชายของนายโป๋ ต่ง อดีตหัวหน้าคณะที่ปรึกษาของนายเจ้า แต่จะไม่มีวางขายในจีนแผ่นดินใหญ่
อ่านต่อที่ : 07:43 น. หนังสือเปิดใจ”เจ้า จื่อ หยาง” ก่อนครบรอบ 20 ปี นองเลือดเทียนอันเหมิน

เปิดประตูสู่ตำนานเมืองเพชร พฤษภาคม 15, 2009

Posted by 1000thainews in ทั่วไป.
Tags: , , , , , , , , , , , , , ,
add a comment

เปิดประตูสู่ตำนานเมืองเพชร

เพชรบุรี จังหวัดเล็ก ๆ มีทะเลเลื่องชื่ออย่างชะอำ และของฝากเป็นขนมหม้อแกงรสชาติอร่อยถูกใจผู้รับ หรือบางคนบอกว่าเมืองเพชรยังมีโบราณสถานสำคัญที่ควรมาเยี่ยมเยียนสักครั้งหนึ่งในชีวิต นั่นคือ พระนครคีรี หรือที่เรียกกันติดปากว่าเขาวัง ภูเขาขนาดย่อมอยู่ใจกลางเมือง เป็นที่ตั้งของพระราชวังบนยอดเขาแห่งแรกของเมืองไทย โดยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.4) นอกจากนี้ ยังมีวัดประจำพระราชวังคือ วัดพระแก้วน้อย มีพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระราชทานนามว่า พระธาตุจอมเพชร อีกด้วย

แต่ใครเล่า จะรู้ว่า เมืองเพชร ยังเป็นดินแดนแห่งประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของชาติไทย จนอาจกล่าวได้ว่าเป็น “เมืองอยุธยาที่ยังมีชีวิต เพราะมองไปทางใดก็จะแลเห็นวัดวาอารามเรียงราย จนไม่อาจนับได้ด้วยสายตา เพียงเท่านี้ก็ประเมินได้ว่า ชาวเมืองส่วนใหญ่ล้วนเป็นผู้มีความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนามาตั้งแต่ครั้งอดีตกาล สมกับคำขวัญว่าเขาวังคู่บ้าน ขนมหวาน เมืองพระ เลิศล้ำศิลปะ แดนธรรมะ ทะเลงาม”

ดังนั้น วัดแรกที่เราจะแนะนำให้รู้จัก ทางไปไม่ไกล อยู่ใจกลางเมืองพอดี ชื่อว่า “วัดมหาธาตุวรวิหาร” วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองแต่โบราณ มีพระปรางค์สีขาว 5 ยอด ทำด้วยศิลาแลง ตั้งเด่นเป็นสง่า คาดว่าแต่เดิมเป็นเทวาลัยในสมัยขอม ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ มีวิหารหลวงประดิษฐานพระประธานทรงเครื่องใหญ่เต็มยศสมัยอยุธยา ส่วนผนังทั้ง 4 ด้าน เป็นภาพจิตรกรรมวรรณคดีเรื่องทศชาติ บรรเลงด้วยสีฝุ่น ฝีมือของศิลปินเอกเมืองเพชร

ห่างไปไม่ไกลนัก มีวัดอีกแห่งที่ควรไปเยือนเพื่อสักการะ สร้างสิริมงคลแก่ชีวิต คือ “วัดเพชรพลี” สันนิษฐานว่าเป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยา สิ่งสำคัญ ได้แก่ บุษบกที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ สามารถขึ้น-ลงได้ด้วยลิฟต์ ภายในยังมีลายสือไทย และพระพุทธรูปเก่าแก่ ที่ไม่อาจประเมินมูลค่าได้อีกนับร้อยองค์ ล้วนหาชมได้ยาก เพราะเหตุนี้เอง ผู้ที่ต้องการไปสักการะจึงต้องติดต่อขออนุญาติกับทางวัดก่อน ไม่ได้เปิดให้ชมปกติเป็นทั่วไป เนื่องจากเกรงของสูญหาย

หากใครยังไม่เหนื่อย อยากให้ไปแวะชม “ถ้ำวิมานจักรี” หรือถ้ำเขาหลวง ความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสรรค์สร้างขึ้น จนสุนทรภู่กวีเอกนำไปเขียนพรรณาความงามในนิราศเมืองเพชร ตอนหนึ่งว่า

   “ดูว้างเวิ้งเชิงพนมน่าชมเชย  ต่างแหงนเงยชมชะง่อนก้อนศิลา
เป็นลดหลั่นชั้นช่องมีห้องหับ   แลสลับเลื่อมลายคล้ายเลขา
กลางคีรินหินห้อยย้อยระย้า   ดาษดาดูดูดังพู่พวง…”

ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยตระการตา ด้านบนหากแหงนคอมองไปลักษณะคล้ายปล่องรูปหัวใจขนาดใหญ่ ยามที่แสงอาทิตย์ส่องลอดลงมายังพื้นถ้ำ เกิดแสงเงากระทบกับพระประธานภายใน ดูสวยงามน่าชม

สุดท้าย ที่อยากแนะนำให้รู้จัก แม้ต้องเดินทางออกนอกเมืองเพชรมายัง อ.บ้านลาด จึงจะได้เห็น คือ “ถ้ำหลวงพ่อดำ ถ้ำขนาดเล็ก ภายในมีพระพุทธรูปหลวงพ่อดำ ปางห้ามญาติอันศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่ แต่บัดนี้ทรุดโทรมไปมาก เนื่องจากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย อายุเกือบ 1,000 ปี  บริเวณข้อเท้ามีโซ่ล่ามอยู่ ตามตำนานเล่าว่า หลวงพ่อดำเป็นพระเจ้าชู้ เวลาพลบค่ำมักจะออกมาเกี้ยวพาราสีสาว ๆ ในหมู่บ้าน ชาวบ้านอดรนทนไม่ไหวจึงนำโซ่มาล่ามขาไม่ให้ท่านไปไหน อีกตำนานกลับเล่าว่า หลวงพ่อดำเป็นผู้รักความยุติธรรม หากพบเห็นโจรจะนำโซ่มาล่าม ขังไว้ในถ้ำจนเสียชีวิต ทำให้เรื่องนี้ความจริงเป็นเช่นใด ยังไม่มีผู้ใดทราบได้

ที่กล่าวมาเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งแห่งประวัติศาสตร์ ความทรงจำของผู้คนเมืองเพชรเท่านั้น หากท่านใดต้องการศึกษาอย่างลึกซึ้ง พร้อมเพลิดเพลินตาไปกับภาพความเป็นจริงในปัจจุบัน เชิญได้ที่จ.เพชรบุรี แล้วท่านจะรู้ว่า

“คนเมืองเพชรไม่ดุอย่างที่เขาลือกัน”.

อ่านต่อที่ : เปิดประตูสู่ตำนานเมืองเพชร

“เอ” เตรียมออกจากห้องไอซียูพรุ่งนี้ แพทย์เผยต้องใช้เวลาฟื้นความจำช่วงรถชน พฤษภาคม 7, 2009

Posted by 1000thainews in บันเทิง.
Tags: , , , , , , ,
add a comment

“เอ” เตรียมออกจากห้องไอซียูพรุ่งนี้ แพทย์เผยต้องใช้เวลาฟื้นความจำช่วงรถชน

แพทย์คาดพรุ่งนี้ “เอ” ออกจากห้องไอซียู พร้อมเผย เหตุที่นักแสดงรุ่นใหญ่จำเหตุการณ์ช่วงรถชนไม่ได้ เนื่องจากเป็นความจำช่วงสั้นที่เกิดขึ้นรวดเร็ว ต้องใช้เวลาฟื้นความจำสักระยะ แต่ความทรงจำอื่นๆ ปกติดี อาการทั่วไปดีขึ้นตามลำดับ อาทิตย์หน้าเตรียมผ่าตัดอีกรอบ สั่งระดมทีมแพทย์ไว้ถึง 3 ทีม

ดีขึ้นตามลำดับ สำหรับผลการรักษานักแสดงรุ่นใหญ่ “เอ อนันต์ บุนนาค” หลังประสบอุบัติเหตุขับรถกระบะชนกับรถหกล้อ จนบาดเจ็บสาหัส ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อหลายวันที่ผ่านมา ก่อนจะเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี

ความคืบหน้าวันนี้(6 พ.ค.) ทีมแพทย์ได้เปิดแถลงข่าวเพื่อรายงานอาการอีกครั้ง โดยมี รศ.นพ.ธันย์ สุภัทรพันธุ ผอ.โรงพยาบาลรามาธิบดี ผศ.นพ.ปรีดา สัมฤทธิ์ประดิษฐ์ เจ้าของไข้ และ รศ.นพ.ชาญยุทธ ศุภชาติวงศ์ แพทย์เจ้าของไข้ด้านกระดูก ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่รอติดตามทำข่าว เผยอาการโดยรวมสามารถควบคุมได้ พรุ่งนี้มีแนวโน้มจะได้ออกจากห้องไอซียู ไปรักษาตัวต่อในห้องผู้ป่วยปกติ เพื่อรอผ่าตัดอีกครั้งในอาทิตย์หน้า

โดยบรรยากาศที่โรงพยาบาลวันนี้ นอกจากจะมี “อ้น ศรีพรรณ” ภรรยามาคอยให้กำลังใจแล้ว ยังมีเพื่อนฝูงในวงการเดินทางมาเยี่ยม อาทิ จิ๊ก เนาวรัตน์ พระเอก เขตต์ ฐานทัพ ที่มาพร้อมแฟนสาว

ผศ.นพ.ปรีดา : “การเปลี่ยนแปลงล่าสุดของคุณอนันต์ เมื่อตอนเที่ยงวันที่ผ่านมา สรุปว่าไม่มีไข้นะครับ ความดันโลหิต ชีพจร อัตราการหายใจอยู่ในเกณฑ์ปกติ อาการทางสมองคงที่ คนไข้ตอนนี้รู้สึกตัวดี ตอบคำถามแล้วก็ทำตามคำบอกได้ เรื่องอาการทางสมอง ต้องให้ทีมประสาทศัลยแพทย์ พิจารณาจากผลการตรวจเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์สมองอีกประมาณ 4-5 วันข้างหน้า”

“ส่วนอาการเรื่องการบาดเจ็บที่ซี่โครง เรื่องปอดช้ำอาการยังคงที่ ก็ยังมีสายระบายเลือด จากช่องเยื่อหุ้มปอด ซึ่งปริมาณเลือดก็ไม่ได้มาก หรือไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่ดีใดๆ และก็คิดว่าเลือดน่าจะออกน้อยลง และก็เอาออกได้ ต้องสังเกตดูอาการอีก 2-3 วัน แผลผ่าตัดตามแขนขาก็ปกติดี มีอาการเจ็บอยู่บ้าง เรื่องยาแก้ปวดก็ให้ตามสมควร เนื่องจากต้องสังเกตอาการทางสมองต่อไปด้วย ตอนนี้ให้อาหารคนไข้ทางสายยาง เพื่อจะได้กำหนดปริมาณและสัดส่วนสารอาหารให้เพียงพอกับร่างกาย เพื่อให้ร่างกายหาย โดยสรุปคืออาการดีขึ้น สังเกตอาการในห้องไอซียูอีกคืนหนึ่ง ถ้าไม่มีปัญหาใดๆ พรุ่งนี้ก็จะกลับเข้าห้องผู้ป่วยปกติ รอการรักษาต่อไปครับ”

รศ.นพ.ชาญยุทธ : “คุณอนันต์มีปัญหาเรื่องกระดูกหลักๆ อยู่ 5-6 ที่ มีซี่โครงลิ้นปี่ จุดนี้ทางศัลยกรรมกระดูก คงไม่ต้องทำอะไรมาก แต่ว่าแขนขาที่หัก หลังจากได้ทำการรักษาเบื้องต้น คือดามแขนและยึดเหล็กภายนอกไว้เรียบร้อยทั้ง 4 ที่แล้ว ก็ต้องรอจนกว่าสภาพร่างกายคุณอนันต์ ทั้งสมองปอด แล้วก็สภาพทั่วไปพร้อมที่จะผ่าตัดยึดกระดูก ซึ่งคงต้องรอทางอาจารย์ปรีดาประเมินทางสมองอีก 3-4 วัน”

“ทางศัลยกรรมกระดูกประเมินว่า จะผ่าตัดอีกทีในสัปดาห์หน้า เตรียมทีมศัลยแพทย์ไว้สามทีม เข้าไปช่วยกันทำพร้อมกัน คิดว่าตอนนี้สภาพทั่วไป เป็นที่น่าพอใจ เพราะในช่วงหนึ่งสัปดาห์แรก คนไข้ที่มีสภาพรุนแรงขนาดนี้ ต้องติดตามอาการด้วยว่าไม่มีภาวะแทรกซ้อน ถ้าไม่มีอะไรมาแทรกซ้อนสัปดาห์หน้าคงจะผ่าตัดได้”

รศ.นพ.ธันย์ : “ตำแหน่งที่ผ่าตัดทีมนึงจะผ่าตัดที่ข้อมือซ้าย อีกทีมนึงที่ขาซ้าย และอีกทีมนึงจะผ่าที่แขนด้านขวา พร้อมกันในเวลาเดียวกันนะครับ เพื่อลดระยะเวลาในการผ่าตัดผู้ป่วย”

รศ.นพ.ชาญยุทธ : “ตอนนี้แผลก็เรียบร้อยดีไม่มีไข้ ยังไม่มีภาวะอะไรแทรกซ้อน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านสมอง ด้านปอด หรือกระดุกแขนขาที่หัก ตอนนี้ค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น คิดว่าถ้ามันเป็นในลักษณะนี้อีก 3-4 วัน คนไข้คงมีสภาพพร้อมได้รับการผ่าตัดต่อไปได้”

ผศ.นพ.ปรีดา : “อาการทางสมองก็ยังคงที่ เลือดที่ยังคั่งอยู่ก็ยังต้องติดตามอาการ ถ้าไม่มีอาการเปลี่ยนแปลง ต้องเอ็กซเรย์สมองทางคอมพิวเตอร์ก่อน ซึ่งปกติเลือดที่คั่งในสมองจะหายไปเองครับ ถ้าไม่มีอาการเปลี่ยนแปลงทางศัลยแพทย์วางแผนไว้ว่าจะเอ็กซเรย์ทาง คอมพิวเตอร์อีกครั้งใน 4-5 วันข้างหน้า”

รศ.นพ.ธันย์ : “ส่วนในเรื่องของแผลที่ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากเป็นแผลจากอุบัติเหตุ ลักษณะแผลเลยไม่ค้อยเรียบร้อย มีความช้ำของบาดแผล เลยต้องเปลี่ยนแผลทุกวันนะครับ ในเรื่องของความจำ ดูจากที่มีคนมาเยี่ยมก็จำได้ ไม่น่ามีปัญหาอะไร”

รศ.นพ.ชาญยุทธ : “ที่คุณเอยังจำเหตุการณ์ตอนรถชนไม่ได้ ก็เนื่องจากว่ามันเป็นความจำช่วงสั้นในตอนอุบัติเหตุ ซึ่งมันเกิดขึ้นทันทีและรวดเร็ว แต่ความจำช่วงยาวนี่จำได้ แต่ความจำช่วงสั้นที่หายไป ในระยะยาวจะค่อยๆ ฟื้นได้ ต้องให้เวลาสมองพักฟื้น”

เผย ร่างกายของนักแสดงรุ่นใหญ่ยังรับไหว ร่างกายยังคงมีการต้านทานได้ดี
รศ.นพ.ชาญยุทธ : “ความจริงคุณเอก็อายุไม่เยอะนะครับ แค่สี่สิบกว่าๆ ร่างกายยังมีความต้านทานที่ดี คิดว่าคนที่อายุไม่มากการรักษาจะได้ผลดี แปลว่าไม่จำเป็นจะต้องปลุกถ่าย กล้ามเนื้อหรือกระดูกนะครับ เพียงแต่ว่าพอได้รับบาดเจ็บมาแล้ว คุณอนันต์มีปัญหาตรงที่กระดูกมันหักเข้าข้อต่อ ทั้งข้อมือข้อเข่า คนธรรมดาทั่วๆ ไป พออายุมากขึ้น ข้อมันก็เสื่อมอยู่แล้ว แต่พอเจออุบัติเหตุเข้าไป ก็เลยทำให้ข้อพวกนี้เสื่อ,เร็วกว่าปกติ ก็คงต้องทำการฟื้นฟูกายภาพต่อไป อาการทั่วๆ ไปก็ไม่น่าเป็นห่วง ถ้าอาการดีไปเรื่อยๆ ในลักษณะนี้ แฟนๆ ก็คงไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงนะครับ หลังผ่าตัดก็ต้องพักฟื้นประมาณ 1 เดือน แต่อยู่โรงพยาบาลแค่ 2-3 สัปดาห์”

รศ.นพ.ธันย์ : “ส่วนปัญหาในการใช้แขนขาหลังผ่าตัดนั้น ต้องเรียนอย่างนี้นะครับว่า อาการบาดเจ็บมีทั้งแขนทั้งสองข้างและขาด้วย เพราะฉะนั้นหลังจากการผ่าตัดแล้ว แม้แต่ใส่เหลกตรึงกระดูก ถึึงจะเดินลงน้ำหนักเองไม่ได้ ช่วยแรกๆ ก็คงต้องรอจนกว่ากระดูกจะติด เพราะฉะนั้นช่วงแรกๆ ก็คงต้องนั่งรถเข็นไปก่อนนะครับ แต่ก็ต้องอยู่ที่ว่าเรายึดตรึงกระดูกได้แข็งแรงดีแค่ไหนด้วยนะครับ”

รศ.นพ.ชาญยุทธ : “ต้องทำความเข้าใจอย่างนี้นะครับว่า หลังทำแล้วจะให้ดีอย่างเดิมคงไม่ได้ ระยะแรกจะยังไม่ให้ลงน้ำหนักเพราะว่ากระดูกข้อกระดูกขาทีมันแตกหักมันยังรับ น้ำหนักไม่ได้ เพราะฉะนั้นอาจจะต้องนั่งรถหรือเดินลงน้ำหนักน้อยๆ ไปก่อน ลงเต็มที่ไม่ได้ เพราะข้อจำกัดของคุณเอก็คือแขนมันหักทั้งสองข้าง แขนข้างบนข้างล่างมันหักหมด มันจะไปช่วยยันให้เดินได้ก็ค่อนข้างลำบาก ถ้ามันหักที่เดียวมันก็พอจะเดินได้ไปได้ เดินขาเดียวก็ได้แต่นี่มันหักหมด ก็คงต้องใช้เวลาช่วงเดือนนึงอาจจะพักฟื้น หลังจากนั้นสองเดือนอาจจะค่อยๆ ลงน้ำหนัก ขยับช่วยตัวเองได้ง่ายขึ้นครับ ใช้งานธรรมดาไม่น่าจะมีปัญหา เพียงแต่ว่าถ้าไปใช้งานหนักรุนแรงก็คงไม่ไหว”

ผศ.นพ.ปรีดา : “สายยางให้อาหารผมวางแผนว่า 2-3 วัน ถ้าคนไข้รู้สึกตัว ก็ทานเองทางปากได้ ส่วนอื่นก็คงต้องให้แกพักผ่อน ยังไม่ต้องระวังอะไรอย่างอื่นมากนัก”

รศ.นพ.ธันย์ : “รู้สึกคนมาเยี่ยมเยอะไปหน่อย คนที่อยากมาเยี่ยม คิดว่าน่าจะรอสักอาทิตย์หน้าค่อยมาเยี่ยม ตอนนี้ก็รอๆ ไปก่อนก็ได้นะครับ หรือส่งเอสเอ็มเอสแสดงความเป็นห่วงมาให้คุณอ้นก็พอ”

ยังไม่ได้ประเมินเรื่องค่ารักษา บอกเรื่องค่าใช้จ่ายไม่ได้ดูแลแค่คนดัง ประชาชนทั่วไปหากมีปัญหาเรื่องเงินก็สามารถมารักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดีได้ เพราะไม่ได้เอาเรื่องเงินมาเป็นเงื่อนไขในการรักษาผู้ป่วย
ผอ. “เรื่องค่าใช้จ่ายเรายังไม่ได้คิดเลยนะครับว่าต้องเป็นเงินเท่าไหร่ หน้าที่ของเราก็คือการรักษาผู้ป่วย จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่เฉพาะคุณเอนะครับ ประชาชนไทยทุกคนที่มารักษาที่รามา ถ้าเผื่อมีปัญหารีบด่วนหรือฉุกเฉิน เรื่องค่าใช้จ่ายไม่ต้องเป็นห่วง เราไม่ได้เอามาเป็นประเด็นแรกเลย ผมก็ยังไม่ได้ตรวจสอบนะครับว่า คุณเอเขามีประกันอะไรหรือเปล่า แต่อย่างน้อยถ้าเป็นประชาชนไทยก็คงมีประกันสุขภาพ ซึ่งอันนี้ก็น่าจะเพียงพอรักษาได้ ในมาตรฐานที่ดีนะครับ”

รวมข่าวบันเทิง
ข่าวบันเทิง