jump to navigation

ตีพิมพ์บันทึกเทียนอันเหมิน พฤษภาคม 15, 2009

Posted by 1000thainews in ต่างประเทศ.
Tags: , , , , , , , , , , , , , ,
add a comment

ตีพิมพ์บันทึกเทียนอันเหมิน

ตีพิมพ์บันทึกเทียนอันเหมิน จีน 15 พ.ค. – บันทึกความทรงจำของอดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน เกี่ยวกับเหตุการณ์ปราบปรามนักศึกษาที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ถูกนำออกตีพิมพ์แล้ว

บันทึกความทรงจำดังกล่าวซึ่งถูกนำออกตีพิมพ์เป็นหนังสือ นำมาจากเทปบันทึกคำให้สัมภาษณ์ความยาว 30 ชั่วโมง ของนายจ้าว จื่อหยาง อดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ระหว่างที่ถูกกักบริเวณในบ้านพัก ภายหลังจากที่เขาถูกปลดจากตำแหน่ง หลังเกิดเหตุปราบปรามนักศึกษาที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ส่วนหนึ่งของเทปบันทึกคำให้สัมภาษณ์ ระบุอย่างชัดเจนว่านายจ้าวได้ประณามเหตุการณ์ที่ทหารปราบปรามนักศึกษาอย่างทารุณ ระหว่างวันที่ 3-4 มิถุนายน 2532 ว่าเป็นเหมือนโศกนาฏกรรม และเขาเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นอกจากนี้ นายจ้าวยังยกย่องการปกครองระบอบประชาธิปไตยของชาติตะวันตกด้วย การแสดงความเห็นดังกล่าวของนายจ้าว ทำให้เขาถูกปลดจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน และถูกกักบริเวณในบ้านพัก ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในปี 2548. –สำนักข่าวไทย

อ่านต่อที่ : ตีพิมพ์บันทึกเทียนอันเหมิน

ไทยจะกลายเป็นรัฐลูกกล้วย ? พฤษภาคม 15, 2009

Posted by 1000thainews in อื่นๆ.
Tags: , , , , , , , , , , , , , ,
add a comment

ไทยจะกลายเป็นรัฐลูกกล้วย ?

เพื่อกระตุกความสนใจเป็นพิเศษ มีกลุ่มประเทศด้อยพัฒนากลุ่มหนึ่งซึ่งถูกตราว่าเป็น Banana Republic คำนี้คงแปลตรงๆ ว่า “สาธารณรัฐลูกกล้วย” นักประพันธ์ชาวอเมริกันชื่อ โอ. เฮนรี่ ใช้คำนี้ในบทประพันธ์เมื่อปี 2547 หลังกลับจากประเทศฮอนดูรัส ซึ่งอยู่ในย่านอเมริกากลาง แม้เรื่องราวที่เขาเขียนจะเป็นเพียงจำพวกนวนิยาย และเขาใช้ชื่อประเทศว่า “อันชูเรีย” แต่ผู้อ่านเดาเอาว่าเขาหมายถึงฮอนดูรัส 

Banana Republic มีความหมายไปในทางดูแคลนและมักใช้เรียกประเทศเล็กๆ ในอเมริกากลางรวมทั้งนิการากัวด้วย ประเทศเหล่านั้นถูกดูแคลนเพราะตกอยู่ในสภาพล้มลุกคลุกคลานด้วยปัจจัยหลายอย่างรวมทั้งการใช้ระบบเผด็จการ นักการเมืองฉ้อฉลจนชนิดเข้ากระดูกดำ ขาดเสถียรภาพทางการเมืองซึ่งทำให้เกิดการปฏิวัติบ่อยๆ มีความไม่เป็นธรรมในสังคมสูง มักอาศัยทุนต่างชาติ มีฐานทางเศรษฐกิจแคบและพึ่งภาคเกษตรเป็นหลัก โดยเฉพาะการส่งออกกล้วยที่ผลิตโดยบริษัทข้ามชาติ หลังจากเวลาผ่านไป คำนี้มักถูกใช้เรียกประเทศที่มีลักษณะบางอย่างล้าหลังโลกตะวันตก

เนื่องจากนิการากัวเป็นหนึ่งในบรรดารัฐลูกกล้วยตั้งแต่เริ่มแรกและถูกอ้างถึงบ่อยๆ โดยสื่อไทยในช่วงนี้ ขอนำเรื่องราวของนิการากัวมาเล่าคร่าวๆ ว่าเพราะอะไรจึงได้ถูกดูแคลนเช่นนั้น คำอธิบายสั้นๆ คือ นิการากัวยิ่งพัฒนายิ่งจน ย้อนไปในตอนที่เมืองไทยเริ่มเร่งรัดพัฒนาเศรษฐกิจเมื่อ 40-50 ปีที่ผ่านมา ชาวนิการากัวมีรายได้ต่อหัวคนเกินสองเท่าของชาวไทย แต่ตอนนี้ชาวไทยกลับมีรายได้ต่อหัวคนราวสามเท่าของชาวนิการากัว เมื่อเทียบกับประเทศในทวีปอเมริกา นิการากัวยากจนกว่าทุกประเทศ ยกเว้นเฮติ ซึ่งเป็นรัฐล่มสลายที่ปกครองไม่ได้มานานแล้ว 

นิการากัวมีประชากรราว 5 ล้านคนอยู่บนพื้นที่ขนาด 25% ของประเทศไทย จึงนับว่าไม่มีความแออัดมากนัก แต่เนื่องจากความยากจน ชาวนิการากัวพยายามหนีออกนอกประเทศไปอยู่ที่อื่นกันอย่างต่อเนื่อง จึงมีชาวนิการากัวอีกราว 1 ล้านคนอาศัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านและสหรัฐ เฉกเช่นประเทศในละตินอเมริกาเป็นส่วนใหญ่ นิการากัวเคยเป็นอาณานิคมของสเปน และหลังจากได้เอกราชเมื่อปี 2381 ก็ใช้การปกครองระบอบประชาธิปไตยในรูปสาธารณรัฐมาตลอด อย่างไรก็ตาม การเมืองถูกครอบงำด้วยบุคคลกลุ่มเล็กๆ ที่มักใช้กำลังแย่งชิงกันเป็นใหญ่จนทำให้ประเทศตกอยู่ในสภาพสงครามกลางเมืองบ่อยๆ โดยเฉพาะในช่วง 100 ปีแรกหลังได้เอกราช ทำให้สหรัฐฉวยโอกาสส่งทหารเข้าไปปกป้องผลประโยชน์ของตนจากปี 2455 ถึงปี 2476 หลังจากสหรัฐถอนทหารออกไป นิการากัวถูกปกครองแบบกึ่งเผด็จการโดยบุคคลจากครอบครัวเดียวมาจนถึงปี 2522

แม้จะเป็นเผด็จการ แต่รัฐบาลก็เริ่มพยายามเร่งรัดพัฒนาประเทศในช่วงที่เมืองไทยเริ่มเร่งรัดพัฒนาประเทศหลังปี 2500 ฉะนั้น เศรษฐกิจของนิการากัวขยายตัวอย่างรวดเร็วอยู่ระยะหนึ่ง จนทำให้นิการากัวก้าวหน้ากว่าประเทศเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ตาม ความฉ้อฉลของนักการเมืองที่ถูกปลูกฝังกันมานานก่อให้เกิดปัญหาหนักหนาสาหัสเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2515 เมื่อเมืองหลวงของประเทศถูกทำลายด้วยแผ่นดินไหวร้ายแรง นิการากัวได้รับความช่วยเหลือจากทั่วสารทิศ แต่เงินช่วยเหลือส่วนใหญ่ถูกยักยอกไปเข้ากระเป๋าของผู้บริหารประเทศและพรรคพวก สร้างความไม่พอใจให้ชาวนิการากัวโดยทั่วไป และส่วนหนึ่งหันไปสนับสนุนพรรคการเมืองเล็กๆ ที่มีอุดมการณ์แนวสังคมนิยมซ้ายจัด ในจำนวนผู้นำของพรรคนี้มีคนหนุ่มคนหนึ่งชื่อ ดาเนียล ออร์เทก้า ซึ่งต่อมาได้เป็นประธานาธิบดี

รัฐบาลพยายามปราบปรามพรรคสังคมนิยมซ้ายจัด และผู้ต่อต้านการโกงบ้านโกงเมืองอย่างเข้มข้นจนมาถึงปี 2521 จึงเกิดจุดพลิกผันสำคัญยิ่งอีกครั้ง นั่นคือ บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ชื่อดังถูกลอบสังหารชีวิต แม้จะจับมือใครดมไม่ได้ แต่ชาวนิการากัวส่วนใหญ่สรุปว่าเป็นน้ำมือของฝ่ายรัฐบาล ฉะนั้น ในปีต่อมา ชาวนิการากัวจึงเลือกพรรคสังคมนิยมซ้ายจัดเข้าบริหารประเทศ จากวันนั้นมา การเมืองของนิการากัวก็เดินเข้าสู่การขาดเสถียรภาพสูงอีกครั้งโดยฝ่ายต่างๆ มักมีกองกำลังติดอาวุธไว้คอยสนับสนุน ยังผลให้ประเทศตกอยู่ในสภาพกึ่งสงครามกลางเมืองและเศรษฐกิจถอยอย่างต่อเนื่อง จนนิการากัวเปลี่ยนจากประเทศที่ก้าวหน้าในอเมริกากลางมาเป็นประเทศที่ล้าหลังที่สุด เมื่อปี 2549 ดาเนียล ออร์เทก้า กลับเข้ามาเป็นประธานาธิบดีอีกรอบ เขายังชื่นชอบระบบสังคมนิยมซ้ายจัดและเป็นผู้มีบทบาทในการมอบตำแหน่งทูตพิเศษ พร้อมหนังสือเดินทางของนิการากัวให้อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร

โดยทั่วไปเมืองไทยดูจะไม่มีส่วนคล้ายนิการากัวเลย อย่างไรก็ตาม ขอเรียนว่าพยายามดูให้ลึกๆ ดูเรื่องเสถียรภาพทางการเมือง ดูความฉ้อฉลแบบเข้ากระดูกดำ ดูความไม่เป็นธรรมในสังคม ดูความแตกแยกของคนไทย ดูความหยาบช้าที่แสดงออกมาโดยการชูนิ้วกลางซึ่งความหมายหนึ่งในเมืองฝรั่งคืออวัยวะสืบพันธุ์ชายให้ฝ่ายตรงข้ามในรัฐสภา และในการพยายามจะทำร้ายนายกรัฐมนตรีในขณะที่รถของท่านติดไฟแดงที่พัทยา ดูกลุ่มที่มีการแอบแฝงติดอาวุธ ดูการเคลื่อนไหวในด้านการต่อต้านสถาบันสูงสุดของประเทศ ดูการขายบริษัทขนาดยักษ์โดยไม่เสียภาษี และการพยายามสังหารนักหนังสือพิมพ์ชื่อดัง 

จะเห็นว่าเมืองไทยไม่ต่างจากนิการากัวในสมัยหนึ่งมากนักยกเว้นเมืองไทยมีสถาบันกษัตริย์ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ ยกเว้นของคนเห็นแก่ตัว คนหลงผิด และผู้คิดทรยศต่อชาติเพียงหยิบมือเดียว หากคนไทยส่วนใหญ่ปล่อยให้คนพวกนี้ล้มสถาบันกษัตริย์ และตั้งเมืองไทยเป็นสาธารณรัฐขึ้นเมื่อไร เมื่อนั้นเมืองไทยจะกลายเป็นรัฐลูกกล้วยเช่นเดียวกับนิการากัว  

 

อ่านต่อที่ : ไทยจะกลายเป็นรัฐลูกกล้วย ?

บิ๊กจิ๋วออกสมุดปกขาวสอนน้องบิ๊กทหาร พฤษภาคม 15, 2009

Posted by 1000thainews in ทั่วไป.
Tags: , , , , , , , , , , , , , ,
add a comment

บิ๊กจิ๋วออกสมุดปกขาวสอนน้องบิ๊กทหาร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี และ ผู้บัญชาการทหารบก ได้จัดทำหนังสือเรื่อง “ยุทธศาสตร์แก้ไขความขัดแย้ง” ปกสีขาวแจกจ่าย เนื่องในโอกาสวันเกิดครบรอบ 77 ปี เมื่อวันที่ 15 พ.ค.โดยรวมรวมคำบรรยายตั้งแต่ปี 2523 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดความขัดแย้งในประเทศ ถึงขั้นใช้อาวุธเข้าต่อสู้กัน จนกระทั่งแก้ไขปัญหายุติความขัดแย้งลงได้ด้วยการที่ทำความเข้าใจกับผู้ที่หนีเข้าป่าไปอยู่ภายใต้การดูแลของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ซึ่งสงครามครั้งนั้นไม่มีผู้แพ้ ผู้ชนะ

พล.อ.ชวลิต กล่าวในบทนำว่า อยากให้ ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง นำคำบรรยายของตนเองไปใช้ให้เป็นประโยชน์ และประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างเผด็จการ คอมมิวนิสต์และประชาธิปไตย ซึ่งตกค้างมากว่า 20 ปีที่แล้ว ซึ่งการแก้ไขปัญหาในอดีตทำได้ด้วยความปรารถนาดีและหวังดีของคนไทยที่รักชาติ รักแผ่นดิน และความกล้าหาญของพี่น้องทุกฝ่าย ด้วยความสามารถของรัฐบาลในยุคนั้น และที่สำคัญสูงสุดคือด้วยบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ และ พระบรมราชจักรีวงศ์ทุกพระองค์ทำให้ประเทศชาติหลุดพ้นจากภัยพิบัติในยุคนั้นมาได้

บทนำบอกด้วยว่า  ปัจจุบันสถานการณ์ความขัดแย้งเริ่มครุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้ง โดยมีฝ่ายต่างๆ เผชิญหน้าแย่งชิงอำนาจผลประโยชน์ โดยไม่คำนึงถึงประเทศชาติ ประชาชน มุ่งเอาประชาชนเป็นเครื่องมือ ทำให้เกิดความแตกแยกในหมู่ประชาชนเป็นอย่างมาก กองทัพซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจในการรักษาความมั่นคงของชาติ ควรจะยึดหลักให้มั่น คิดถึงความมั่นคงของชาติ ศาสน์ และ พระมหากษัตริย์เป็นหลัก เนื่องจากกองทัพไทยเป็นสถาบันคู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่โบราณ โดยผ่านวิวัฒนาการและทำการต่อสู้เพื่อพิทักษ์รักษาและค้ำจุนชาติมาทุกยุคทุกสมัย ได้รับบทเรียนทั้งในทางที่เป็นคุณและเป็นโทษต่อชาติบ้านเมืองอย่างมากมาย

ทหารในกองทัพต้องมีความสำนึกอยู่เสมอว่า กองทัพเป็นของประชาชน ทุกสิ่งที่กองทัพกระทำ ต้องกระทำเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ผู้เป็นเจ้าของประเทศ และเจ้าของกองทัพ โดยกองทัพจะต้องมีอุดมการณ์และมีจุดยืนประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์ เป็นองค์ประมุขแห่งรัฐ บทบาทของกองทัพที่มีต่อการเมือง หรือการปกครองในระบอบประชาธิปไตยในอันที่กองทัพจำเป็นต้องเข้าไปเกี่ยวข้องโดยเฉพาะในห้วงระยะเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงนั้น จะตั้งอยู่บนพื้นฐานผลประโยชน์ของประชาชนเสมอ โดยกองทัพจะร่วมมือกับฝ่ายพลเรือนเพื่อสร้างความสมัครสมานสามัคคีไม่แบ่งแยกในอันที่จะพัฒนาระบอบการปกครองให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ คือระบอบการปกครองที่จะทำให้ประชาชนแผ่นดินนี้ มีความสำนึกว่าเขาเป็นเจ้าของแผ่นดิน และได้รับผลประโยชน์จากประเทศนี้อย่างเป็นธรรม กองทัพจึงต้องทำให้ประชาชนเลื่อมใสศรัทธาในสิ่งที่ทำ และ มีความรู้สึกว่าเป็นเจ้าของกองทัพอย่างแท้จริง

ในคำบรรยาย เรื่อง “ทหารกับประชาธิปไตยไทย” ในช่วงปี 2531 มีเนื้อหาตอนหนึ่งระบุว่า สถานการณ์ตอนนั้น กองทัพเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น และเป็นประชาธิปไตยพอสมควรทีเดียว มีแนวโน้มเป็นกองทัพของประชาชน ดังที่กองทัพได้แสดงเจตนารมณ์ในการแก้ไขปัญหาคอมมิวนิสต์ตลอดมา กองทัพเป็นของประชาชน มาจากประชาชน และกองทัพเป็นมิตรของประชาชนและศัตรูของคอมมิวนิสต์ กองทัพนั้นเป็นได้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง 2 อย่างคือ กองทัพเป็นของเผด็จการ (เป็นของคนส่วนน้อย) หรือกองทัพเป็นของประชาชน เพราะว่าระบอบประชาธิปไตยนั้นเป็นการปกครองของประชาชน

“บทบาทของกองทัพในห้วงระยะเวลาของการเปลี่ยนแปลงนั้น กองทัพเข้าใจดี และ มิได้คิดที่จะไปมีบทบาทในลักษณะไปยึดอำนาจในการปกครองประเทศมาเป็นของกองทัพเลยแม้แต่น้อย บางคนอาจมองว่าทหารต้องการปกครองประเทศ ทหารต้องการทุกสิ่งทุกอย่าง ทหารเป็นเทวดา ฯลฯ ซึ่งข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น ทหารกลับคิดว่าทำอย่างไรจึงจะให้ระยะเปลี่ยนแปลงนั้นมันสั้นที่สุด ทำอย่างไรจึงจะถอนตัวออกมาให้เร็วที่สุด ประเทศชาติจะได้เป็นประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นองค์พระประมุขแห่งรัฐเท่านั้น เพราะเป็นระบอบที่เหมาะสมกับสังคมไทย และประชาชนไทยต้องการ จึงสรุปได้ว่าทหารหรือกองทัพไม่ได้มีเจตนาที่จะเข้าไปผูกพันทางการเมืองตลอดไป การผูกพันที่เป็นอยู่เป็นการผูกพันในห้วงระยะเวลาของการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น”

ในหนังสือได้นำเอกสาร ลับ บันทึกคำบรรยาย เรื่อง นโยบายและแนวทางการต่อสู้ในเมืองเพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์ ที่หอประชุมกิตติขจร เมื่อวันที่ 23 ธค. 23 มาตีพิมพ์ในท้ายของหนังสือด้วย โดยส่วนใหญ่ได้พูดถึง นโยบาย 66 / 23 พร้อมตบท้ายว่า เราจะบรรลุผลสำเร็จในการแก้ปัญหาของชาติได้เพียงใด ขึ้นอยู่กับทุกคน ว่าจะดำเนินรอยตามเบื้องพระยุคลบาทของพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ที่ทรงถือว่า “ ทุกข์ของราษฎร ทุกข์ของชาติ คือทุกข์ของแผ่นดิน” หรือไม่เพียงใด

อ่านต่อที่ : บิ๊กจิ๋วออกสมุดปกขาวสอนน้องบิ๊กทหาร

ส่งกฤษฎีกาตีความ กรณีตัดสินคดีดร.แป้ง ภายใน 1- 2 เดือนรู้ผล พฤษภาคม 15, 2009

Posted by 1000thainews in ภูมิภาค.
Tags: , , , , , , , , , , , , , ,
add a comment

ส่งกฤษฎีกาตีความ กรณีตัดสินคดีดร.แป้ง ภายใน 1- 2 เดือนรู้ผล

คมชัดลึก :เชียงใหม่ – ผอ.กต.เชียงใหม่ เผยคดี “ดร.แป้ง” ยังไม่ยุติ ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ส่งเรื่องต่อให้ คกก.กฤษฎีกาตีความ คาดอีก 1-2 เดือนทราบผล ขณะที่บรรยากาศป้ายแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัครคึก เร่งปิดป้ายทั่วเขตเทศบาล

  นายพงษ์พันธ์ ริ้วทองทวี ผอ.เลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ความคืบหน้ากรณีศาลปกครองสูงสุดได้พิพากษาตัดสิทธิ์การลงรับสมัครเลือกตั้งของ ร.อ.หญิง เดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ ว่าให้เป็นโมฆะตามคดีแดงหมายเลข 175/2550 และคดีดำหมายเลข 179/2550 เมื่อวันที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา ล่าสุดวันที่ 7 พฤษภาคม นายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ได้ส่งหนังสือแจ้งให้ กกต.เชียงใหม่ ทราบว่าขณะนี้ได้ส่งเรื่องให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นได้รับทราบ

 ทั้งนี้ ได้มีการส่งต่อเรื่องดังกล่าวให้คณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นผู้ตีความแล้ว คาดไม่เกิน 1-2 เดือนจะทราบผลการตีความเพื่อ กกต.เชียงใหม่จะได้ประกาศจัดการเลือกตั้งใหม่ อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้หาก ร.อ.หญิง เดือนเต็มดวง ยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด แต่อีกด้านหนึ่งหากมีการตีความว่าสามารถทำหน้าที่รักษาการต่อไปได้ก็ไม่เป็นปัญหา

 อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวแล้วมองว่าในเมื่อศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาตัดสิทธิ์แล้วบุคคลผู้นั้นก็ควรต้องยอมรับคำตัดสินและปล่อยให้เกิดการเลือกตั้งใหม่โดยเร็วที่สุด เพื่อลดความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ ช่วงระหว่างที่ยังไม่มีการตีความต้องรอต่อไปจนกว่าจะทราบผลที่ชัดเจน

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาบริเวณทั่วเขตเทศบาลนครเชียงใหม่มีว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศบาลนครเชียงใหม่หลายรายได้เริ่มติดป้ายหาเสียง ทั้งป้ายผ้า คัตเอาท์ แนะนำตนเอง เช่น ป้ายผ้าแนะนำตัวนางวิภาวัลย์ วรวุฒิพงศ์ นายวัลลภ แซ่เตี๋ยว เป็นต้น

อ่านต่อที่ : ส่งกฤษฎีกาตีความ กรณีตัดสินคดีดร.แป้ง ภายใน 1- 2 เดือนรู้ผล

รัฐบาลตั้งเป้าพัฒนามาตรฐานระบบบริการสุขภาพทุกระดับ พฤษภาคม 14, 2009

Posted by 1000thainews in ข่าวด่วน.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

รัฐบาลตั้งเป้าพัฒนามาตรฐานระบบบริการสุขภาพทุกระดับ

รัฐบาลตั้งเป้าพัฒนามาตรฐานระบบบริการสุขภาพทุกระดับ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 พฤษภาคม 2552 11:08 น.

       นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานและบรรยายพิเศษเรื่อง “ทิศทางการกระจายอำนาจและบทบาทการสร้างสุขภาพชุมชนของการปกครองส่วนท้องถิ่น” โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญของทุกคน และเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยองค์กรสุขภาพระดับโลกยังให้การยอมรับกับระบบของไทย ซึ่งในภาวะที่มีภัยโรคระบาดรัฐบาลยังมีแนวทางรับมือ รวมถึงโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่เป็นความสำเร็จและแสดงความตื่นตัวของคนไทยร่วมกับภูมิภาค ทั้งนี้ รัฐบาลยังจะส่งเสริมบทบาทในการพัฒนาบุคลากรสาธารณสุข โดยองค์การบริหารส่วนตำบลและเทศบาลถือเป็นจุดสำคัญในการพัฒนา เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้และโอกาส
        อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายในการสร้างระบบสุขภาพที่เข้มแข็ง คือประชาชนส่วนใหญ่ยังรู้สึกว่ามีภาระค่าใช้จ่ายและต้องรอคอยในการรับบริการ ซึ่งรัฐบาลมีแนวคิดชัดเจนว่าจะนำบริการให้สะดวกใกล้ชิดเข้าถึงและลดภาระของประชาชนจริง โดยพัฒนาระบบบริการสุขภาพของรัฐทุกระดับให้ได้มาตรฐาน
        นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้มอบรางวัลสุขภาพดีเด่นระดับจังหวัดให้กับองค์การบริหารส่วนตำบลทั่วประเทศ

อ่านต่อที่ : รัฐบาลตั้งเป้าพัฒนามาตรฐานระบบบริการสุขภาพทุกระดับ

ย้ำแก้ รธน.ต้องยึดปี 50 เป็นตัวตั้ง แนะพันธมิตรฯคงหลักตรวจสอบนักการเมืองชั่ว พฤษภาคม 13, 2009

Posted by 1000thainews in ภูมิภาค.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

ย้ำแก้ รธน.ต้องยึดปี 50 เป็นตัวตั้ง แนะพันธมิตรฯคงหลักตรวจสอบนักการเมืองชั่ว
หน้าแรกผู้จัดการ Online | หน้าแรกภูมิภาค | สังคมพันธมิตร

 

ShowMemberLite()

ย้ำแก้ รธน.ต้องยึดปี 50 เป็นตัวตั้ง แนะพันธมิตรฯคงหลักตรวจสอบนักการเมืองชั่ว

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
7 พฤษภาคม 2552 11:21 น.

นายแพทย์บุญจง ชูชัยแสงรัตน์

       ลำปาง
อ่านต่อที่ : ย้ำแก้ รธน.ต้องยึดปี 50 เป็นตัวตั้ง แนะพันธมิตรฯคงหลักตรวจสอบนักการเมืองชั่ว

ผู้สูงอายุรับเงินเบี้ยยังชีพ500บ./เดือนแล้ว พฤษภาคม 13, 2009

Posted by 1000thainews in การเมือง.
Tags: , , , , , , , , , , ,
add a comment

ผู้สูงอายุรับเงินเบี้ยยังชีพ500บ./เดือนแล้ว

คมชัดลึก :ผู้สูงอายุ ได้รับเงินเบี้ยยังชีพ 500 บาท/เดือนแล้ว

ผู้สูงอายุ  3,138,147 คนอายุ 60 ปี มีสัญชาติไทย สิทธิรับเบี้ยเลี้ยงผู้สูงอายุได้ตามนโยบายช่วยเหลือผู้สูงอายุของรัฐบาล โดยจะได้รับเงินยังชีพ เดือนละ 500 บาททุกเดือน ตั้งแต่เดือนเมษายนนี้ เป็นต้นไป
 
 ผู้ที่จะได้รับสิทธินี้ ต้องเกิดก่อนเดือนเมษายน 2495 แล้วไปยื่นจดทะเบียนตั้งแต่ 26 กพ-15มีนาคม  2552 ณ.ที่ทำการปกครองส่วนท้องถิ่น จะเป็นองค์การบริหารส่วนตำบล อบต หรือเทศบาลก็ได้  ที่กรุงเทพมหานคร ให้ยื่นได้ ณ.ที่ทำการเขต และต้องเป็นผู้ที่ไม่ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรท้องถิ่นจัดสรรไว้ให้แล้ว

 วิธีการจ่าย เดือนละหนึ่งครั้ง 500 บาท จ่ายเป็นเงินสดหรือโอนเข้าธนาคารก็ได้ 
  รายละเอียด http://www.pattanalocal.com/n/law%20law/31.pdf

  สำหรับผู้ที่ยังไม่ลงทะเบียนในปีนี้ คงต้องรอรอบหน้า งบประมาณที่รัฐบาลจัดสรรไว้ ประมาณ  9000,000,000 สำหรับใช้ในโครงการนี้

อ่านต่อที่ : ผู้สูงอายุรับเงินเบี้ยยังชีพ500บ./เดือนแล้ว